เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
All my #Thorki and #Hiddlesworth One-Shot fictionsAprilz
[OS] All I want for Christmas is you #Hiddlesworth









  • ทอม ฮิดเดิลสตันในเสื้อโค้ทยาวสีน้ำตาลเข้มพร้อมพันผ้าพันคอสีเดียวกัน สาวเท้าเดินไปตามถนนแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน อากาศหนาวเหน็บหิมะร่วงโปรยปรายสร้างสีขาวโพลนไปทั่วบริเวณ เขาสอดมือทั้งสองข้างไว้ในกระเป๋าหนีจากความเย็นที่เริ่มกัดกิน นึกหงุดหงิดตัวเองเพราะดันลืมหยิบถุงมือก่อนออกจากบ้านมาด้วย ดวงตาสีเขียวหม่นเหลือบมองผู้คนรอบข้างที่เดินสวนไป ต่างก็ควงแขนคนรักไม่ว่าจะในฐานะเพื่อน พ่อ แม่ สามี ภรรยา หรือแม้กระทั่งแฟนพวกเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ

    ก็แหงล่ะ... ใครกันบ้างที่ไม่ชอบวันคริสต์มาส

     

    เขาไง

    ถามว่าทำไม ก็คงจะเป็นเหตุผลง่ายๆคือ เขาเป็นหนุ่มโสดขี้อิจฉาคนนึง

     

    ‘แม่จะไปเที่ยวกับพ่อสักสองสามวัน ช่วงคริสต์มาส ลูกคงอยู่ได้ใช่ไหม?’

    ‘โทษทีนะทอม ฉันก็ต้องฉลองคริสต์มาสกับแฟน’

    ‘ได้สิ! แต่ เฮ้!นั่นมันวันคริสต์มาสนี่... ฉันต้องอยู่กับครอบครัว’

     

    ใช่ ใครๆก็วุ่นวายกันทั้งนั้น แต่ไม่ใช่กับเขา ทอมฮิดเดิลสตันคนนี้คนที่ว่างทุกเทศกาลนั่นแหละ!

    เขาเบื่อที่จะต้องฉลองด้วยหนังสือพิมพ์ หนังเก่าๆ และการทำงานทั้งวัน ทั้งที่มันเป็นวันหยุด

     

     

     

     

    แต่ปีนี้ มันออกจะแตกต่างจากที่ผ่านมาสักหน่อย

    เหมือนว่าพระเจ้าจะเมตตาและสงสาร(ปนสมเพช)ที่ชายหนุ่มอายุใกล้เข้าเลขสามอย่างเขายังหาคู่ครองไม่ได้เสียที

    ไม่สิ ไอ้หาน่ะมันหาได้ แต่ไอ้ที่ยากน่ะคือคนที่จะอยู่อย่างยั่งยืนต่างหาก

    นั่นแหละนะ... เมื่อสามสี่เดือนก่อนเขาจึงได้พบคนคนนี้ และคิดว่าคงจะช่วยคลายเหงาในฤดูหนาวได้พอสมควรเลยทีเดียว

     

     

    แต่ถามว่าเขาเข้ามาในฐานะอะไรน่ะหรอ?

     

    นั่นน่ะสิ

     

     

     

     

     

     

    กริ๊ง

    เสียงกระดิ่งหน้าประตูดังขึ้นทันทีที่ทอมเปิดมันออก ทีนี่ ร้านกาแฟเล็กๆแห่งนี้ เขามาประจำทุกวันหลังเลิกงานมันถูกตกแต่งด้วยโต๊ะไม้ธรรมดาสามสี่โต๊ะ ถัดจากบริเวณรับออเดอร์ก็เป็นเค้าท์เตอร์ยาวประมาณสองสามที่นั่ง รอบข้างไม่มีอะไรมากนัก นอกจากกระพองเพชรต้นเล็กๆวางเรียงกัน  ด้านหลังบาร์ตรงนั้น เป็นที่ประจำของบาริสต้าหนุ่มร่างสูงใหญ่กว่าทอมพอประมาณ

    “อ้าว ทอม? ไม่ไปไหนรึไง นี่วันคริสต์มาสนะ เผื่อนายจะลืม” เอ่ยทักทันทีที่เงยหน้าขึ้นเจอลูกค้าประจำของเขา คิดเอาแล้วกันว่า ทอม ฮิดเดิลสตัน คนนี้จะต้องว่างแค่ไหน ขนาดที่ว่าสามารถมานั่งร้านกาแฟได้บ่อยๆคุยกับบาริสต้าจนสนิทถึงขั้นยอมให้เรียกแค่ชื่อห้วนๆได้

    “ไปสิ ไปร้านกาแฟบ้าๆนี่ไง แล้วก็ ขอมอคค่าสักแก้ว” หยอกกลับด้วยรอยยิ้มแล้วถอดผ้าพันคอกับเสื้อโค้ทพาดไว้บนเค้าท์เตอร์ ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ประจำ ฮีทเตอร์ในร้านที่กำลังทำงานช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย 

    วันนี้ ‘คริส เฮมสเวิร์ธ’ อยู่ในเสื้อไหมพรมสีดำแขนยาวกับกางเกงยีนส์ขาดๆ ผมสีน้ำตาลทองถูกมัดรวบไว้แบบไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก คริสเป็นหนุ่มออสซี่ที่ย้ายมาอยู่ในอังกฤษหลังจากจบไฮสกูล เขาบอกว่าเขามีญาติอยู่ที่นี่คอยส่งเสียเขา จนเรียนจบมหาวิทยาลัย หลังจากนั้นเลยขอย้ายออกมาอยู่คนเดียว เปิดร้านกาแฟเล็กๆตรงนี้ ควบคู่กับงานหลักไปด้วย อ้อ... เขาบอกว่าเขาเป็นฟรีแลนซ์ มันฟังดูดีกว่างานนั่งโต๊ะเซ็นเอกสารอย่างเขาเป็นไหนๆ


    ถึงแม้ไอ้งานนั่งโต๊ะที่ว่า จะหมายถึงการควบตำแหน่งเจ้าของบริษัทก็เถอะ

     

     

    “เฮ้ ระวังคำพูดหน่อย ไอ้ร้านกาแฟบ้าๆที่นายว่า มันก็เป็นร้านเดียวกับร้านโปรดของนายนะ” บาริสต้าหนุ่มตอบพร้อมเสียงหัวเราะ ใช่ ร้านกาแฟแห่งนี้กลายเป็นร้านโปรดของทอมโดยบังเอิญ ด้วยความเป็นมิตรของคริส และมักจะพูดคุยถูกคอกันในหลายๆ เรื่องรู้ตัวอีกทีทอมก็ขาดคาเฟอีนจากร้านของคริส ไม่ได้ซะแล้ว หนำซ้ำเมื่อหลายวันก่อนเขายังพลั้งปากไปบอกอีกว่าร้านนี้เป็นร้านโปรด พอพ่อบาริสต้าหนุ่มตรงนั้นได้ยินเข้าก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ได้ใจจนอยากจะเลิกมาให้รู้แล้วรู้รอด

    เสียงเครื่องชงกาแฟเริ่มทำงานดังขึ้นคริสวุ่นวายอยู่กับการบรรจงสร้างมอคค่าแก้วโปรดให้เขาด้วยความตั้งใจ


    ทอมชอบคริสในตอนนี้มากที่สุด ท่าทางทะมัดทะแมงและดูเอาใจใส่กับกาแฟในทุกๆแก้วมันมีสเน่ห์เอามากๆ แม้ว่าพอขยับปากพูดจะยียวนกวนประสาทน่าเอาถาดฟาดก็ตาม

     

    “เรียบร้อยครับคุณลูกค้า” ว่าพลางดันแก้วเซรามิก(ที่มีใบเดียวในร้าน เป็นลายเฉพาะของ คุณทอม ฮิดเดิลสตัน เขานั่นเอง)เลื่อนไว้ตรงหน้า ทอมเหลือบมองลายฟองนมสีขาวแล้วก็หลุดยิ้มออกมา หัวใจบูดๆเบี้ยวๆที่คริสพยายามทำมันอยู่สักพัก ประมาณสองสามอาทิตย์ได้ วันนี้มันเริ่มจะดูดีขึ้นมาหน่อยแล้ว


    “หัวใจไม่ค่อยเบี้ยวแล้วนี่” หยอกแซวก่อนยกกาแฟแก้วโปรดขึ้นดื่ม กลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟผสมช็อคโกแลตเข้มข้น กำลังช่วยรักษาอาการขี้เหงาของเขาได้เป็นอย่างดี “เมื่อไหร่จะได้เสิร์ฟลายจริงๆจังๆซักทีล่ะ” หลังจากลิ้มรสเสร็จก็ถามต่อ


    “ใครว่าฉันฝึกไปเสิร์ฟให้คนอื่นกัน?” คริสตอบพร้อมรอยยิ้มมุมปาก ดวงตาสีเดียวกับท้องฟ้าจ้องมองมาที่ทอม ดูแปลกๆจนเขาต้องยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม เสสายตาหนีไปทางอื่นแก้ขัดเขิน


    “แล้วจะฝึกไปให้สาวที่ไหนล่ะ?” ได้ยินแบบนั้นคริสก็หัวเราะอยู่ในลำคอ ส่ายหัวน้อยๆเมื่ออีกฝ่ายทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร แต่พวงแก้มกลับขึ้นสีระเรื่อจนสังเกตได้ 

    การที่ทอมอายุมากกว่าเขาสองปีไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าตัวเองเป็นน้องชายสักเท่าไหร่ ทอมมักจะเป็นกันเองกับเขาเสมอแม้เพิ่งรู้จักกันได้ไม่ถึงปี คอยซื้อขนมเข้ามาฝากแล้วก็มักจะบ่นต่อว่า ‘อา! ลืมเลยที่ร้านก็มีขนมขายเหมือนกันนี่นะ!’ 

     

    “แถวๆนี้แหละ”

    “เหรอ” ทอมตอบทันควัน มองดูคริสที่ก้มลงไปทำอะไรสักอย่างใต้บาร์ก่อนจะหยัดตัวขึ้นมาอีกทีพร้อมซองสีแดงเข้ม

    “นั่นอะไร?”

    “สัญญาสิว่าถ้าให้แล้ว นายจะไม่เปิดมันตอนนี้” นั่นยิ่งทำให้ทอมรู้สึกสนอกสนใจเจ้าซองแดงตรงหน้ามากขึ้น

    “ทำไมล่ะ?”

    “เถอะน่า... สัญญาสิ” คริสพยายามโน้มน้าว ทอมพยักหน้าเออออรับคำสัญญาแล้วยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มอีกครั้ง ก่อนจะรับซองสีแดงตรงหน้ามาเก็บไว้ใต้โค้ท

    “จะว่าไป วันนี้เงียบชะมัด...” ทอมหันมองซ้ายขวา ใช่ว่าคริสจะมีลูกค้าประจำแค่เขาคนเดียว ปกติเขามักจะเห็นคนหน้าเดิมๆ มานั่งอ่านหนังสือบ้าง ทำงานบ้าง แต่วันนี้กลับเงียบสงบไร้ผู้คน มีเพียงเขากับคริสเท่านั้น

    “เทศกาลนี่นะ วันที่ต้องให้เวลากับครอบครัว หรือไม่ก็คนรัก” คริสไหวไหล่ เยื้องกายไปที่ตู้ขนม หยิบสโคนวางลงบนจานสองชิ้นพร้อมตักแยมส้มลงด้านข้าง


    “แล้วนายล่ะ อยู่กับใคร?” ทอมถามต่อเมื่อเห็นคริสเดินกลับมาพร้อมจานขนม “เฮ้ ฉันไม่ได้สั่ง”

    “ไม่เป็นไร ฉันให้ ถือซะว่าเป็นของขวัญวันคริสต์มาส” ทอมคลี่ยิ้มกว้าง นอกจากาแฟแล้ว ก็มีสโคนของร้านนี้เนี่ยแหละที่เขาชอบมากที่สุด แยมส้มสูตรโฮมเมดนั่นก็ด้วย ไม่หวานเกินไปแถมหอมกลิ่นเปลือกส้มชนิดที่ว่าแยมดังตามห้างแทบจะเทียบไม่ติด ไม่ว่าจะกินกับอะไรก็อร่อย ให้เขาทานเปล่าๆยังได้ ก็เลยมักจะซื้อติดมือกลับบ้านไปเกือบทุกครั้ง คริสบอกว่าขนมปังและแยมพวกนี้ภรรยาของพี่ชายเขาเป็นคนทำเองทั้งหมด ทำใหม่ทุกวัน ถ้าเหลือ เขาก็จะกินเองหรือไม่ก็เอาไปแบ่งบ้านข้างๆบ้าง และนั่นก็คงเป็นผลพลอยได้ ทำให้บางวันเขาได้สโคนแถมกลับไปชิ้นสองชิ้น

    “ขอบใจ นายได้บอกภรรยาของพี่ชายนายรึยัง ว่าฉันรักสโคนกับแยมของเธอมากแค่ไหน”

    “เรียบร้อย เธอฝากบอกว่าขอบคุณมาก แถมยังบอกอีกว่าอยากเจอนาย” คริสนั่งลงบ้างเขาวางแขนเท้าคางมองคนตรงหน้าเคี้ยวขนมหงุบๆอย่างอารมณ์ดี ดวงตาสีเขียวหม่นประกายความสุขออกมาจนเขาอดยิ้มตามไม่ได้

    “สักวันคงได้เจอ... จะว่าไปนายยังไม่ตอบคำถามฉัน อีกอันนึง” สโคนหนึ่งก้อนหมดลงภายในพริบตา คริสเลิกคิ้วมองคนที่กำลังซดกาแฟฮวบๆเหมือนกำลังอึ้งไปเล็กน้อย

    “เฮ้ ค่อยๆสิ เดี๋ยวก็สำลักขึ้นมาหรอก” คริสเอื้อมไปหยิบเหยือกน้ำเปล่าเทใส่แก้วก่อนยื่นให้ ทอมเอ่ยขอบคุณแล้วรับมาดื่มต่อ

    “สโคนมันติดคอ”

    “แล้วใครสอนให้กินรวดเดียวหมดขนาดนั้นเล่า” บาริสต้าหนุ่มกลั้วหัวเราะ ทอมขมวดคิ้วมุ่นแล้วชกกำปั้นใส่ต้นแขนหนาๆของคริสด้วยความหมั่นไส้

    “ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย” 


    “ทำไมนายถึงอยากรู้ล่ะ?” คำถามสวนกลับทำเอาทอมเงียบไปชั่วครู่ กระพริบตาถี่ๆแบบไม่ได้ทันตั้งตัวเท่าไหร่ นั่นน่ะสิ ทำไมเขาถึงได้อยากรู้นักว่าคริสจะไปเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสกับใครเพื่อน? พี่น้อง? หรือว่า... แฟน?

     

    “ถ้าไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ” ทอมบอกปัด จัดการผ่าสโคนอีกก้อนแล้วปาดแยมลงไป ในขณะที่ในหัวก็เอาแต่คิดเรื่องก่อนหน้า

     

    โอเค เขาชอบคริส... ใช่ คริส เฮมสเวิร์ธ บาริสต้า เจ้าของร้านกาแฟร้านโปรดของเขา เขาโตพอที่จะซื่อตรงต่อควมรู้สึกตัวเอง ว่าที่กำลังเป็นอยู่นี่มันคืออะไร

    แต่แล้วยังไงล่ะ? เราก็แค่คุย คุย แล้วก็คุยกัน

    มีเรื่องส่วนตัวบ้างแต่คริสไม่เคยปริปากออกมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ว่าเจ้าตัวมีใครอยู่รึเปล่า ส่วนเขาน่ะเหรอ หึ เล่ามากว่านี้ก็คงจะเป็นตอนที่เขายังเป็นเอ็มบริโอในท้องแม่นั่นล่ะ

     

    “ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น เฮ้...ฟังนะ”คริสเอื้อมจับปลายคางของทอมให้มองตรงมาที่เขา ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันทุกครั้งเวลาที่เจ้าตัวกำลังจมอยู่กับความคิดอะไรบางอย่าง เขารู้ดี

     

    “คริสต์มาส ปีนี้... ฉัน” คริสเว้นช่วงไป พอถูกดวงตาสีเขียวหม่นจับจ้อง เขาก็ดันทำอะไรไม่ถูกเหมือนทอมกำลังบอกว่า ‘อย่าให้ฉันผิดหวังนะเจ้าหมีโง่ คำตอบนั้นตัดสินชีวิตของนายเลยนะ’ โดยที่คริสก็ยังไม่แน่ใจเลยด้วยซ้ำว่าอีกฝ่าย ชอบเขาจริงๆ หรือแค่ อาจจะชอบ กันแน่

     

     


    “ฉัน.. อยู่ กับคนที่ฉันชอบ” ประโยคสารภาพรักถูกส่งออกไปแบบอ้อมๆในฉบับของคริส เฮมสเวิร์ธ เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมกับยืนยันผ่านทางสายตาว่า ‘คนที่ฉันชอบ’ ที่เขาว่า นั่นก็คือ ทอม ฮิดเดิลสตัน นั่นแหละ

     

    แต่แล้ว ดวงตาสีเขียวหม่นกลับฉายแววผิดหวังออกมา หัวใจของคริสหล่นวูบ ทอมหันหน้าหนีออกจากมือของเขาแล้วลุกขึ้นยืนคว้าโค้ทกับผ้าพันคอขึ้นมาสวมใส่แบบเร่งรีบ

     

    “เดี๋ยว นายจะไปไหน?” คริสถามพยายามเอื้อมมือไปคว้าแขนไว้แต่อีกฝ่ายดันรู้ทันเอียงตัวหลบก่อน

    “ฉัน... เอ่อ เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีธุระด่วน นี่ ค่ากาแฟ ไม่ต้องทอนนะ”รีบพูดรีบสาวเท้ายาวๆเดินออกมาจากตรงนั้นทันที โดยไม่ฟังคำทักท้วงของคริสเลยแม้แต่น้อย

     


    ‘ฉันอยู่กับคนที่ฉันชอบ’ งั้นหรอ

     

    ใช่สิ หนุ่มหน้าตาดีขยันทำงานอย่างคริส ก็ต้องมีแฟนอยู่แล้ว ทอมคนโง่เอ้ย ทำไมถึงไม่คิดเลยนะ

    มือขาวซีดยกขึ้นมาทาบบริเวณหน้าอก ก้อนเนื้อด้านในบีบคั้นจนรู้สึกเจ็บแปลบ

     

    นี่น่ะหรอ ความรู้สึกเวลาถูกอกหัก เขาไม่ได้สัมผัสมันมานับปีได้

     

    เจ็บขนาดนี้เลยหรอ?

    หรืออาจจะต้องไปโรงพยาบาล เผื่อมันจะเป็นโรคอะไรสักอย่าง?

     

    เจ็บจริงๆแฮะ

     

     

     

     


    ทอมทิ้งตัวลงบนโซฟาหนังสีดำภายในบ้านของเขาทันทีทีกลับมาถึง พรั่งพรูลมหายใจออกมาจนแทบจะถอดเอาปอดออกมาวางด้านนอก นึกเสียดายสโคนที่ยังกินเหลือไว้ตั้งครึ่งนึง


    “สงสัยคงต้องหาร้านกาแฟร้านใหม่... แต่สโคนนั่น น่าเสียดายชะมัด”  เขาบ่นพึมพำในบ้านเงียบสงบ มีเพียงเขากับเสียงลมพัดผ่าน แม้แต่แม่บ้านที่จ้างไว้ก็ยังกลับไปอยู่กับครอบครัวเลย

     

    แย่ นี่มันแย่มาก


     

    ทอมล้วงเข้าไปใต้โค้ทหวังจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแต่กลับเจอสัมผัสแข็งๆเข้าซะก่อน เขาหยิบซองสีแดงขึ้นมามอง คริสเพิ่งให้เขา ก่อนที่ไม่กี่ชั่วโมงถัดมาเขาจะวิ่งหนีออกมาจากร้านแบบเสียมารยาทมากๆ


    ทอมรีบเปิดซองออกด้วยความสงสัย มันคือการ์ดคริสต์มาสสีเขียวแดงธรรมดาๆ พอเปิดออกก็เป็นป๊อปอัพซานตาครอสถือกล่องของขวัญ แต่แทนที่จะเป็นซานตาครอสน่ารักๆ กลับมีหน้าของคริสถูกตัดแปะไว้ ทอมหลุดหัวเราะออกมาน้อยๆเหลือบมองลายมือเขี่ยๆที่เดาได้ทันทีว่าคนให้มาเขียนเองกับมือ

     



    ‘สุขสันต์วันคริสต์มาส ทอม ฮิดเดิลสตัน

    ฉันไม่เคยเขียนการ์ดให้ใครเลยนะ (นอกจากครอบครัวของฉัน เชื่อสิ ว่าฉันถูกบังคับ)

    แต่ก็ กำลังพยายามอยู่ เอ่อ.. ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเริ่มยังไงดี แค่อยากบอกให้รู้น่ะนะ


    YOU ARE MY CUP OF TEA COFFEE.


    จริงๆ คือฉัน ชอบนาย แล้วก็... ถ้า นายไม่ว่าอะไร 

    มาเดทกับฉันไหม? : )


    xoxo

    จาก คริส เฮมสเวิร์ธ (contact: chrischris)’

     



    ทอมยิ้มกว้างที่สุดในรอบหลายเดือน เขารีบเด้งตัวขึ้นมาจากโซฟาแล้วคว้าโทรศัพท์ออกมากดแตะไปตามหน้าจอ รู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองกำลังหน้าแดงขนาดไหน แถมยังโชคดีที่ไม่มีใครอยู่บ้านด้วยไม่งั้นเขาต้องถูกเซ้าซี้ถามแน่ๆว่า สาวคนนั้นที่ทำเขาอายขนาดนี้เป็นใครกัน

     

    ไม่ใช่สาว แถมยังเป็นหนุ่มร่างหมีอีกต่างหาก

     

     

     

     


     

    ‘Tom W. Hiddleston: ไหนว่าฉลองคริสต์มาสกับคนที่ชอบไง?’

     

     

     

    ‘Chris: ฉันหมายถึงนายนั่นแหละ กะแล้วเชียว ว่านายต้องคิดแบบนี้’

    ‘Chris: ตกใจหมดที่วิ่งออกไปแบบนั้น’


    ‘Chris: เดี๋ยวนะ! นี่แสดงว่านายเปิดการ์ดแล้วสิ?!'

    ‘Chris: ตกลงจะเดทกับฉันหรอ!?’


    ‘Chris: เฮ้ ทอม! อย่าเงียบสิ ให้ตาย ฉันจะเป็นบ้าแล้ว!’

     

     


    ‘Tom W. Hiddleston: ใช่น่ะสิ เจ้าโง่ : )’ 



     

    อันที่จริง คริสต์มาสนี่มันก็ดีเหมือนกันนะ คุณว่าไหม?

     

     

    MERRY CHRISTMAS ♥ 




    Note: สุขสันต์วันคริสต์มาสค่ะ ฟิคคริสต์มาสที่แต่งไม่ทันคริสต์มาส 555555555555 ขอมอบฟิคเรื่องนี้ให้ชาวเรือทุกคน สุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บไม่จนกันนะคะ 55555555 

    พูดคุยกันได้ที่เดิม #โกดังฟิคของนห หรือทวิตเตอร์ @Aprilz97 คอมเม้นท์เพื่อเป็นกำลังใจให้กันต่อไปนะคะ หรือกดรีแอคด้านล่างก็ได้ งุงง ขอบคุณค่ะ ♥

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
itpfstudentsc (@itpfstudentsc)
ดองไว้ตั้งแต่ Christmas รู้สึกผิดมากๆเลยค่า ฮืออส์ นี่อ่านไปเอามือปิดหน้าไป
mgjije (@mgjije)
สาวโสดขี้อิจฉาชอบคริสมาสต์นะ แต่หมั่นไส้คู่นี้ได้ป่าวคะ 5555555
Aprilz (@aprilz97)
@mgjije ♥ เนอะะะ หมั่นไส้เขานะคะ 5555555555