ฉันหลับตาพริ้มนึกภาพว่ากำลังเต้นรำกับอสูรกายที่ใครๆก็เรียกว่าปีศาจ... แต่ฉันเรียกมันว่า"ความสุข"
ความฝันของสาวน้อยที่จะได้เจอหิมะกลางเดือนมีนาคมในญี่ปุ่นช่างริบหรี่เหลือเกิน แต่ด้วยความบ้าคลั่งเธอก็ตามหาเจอจนได้ และฉันก็ตกหลุมรักปีศาจหิมะนี่เข้าเต็มเปาเลยหละ
ในช่วงฤดูหนาวหิมะจะตกบนภูเขาเป็นปริมาณมากทำให้ต้นไม้ก็ถูกหิมะปกคลุมเช่นกัน เกิดเป็นรูปร่างต่างๆแปลกตา บ้างสวยงาม บ้างน่าเกลียด แล้วแต่จินตนาการของแต่ละคนว่าจะบรรเจิดขนาดไหน
เมื่อพูดถึงปีศาจหิมะ หรือ Snow monster หลายคนคงนึกถึง Zao mountain ที่ จังหวัด Yamagata แต่ปีนี้ฤดูใบไม้ผลิมาไวกว่าปีก่อนๆ จึงทำให้เราต้องขึ้นไปตามล่าเจ้าปีศาจหิมะกันสูงขึ้น
ที่ Hakkoda mountain จังหวัด Aomori แทน
แต่ที่นี่ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังเลยหละ
เจ้าปีศาจตัวใหญ่ยักษ์กว่าสองเมตรยืนประจันหน้า ท้าอากาศติดลบสององศาสบายๆ
ส่วนชั้นเอง แค่ลมพัดก็รู้สึกถึงคำว่าเย็นเข้ากระดูกก็วันนี้
ไม่ค่อยมีคนรู้จักที่นี่มากนัก ที่เห็นก็จะมีแต่นักสกีชาวญี่ปุ่นมาประลองฝีมือการไถลสกีลงจากภูเขา
ระยะทางกว่าสองพันเมตร ถ้าสกีเป็น คงได้ใช้เป็นสนามประลองฝีมือกันบ้างหละ
เราเดินทางมาที่hakkoda mt.โดยรถบัส สามารถขึ้นได้หน้าสถานีรถไฟ Aomori ใครถือบัตร JR east pass tohoku หรือ JR passขึ้นได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
รถบัสค่อยๆไต่ภูเขาขึ้นไปเรื่อยๆ ฉันตื่นเต้นกับทุกสิ่งอย่างข้างทาง
ทุกอย่างดูแปลกตา จากดำค่อยๆขาว ขาวโพลนสุดลูกหูลูกตา
เมื่อไปถึงสถานีคุณลุงคนขับรถบัสก็ชูป้ายภาษาอังกฤษแปลได้ว่ากระเช้ายังไม่เปิด
เนื่องจากสภาพอากาศปิด หรือลมแรงเกินไป ทุกคนถึงกับเซ็งไปตามๆกัน แต่ทำไงได้ฉันหอบความตั้งใจมาจากประเทศไทยเชียวนะ ต้องดูให้ได้แน่นอน
ต่อให้เป็นนักสกีมือโปร หรือมือสมัครเล่น ก็ไม่มีสิทธิพิเศษได้ชมความงามบนยอดสูงก่อนใคร ทุกคนนั่งรอเจ้าหน้าที่ประกาศอย่างใจจดใจจ่อ บ้างคุยจ้อ บ้างผิงฮีสเตอร์ บ้างกดตู้น้ำดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆ
นักสกีบางคนก็ใช้ลานสกีข้างล่างเล่นไปพรางๆ ดูแล้วก็ไม่หมูเลยทีเดียว
ที่นี่อาศัยกระเช้าบรรทุกคนเพื่อขึ้นไปชมความงามของปีศาจหิมะ
แม้จะเป็นรอบแรก แต่ด้วยความล่าช้าจึงทำให้นักท่องเที่ยวและนักสกีอัดแน่นกันเต็มกระเช้า
กระเช้าค่อยๆไต่เขาอย่างมั่นคง ไม่นานปีศาจหิมะก็เผยโฉมให้เราเห็นอย่างไม่เหนียมอาย
จากตัวเล็ก ก็ค่อยๆใหญ่ขึ้นตามความสูง
...ฉันวิ่งรับอากาศบริสุทธิ์ เหมือนเด็กๆ ณ ตอนนั้นฉันไม่สนใจใคร ก็ฉันมีความสุขจริงๆนี่หน่า...
แม้ว่ามนุษย์จะพยายามสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อให้เข้าถึงและใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุด
แต่ยิ่งเข้าใกล้มากแค่ไหน ก็ยิ่งทำให้เราระลึกว่า เราเป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของโลกและเราไม่สามารถเอาชนะธรรมชาติได้เลย
ขอบคุณธรรมชาติที่รังสรรค์ความงามให้มนุษย์ได้เชยชม
ไว้มีโอกาสจะมาเยี่ยมใหม่นะ พ่ออสูรกายที่รัก...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in