เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ธันวาคมปีที่17ฉันสูญเสียเธอไปphaapch
เธอผู้เป็นเพียงฝัน
  • มันก็นานมาแล้วนะ

    อา...

    ทั้งๆที่นานขนาดนั้นแล้วแท้ๆ



    ตอน17พวกคุณกำลังทำอะไรกันอยู่ นั่นสินะ 
    ฉันเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าตอนนั้นกำลังทำอะไรอยู่

    อาจจะเป็นการกวดวิชา อ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาลัย 
    ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปกับช่วงเวลาที่หอมหวานของมัธยมปลายชั้นปีสุดท้าย
    หรือการได้เฝ้ามองใครสักคนจากไปอย่างช้าๆ ในปีที่17


     
    มันเป็นความทรงจำที่พยายามลืม พยายามที่จะไม่นึกถึงมันอีก 

    แต่ช่างตลกร้าย ตัวแปรหนึ่งที่ชื่อว่า ความคิดถึง

    ทำให้ฉันต้องกลับเข้าไปในวังวนแห่งความทรงจำซ้ำๆ และซ้ำๆ




  • ชีวิตเด็กม.6 คนนึง ควรจะได้อ่านหนังสือสอบอย่างเพื่อนคนอื่นๆรึเปล่า
    ทำไมทุกเรื่องมันช่างประเดประดังเข้ามานัก ทำไมกัน


    อยากกรีดร้องให้สุดเสียง อยากร้องไห้จนเสียสติ
    แต่ทำไม่ได้ ...ทำไม่ได้เลย


    กลิ่นสะอาดที่เคยฉุนขึ้นจมูก ตอนนี้มันกลายเป็นคุ้นชินไปแล้ว
    ตลอดหลายเดือนที่ไปๆกลับๆสถานที่แห่งนี้
    ไม่รู้สิ ทำไมมันเหนื่อยแบบนี้ ทำอะไรได้บ้าง
    ไม่อยากเหนื่อยแล้ว ความคิดแวบเข้ามาในหัว


    แม่ของฉันป่วย ฉันรู้ มันเป็นเรื่องทั่วไปและปกติของชีวิต
    แม่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม ระยะไหนนั้นจำไม่ได้แล้ว 
    อาจจะเป็นสองหรือสาม 
    มันจะสำคัญยังไงในเมื่อตอนนี้จำไปมันไม่มีความหมายแล้ว

    มันอาจจะดูเห็นแก่ตัวนะ แต่ตอนนั้นยอมรับว่าเห็นแก่ตัวจริงๆ
    ทำไงได้ล่ะ ฮะฮะ เอาเหอะฉันจะไม่โทษใคร เพราะมันผ่านไปแล้ว



    ตอนนั้นจำได้ว่านอนโรงพยาบาลเกือบทุกคืนเลยมั้ง 
    เมื่อพี่ชายต้องทำงานแถมยังต้องดูแลครอบครัวตัวเอง
     มีน้องที่ยังต้องไปโรงเรียน 
    พ่อเองก็ต้องดูแลความเป็นอยู่ที่บ้าน
    ฉันเพียงอยู่หอพักใกล้โรงพยาบาลที่สุดแล้ว
    เลยต้องมาอยู่ดูแม่ในทุกๆคืนเท่านั้นเอง


    มันยากนะกว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้ 
    เด็กม.6 คนนึงนั่งทำการบ้านอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย
    ทุกๆวัน และทุกๆวัน
    เลิกเรียน กลับหอพัก เก็บชุดนักเรียนที่ต้องใส่วันพรุ่งนี้ใส่กระเป๋า
    มาหาแม่ในตอนเย็นไม่มาก เปลี่ยนเวรกับพ่อ 
    ที่อยู่เป็นเพื่อนแม่ในตอนกลางวัน
    ดูอบอุ่นดีเนอะ


    แต่เธอรู้มั้ยฉันในตอนนั้นมันดิ่งมากๆ 
    ควบคุมอารมณ์ไม่ได้เลย เวลามองหน้าแม่แล้วรู้สึกว่า
    อีกไม่นานแล้วนะ ได้แต่ยิ้มให้เธอแล้วคอยเช็ดตัวให้
    จับมือเธอ คุยกับเธอ ฟังเธอเล่าถึงผู้ป่วยคนอื่นๆที่เธอเจอ
    อืม ยากจังนะ ที่ต้องทำเป็นเข้มแข็ง ทั้งๆที่อายุ17แท้ๆ
    อ่อนแอบ้างไม่ได้เหรอ แต่ทำไม่ได้หรอก ไม่อยากให้แม่เป็นห่วง
    ไม่แม้สักวินาทีเดียวเลย

    เมื่อคิดว่าจะไม่ได้กอดคนตรงหน้าอีกแล้ว น้ำตาก็เริ่มเอ่อคลอ
    ก้มหน้าลงกับเตียง จับมือที่ยังอุ่นของเธอเอาไว้
    ปล่อยให้น้ำตาไหลเงียบๆ ไม่มีเสียงพูดคุย
    ไม่มีเสียงสะอื้น เหมือนเก่งที่ต้องร้องไห้เงียบๆ 
    ทำให้แม่จับไม่ได้ ทำเหมือนแค่ฟุบหลับไปกับเตียงเท่านั้น
    แต่ถึงอย่างนั้นแม่จะไม่รู้ได้ยังไง ในเมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง
    เธอก็เห็นดวงตาแดงก่ำที่ชื้นน้ำตาอยู่ดี 


    ฉันเศร้า ฉันว่าฉันมีภาวะซึมเศร้า 
    ฉันไม่อยากมานอนที่โรงพยาบาลแล้ว ฉันทนไม่ไหวแล้ว
    แต่ละวันเป็นไปอย่างยากลำบาก รู้ว่าอีกไม่นานแม่จะจากไปแล้ว
    แต่ฉันเหนื่อย มันเหนื่อยใจ มันหนักอึ้ง 
    ทุนเดิมเรียนก็เครียดจนจะบ้าตายอยู่แล้ว 
    ยังต้องแบกรับความรู้สึกหนักขนาดนั้นอีก จะไม่ไหวแล้วนะ

    แต่แล้วใครจะอยู่กับแม่ล่ะ คำเดิมๆที่ทำให้ฉันยังไม่ไปไหน
    ฉันรู้ คำว่ากตัญญูมันบีบบังคับ คำว่าครอบครัว คำว่าแม่มันบีบบังคับ
    ความกลัวว่าจะกลายเป็นเด็กไม่ดีมันบีบบังคับ
    หนีไปไม่ได้เลยเหรอ เธอได้แตกสลายไปแล้วนะ ตัวฉัน
    ทำยังไงได้ล่ะ ไม่อยากให้แม่ต้องอยู่คนเดียวหนิ

    ทำไมมันถึงยากขนาดนี้ ทำไมชีวิตถึงได้รุมเร้านัก
    แม่... ไม่อยากทิ้งไปไหน แต่ก็เริ่มจะไม่ไหวแล้ว


    เธอจำฉันไม่ได้  ...หมอบอกว่ามะเร็งมันเริ่มลามไปที่สมอง
    เธอจำฉันไม่ได้ หัวมันอื้อไปหมดเมื่อเธอทำกับฉันเหมือนเป็นคนแปลกหน้า
    เธอเอาแต่เรียกหาน้องกับพี่ชาย มีบางช่วงเธอมองหน้า 
    ยิ้มและเรียกชื่อฉัน รู้มั้ยว่าฉันดีใจแค่ไหน และหัวใจก็ถูกบีบซ้ำๆ
    เมื่อเธอเลอะเลือนหนักขึ้นเรื่อยๆ 

    ฉันยอมรับนะว่ามีหลายครั้งเลย ที่ดูแลเธอได้ไม่ดี 
    ไม่ถึงขั้นละเลยแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าที่ควร มันเป็นตราบาป
    แต่ก็พยายามไม่โทษตัวเอง ฉันที่แค่ยืนลำพังก็จะไม่ไหวอยู่แล้ว
    จะไปดูแลคนรอบข้างให้ดีได้อย่างไร
    แค่เพียงแบกปัญหา แบกความรู้สึกมากมายก็แทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว 



    ฉันเสียเธอไป... ในตีหนึ่งของวันๆนึง 
    น่าเสียดายนะ ผิดหวังจังที่ฉันดันหลับไปก่อนหน้านั้น 
    ผิดหวังจังที่ไม่ได้คุยกับเธอให้มากในคืนนั้น
    เธอไป ... โดยไม่มีคำบอกลา 
    ใจนึงรู้สึกดีที่เธอจะได้ไม่ต้องทรมานแล้ว ใจนึงเสียใจที่ยื้อเธอไว้ไม่ได้
    ใจนึงมันทั้งฝืดทั้งขม ทั้งอยากยินดีและไม่ในเวลาเดียวกัน 
    เมื่อสิ่งที่แบกไว้ได้หายไปแล้วหนึ่งอย่าง


    ฉันไม่กล้ากอดเธอ... ทั้งที่รู้ว่าจะไม่มีโอกาสได้กอดแล้วก็ไม่กล้า
    แม้จะห่วงหากอดของเธอมากแค่ไหนก็ตาม 
    แม้ว่ากอดนั้นจะเป็นกอดสุดท้าย
    ฉันก็เลือกที่จะปล่อยโอกาสนั้นไป พร้อมใจที่หนักอึ้ง

    ฉันเสียใจกับแววตาผิดหวังที่มองตรงมาเพราะฉันยื้อเธอไว้ไม่ได้
    ฉันเสียใจแต่ไม่กล้าร้องไห้ ไม่กล้าแม้สักนิดเดียว 
    คงมีแค่หมอนใบเดิมเท่านั้นที่เข้าใจในทุกคืน


    เข้มแข็งแค่ไหนมันก็กลายเป็นอ่อนแอได้ในพริบตา
    ฉันปล่อยโฮ สะอึกสะอื้นออกมาในวันเผา 
    ฉันกอดเพื่อนร่วมชั้นไปไม่ต่ำกว่าห้าคน พวกเขามาหาฉัน
    ไม่ว่าจะมาด้วยใจหรือมาด้วยมารยาทฉันนั้นขอบคุณ
    เพราะมันทำให้ฉันอบอุ่นหัวใจจนเข้มแข็งต่อไปไม่ไหว
    พี่ห้ามฉันไม่ให้ร้องไห้ในวันนั้น 
    ฉันอยากบอกเขาว่า ฉันพยายามแล้วนะ 


    ฉันได้เจอเธอครั้งสุดท้าย ฉันมองเธอ 
    เธอยังคงสวยงามเสมอ จากนี้จะเป็นการพบกันเพียงครั้งสุดท้ายแล้ว
    ไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีกอดลา ไม่มีน้ำตา
    ฉันยิ้มให้กับเธอครั้งสุดท้าย เฝ้าบอกเธอว่าฉันไม่เป็นไร ไม่ต้องเป็นห่วง
    ฉันจะยังรักและจะคิดถึงเสมอ
    ไม่ต้องเป็นห่วงนะ คุณแม่สุดที่รัก


    ในโลกนี้มีหลายเรื่องราวที่สวยงามและบางครั้งก็เจ็บปวด 
    บางเรื่องของหนึ่งคนอาจเทียบไม่ได้กับของอีกคนด้วยซ้ำ

    แต่อย่างที่ใครหลายคนก็รู้ ชีวิตเรานั้นแตกต่าง
    มีเรื่องราวที่ไม่เหมือน และต่างออกไป

    เรื่องราวของฉันก็เป็นเพียงแค่อดีตที่หวานขม อบอุ่นและปวดร้าว
    เป็นเพียงแค่เรื่องราวของเด็กตัวเล็กๆ 
    ที่เสียใครคนนึงไป ในเดือนธันวาคมของปีที่17

    แด่คุณแม่ 
    ผู้เป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นเสมอ

    #ธันวาคมปีที่17ฉันสูญเสียเธอไป

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in