เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
STRUGGLEoverreachpeach.
Countdown | จะไปแล้วนะ
  • ชีวิตช่วงนี้ที่ผ่านมาไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่ ตั้งแต่กระโดดตึกไปเมื่อเดือนเมษายน หลายสิ่งหลายอย่างก็ตามมาเรื่อย ๆ เหมือนเป็น consequence ที่เราต้องจัดการ แต่ในเมื่อเราจัดการไม่ได้เราก็จะโทษตัวเองเสมอ นับตั้งแต่เข้าวอร์ด med เป็นคนไข้ติดเตียงอยู่หนึ่งเดือน bedbath อยู่หนึ่งเดือน ขาเจาะเหล็กถ่วงน้ำหนักอยู่หนึ่งเดือน picc line อยู่ที่แขนขวารอรับน้ำเกลือสามขวดพร้อมกับ pca ให้กดเวลาปวดมาก  ๆ รวมถึงมีเครื่องนวดหรืออะไรซักอย่างกันขาลีบมานวดขาซ้ายให้เราตลอดเวลา แต่ในความทุกข์ทรมานหรือความแย่นี้ก็มีอะไรหลายอย่างเข้ามาให้ใจชื้นอยู่บ้าง เรามีพี่ที่ทำงานนำแก้วดอกไม้มาให้พร้อมคำอวยพรให้หายไว ๆ น้องรูมเมทตอนเรียนมหาลัยก็ไลน์มาถามว่าพี่ชอบดอกไม้อะไร เราตอบว่าชอบดอกทานตะวัน พี่ที่ทำงานอีกบริษัทก็ตามใจน้องคนนี้อีกเช่นกัน กลายเป็นว่าได้ช่อดอกทานตะวันสองช่อเลย วันรุ่งขึ้นก็มีช่อดอกทานตะวันใหญ่มากส่งมาที่วอร์ด และถือมาให้ดูที่เตียงโดยพี่พยาบาล แต่ช่อดอกไม้นั้นไม่สามารถเก็บไว้แถวเตียงคนไข้ได้ ต้องเอาออกไปไว้ที่ counter ของวอร์ดเท่านั้น เราไม่เข้าใจ policy อันนี้เหมือนกันแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ดอกไม้ทำให้ใจชื้นเพราะเราต้องไปผ่าตัดสะโพกวันนั้นพอดี ตอนเข้าห้องผ่าตัดหมอดมยาถามว่าจะเอาแบบฉีดหรือแบบดม เราเลือกแบบดมเพราะกลัวว่าแบบฉีดมันจะแสบ (ยังจะมากลัวอะไรแบบนี้อีกเนอะ) นั่นแหละ เราก็หลับไปพร้อมกับการตื่นมาแล้วหมอ พี่พยาบาลก็บอกว่าเสร็จแล้วนะคะ ตื่นแล้วค่ะ พร้อมเข็นเรากลับไปที่เตียง ห้องเดิม เหมือนเดิม 

    เมื่อการรักษาทางการเป็นไปด้วยดี หมอลงความเห็นว่าร่างกายเราปลอดภัยดีแล้วพร้อมจะ d/c ออกไป ซึ่งก็คือออกไปวอร์ด psychi การไปวอร์ดนี้เป็นอะไรที่เราคุ้นเคยมาก เพราะเข้าไปหลายครั้งแล้ว การเข้าไปโดยขาขวาใส่เฝือก การขึ้น - ลงเตียงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยเพราะปวดขามาก หายใจเข้าออกยังปวดแบบทนไม่ได้ จนต้องขอยาแก้ปวดแบบรุนแรงมาใช้หรือฉีดเอา การไปเข้าห้องน้ำ คราวนี้ไม่ใช่ bedbath แล้วแต่เป็นการเข็นวีลแชร์ไปที่ห้องน้ำ พี่ผู้ช่วยพยาบาลเอาพลาสติกห่อเฝือกกันเปียกให้ แล้วพี่พยาบาลก็เข้าไปอาบน้ำให้ ไม่มีการเขินอายอะไรกันทั้งสิ้น เพราะทำจนชินกันแล้ว การเช็ดตัว ใส่เสื้อผ้าก็คือนั่งบนวีลแชร์แล้วค่อย ๆ ใส่ทีละอย่าง เอาเป็นว่าเรารู้สึกเสียใจ ขอโทษ และรู้สึกผิดกับพยาบาลที่นี่มาก วีรกรรมอีกอันที่เป็นที่โจษจันของเรามาแต่ไหนแต่ไรก็คือการเอาหัวโขกกำแพง ไม่ว่าจะเป็นกำแพงห้องครัว กำแพงห้องนอน กำแพงห้องน้ำ เราทำได้ทุกที่ ที่เราทำไปเพราะเราคุมอารมณ์  ความรู้สึกแย่ของตัวเองไม่ได้ เราไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้ตาย เราไม่รู้ว่าจะอยู่ไปทำไม หลายคน (ส่วนใหญ่) บอกว่าก็ให้มองความสุขเล็ก ๆ สิ เห็นดอกไม้ไหมมันค่อย ๆ โตขึ้นนะ ดูนกสิมันร้องอย่างมีความสุขเลยล่ะ หรือแม้แต่การให้กำลังใจจากคนรอบข้างมันก็เป็นความสุขอย่างหนี่ง แต่เราไม่สามารถ appreciate มันได้เลย อาจจะมีบ้างที่ทำได้แต่ส่วนใหญ่ก็คือไม่ เราไม่มีเป้าหมายในชีวิตเลยตั้งแต่พ่อ (ป๋า) เราเสียไป การเรียนการทำงานเป็นไปอย่างยากลำบาก เราทำไปตามหน้าที่ เรียนจบก็ต้องหางานทำสิ มีเงินเก็บ ซื้อรถ ซื้อบ้าน แต่ของเราคือไม่เป็นแบบนั้น ได้เงินมาก็คือปรนเปรอตนเอง เรียกได้ว่าใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่ายไปเรื่อย ๆ อยากกินอะไรก็กิน ไปปาร์ตี้เพื่อนชวนอะไรไปหมด ทุกอย่างหมดไปกับเรื่องของตัวเอง โดยไม่สนใจคนข้างหลังที่ support เรามาโดยตลอดคือ ตากับยาย 

    ตาทำให้เราได้ทุกอย่าง ตลอดชีวิตของเรามีตาอยู่เต็มไปหมด ตั้งแต่จำความได้ก็คือตาส่งเรากับน้องไปโรงเรียนทุกวัน เตรียมข้าวเช้าให้ทุกวัน รับกลับทุกวัน มารอตั้งแต่โรงเรียนยังไม่เลิก นานแค่ไหนตาก็จะรออยู่ที่เดิม ไม่เคยว่าเคยดุเวลาเราเลิกช้า ส่งไปเรียนพิเศษวันเสาร์ - อาทิตย์ แต่งกลอนส่งประกวดวันพ่อ วันแม่ วันปีใหม่ ตาแต่งให้จนชนะเลิศได้เกียรติบัตรมาหลายใบเหมืิอนกัน วิชาศิลปะตาก็วาดรูปให้เอาไปส่งคุณครู งานประดิษฐ์ตาทำส่งให้เราได้ทุกอย่าง วิชาพละเล่นเลอะเทอะรองเท้ากรังมา ตาก็จะเอารองเท้าไปซัก ขัดแฟ้บ ตาก ร้อยเชือกให้เอามาใส่เหมือนเดิม รีดชุดนักเรียน ขัดรองเท้าให้ รีดผ้าเช็ดหน้าใส่กระเป๋าเสื้อนักเรียนไว้ให้ด้วย ตอนหน้าหนาวตาต้มน้ำให้อาบคนละกะละมังกับน้อง เพราะตอนนั้นที่บ้านไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ตาส่งไปตัดผม ไปคลินิก กดสิวทำหน้า ทำฟัน ตานั่งรอเราตลอด เราไม่เคยรู้สึก insecure แม้แต่วินาทีเดียวเวลาอยู่กับตา เวลานั่งมอไซค์กลับบ้านหลังจากเรียนเอ็นคอนเสปจนดึก ตาบอกให้หลับตาระวังแมลงเข้าตา พอเข้ามาเรียนกรุงเทพ ตาก็เขียนจดหมายมาบอกให้ระวังตัว ดูแลตัวเองให้ดี ระวังคนไม่ประสงค์ดี นู่นนี่ ซึ่งเราก็เข้าใจความเป็นห่วงนั้นได้เป็นอย่างดี 

    สำหรับยาย เราไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่เพราะยายเป็นประเภท extrovert บวกกับความเป็นมนุษย์ป้า เราพยายามจะเข้าใจเขาให้มากขึ้นหลายรอบนะ แต่การกระทำของเขามันตรงกับข้ามกับสิ่งที่เราคาดหวังไว้ เราไม่อยากคุยกับยาย แม้กระทั้งยายโทรมาตอนเรานอนหลับที่หอเพราะเหนื่อยจากการเรียน เรายังไม่อยากรับเลย แต่สุดท้ายก็ต้องรับเพราะยายโทรมาหลายรอบมาก คิดว่าคงโทรจนกว่าเราจะรัับ สรุปการคุยแบบสั้น ๆ คือทำอะไรอยู่แค่นั้น แล้วเราก็วางสายไป เรารู้สึกว่าเราเป็นหลานของยายที่แย่มาก ที่ไม่ใส่ใจความรู้สึกของเขาเลยแม้แต่น้อย เราไม่เคยคิดเลยว่ายายจะรู้สึกยังไง และยายก็ไม่เคยถามเราเหมือนกันว่าเรารู้สึกยังไง เอาเป็นว่าเราเข้ากันไม่ได้เลย เราถอนหายใจทุกครั้งที่จะต้องเจอยาย คุยกับยาย หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับยาย มันทำให้เราหงุดหงิด โมโห ไม่พอใจในการกระทำของเขา ล่าสุด (อันนี้หลังจากเรียนจบแล้วและตกงานแล้วเพราะกระโดดตึกนะ) เขาพูดกับเราว่า "ยายรู้ว่า xx เกลียดยาย" ซึ่งเอาความจริงมันก็มีส่วนจริงบ้าง เราเกลียดเวลาเขาทำตัวเป็นมนุษย์ป้า ทุกสิ่งอย่างที่เขาทำในที่สาธารณะ การนั่งแล้ววางของเผื่อไปอีกสองสามที่ การเดินขวางทางที่เขาจัดไว้ให้ เมื่อเดือนก่อน ยายบอกเราว่าจะพาไปสถานที่ที่หนึ่งที่ผ่อนคลาย ไปเปลี่ยนบรรยากาศ ฟังอธิบายเล่าเรื่องต่าง ๆ แต่กลับกลายเป็นว่า เมื่อเราไปถึงสถานที่นั้นแล้ว มันเหมือนกลับหลังหันไม่ได้แล้ว เหมือนเราถูกหลอกให้มาเจอ มาทำพิธีกรรมอะไรประหลาด ๆ หลักการของที่นี่คือการเชื่อว่าการกำเทียน หรือการกำหินเหล็กไหลจะช่วยให้หายจากการเป็นโรคต่าง ๆ ได้ แผ่เมตตาแล้วจะหาย ซึ่งฉันมั่นใจว่ายายได้บรีฟเจ้าหน้าที่คนนี้ไว้แล้วแหละ ว่าหลานฉันเป็นแบบนี้นะ 1 2 3 ทำไมเราจะไม่รู้ ในเมื่อการแสดงออก คำพูดมันย้ำมากว่าเราป่วย เขาพูดบอกว่าให้เราทำจิตใจให้สบาย ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวก็หาย (นั่นไง แปลว่ายายบอกเขาแล้วว่าเราป่วย) ซึ่งมันทำให้เราเสียใจมาก หัวเสียมาก ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากนั่งฟัง ทำมือไม้ กำเทียน   ตาม ๆ เขาไปจนจบสามวันสองคืน เป็นอะไรที่ทรมานมาก

    สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราในตอนนี้คือเรามีภาระมากขึ้น การดูแลหลานเวลาพ่อแม่เขาต้องไปทำงาน การดูแลยาย ทำงานบ้าน (ซึ่งทำเพราะไม่มีอะไรให้ทำ) เหมือนเราจมปลักอยู่กับความเฟล ความหมดหวัง สิ้นหวังของตัวเอง สมัครงานเกือบสามสิบที่ มีเรียกเราสี่ที่แต่สัมภาษณ์ไม่ผ่านซักที่ มันยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่มีศักยภาพอะไรเลย ใครต่อใครต่างบอกว่าเราเรียนจบตั้งจุฬานะ เรียนมาขนาดนี้ ต้องได้งานทำ หรือบรรจุเป็นข้าราชการแล้วนะ มาช่วยดูแลใกล้ชิดยายมากขึ้น (ตอนนี้ตาเสียไปแล้ว) สมัครครูแถวบ้านแล้วกลับมาอยู่บ้าน "บ้านไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องซื้อ" สำหรับเรามันเป็นอะไรที่ล้าสมัยมาก นี่มันปี 2565 แล้วนะ เราจะจมปลักอยู่กับที่ที่เราไม่อยากอยู่ทำไม เราพร้อมที่จะกระเสือกกระสนเพื่อให้มีชีวิตที่ perfect มีงานทำ มีรถขับ มีคู่ชีวิตที่ดี แต่ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะเราเป็นแบบนี้ไง

    เรา countdown ตัวเองว่าจนถึงวันที่เราตั้งไว้ เราจะไม่อยู่บนโลกนี้อีกแล้ว เราไม่เชืื่อเรื่องบุญบาปอะไรทั้งนั้น แต่ก็ไม่ได้ลบหลู่อะไรนะ เราเชื่อแค่ว่าเราเป็นสิ่งมีชีวิตหนึ่ง ๆ ที่เมื่อถึงเวลาก็ต้องสลายหายไปอยู่ดี ไปอยู่ที่ไหนซักแห่ง (เราชอบนะถ้าจะเป็นแบบการ์ตูนเรื่อง coco) อาจจะตกนรก ก็ตกไปค่อยไปคิดแล้วกัน ทรมานชดใช้กรรมตอนนั้น หรือจะไปเป็นผีสาง เปรตอะไรก็ว่าไป เราพิสูจน์ทางวิทยาศาตร์ไม่ได้อยู่แล้ว เอาเป็นว่าตายก็คือตาย ไม่ตายก็คือไม่ตาย ค่อยมาคิดต่ออีกทีว่าเราจะวนลูปทำร้ายตัวเอง หรือพยายามฆ่าตัวตายอีกกี่ครั้งถึงจะพ้นจากความทุกข์นี้

    ขอบคุณทุกคนที่อ่านโพสต์นี้จบ หวังว่าทุกคนจะมีความสุขในทุก ๆ วัน และใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองต้องการได้อย่างไม่ติดขัดอะไร ก็คือให้มีแต่ความสุขแหละ แต่ความทุกข์มันคงต้องมีบ้างแต่เราต้อง balance มันให้ดีเท่านั้นเอง 

    ขอบคุณทุกคนอีกครั้งที่อ่านจบนะคะ.
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Paintttttttt (@Paintzzzzzz)
เป็นไงบ้างสบายดีอยู่ไหมคะ? พึ่งเห็นว่าคุณกลับมาอ่านเม้นเรา เราไม่ได้เข้ามาหลายเดือนเลยช่วงนี้แย่มากๆทั้งเจ็บป่วยทางกายตัวเราเนี้ยพึ่งดีขึ้นแต่ยังไม่หาย ทุกข์ใจ ผิดใจกันเพื่อนจนเกลียดกันทั้งครอบครัวทั้งเรื่องการเรียนเรื่องเงินๆทองเห้ออ โลกใบนี้ไม่ใจดีและไม่ใจร้ายให้สุดกับเราเลยเน้อ พูดว่าเห้ออกี่รอบก็ไม่พอ แต่ไงเราก็อยากมีความสุขบ้างนั่นมั้งกานประสบความสำเร็จในชีวิตเราไม่ต้องมีไรพิเศษเหมือนใครก็ได้ แค่มีความสุขบ้าง เครียดเยอะพอล่ะ หน้าตึงดุจนคนไม่รู้จักกลัวหมดล่ะ เราแค่อยากมีรอยยิ้มจริงๆจากใจแค่นั้น เราไม่รู้ว่าคุณเปนไงบ้าง"ขอให้พบเจอเรื่องราวดีๆแวะผ่านเข้ามาให้คุณเห็นบ้างนะคะ หวังว่า...โลกนี้จะยังไม่ใจร้ายเกินไปเหมือนเดิมนะ"ขอให้ปีหน้า2566เปนปีที่ดีนะ บรั๊ยย เป็นกำลังใจให้นะคะจากคนที่แม่งเกลียดชีวิตชาติภพนี้จัง555
overreachpeach. (@debbyjudycooper)
@Paintzzzzzz ขอบคุณสำหรับกำลังใจดี ๆ นะคะ ขอให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีเช่นกันนะคะ :)