เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ย (2)Chaitawat Marc Seephongsai
I hate my job: อย่าปล่อยให้งานเป็นมารร้าย By ท้อฟฟี้ แบรดชอร์
  • รีวิวเว้ย (343) ในช่วง 4 - 5 เดือนที่ผ่านมานี้ เราคงมีโอกาสได้เห็นกับตาตัวเองจริง ๆ หริอเห็นผ่านตาตามหน้าเฟสบุ๊คอยู่บ่อยครั้งกับกระแสป้ายสีน้ำเงิน พร้อมกับมีข้อความชวนให้รู้สึกว่า "เหี้ยไรวะเนี่ยย !!!" อย่าง "ป้อม เบื่อมั้ยกับสิ่งที่เธอทำอยู่" หรือ "ตู่ นี่มึงยังทำฉิบหายไม่พออีกหรอ" หรือไม่ก็ "ป๊อก เมื่อไหร่จะลาออกแล้วเปลี่ยนงานสักที" (ป้อม, ตู่, ป๊อก ทั้งหมดนี้เป็นตัวละครสมมุติเท่านั้น) ซึ่งในท้ายที่สุดมีการออกมาให้คำตอบว่าป้ายเหล่านี้มีคสามเกี่ยวข้องกับการ "หางาน" สำหรับชักชวนให้คนทำงาน เปลี่ยนงาน และออกไปหาโอกาสที่ดีกว่าจากการทำงานเดิม ๆ 
    หนังสือ : I hate my job: อย่าปล่อยให้งานเป็นมารร้าย
    โดย : ท้อฟฟี้ แบรดชอร์
    จำนวน : 304 หน้า
    ราคา : 279 บาท

    "I hate my job: อย่าปล่อยให้งานเป็นมารร้าย" หนังสือที่ว่าด้วยเรื่องของชีวิตการทำงาน ที่บ่อยครั้งมันก็มีทั้งที่ "ดี" และที่ "เหี้ย" ปน ๆ กันไป หลายคนเริ่มงานครั้งแรกอาจจะได้งานที่ดี เพื่อนร่วมงานที่โคตรดี และบรรยากาศการทำงานที่ดีเหี้ย ๆ นั่ยก็นับเป็นโชคที่ถือได้ว่าสั่งสมบุญมาดีโคตร ๆ ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วมีโอกาสน้อยมาก ๆ ที่คนหนึ่งคยเมื่อเริ่มงานในที่ใหม่ ๆ ที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับคนที่มากกว่าตัวเองคนเดียวขึ้นไป ความฉิบหายและคสามบรรลัยมักเกิดขึ้นได้เสมอ ๆ ไม่อยากใดอย่างหนึ่งก็ต้องเหี้ยทุกครั้งไป ถ้าเพื่อนร่วมงานดีอาจจะเจอเจ้านายที่เหี้ย ถ้าเพื่อนร่วมงานเหี้ยอาจจะได้เจอเจ้านายที่ดี หรือเฝถเาเพื่อนร่วมงานและเจ้านายดีก็อาจจะเจองานที่เยอะเหี้ย ๆ หรือจังหวะของการทำงานที่นรกเหี้ย ๆ อย่างเข้างาน 09.00 น. เลิกงานอีกทีตอน 09.00 น. ของอีกวัน หรือมีแม้กระทั่ง เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย เวลาการทำงานและภาระงาน ทุกสิ่งทึกอย่างพร้อมใจกันเหี้ย อาจจะเรียกสถานการณ์แบบนี้ได้ว่า สถานการณ์ที่เหี้ยเหี้ย ๆ ซึ่งก็ใช่ว่ามันจะไม่มีอยู่จริงและเป็นไปไม่ได้

    ด้วนความที่โลกของการทำงานเปรียบได้กับการสุ่มกาชาร์ปองชีวิตอยู่เนือง ๆ นั่นทำให้เรามักพบเจอเรื่องคาดไม่ถึงและเรื่องเกินจะคาดถึงจากชีวิตการทำงานอยู่บ่อยครั้ง จนหลายครั้งหลายคนมันพาโลให้เราเกลียดงานที่ทำ (แทนที่เราจะเกลียดเพียวเพื่อนร่วมงานหรือเจ้านายแต่เพียงเท่านั้น) และด้วยความฉิบห่ย หายนะของการทำงานนี้เอง "I hate my job: อย่าปล่อยให้งานเป็นมารร้าย" จึงถูกเขียนขึ้นเพื่อลบอคติบางอย่าง และตอบข้อข้องใจบางประการ ในเรื่องของการทำงาน

    โดย "I hate my job: อย่าปล่อยให้งานเป็นมารร้าย" ทำหน้าที่รวบรวมเอาคำถามของหลาย ๆ คนที่มีความเกี่ยวข้องกับการทำงาน มาช่วยหาคำตอบและช่วยหาทางแก้ไขหรือเยียวยาปัญหาที่เกิดขึ้นในที่ทำงานในแทบทุกปัญหาตั้งแต่เล็กสัส ๆ ไปจนถึงปัญหาที่ใหญ่เหี้ย ๆ ตั้งแต่เรื่องของเพื่อนร่วมงานตีนเหม็น เจ้านายปากหมา แอบดาเจ้านายลงไลน์แต่เสือกส่งผิดกลุ่ม ทำความลับบริษัทลั่วไหล กระทั่งการรับมือกับผีตู้เย็นในที่ทำงาน และอีกสารพัดเรื่องที่การทำงานสามารถบันดานความบรรลัยให้กับพนักงานได้เสมอ ๆ

    หลายครั้งเรามักคิดว่าปัญหาที่เกิดกับการทำงานนั้นเป็นปัญหาที่มาจากตัวเราและเราจำเป็นที่จะต้องแก้ไข แต่ "I hate my job: อย่าปล่อยให้งานเป็นมารร้าย" ก็ช่วยเตือนสติให้เราเข้าใจได้ว่า บางครั้งความบรรลัยก็เกิดขึ้นจากการประทานให้ของเพื่อนร่วมงานก็มีบ่อยไป แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะอยู่กับมันหรือจะปิดดิลกับมันอย่างไร ถ้าด้วยเหตุผลเอาไม่ลง ก็ลองตบกันดูสักตั้งก็อาจจะไม่เสียหาย นี่แหละคือเห็นผลที่หลายคนมักพูดว่า "โลกแม่งบังคับให้กูต้องร้าย"

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in