เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
cloudy story | onghoon fanfictioncloudyseasky_
Onghoon ♡ movie #องฮุนรายสัปดาห์
  • Seongwu × Jihoon - Movie

    #องฮุนรายสัปดาห์ #cloudystory

    10-11th week theme ; movie

    Note : อย่าคาดหวังกับมันเยอะนะคะ5555 ฝากด้วยน้า

     




     


    'Nature has cunning ways of finding our weakest spot '

     

    -movie-

     

     

     

     

     

    ใบไม้ผลินี้… พี่จะแต่งงานแล้วนะ’

    ‘…’

    ขอโทษนะ จีฮุนอา..’

     

     

     

    -movie-

     

    เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าในยามบ่ายที่เงียบสงัด เสียงแป้นพิมพ์ดังต้อกแต้กยามที่ปลายนิ้วกดลงไป อากาศหนาวจากภายนอกทำให้เขาต้องห่อตัวเขากับผ้านวมผืนใหญ่ กาแฟเย็นชืดในแก้วมัคสีเหลืองใบโปรดถูกส่งลงลำคอ

     

    พัคจีฮุนหาวหวอดในยามที่มองผ่านจอแลปทอปไปนอกหน้าต่าง  ฝนกำลังตก ถ้าเป็นที่อื่นก็คงจะน่าแปลกใจไม่น้อยกับการที่มีหยดน้ำร่วงหล่นจากฟ้าท่ามกลางซัมเมอร์ แต่ถ้าเป็นลอนดอน -นั่นไม่แปลกเลยสักนิด แต่ก็ไม่รู้ทำไมเขาถึงชินกับมันไม่ได้เสียที

     

    มือเล็กพับหน้าจอลงหลังจากเซฟงาน และกระโดดลงทับเจ้าซัลลี่ขนฟูที่นอนเอกขเนกบนเตียงกว้าง ชีวิตในหนึ่งวันของนักเขียนตัวเล็กๆอย่างเขา ไม่มีอะไรเป็นพิเศษนัก จมอยู่กับแลปทอปทั้งวันทั้งคืน ลุกไปเทข้าวให้ซัลลี่ รวมถึงหาอะไรบางอย่างลงกระเพาะ แล้วก็กลับไปนั่งจมอยู่กับหน้าจอแลปทอปใหม่ วนลูปอยู่แบบนั้น หรืออาจจะวิ่งแจ้นเข้าออฟฟิศยามบอกอเรียกหา หรือถ้าพิเศษหน่อยก็..

     

    "Jihoon!Let's hangout together tonight!"

     

    อือ ออกไปข้างนอกบ้างก็ไม่เสียหายอะไร

     

     

    -movie-

     

    ลมเย็นๆที่เข้ากระทบใบหน้าพัดเอาความสงบเข้ามาอยู่ภายในใจเขา แว่วเสียงของเพื่อนร่วมงานดังอยู่ไม่ไกล จีฮุนหลับตาพริ้มในขณะที่เคาะปลายนิ้วลงบนแก้วเบียร์เย็นๆ

     

    Oh,to see without my eyes

    Thefirst time that you kissed me

     

    เพลงที่ไม่คุ้นหูทำให้เข้านิ่งฟังอย่างตั้งใจ อาจเพราะเป็นเพลงที่ไม่ใช่สไตล์จึงไม่ค่อยได้ยินบ่อยนัก หากมันแปลก- แปลกที่เพลงนี้กลับทำให้เขาอยากที่จะฟังมันอย่างตั้งใจ

     

    "ผมชอบเพลงนี้มากเลย" เขาลืมตาขึ้นในขณะที่แพจินยอง – รุ่นน้องสัญชาติเดียวกันยกเบียร์ขึ้นจิบ

     

    "มันเพราะดีนะ"

     

    "เพลงประกอบหนังน่ะครับ call me by your name พี่รู้จักไหม?" พัคจีฮุนพยักหน้า ความจริงแล้วเขาไม่ค่อยรู้รายละเอียดมากนัก แต่ก็เคยเห็นชื่อผ่านหูผ่านตา

     

     

    "ถ้าได้ไปดูสักครั้ง น่าจะดีนะครับ"

     

    "นี่ชวนฉันเดทหรือ?" เขาเอ่ย ไม่มีความขบขันแทรกในประโยคนั้น  เขารู้ เขารู้ดี ว่าแพจินยองพยายามเพื่อเขามานานแค่ไหน

     

    "แล้วได้หรือเปล่าครับ?"

     

     

    -movie-

     

     

    สุดท้ายพัคจีฮุนก็มาหยุดยืนหน้าโรงภาพยนตร์ในเวลาห้าทุ่มของคืนวันศุกร์

     

    เขาถอนหายใจเสียจนควันสีขาวพวยพุ่ง ก้มมองปลายนิ้วมือสลับกับคนที่ยืนห่างกันไปไม่ถึงสามเมตร มันควรจะเป็นเดทที่ดี - เขาคิดแบบนั้น แต่บางสิ่งที่หนักอึ้งในหัวใจของเขากำลังวิ่งสวนทาง

     

    เขาน่ะ... พัคจีฮุนน่ะ ไม่อยากให้จินยองพยายามอีกต่อไปแล้ว

     

    เขาก้าวขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าแพจินยอง จ้องมองรอยยิ้มบางเบานั้นด้วยความรู้สึกขอโทษที่ล้นอก พัคจีฮุนไม่ชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้เลยสักนิด แต่เขาทำไม่ได้

     

    – เขารักแพจินยองไม่ได้

     

            “จินยองอา…”

     

    "ผมชอบพี่นะครับ" พัคจีฮุนรู้สึกว่าดวงตาของเขาเบิกกว้าง ในยามที่จ้องมองรุ่นน้องร่างสูงโปร่งที่กำลังก้มหน้าต่ำ ตัวเขายืนนิ่ง ในขณะที่แพจินยองเงยหน้า วาดมือไปกับกลุ่มผมของเขา เลื่อนมันวางลงบนแก้มข้างซ้าย ลูบไล้มันด้วยความนิ่มนวล - ความนิ่มนวลที่ทำให้พัคจีฮุนปวดไปหมดทั้งใจ เขาหลับตาในขณะที่หนุ่มรุ่นน้องขยับเข้าใกล้ ลมหายใจอุ่นเป่ารดปลายจมูก กลิ่นกายของแพจินยองกำลังโอบรอบกายเขา หากแต่ว่า

     

    'จีฮุนอา.. พี่ขอนะ'

     

    ทำไม่ได้

     

    เขาทำแบบนั้นกับจินยองไม่ได้จริงๆ

     

    "อ..อย่า.. อย่าเลยนะจินยองอา.."

     

     “…”

     

             “พี่ขอโทษนะ… ฮึก ขอโทษจริงๆ

     

    น้ำตาหนึ่งหยดร่วงหล่นกระทบบนใบหน้า

     

    ในขณะที่นาฬิกาดังบอกเวลา

     

     23 เมษา

     

     และหัวใจแสนด้านชาของเขาที่ยังคงไม่เปลี่ยนไป

     

     

    -movie-

     

     

    หยาดน้ำที่ผืนนภากำลังโปรยปรายหยุดสายตาของใครบางคน มันเล็ก เบาบาง แต่กลับหนักอึ้ง - เช่นเดียวกับความรู้สึกของเขา

     

    พัคจีฮุนยังคงยืนอยู่ที่เดิม จินยองกลับไปแล้ว เหลือเพียงตัวเขา กับบางอย่างที่ยังคงเคลือบหัวใจไว้ให้ด้านชา ดวงตากลมโตที่ใครบางคนเคยเปรียบเอาไว้ว่ามันสุกสกาวราวดวงดารา หากก็เป็นเขาเช่นกัน - ที่ขโมยสิ่งนั้นไป  จีฮุนก้มมองตั๋วหนังสองใบบนมือ เวลาบนนาฬิกาบอกเขาว่าเหลือเพียงแค่สิบนาทีก่อนที่หนังจะเริ่มฉาย

     

    และพัคจีฮุนก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุผลใด เขาถึงทำใจทิ้งตั๋วใบนี้ไปไม่ได้เสียที

     

     

    -movie-

     

     

    อากาศเย็นเฉียบภายในโรงภาพยนตร์ทำให้เขาห่อตัวเข้ากับเสื้อโค้ท แสงไฟสลัวกับบรรยากาศของหนังรอบดึกชวนให้รู้สึกวังเวงแปลกๆ

     

    กึก!

     

    เจ้าของกายเล็กสะดุ้งพลางหันไปมองทางต้นเสียงที่นั่งถัดลงจากเขาไปหนึ่งแถว ชายรูปร่างสูงโปร่งโค้งให้เมื่อเห็นว่าทำเขาตกใจ เด็กหนุ่มจดจ้องร่างสูงโปร่งนั่นชั่วครู่ ในขณะเดียวกับบางสิ่งใต้แผ่นอกของเขากำลังดังกึกก้อง หากแต่เขารู้ดีว่ามันไม่มีทางใช่ ไม่เลย ไม่เลยสักนิดเดียว

     

     

    -movie-

     

     

     

    หนังเริ่มต้นด้วยความเรียบง่ายของชีวิตในยุค80 ท่ามกลางฤดูร้อน ณ ประเทศอิตาลี แอบน่าเบื่อเล็กๆในความคิดของเขา

     

     

    หากแต่เนื้อเรื่องที่กำลังดำเนินไปตามครรลองของมัน กลับทำให้บางสิ่งภายใจพัคจีฮุนหน่วงหนัก ราวกลับมีใครกวนตะกอนความทรงจำในใจเขาให้ลอยฟุ้ง หยิบขึ้นมาทีละชิ้น เรียงร้อยมัน และฉายทุกอย่างขึ้นในใจเขาเฉกเช่นม้วนฟิล์ม

     

    'Callme by your name..'

     

    '...'

     

    '..andI will call you by mine'

     

    'นี่จีฮุนอา'

     

    'ค..ครับ?'

     

    'เรียกพี่ด้วยชื่อของเรา.. ได้มั้ยครับ?'

     

    'อ..เอ่อ..'

     

    'นะครับ'

     

    '..จีฮุน..'

     

    'เก่งมากครับ ซองอูของจีฮุน'

     

    'อื้อ..'

     

     

    พัคจีฮุนยกมือขึ้นปิดหน้าในยามที่ขอบตาร้อนผ่าว เขากดใบหน้าลงบนฝ่ามือขณะเดียวกับที่หนังดำเนินมาถึงช่วงสุดท้าย

     

    'Ihave some news'

     

    'News?What, you're getting married? I suppose.'

     

    '...Imight be getting married next spring..'

     

    ราวกับมีกุญแจปริศนาปลดล็อคกล่องบางอย่างในใจเขา

     

    คล้ายกับรูปถ่ายที่ร่วงหล่น

     

    กระจัดกระจาย

     

    ดวงตาเขาพร่าเบลอ

     

    แต่สิ่งที่ถูกฝังลึกอยู่ก้นบึ้งของความทรงจำเขากลับชัดเจน

     

    'ใบไม้ผลินี้... พี่จะแต่งงานแล้วนะ'

     

    '...'

     

    'ขอโทษนะ จีฮุนอา..'

     

    พัคจีฮุนก้มหน้า ในขณะที่วาดมือโอบกอดกายที่กำลังสั่นไหว เฉกเช่นในตอนนั้น

     

    'จีฮุน.. จีฮุน จีฮุน..'

     

    ตอนที่เขาเรียกชื่อตัวเองซ้ำๆ

     

    'ฮึก จีฮุน.. จีฮุน..'

     

    เพื่อพิสูจน์ว่าองซองอูยังเป็นของเขา

     

    'อ..อย่าร้องไห้เลยนะ.. ซองอูอา..'

     

    และจะยังคงเป็นของเขาเสมอไป

     

     

    -movie-

     

     

    เขา จดจ้องตัวเองบนหน้าจอโทรศัพท์ในขณะที่ก้าวเท้าออกจากโรงหนังหมายเลขสิบสอง

     

    ใบหน้าเปรอะเปื้อน

     

    ดวงตาแดงก่ำ

     

    พัคจีฮุนคนนี้อยากจะหยุดร้องไห้เสียที แต่เขาทำไม่ได้ เขาหยุดมันไม่ได้ รอยบาดแผลเหวอะหวะภายในใจยังคงทำให้น้ำตารินไหล

     

    ห้าปีแล้วนับจากวันนั้น

     

    พัคจีฮุนไม่รู้ - เขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้องซองอูเป็นอย่างไร มีความสุขดีหรือไม่ ยังกินข้าวน้อยแบบเดิมอยู่หรือเปล่า จะมีลูกหรือยัง จะใช่ลูกสาวแบบที่เขาวาดฝันไว้ไหม และเขาก็ไม่รู้เลย...

     

    พัคจีฮุนไม่เคยรู้เลยว่าองซองอูจะเจ็บปวดแบบเขาไหม เขา - ที่ไม่เคยเปิดใจให้ใครได้เลยนับตั้งแต่วันนั้น คล้ายกับประโยคหนึ่งในหนังที่แทงลึกลงไปในจิตใจเขา

     

    'Butto make yourself feel nothing.. so as not to feel anything - What a waste'

     

    มันน่าเสียดาย - จีฮุนรู้ แต่เขาทำไม่ได้ เขาเลิกรักซองอูไม่ได้เลยสักวินาทีเดียว

     

    "อ๊ะ"

     

    "ขอโท- หือ?"

     

    แรงกระแทกจากบางอย่างผลักร่างของเขาให้ลงไปกองกับพื้น พัคจีฮุนกดใบหน้าลงต่ำในขณะที่ไหล่ของเขาเริ่มสั่น  ไม่ แค่ล้มมันไม่ได้เจ็บขนาดนั้น

     

    ดวงตาที่พร่ามัวเงยขึ้นสบกับบางอย่างที่คุ้นเคย

     

    เสื้อโค้ทสีน้ำตาลอ่อนตัวใหญ่

     

    รองเท้าผ้าใบสีดำคู่โปรด

     

    ดวงตาคมกริบสีรัตติกาล

     

    ริมฝีปากหยักลึก

     

    กลิ่นกายแสนนุ่มนวล

     

     

    และอย่างสุดท้ายที่หากขาดไป... ก็คงไม่ใช่เขา

     

    "จีฮุน?"

     

    กลุ่มดาวบนแก้มข้างซ้าย

     

    กับผู้ชายที่ทำให้พัคจีฮุนอยากจะร้องไห้ออกมาอีกเป็นพันๆครั้ง

     

    องซองอู

     

     

     

     

     

     

     

     

    [ TALK ]

    แง สวัสดีค่ะ เรากลับมาแล้ว ;-;

    ขอโทษที่หายไปนานนะคะ ._.

    สำหรับธีม movie มีหนังในใจหลายเรื่องที่อยากเขียนแต่เผอิญว่ามีเวลาเขียนแบบจำกัด บวกกับเพิ่งได้ดูเรื่องนี้พอดี เลยหยิบมาเขียนค่ะแต่ก็รู้สึกว่ายังทำอารมณ์ได้ไม่ดีเท่ากับหนังเลย5555 ขอโทษด้วยนะคะ T- T

    สำหรับใครที่ยังไม่เคยดูนี่เป็นหนังอีกเรื่องที่เราแนะนำเลยค่ะ มันค่อนข้างดีมากๆเลยถ้าว่างๆก็ไปดูกันได้นะคะ J

    แง ทอล์คยาวกว่าฟิคแร้ว555 ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ด้วยน้าไว้ถ้ามีโอกาสจะเขียนหนังในใจเรื่องอื่นมาให้อ่านกันด้วยนะคะ J

    แล้วเจอกันเรื่องหน้าน้าา

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in