เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
EVERY SINGLE PIECE OF YOU MAKES ME FALLa week before valentine
[TEN/JAEHYUN] Lace See Through Your Honey Skin
  • Title: Lace See Through Your Honey Skin
    Rating: PG
    Fandom: NCT, WayV
    Categories: M/M
    Relationship: TEN/JAEHYUN
    Characters: TEN, JAEHYUN
    Note: อวยแจยอนทั้งเรื่อง


    ––––––––––––––––––––


    วินาทีแรกที่ได้เจอเจย์ เตนล์เพิ่งเข้าใจว่าเพราะเหตุใดตนเองจึงเลือกมาเป็นดีไซเนอร์

    “ขยับไปทางซ้ายนิดนึง ยกแขนขึ้นหน่อย นั่นแหละครับ ดีมาก”

    เสียงจอห์นนี่ ช่างภาพรุ่นพี่ที่เขารู้จักมานานดังกำกับอยู่ในสตูดิโอที่นาน ๆ ครั้งเตนล์จะได้โอกาสมาเยือน ไม่ใช่ว่าจอห์นนี่หวงหรืออะไร แต่เพราะพวกเขาต่างยุ่งอยู่กับงานในสายงานตัวเองจนยากจะได้เจอกัน ครั้งนี้ก็เป็นการเจอกันเพราะงานล้วน ๆ

    “เป็นไง”

    จอห์นนี่ถามเขาที่กำลังดูรูปถ่ายมากมายที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ภาพเหล่านั้นทำให้แววตาสีดำสนิทของเตนล์เป็นประกายขึ้นมาราวกับเจออัญมณีชั้นดี

    “ตอนแรกคิดว่าดู masculine ไปหน่อย แต่ว่า” เขาละสายตาจากจอขึ้นมองนายแบบหนุ่มที่ยืนนิ่งให้พวกช่างแต่งหน้าเข้าไปเซ็ตผมและเติมเครื่องสำอาง ราวกับตุ๊กตากระเบื้องชั้นดีที่หากจับแรง ๆ อาจจะบุบสลาย “น่าจะเข้ากับคอนเซ็ปต์”

    “จะได้ค่าคอมมิชชั่นไหม ในฐานะคนหาแบบให้”

    “จ้างพี่ถ่ายก็ได้”

    “หมายถึงตอนโปรโมต?”

    “แน่นอนสิ” เตนล์สบตาเข้ากับคอนแท็กเลนส์สีเทาอ่อนบนแววตาใสคู่นั้น มันเข้ากันอย่างประหลาดจนดูเป็นธรรมชาติเกินไป “รูปปกติที่ผมถ่ายเอาไปใช้โปรโมตได้หรือไง สื่อสารกับใครไม่รู้เรื่องหรอก”

    จอห์นนี่หัวเราะ ก่อนจะสั่งให้กองถ่ายทำงานต่อ

    หลังจากนั้นอีกสองอาทิตย์ เตนล์พบเจย์ที่ห้องทำงานของตน

    เด็กหนุ่มตัวสูงโปร่ง อายุห่างกับเขาเพียงปีเดียวแต่ส่วนสูงนำเขาไปพอสมควร ผิวใสอย่างน่าอิจฉา และมีบุคลิกที่ดูจะเข้าได้กับทุก ๆ คอนเซ็ปต์บนโลกนี้ จะว่าเป็นภาชนะว่างเปล่าที่นำอะไรมาใส่ก็ได้ แต่เมื่ออีกฝ่ายเลือกสวมเชิ้ตและกางเกงเอวสูงขับเน้นรูปร่าง ก็ดูเป็นภาชนะที่สูงส่งเกินกว่าคนทั่วไปจะเอื้อมถึง เหมือนถ้วยชาพอร์ซเลนประดับลายที่มีแต่พวกราชวงศ์ถึงจะมีโอกาสได้ใช้

    หลังการแนะนำตัวพอเป็นพิธี เตนล์จัดแจงให้เจย์ยืนอยู่กลางห้องทำงานของเขา ซึ่งรายล้อมไปด้วยหุ่นลองเสื้อ กระจก และม้วนผ้าหลายหลาที่กองสุมอย่างไม่ค่อยเป็นระเบียบ (แต่เขารู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนก็พอ) หลังเดินสำรวจรอบกายของเด็กหนุ่มรอบหนึ่ง เตนล์ก็หยิบสมุดขึ้นมาร่างภาพอะไรสักอย่าง

    เขาใช้เวลาไปโดยไม่รู้ตัว จนได้ยินเสียงทุ้มเอ่ยขึ้น

    “...ขอผมนั่งก่อนได้ไหมครับ”

    เตนล์เหมือนเพิ่งรู้สึกตัว เขาพยักหน้ารับ พยักเพยิดให้เจย์นั่งที่เก้าอี้สูงตัวหนึ่งในห้อง ก่อนจะกลับไปจดจ่อที่หน้ากระดาษเหมือนเดิม

    ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เตนล์ร่างภาพจนพอใจ แล้วเงยหน้าขึ้นมองอีกคนในห้องเหมือนเพิ่งนึกได้ เขานึกขอโทษอีกคนในใจที่ปล่อยให้เสียเวลาอยู่นาน แต่ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำให้เตนล์ลืมหายใจไปชั่วขณะ

    เจย์กำลังหลับ แขนสองข้างกอดกันวางบนพนักเก้าอี้ ใบหน้าข้างหนึ่งแนบลงบนแขนข้างนั้น เผยเสี้ยวหน้าอีกด้านที่ต้องแสงไฟในห้อง แพขนตายาวทาบแก้ม ผิวเรียบเนียนซับแสงให้ดูนวลตา ทิ้งน้ำหนักไปที่สะโพกด้านใน แล้วปล่อยขาข้างหนึ่งทิ้งลงตามความสูงของเก้าอี้

    เตนล์มองภาพนั้นอยู่นาน ลังเลว่าควรจะวาดภาพอีกภาพ หรือไปหยิบกล้องมาถ่าย ลงท้ายเขาจึงเดินไปหยิบกล้องบนโต๊ะมาบันทึกภาพตรงหน้า เพราะคิดว่าถึงวาดไปก็คงดูชวนฝันไม่ได้ครึ่งของสิ่งที่เขาเห็นอยู่หรอก

    งดงามเกินไป

    เตนล์สรุปกับตนเอง เจย์จะมาเป็นแบบให้กับเสื้อผ้าคอลเล็กชั่นใหม่ของเขา แต่ทำยังไงไม่ให้แบบเด่นกว่าชุด นั่นก็เป็นเรื่องที่เขาต้องขบคิดอีกนานทีเดียว

    ––––––––––

    หลังการพบกันครั้งนั้น เตนล์นัดเจย์อีกครั้งในอีกสองอาทิตย์ถัดมา

    วันนี้เด็กหนุ่มมาในชุดเสื้อยืดกับกางเกงขายาว สวมทับด้วยสูท ให้ภาพลักษณ์กึ่งทางการที่ดูน่ารักสมวัยดี เขาเชิญเจย์ให้นั่งลงก่อน เสิร์ฟชาอังกฤษที่เพิ่งได้มาจากญาติระหว่างคุยงาน

    “เจย์คิดยังไงกับลูกไม้ครับ”

    “ลูกไม้?”

    เด็กหนุ่มทวนอย่างประหลาดใจ

    “คิดว่าผู้ชายกับผ้าลูกไม้มันแปลกไหม”

    เจย์เลิกคิ้ว ผินหน้าไปมองกองผ้ามากมายในห้องเขา ก่อนจะหันกลับมา

    “ไม่นี่ครับ”

    “ลูกไม้ไม่เหมาะกับผู้หญิงมากกว่าเหรอ”

    “ใครตัดสินล่ะครับ” เจย์ยกชาขึ้นจิบ “ถ้าอยากใส่อะไรก็ใส่ ไม่ว่ามันจะเหมาะหรือไม่ สุดท้ายถ้าเราพอใจมันก็เหมาะกับเรานี่ครับ”

    เตนล์ยิ้มกับคำตอบนั้น แล้วบอกให้เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนกลางห้อง

    “ถอดเสื้อ”

    เจย์ยกแขนขึ้นถอดเสื้อยืดออกจากร่างกายอย่างง่ายดาย เผยผิวกายช่วงบนเปลือยเปล่า ขาวสว่างล้อแสงไฟนวลในห้อง

    เตนล์มองภาพนั้นด้วยแววตาไม่สื่ออารมณ์ ก่อนจะหยิบชุดหนึ่งขึ้นมาทาบกับผิวขาว

    ลูกไม้สีดำ

    ลวดลายละเอียด ตัดกับผิวขาวอย่างลงตัว

    “สวย”

    เขาพูดกับตัวเอง และดังพอให้คนที่ยืนเป็นแบบได้ยิน

    เจย์ไม่พูดอะไร ปล่อยให้เขาทาบผ้ากับแต่ละส่วนของร่างกายตัวเองราวเป็นตุ๊กตาจริง ๆ

    จวบจนคนเป็นดีไซเนอร์พอใจ เตนล์ให้เจย์นั่งพัก ส่วนเขาจมกับผ้าลูกไม้อยู่ครู่หนึ่ง

    “ขอครึ่งชั่วโมง”

    เจ้าของห้องเหมือนยึดสิทธิในการพูดไป จริง ๆ เตนล์อยากได้ยินเจย์พูดมากกว่านี้ แต่เมื่อนายแบบหนุ่มไม่คิดจะเอ่ยอะไร เขาก็ไม่รู้สึกจะเริ่มต้นบทสนทนาอย่างไรเหมือนกัน แต่ไหนแต่ไรเตนล์ก็พอใจจะอยู่ในโลกของตัวเองมากกว่าเสวนากับคนอื่นอยู่แล้ว

    เขาใช้เวลากับผ้าลูกไม้ผืนนั้นไม่นาน ก็เรียกให้เจย์กลับไปยืนกลางห้องอีกครั้ง คราวนี้เตนล์ลากเก้าอี้มาด้วย ตอนที่ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้สูงก็พูดกับอีกคนในห้องด้วยน้ำเสียงสดใส

    “เมื่อยหน่อยนะ ยืนนานเลยล่ะรอบนี้”

    “ไม่เป็นไรครับ”

    สำหรับนายแบบมืออาชีพคงเป็นเรื่องเล็กน้อย เตนล์คิดว่าแบบนั้น

    เขาเริ่มทาบผ้าลูกไม้ที่ตัดแล้วลงบนร่างกายที่ช่วงบนเปล่าเปลือยของเจย์ กลัดผ้าแต่ละส่วนด้วยเข็มหมุดและเข็มกลัด ภาพของเนื้อผ้าลูกไม้ที่แนบไปกับผิวขาวสะอาดทำให้เขาต้องหยุดพิจารณามันอยู่หลายรอบ

    สวยเกินไป

    เข้ากันเกินไป

    “สงสัยจะได้ตัดชุดนี้ให้เจย์ใส่คนเดียวเสียล่ะมั้ง”

    “ครับ?”

    นายแบบหนุ่มดูจะไม่เข้าใจเท่าไหร่ ซึ่งเตนล์ก็ไม่ได้คาดหวังให้เข้าใจอยู่แล้ว เขายิ้มพอใจกับตัวเองเมื่อจัดการผ้าจนพอใจ แล้วบอกให้เจย์หมุนตัวหนึ่งรอบ

    “ช้า ๆ ...ดีมาก ว่าแต่คันผิวหรือเปล่า”

    เจย์ส่ายหน้าเป็นคำตอบ

    เตนล์เดินไปหยิบกล้องมาถือไว้ในมือ ก่อนบอกคนตรงหน้า

    “โพสท่าหน่อย”

    “อะไรก็ได้เหรอครับ”

    “อืม อะไรก็ได้”

    เจย์ก้มหน้าคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะลากเก้าอี้ตัวที่เตนล์นั่งเมื่อครู่มาเป็นพร็อบ

    เตนล์ตาวาว มือรัวชัตเตอร์ไม่ยั้งแบบที่ถ้าจอห์นนี่มาเห็นคงตกใจ เขาถ่ายจนพอใจ จนฟิล์มน่าจะหมดม้วนจึงได้หยุด แล้ววางกล้องลงที่เดิม

    “มานี่สิ”

    เขาเรียก เจย์เดินตรงมาอย่างว่าง่าย

    เตนล์เลื่อนมือไปสัมผัสแผ่นหลังที่มีผ้าลูกไม้ประดับนั้นอย่างหลงใหล ก่อนจะพูดกับตัวเอง

    “แล้วแบบนี้ฉันจะออกคอลเล็กชั่นใหม่ไปเพื่อใครกันล่ะ”

    “ครับ?”

    เขาเงยหน้ามองคนที่เอี้ยวตัวมาส่งเสียงถามด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะยิ้มเอ็นดูให้ท่าทางใสซื่อของเด็กหนุ่มตรงหน้า

    “มีอีกชุดที่อยากให้ลอง แต่ไว้คราวหน้าแล้วกันนะ”

    เจย์พยักหน้ารับ

    ––––––––––

    ชุดสุดท้ายที่เตนล์ตัดด้วยผ้าลูกไม้สีดำนั้น คือผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว

    เสียแต่ว่ามันมีผืนเดียวบนโลก และคนที่เขาเลือกให้ใส่คือเจย์ ที่ขณะนี้นั่งนิ่งมองเขาด้วยความประหลาดใจอยู่

    ผ้าลูกไม้สีดำสนิททิ้งตัวลงมาถึงช่วงไหปลาร้าของนายแบบหนุ่ม ผมตัดสั้นอวดคอระหงที่ขนานไปกับเส้นสายของผืนผ้า เจย์มองเขาด้วยแววตาว่างเปล่าเหมือนทุกครั้ง ขณะที่เตนล์เห็นความหลงใหลของตัวเองสะท้อนอยู่ในนั้นอย่างเต็มเปี่ยม

    เขาขยับเข้าไปใกล้ ใช้มือข้างหนึ่งวาดเปิดผ้าลูกไม้ออก เผยใบหน้าเกลี้ยงเกลาของเด็กหนุ่มผู้เป็นแบบ ชายผ้าอีกฝั่งที่เขาไม่ได้ปัดมันออกระริมฝีปากสีแดงเข้มราวกับเชิญชวนให้เขาสัมผัส

    และเตนล์ก็เลือกจะทำตามคำเชิญชวนนั้น

    ใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยริมฝีปากอิ่ม แล้วจุมพิตแผ่วเบาราวกับกลัวคนตรงหน้าจะแตกสลาย

    แววตาของเจย์เบิกกว้าง

    ขณะที่เตนล์ได้ข้อยืนยันกับตัวเองอีกครั้ง

    “รู้ไหม บางครั้งคนเราก็ใช้ชีวิตทั้งชีวิตเพื่อหาคำตอบเพียงข้อเดียวให้กับตนเอง”

    เขาผละจากเด็กหนุ่ม ให้ม่านลูกไม้สีดำกั้นเขาออกจากความงดงามเสมือภาพวาดของจิตรกรชิ้นเอกตรงหน้า

    “แล้วฉันคิดว่าคำตอบของฉันอาจจะเป็นเจย์ก็ได้”

    และเขาจะเป็นคนเติมแต่งผลงานชิ้นนี้ให้ดีกว่าเดิม

    ให้โดดเด่นกว่าใคร งดงามกว่าใคร สูงส่งกว่าใคร

    สูงส่ง จนไม่มีใครจับต้องได้ทั้งนั้น

    ยกเว้นเขาเพียงคนเดียว


    FIN


    200123

    ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้อัปอะไรเกี่ยวกับลูกไม้อันนั้น ฉันต้องตายแน่ ๆ เลยออกมาเป็นสิ่งนี้ค่ะ

    รู้แหละว่าลงรูปตัวเอง แต่ก็แบบ ขอนิดนึง นายทำให้เราใจเต้นแรงมาก นายชิตพล

    #wrficnct

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in