หากพูดถึงคำว่า "Slow Life" ใครหลายๆคนก็คงนึกถึงชีวิตชิวๆ ท่ามกลางธรรมชาติ ท่ามกลางความสงบ ซึ่งในเรื่องที่เราจะพูดถึงนี้ก็มีทั้ง2อย่างที่ได้กล่าวไป แต่ถ้าให้นิยามคำว่าธรรมชาติกับสถานที่แห่งนี้คงต้องบอกเลยว่า ใครที่ชอบท่องเที่ยวสไตล์ "Backpack" คงจะต้องหลงรักเมื่อได้มาที่แห่งนี้แน่ๆ แต่เมื่อมีเรื่องดีก็ต้องมีเรื่องร้ายเป็นธรรมดาและเรื่องร้ายของที่แห่งนี้ก็คือ จะเห็นได้ว่าต้นไม้จะน้อยมากเพราะชาวบ้านแถวนั้นก็มักจะเข้ามาตัดไม้ไปก่อกองไฟกัน ที่นี่อากาศค่อนข้างหนาวถึงแม้ว่าจะไปในช่วงเมษาก็ตาม เราได้ไปในช่วงวันสงกรานต์พอดีต้องบอกเลยว่าใครที่ชอบความสงบที่แห่งนี้ตอบโจทย์สุดๆเพราะที่นี่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ครั้งแรกที่เราไปเรารู้สึกว่ามาอยู่ตั้ง5วันจะทำอะไรเนี้ย แม้แต่จะโทรไปเล่าอะไรให้เพื่อนฟังหรือถามไถ่เรื่องราวชีวิตในเมืองในวันสงกรานต์กับเพื่อนก็ยังไม่ได้ วันแรกเราก็ขอซึบซับบรรยากาศด้วยการนอนเพราะเราเดินทางช่วงเวลาประมาณตี3เลยขอหลับเอาแรงก่อน
มาวันที่สองเราเริ่มรู้สึกเบื่อเพราะวันแรกก็ไม่มีอะไรทำเอาแต่นอนๆๆ เราเลยลุกไปหยิบเสื้อชูชีพและโดดน้ำเล่นน้ำที่นี่ใสมากอาจเป็นเพราะว่าที่นี่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาสักเท่าไหร่ถ้าไม่นับคนที่มาด้วยกันก็คงมีแต่ชาวบ้านแถวๆนั้นกับหมา วัว ควาย คงเป็นเพราะว่าที่นี่ไม่มีอินเตอร์เน็ตเลยไม่ค่อยมีคนรู้จัก
มาวันที่สามก็เริ่มจะเบื่อๆแล้วล่ะสิเล่นน้ำทั้งวันก็เริ่มจะเป็นหวัดเล็กน้อย เราเลยเดินเล่นถ่ายรูปดีกว่า ซึ่งต้องบอกเลยว่าทริปนี้มีรูปให้ลงไอจีไม่หมดสักทีจนตอนนี้ก็ยังไม่หมด (อันนี้ไม่ได้โกหกจริงๆนะ) เริ่มอยากรู้กันแล้วสิว่ารูปเยอะขนาดไหนวันนี้เลยคัดมาให้ดูพอประมาณ ถ้าเอามาทั้งหมดกลัวจะดูกันจนเบื่อ เอาล่ะ เรามาดูภาพกันดีกว่า
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in