เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ALL I GOT FROM BOOKRada Subphachaisirikul
| ฝันดีฝันเด่น X Lucida |

  • พึ่งอ่านฝันดีฝันเด่นจบ ได้มาจากงาน Make a zine 2 ที่ a day จัดเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว อ่านแล้วทำให้นึกถึง Lucida ที่อ่านจบตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วแต่ไม่ได้เขียนถึง ความเหมือนกันของสองเล่มนี้คือการบันทึกความฝัน ที่แน่ๆ คือเป้าหมายต่างกัน นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องอารมณ์ในเล่มและท่าทีในการเล่า แต่ถึงจะต่างกัน เราก็ชอบทั้งสองเล่มเลย


    ขอเริ่มจาก Lucida ซึ่งพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ P.S. Publishing ผู้เขียนคือ ชล เจนประภาพันธ์

    คำว่า Lucid dream คือการรู้สึกตัวในฝัน หรือการรู้ตัวในฝันว่านี่ไม่ใช่ความฝัน อะไรประมาณนี้ บางคนทำได้แต่กำเนิดอยู่แล้ว แต่คนที่ไม่ได้มีความสามารถนี้อยู่แต่อยากจะทำได้ก็มีวิธีฝึกหลายวิธี อย่างเช่นการเปิดประตูห้องกลับเข้าไปดูห้องอีกครั้งเสมอหลังปิดประตูแล้ว แน่นอนว่าในชีวิตจริงห้องจะเป็นห้องเดิมแต่ถ้าเราทำจนติดเป็นนิสัยไปทำในฝัน ความฝันจะไม่สามารถหลอกเราได้แล้วเราก็จะรู้ตัวขึ้นมาได้ในฝัน หลักการประมาณนี้ แต่มีอีกเทคนิคหนึ่งที่สำคัญคือการระลึกถึงความฝันให้จดจำได้อย่างชัดเจนจนเราคุ้นเคยกับรูปแบบความฝันของตัวเองและจะช่วยให้เรารู้ตัวในฝันได้

    แน่นอนว่าหนึ่งในวิธีระลึกถึงความฝันคือการจดบันทึกความฝัน

    นั่นอาจเป็นเหตุผลหลักที่หนังสือเล่มนี้ชื่อว่า Lucida แม้เป้าหมายของผู้เขียนอาจไม่ใช่การรู้ตัวได้ในความฝันก็ตาม(เรื่องนี้ไม่แน่ใจเลย)

    Lucida ทำให้เราหลงอยู่ในความแปลกของเรื่องเล่าแบบที่ความฝันเล่าให้เราในทุกคืน ไม่มีจุดเริ่มต้น ไม่มีบทสรุปจบ แค่ดำเนินอยู่และหายไปเท่านั้น ทำให้เหมือนกำลังอ่านสิ่งที่ถูกตัดมาจากเรื่องอื่นอีกที
    ตอนที่อ่านเรารู้สึกถึงความดาร์กนิดๆ ในทั้งเล่ม อาจจะด้วยเรื่องราวหลายเรื่องเป็นเรื่องราวที่ทำให้รู้สึกว่า ถ้าเป็นเรา ฝันนี้จะเป็นฝันร้าย และคงเพราะรูปประกอบรวมถึงสีทั้งหมดที่เล่มนี้มีคือขาวกับดำ คงมีผลให้เรารู้สึกว่ามีความดาร์กลอยอวลอยู่ในหนังสือเล่มนี้




  • ตรงกันข้ามกับกรณีของฝันดีฝันเด่น (ผู้เขียนฝันดีฝันเด่นคือ สุดจักรวาลศาสตร์สูงส่ง และ ปิยฤทธิ์ ปัญจธรรมวิทย์)

    ซึ่งบรรยากาศมวลรวมเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เหมือนมีซาวด์แทร็กประกอบเป็นเสียงหัวเราะอย่างนั้นล่ะ อาจเพราะเล่มนี้เป็นการเขียนแบ่งปันกันของคนสองคน ที่แน่นอนว่ามีความสนิทสนมกันพออสมควร จึงเขียนในท่าทีของเพื่อนเล่า และเป้าประสงค์ในการเขียนก็เพียงเพราะไม่อยากจะลืมบางฝันที่สนุก พล็อตดี และเราอยากจะจดจำไว้

    มันทำให้ฝันดีฝันเด่นเป็นหนังสือที่อ่านสบาย และบางครั้งก็ยิ้มออกมาด้วยซ้ำ และไม่แน่ใจว่าที่ฝันดีฯ (ชื่อพิมพ์ยาก ฮ่าๆ) ทำให้เรารู้สึกสดใสกว่า Lucida เป็นเพราะปกด้วยรึเปล่า ที่ใช้สีสดอย่างเหลืองกับแดง ที่แน่ๆ คือชอบปกมาก แต่ที่ชอบกว่าปกคงเป็นหน้าในรูปที่สาม นี่แหละ ที่ทำให้ยิ้มได้ 

    "เราไม่ขายฝัน"


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in