เราเป็นคนขี้กลัว.. เรากลัวความผิดพลาดมากจนบางครั้งไม่กล้าทำอะไรสักอย่าง แต่ก็อย่างว่า
"ไม่มีมนุษย์หน้าไหนไม่เคยผิดพลาด เพียงแต่คนฉลาดเท่านั้นที่จะเรียนรู้จากความพลาดพลั้งของตัวเอง"
สัปดาห์แรกผ่านไปเราก็ได้เผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัว
ยามสายวันจันทร์เรานั่งทำงานผู้ช่วยกับเพื่อนตามปกติ แต่แล้วก็มีพี่ผู้ชายเปิดประตูพรวดพราดเข้ามาในห้องแล้ววิ่งที่โต๊ะของลุงแบล็คใจดี สีหน้าดูกังวลขณะคุยกัน โต๊ะทำงานของเราอยู่เยื้องกับโต๊ะลุงแบล็คพอดีเลยได้ยินเรื่องที่พี่สองคนคุยกันหมด
“โค่เขาแจ้งมาว่าไวล์ดการ์ดตอนที่จะลงสัปดาห์นี้ไฟล์เสียทั้งหมด”
“อ้าว! เกิดอะไรขึ้น”
“เขาบอกว่าหน้ายาวเปิดแล้วไฟล์กลายเป็นภาพเดียวหมด ใครเป็นคนรวมหน้ายาวของตอนนี้”
“น้องฝึกงานอะ”
ใช่ค่ะ หนูเอง เรารวมหน้ายาวคนละวิธีกับที่ลุงแบล็คสอน แต่นึกไม่ถึงว่าจะเป็นวิธีที่ผิดแล้วทำให้เกิดปัญหาแบบนี้ อา.. ทำผิดซะแล้ว ต้องโดนดุแน่ ๆ
ไม่ทันขาดคำเรากับเพื่อนก็จับมือกันเดินไปหาลุงแบล็คแบบหวั่น ๆ
“ใครเป็นคนรวมหน้ายาว”
“หนูเองค่ะ” เราสารภาพ
“ได้รวมหน้ายาวตามวิธีที่เราบอกหรือเปล่า”
“เอ่อ.. ไม่ค่ะ พอดีว่าพื้นหลังมันเกินขอบ หนูไม่รู้จะย่อให้พอดียังไง เลยใช้วิธีเพลสไฟล์เอาค่ะ”
“หนูเป็นคนบอกให้ปิ๊กใช้วิธีนี้เองค่ะ” เพื่อนเราออกตัว
จริงตามนั้น วิธีที่ถูกต้องเวลารวมหน้ายาวคือ เราต้องสร้างไฟล์ใหม่ในโปรแกรม Photoshop ให้มีขนาดตามที่กำหนด จากนั้นค่อยลากไฟล์การ์ตูนหน้าสั้นที่ทำเสร็จมาใส่แล้วย่อให้ขนาดพอดีกับไฟล์หน้ายาว วิธีนี้จะทำให้โฟลเดอร์และเลเยอร์ต่าง ๆ ที่ใช้ทำงานสามารถแก้ไขในภายหลังได้ เพราะเวลาวาดการ์ตูนแต่ละหน้าลุงแบล็คจะแบ่งโฟลเดอร์ไว้อย่างละเอียด เช่น ตัดเส้น สี พื้นหลัง บอลลูน text
แต่วิธีที่เราใช้เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่มักง่ายและขี้เกียจ ความจริงคือเราเพิ่งเคยรวมหน้ายาวเป็นครั้งแรกและทำงานไม่เสร็จสักทีเลยหันไปปรึกษาคู่หู และเพื่อนก็แนะนำวิธี Place มา ซึ่งวิธีนี้ง่ายจริง เพียงไปที่ File > Place เลือกไฟล์ที่จะวางแล้วกดตกลง ไฟล์นั้นก็จะมาอยู่ในหน้ายาวโดยมีขนาดพอดีเป๊ะ ทำให้เราไม่ต้องย่อให้เสียเวลา แต่.. โฟลเดอร์ที่แบ่งไว้ทั้งหมดจะถูกรวมเป็นภาพเดียว
file > place
โฟลเดอร์ที่แบ่งไว้กลายเป็นเลเยอร์เดียว
ที่เราตกลงใช้วิธีนี้ไปเพราะพอดับเบิ้ลคลิกที่เลเยอร์แล้วจะเชื่อมไปถึงไฟล์หน้าสั้นได้ และในไฟล์นั้นโฟลเดอร์ต่าง ๆ ก็ยังอยู่ครบ ไม่ได้หายไปไหนนี่หว่า แต่มันไม่ใช่น่ะสิ
“อ่า วิธีที่พวกนายใช้มันเป็นวิธีลิงก์ไฟล์ ถ้าเขาไม่มีไฟล์หน้าต้นฉบับมันจะกลายเป็นภาพเดียว”
เราเข้าใจว่าวิธีนี้คงเหมือนเวลาเรียนทำเว็บสมัยมัธยมที่ต้องเซฟไฟล์ที่จะเชื่อมกันไว้ในที่เดียวกัน
ถ้าไม่มีไฟล์ต้นทาง ไฟล์ปลายทางก็แสดงผลไม่ได้ คงเป็นไปในทำนองนั้น
“แล้วอย่างงี้เราทำอะไรได้บ้าง” ลุงแบล็คหันไปถามพี่ผู้ชาย
“ก็คงต้องเสียตอนการ์ตูน”
“เลี่ยงไม่ได้สินะ”
ลุงแบล็คสีหน้าเครียด ถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเซฟไฟล์ใหม่ให้เราไปแก้ น้ำเสียงของพี่นิ่งจนน่ากลัว
“เอาไปแก้ แล้ว.. อย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก”
เรารับแฟลชไดรฟ์มาอย่างกลัว ๆ แล้วพูดสิ่งที่สมควรพูดที่สุดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแต่หนักแน่น
เรานึกว่าจะโดนตำหนิมากกว่านี้ เพราะช่วงนี้ลุงแบล็คไม่ค่อยสบายต้องลาไปหาหมอทำให้ทำงานได้น้อยลง ยิ่งมา ‘เสียตอนการ์ตูน’ ยิ่งทำให้เครียดขึ้นไปอีก แต่มาคิดดู ถึงพี่จะดุเราก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น เพราะเราก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว สิ่งที่ดีที่สุดที่เราจะทำได้ในตอนนี้คือยอมรับไปตามตรงว่าเราทำผิด ขอโทษ เรียนรู้จากความผิดพลาดครั้งนี้ และทำครั้งต่อไปให้ดีขึ้น
พอเจอเหตุการณ์แบบนี้เข้าจริง ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองกลัวน้อยลง บางทีอาจเป็นเพราะผ่านการแก้งาน (จากวิชาเรียนในมหาวิทยาลัย) มาเยอะจนมีภูมิคุ้มกันแล้วกระมัง แต่เราก็พอจะมีคติในใจอยู่ว่า "เราจะพัฒนาตัวเองได้ก็ต่อเมื่อเรายอมรับความผิดพลาดของตัวเองได้" เราอยากเก่งขึ้น เพราะฉะนั้นจึงต้องยอมรับในจุดนี้ให้ได้ พอเราเก่งขึ้นแล้วความผิดพลาดคงไม่ใช่ความผิดพลาดอีกต่อไป
นั่นสินะ..
เขาเรียกว่า "ประสบการณ์" ละมั้ง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“Experience is the name everyone gives to their mistakes.”
- Oscar Wilde -
to be continued...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in