เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Natthida Go INTERNNatthida is Cloudy
เรียนพิเศษเย็นวันศุกร์
  • ศุกร์ที่ 14 มิถุนายน 2562

    'วันศุกร์' 

    วันที่จะได้หยุดพัก วันที่พนักงานออฟฟิศทั้งหลายต่างเฝ้ารอ ไม่เว้นแม้แต่เด็กฝึกงานอย่างเรา
    แต่นอกจากจะทำงานตามปกติแล้ว ศุกร์นี้มีบางอย่างต่างออกไป

    ยามสายพี่จิ้งจอกที่ทำงานอยู่ชั้นสี่ก็ลงมาที่ชั้นสามพร้อมกระดาษเปล่าหนึ่งแผ่น
    “น้อง ๆ เขียนเรื่องที่อยากรู้หรืออยากเรียนลงในนี้ได้เลยนะ เดี๋ยวพวกพี่จะคุยกันอีกทีว่าพอจะสอนอะไรได้บ้าง”

    ได้ยินแบบนั้นฉันก็ดีใจ ไม่ยักรู้ว่าพี่ ๆ จะสละเวลามาสอนพิเศษให้เด็กฝึกงานแบบนี้ด้วย

    “ปกติพี่สอนเขียนคอมมิคกับคาแรคเตอร์ดีไซน์ เด็กรุ่นก่อน ๆ ก็เคยเรียนเหมือนกัน มาดูนี่ได้”
    พี่มิมุ้ยเปิดผลงานของเด็กฝึกงานรุ่นก่อนที่ให้พวกเราดู

    “พี่จะจับกลุ่มให้ไปทำงานมาส่งแล้วคอมเมนต์ให้ไปแก้ ดูอย่างรูปนี้ นี่ก่อนแก้ กับนี่หลังแก้ เจ้าตัวไม่ใช่คนวาดรูปสวยนะแต่พอเขาไปแก้มาตามที่พี่บอกมันก็ดีขึ้นเยอะ”

    พวกเราเข้าไปมุงพี่มิมุ้ยกันใหญ่ จากนั้นก็เวียนกระดาษกันเขียนว่าอยากเรียนอะไรบ้าง เวียนไปมาก็เริ่มมีหัวข้อซ้ำเลยกลายเป็นการเติมขีดหลังข้อความเหมือนนับเลือกตั้งซะงั้น สุดท้ายกระดาษก็กลับสู่มือพี่มิมุ้ยและหัวข้อที่มีคนโหวตมากที่สุดก็คือ “how to เขียนการ์ตูน” กับ “how to ออกแบบตัวละคร” ไม่ได้ต่างจากรุ่นก่อนเลยนี่หว่า... 

    พักเที่ยงพี่ ๆ ก็หยิบเจ้ากระดาษแผ่นนี้ไปประชุมกันแล้วก็ได้คนที่จะสอนพวกเราคือ พี่จิ้งจอกกับพี่มิมุ้ย และจะเรียนกันตอนหกโมงวันนี้เลย

    ถึงเวลาเด็กฝึกงานทุกคนไปรวมกันที่ห้องประชุม 
    “วันนี้พี่จะเกริ่นก่อนนะ ก่อนอื่น! พี่ยังไม่รู้จักพวกเราทุกคนเลย.. จะว่าไปเรารู้จักเพื่อนข้าง ๆ หมดทุกคนหรือยัง”
    พวกเราเริ่มมองหน้ากันเลิ่กลั่กแล้วส่ายหัว
    “งั้นก็เริ่มจากแนะนำตัว บอกว่ามาจากไหน ทำงานอะไร กับสิ่งที่ชอบหรือสนใจ เริ่มจากมุมนู้นก่อนเลย”
    ยืนขึ้นแนะนำตัวทีละคน ทำให้นึกถึงตอนเข้าเรียนใหม่ ๆ เลยนะเนี่ย 

    “สวัสดีค่ะ ชื่อขิม มาจากมช. ช่วยตัดต่อวิดีโออยู่... ค่ะ”
    “แค่นี้เหรอ ของที่ชอบล่ะ”
    “ก็ชอบกิน ชอบนอน.. นึกไม่ออกแล้วค่ะ”


    “สวัสดีเราชื่อทราย มาจากม.รังสิต ตอนนี้เป็นผู้ช่วย แล้วก็ชอบ ONE OK ROCK มากก”
    “ผู้ช่วยใคร การ์ตูนเรื่องอะไรคะ”
    “เป็นผู้ช่วยของพี่ลาเต้ค่ะ การ์ตูนเรื่องงง เรื่องอะไรนะ..”
    ทรายหันไปหาคู่หูเหมือนต้องการความช่วยเหลือ แต่เพื่อนดันส่ายหน้าซะงั้น
    “อ้าว จำชื่อการ์ตูนพี่ตัวเองไม่ได้อีก!” พี่มิมุ้ยหยอก
    “แป๊บนึงนะพี่ หนูขอหาก่อน” ว่าแล้วเจ้าตัวก็ปัดจอมือถือให้ควั่ก
    “จำได้แล้ว! เรื่อง Hipster or Loser ค่ะ” 

    พอเจอแบบนี้เรากับเพื่อนก็เปิดกูเกิ้ลท่องชื่อการ์ตูนกันใหญ่ ใกล้ถึงตาตัวเองยิ่งคิดไม่ออกว่าจะพูดอะไร พูดให้เป็นธรรมชาติก็แล้วกัน

    “สวัสดีค่ะ ชื่อปิ๊ก มาจากมศว. ตอนนี้เป็นผู้ช่วยของลุงแบล็คคู่กับบลี เรื่อง The Wild Card ไพ่ตายคุณชายมาเฟีย สิ่งที่ชอบคือพวกงานแฮนด์เมด”
    “เอ อย่างสีน้ำอะไรพวกนี้ใช่ไหม”
    “ใช่ค่ะ”
    “แล้วก็..ชอบกลิ่นหญ้าด้วยค่ะ”
    ฉันพูดด้วยความมั่นใจแต่ เงียบกริบ... ไม่มีการตอบสนองใด ๆ จากคนทั้งห้อง เหมือนทุกคนติดสตั๊นไปสิบวิ
    "เมื่อกี้ว่ายังไงนะ" พี่จิ้งจอกถามงง ๆ
    "อ้อ หนูชอบกลิ่นหญ้าค่ะ แบบว่าชอบธรรมชาติ ชอบอะไรเขียว ๆ ฮ่า ๆ"
    นึกว่าจะมีใครตบมุกว่า "ห๊ะ! ชอบกินหญ้า" อะไรแบบนี้ซะอีก อาา  อยากแทรกซีเมนต์หนีซะตรงนี้

    หลังแนะนำตัวกันจบแล้วพี่มิมุ้ยก็เข้าเรื่อง
    “การ์ตูนแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ ๆ คือคอมมิคกับเว็บคอมมิค สองอย่างนี้มีวิธีอ่านไม่เหมือนกัน คอมมิคอ่านจากซ้ายไปขวาเพราะอยู่ในรูปแบบหนังสือ ส่วนเว็บคอมมิคอ่านจากบนลงล่างเพราะเป็นแอปฯ มือถือ เวลาจะวาดก็จะมีวิธีวาดไม่เหมือนกัน เดี๋ยวพี่จะให้ลงชื่อว่าใครอยากวาดแบบไหน"
    ว่าแล้วพี่มิมุ้ยก็ให้แต่ละคนลงชื่อ
    แต่จะให้เลือกปุบปับแบบนี้ก็คิดยากเอาการ เราชอบหนังสือการ์ตูนนะแต่ก็อยากทำเว็บคอมมิคเหมือนกัน ทันใดนั้นใครสักคนก็ถามขึ้นมาพอดี
    "แล้วถ้าอยากทำทั้งสองแบบล่ะคะ" 
    "ลงไปทั้งสองก่อนก็ได้"

    "ไหนดูซิ มีคนเลือกเท่า ๆ กัน งั้นพี่ขอพูดเว็บคอมมิคเป็นหลักก่อนนะคะ เว็บคอมมิคหนึ่งตอนมีช่องอย่างต่ำ 33 - 35 ช่อง............"
    ฉันยืนฟังพี่บรรยายแล้วจดตามไปด้วย พอจะสรุปใจความสำคัญได้คร่าว ๆ ประมาณนี้

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    บันทึกเรียนพิเศษวันศุกร์
    - Web Comic ขั้นต่ำ 33 - 35 ช่องต่อตอน
    - ระวังลิขสิทธิ์ ต้อง censor ชื่อ/แบรนด์ที่มีอยู่จริง เช่น 7-11 --> 7-12 
    - ฉากถ้ามี ref. สถานที่จริง ถ่ายมาวาดได้ แต่วาดตามภาพในเน็ตไม่ได้ (ติดลิขสิทธิ์)
    - ลายเส้นการ์ตูนควรคงที่
    - Storyboard ต้องมีธีม ตัวละคร สถานที่
    - คิดตอนจบเรื่องไว้เลยจะได้ไม่ออกทะเล

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    "พี่มิมุ้ยคะ เขียนแนวแฟนตาซีได้ไหมคะ"

    "ได้ค่ะ แต่พี่ไม่ค่อยแนะนำ เพราะแนวแฟนตาซีต้องใช้เอฟเฟกต์เยอะ เปลืองแรงเวลาทำ อีกอย่างมันค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม เทียบกันแล้วแนวเลิฟคอมขายได้ดีกว่า" 

    สรุปแล้ววันนั้นพวกเราก็ได้รับมอบหมายให้ไปทำการบ้านคิดสตอรี่บอร์ดการ์ตูนมา 3 ตอน โดยเล่าเป็นตัวอักษรให้เข้าใจให้ได้ในตอนละ 3 บรรทัด 

    ดูเหมือนจะง่าย  แต่พอมาลองทำจริง ๆ ก็รู้เลยว่างานช้าง.. การคิดพล็อตการ์ตูนไม่ได้ต่างจากการคิดพล็อตนิยายเลย ตัวละครต้องสมจริง ทำอะไรต้องมีที่มาที่ไป ไม่หลุดคาแรคเตอร์ 'ความสมเหตุผล' นี่แหละที่เป็นปัญหาของเรา หรือบางทีเราอาจจะยังไม่มีภาพในหัวที่ชัดเจนพอ เราเคยได้ยินมาจากที่ไหนสักแห่งว่า

    "นักเขียนไม่ได้เขียนเรื่องให้ตัวละคร ตัวละครมันมีชีวิตแล้วโลดแล่นไปเอง" 


    ดูเหมือนว่าเราจะยังไม่บรรลุถึงขั้นนั้น..

    วันศุกร์ต่อมาเราก็คิดเรื่องไปส่งพี่แบบที่รู้ว่ายังไม่ผ่าน

    วันศุกร์ถัดมาอีกก็ไม่มีเรียนพิเศษเย็นวันศุกร์อีกแล้ว มีการโยกย้ายครั้งใหญ่เกิดขึ้นซึ่งเปลี่ยนแปลงบรรยากาศในบริษัทไปตลอดกาล สตอรี่บอร์ดที่ฉันไปปรับมาจึงนอนหลับอยู่ในแฟ้มมาจนถึงทุกวันนี้ 

    บางทีปล่อยให้มันอยู่แบบนี้ต่อไปอาจจะดีกว่าละมั้ง


    ห้องเรียนพิเศษเย็นวันศุกร์จบลงภายในสองสัปดาห์
    to be continued...
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in