เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ย (2)Chaitawat Marc Seephongsai
ไดอารี่ล็อกดาวน์อู่ฮั่น By GUO JING แปล เรืองชัย รักศรีอักษร
  • รีวิวเว้ย (607) ในสภาวะของความ "ไม่ปกติ" มันมักจะเอื้อประโยชน์ให้มีการใช้อำนาจในรูปแบบที่ผิดปกติเสมอ ในแทบทุกสภาวะที่เกิดขึ้นของความไม่ปกตินั้นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดที่ผู้มีอำนาจมักหยิบยกขึ้นมาใช้ คือ การใช้วิธีการแห่งอำนาจเข้าแก้ไขและจัดการสภาวะดังกล่าว โดยที่ผู้ใช้อำนาจก็ไม่ได้รู้สี่รู้แปดเลยว่าอำนาจที่กำลังใช้อยู่นั้นมันแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ และถ้าแก้ได้มันจะมีปัญหาที่ติดตามมาหลังจากสภาวะของการใช้อำนาจอันผิดปกตินั้นหรือไม่ ในการเมืองไทยเรามักจะเห็นสภาวะของการใช้อำนาจผิดปกติในการแก้ไขสถานการณืง์ไม่ปกติ หรือในหลายครั้งในสภาวะปกติรัฐไทยก็ใช้อำนาจที่ผิดปกติในการแก้ไขปัญหาด้วยเช่นกัน หากเราถ่อยห่างจากเรื่องของการเมือง มามองในกรณีเรื่องของโรคระบาดโดยเฉพาะการระบาดที่เพิ่งเกิดขึ้นของ COVOD-19 ที่ลากยาวมาตั้งแต่ปลายปี 2019 เราจะเห็นสภาวะของการแก้ไขปัญหาที่ไม่ปกติด้วยการใช้รูปแบบและวิธีการที่แปลกประหลาด ทั้งเรื่องของการประกาศปิดเมือง การประกาศห้ามออกจากที่พัก การประกาศห้ามไม่ให้มีการรวมกลุ่ม ฯลฯ ในสภาวะการณ์เช่นนี้การใช้อำนาจที่ผิดปกติอาจจะแก้ไขปัญหาที่กำลังดำเนินอยู่ได้ในรูปแบบของการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งหลายครั้งการทำในลักษณะนั้นก็ละเลยบางสิ่งบางอย่างไป รวมถึงละเลยคนบางกลุ่มของสังคมที่อาจจะได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวไปด้วยพร้อม ๆ กัน ซึ่งแน่นอนว่าการแก้ปัญหาที่ไม่ปกติด้วยวิธีการที่ผิดปกติ ในหลาย ๆ ครั้งมันอาจจะทิ้งปัญหาอะไรบางอย่างไว้เบื้องหลัง แต่คำถามที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ เมื่อกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดตามมาจะได้รับการแก้ปัญหาอย่างไร (?)
    หนังสือ : ไดอารี่ล็อกดาวน์อู่ฮั่น
    โดย : GUO JING แปล เรืองชัย รักศรีอักษร
    จำนวน : 320 หน้า
    ราคา : 395 บาท

    "ไดอารี่ล็อกดาวน์อู่ฮั่น" คือการบอกเล่าเรื่องราวผ่านบันทึกประจำวันของผู้อาศัยอยู่ในพื้นที่ของเมืองอู่ฮั่น ในช่วงเวลาของการปิดเมืองภายใต้สภาวะของการระบาดของ COVID-19 ที่เมืองอู่ฮั่ยเผชิญกับการระบาดระรอกแรก ในฐานะของเมืองแรกที่ตรวจพบผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก ทำให้ทางการจีนต้องดำเนินการปิดเมืองเพท่อควบคุมการกระจายของเชื้อ ซึ่งกว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว เพราะเชื้อได้กระจายออกไปนอกพื้นที่และปัจจุบันนี้มันก็ได้กระจายออกไปทั่วทั้งโลก

    "ไดอารี่ล็อกดาวน์อู่ฮั่น" ไม่ได้บอกเล่าแค่เพียงเรื่องราวของการปิดเมือง แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ "ไดอารี่ล็อกดาวน์อู่ฮั่น" บอกเล่าเรื่องราวของ "คนธรรมดา" ในเมืองที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นคนชั้นกลางระดับล่างของสังคมที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองเพื่อสร้างโอกาสในการทำกอนให้กับตัวเอง โดยที่ในบันทึกรายวันของผู้เขียนนั้นได้มีการสะท้อนให้เห็นภาพวิถีชีวิตของคนเหล่านี้ ที่ต้องออกมาทำหน้าที่ (กวาดถนน) แม้ในช่วงที่การระบาดเริ่มรุ่นแรง และมีการประกาศปิดเมืองแล้ว แต่หากพวกเข้าไม่ออกมาทำงานพวกเขาก็จะขาดรายได้ในการหาเลี้ยงชีวิตไปด้วย

    นอกจากการบอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มคนที่ไม่มีทางเลือกในการใช้ชีวิตในเมืองในช่วงปิดเมืองแล้ว "ไดอารี่ล็อกดาวน์อู่ฮั่น"ยังบอกเล่าให้เราได้เห็นถึงภาพของเมืองทั้งเมืองที่ถูกหยุดกิจกรรมต่าง ๆ ลง ได้เห็นภาพการใช้ชีวิตของผู้คนในเมือง ภาพของความรุนแรงในครอบครัวที่ทวีจำนวนมากยิ่งขึ้นอันเกิดจากสภาวะของการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดเวลาเป็นระยะเวลานาน และภาพของสังคมที่มีการควบคุมและตรวจสอบชีวิตของคนในเมืองอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งช่วงเวลาของการถูกปิดเมืองและแยกคนให้ห่างออกจากกัน ช่องทางติดต่อสื่อสารทางออนไลน์ ก็ยิ่งถูกรัฐเข้ามาจับตาและควบคุมมากยิ่งขึ้นไปด้วย

    อาจจะบอกได้ว่า "ไดอารี่ล็อกดาวน์อู่ฮั่น" คือการบอกเล่าเรื่องราวของสภาวะผิดปกติในความไม่ปกติของรงเมืองเมืองหนึ่ง และยังช่วยตีแผ่ให้เราได้เห็นถึงผลกระทบที่หลายคนมองไม่เห็นในเรื่องของสิ่งที่จะตามมาหลังจากการดำเนินมาตรการในการปิดเมือง และสิ่งที่หลายคนมองไม่เห็นโดยเฉพาะเรื่องของความจริงบางอย่างที่ซ่อนอยู่หลังประตูของเมืองที่ปิดลง ดังความตอนหนึ่งของหนังสือเขียนเอาไว้ว่า "ในสังคมที่คนไม่กล้าพูดความจริง กระทั่งการพูดความจริงต้องจ่ายค่าตอบแทน การพูดความจริงจึงยิ่งล้ำค่ามากขึ้น"

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in