เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
EVERY SINGLE PIECE OF YOU MAKES ME FALLa week before valentine
[JOHNNY/JAEHYUN] Nightmare Summer
  • Title: Nightmare Summer
    Rating: PG
    Fandom: NCT
    Categories: M/M
    Relationship: JOHNNY/JAEHYUN
    Characters: JOHNNY, JAEHYUN




    แดดกลางฤดูร้อนแผ่ความร้อนจัดจนเกิดไอร้อนเหนือพืนผิวถนนลาดยาง แจฮยอนที่ใส่รองเท้าแตะยืนนิ่งอยู่กลางถนนเส้นเล็ก ผิวแก้มแดงจัด นัยน์ตาเบิกกว้าง



    ความร้อนแผดเผาทุกตารางนิ้วที่แสงแดดส่องถึง รวมถึงหนอนผีเสื้อจำนวนมากที่หลงเหลือเพียงร่างไร้ชีวิตประดับพื้นถนนไว้ด้วย



    เด็กชายมองภาพตรงหน้านิ่ง ความรู้สึกอ่อนแรงคล้ายจะล้มลงกับพื้นตีรวนขึ้นมา แต่ก็ยังพยายามหยัดขาไว้ให้ยืนนิ่งอยู่ได้ เขาอยากก้าวผ่านตรงนี้ไป อีกนิดเดียวก็จะถึงบ้านแล้ว อีกนิดเดียว…



    ถนนที่พื้นผิวราดด้วยยางมะตอยกลายเป็นซากหนอนผีเสื้อจำนวนนับไม่ถ้วน แจฮยอนตาเบิกโพลง ทุกสิ่งทุกอย่างดับวูบไปพร้อมกับการสูญเสียความสามารถในการทรงตัว



    เขาล้มลง



    และเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ก็พบใบหน้ากังวลใจของจอห์นนี่อยู่ตรงหน้า



    “แจฮยอน ฝันร้ายเหรอ”



    ไม่มีแสงแดดจัดและถนนลาดยางที่สะท้อนความร้อนขึ้นมาจนเหงื่ออาบกาย มีเพียงโต๊ะสีขาวเล็ก ๆ ในร้านกาแฟที่พวกเขาแวะกันก่อนกลับออฟฟิศ แก้วลาเต้เย็นข้างมือของแจฮยอนเริ่มมีหยดน้ำเกาะพราว เขาคงทิ้งมันไว้นานเกินไป



    ให้ตาย เขาเผลอวูบหลับไปตอนไหน



    “อื้อ ง่วง ๆ อะพี่จอห์นนี่” เขาพึมพำตอบ พยายามตบแก้มตัวเองเบา ๆ เรียกสติให้ตื่น



    “อ้าว ๆ ไม่เจ็บเหรอนั่น”



    “จะได้ตื่นไง”



    “แก้มแดงหมดแล้ว”



    ว่าพลางจิ้มแก้มเขาเบา ๆ แจฮยอนมุ่ยหน้า แกล้งปัดมืออีกฝ่ายออก ได้ยินเสียงหัวเราะในคอตอบกลับมา



    จอห์นนี่ชวนเขากลับออฟฟิศ ในมืออีกฝ่ายมีอเมริกาโน่เย็น ส่วนเขาถือลาเต้ที่เริ่มเย็นชืดเต็มที แต่แจฮยอนก็ยังดื่มมันต่อไป สองขาพากันเดินตามถนนมุ่งหน้าสู่ที่ทำงาน



    “ฝันอะไรเหรอ”



    “หือ?”



    จู่ ๆ จอห์นนี่ก็โพล่งถามขึ้นมา แจฮยอนหันมองไปพร้อมสีหน้างง ๆ



    “อะไรเหรอ”



    “นายดูฝันร้าย เป็นอะไรหรือเปล่า”



    แจฮยอนส่ายหน้าขำ ๆ



    “ไม่หรอกพี่ แค่ความทรงจำไม่ดีตอนเด็ก ๆ น่ะ คงเพราะอากาศร้อนมั้ง พอเข้าหน้าร้อนทีไรก็นึกถึงเรื่องนี้ทุกที”



    เขาพูดเหมือนพึมพำกับตัวเอง ขณะที่เอ่ยประโยคนี้ขึ้นมา ก็นึกถึงภาพในฝันขึ้นมาด้วย



    มันไม่ได้เลือนราง เพราะมันติดในความทรงจำของเขามาโดยตลอด ซากศพของหนอนผีเสื้อที่เกลื่อนพื้นถนนช่วงหน้าร้อนตอนที่เขาไปอยู่บ้านคุณยายสมัยเด็ก ๆ



    แจฮยอนไม่รู้ว่าทำไมมันถึงได้ติดอยู่ในหัวเขานานนัก อาจเป็นความรู้สึกหวาดหวั่นต่อความตายในแวบแรกที่เขาตระหนักว่า ภาพตรงหน้าแสดงให้เห็นอำนาจของธรรมชาติมากมายเกินกว่าที่เด็กประถมคนหนึ่งจะเข้าใจได้ หรือเพราะความขยะแขยงซากศพ แต่ไม่ว่าเพราะอะไร ตอนนั้นแจฮยอนก็ล้มทั้งยืนไปจริง ๆ



    ขาเขาเป็นแผล มันแสบพอสมควร แต่ไม่ได้แย่นัก โชคดีที่ตอนนั้นมีคนข้างบ้านปั่นจักรยานมาเห็นพอดี เลยพาเขากลับบ้านได้อย่างปลอดภัย



    เขาบอกที่บ้านว่าลื่นล้มเอง ไม่ได้บอกว่าความกลัวบางอย่างเกาะกุมอยู่ในใจ สุดท้ายมันก็กลายเป็นตะกอนขุ่น ๆ หนึ่งในหลายพันเรื่องในชีวิตของเขา



    แต่ทุกหน้าร้อน มันจะวนกลับมาให้เขานึกถึงอีกครั้ง



    เหมือนเป็นฝันร้ายที่เขาต้องเผชิญทุก ๆ ปี แต่ไม่รู้จะทำยังไงให้เลิกฝันแบบนี้เสียที



    “พี่จอห์นนี่”



    เขาส่งเสียงเรียกคนข้าง ๆ



    “ว่าไงครับ?”



    “พี่เคยกลัวอะไรมาก ๆ หรือเปล่า”



    จอห์นนี่หยุดเดิน ทำให้แจฮยอนต้องหยุดตาม



    อีกฝ่ายถอนริมฝีปากจากหลอดดูดอเมริกาโน่ ทำท่าคิด สีหน้าจริงจัง



    “ก็ต้องเคยน่ะสิ”



    “แล้วพี่ทำยังไงให้เลิกกลัวเหรอ”



    คนฟังเลิกคิ้ว “ไม่แน่ใจ แต่เหมือนจะไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษนะ”



    “อ้าว…”



    คนอายุมากกว่าเอื้อมมือมาลูบหลังคอเขาเบา ๆ มือของจอห์นนี่มีไอเย็นจากแก้วกาแฟ



    “เราไม่จำเป็นต้องก้าวข้ามทุกความกลัวไปก็ได้นี่ บางทีการได้ระบายหรือคุยกับใครสักคน ทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ได้เผชิญหน้ากับมันคนเดียว ก็ทำให้มันดีขึ้นนะ”



    “...”



    “ไม่ได้หายกลัว แต่ทุกครั้งที่เจอ ก็มั่นใจได้ว่าเราไม่ได้แบกรับความรู้สึกนี้ไว้คนเดียว”



    แจฮยอนเบนหน้าหลบสายตาของอีกฝ่ายแล้วเสยกลาเต้ที่น้ำแข็งละลายจนจืดไปหมดขึ้นมาดื่ม



    “พี่จอห์นนี่”



    “ครับ?”



    “ขอขี่หลังหน่อยสิ”



    จอห์นนี่ทำหน้าประหลาดใจ ซึ่งก็ไม่แปลก ปกติแจฮยอนแทบไม่ขออะไรแบบนี้เลย



    คนตรงหน้าแบมือออกเป็นเชิงขอให้เขาส่งของในมือให้ แจฮยอนเลยยืนแก้วลาเต้วางบนฝ่ามือกว้าง จอห์นนี่ย่อตัวลงคุกเข่าข้างหนึ่ง



    “เกาะดี ๆ นะ มือพี่ไม่ว่างจับเลย”



    แจฮยอนยิ้มกว้าง กระโดดขึ้นไปเกาะหลังอีกฝ่ายจนจอห์นนี่แทบล้ม



    เขาหลุดหัวเราะกับท่าทางของจอห์นนี่ พอคล้องแขนตนเองกับคออีกฝ่าย วางขาในตำแหน่งที่มั่นใจว่าไม่ตกแน่ ๆ แล้ว จอห์นนี่ก็ลุกขึ้นเดิน



    “เอาแก้วมาให้ผมถือ ๆ”



    แจฮยอนยื่นมือไปคว้าแก้วมาถือเอง ให้จอห์นนี่เปลี่ยนตำแหน่งมือมาเป็นจับข้อพับขาเขาแทน



    คงเป็นภาพแปลก ๆ น่าดูที่ผู้ชายสองคนมาเดินขี่หลังกันกลางถนน แต่พวกเขาไม่ได้สนใจ อีกไม่กี่สิบก้าวก็จะถึงออฟฟิศอยู่แล้ว แจฮยอนวางคางลงบนไหล่อีกคนแล้วพึมพำ



    “พี่สูงเกินไปแล้วนะ”



    “อิจฉาล่ะสิ”



    เขาแกล้งทุบไหล่คนอายุมากกว่าเบา ๆ จอห์นนี่หัวเราะอารมณ์ดี



    แจฮยอนซบหน้าลงกับต้นคอของคนที่อาสาเป็นม้าให้เขา จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนความกังวลต่าง ๆ คลายลงไป



    “อยากขี่หลังพี่ทุกวันเลยแฮะ”



    “ตลกแล้ว”



    “จ้างก็ได้”



    “ไอ้อ้วน เดี๋ยวก็ปล่อยลงหรอก”



    “อ้าว ว่าผมอ้วนเหรอ เดี๋ยวเถอะ”



    “ล้อเล่น อย่าหยิก ๆ เดี๋ยวพี่ตกใจเผลอปล่อยร่วงทำไง”



    “พี่ไม่ปล่อยผมร่วงหรอกน่า”



    แจฮยอนทำเสียงมั่นใจ



    พวกเขาเดินกลับออฟฟิศกันด้วยสภาพนั้น แจฮยอนตีมึนใส่ท่าทางล้อเลียนของเพื่อนในออฟฟิศ ปล่อยให้จอห์นนี่รับหน้าเขินไปคนเดียว



    เขามองเสี้ยวหน้าด้านข้างของจอห์นนี่ แล้วหวนนึกถึงความทรงจำในหน้าร้อน




    ถึงตอนนั้นจะไม่มีพี่จอห์นนี่ให้เขาขี่หลังข้ามผ่านเรื่องน่ากลัวพวกนั้นไป



    แต่ตอนนี้เขามีพี่จอห์นนี่ที่คอยรับฟังเขาอย่างตั้งใจก็พอแล้ว


    FIN

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in