เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
From an anime loverlilyingarden
86 Eighty-Six อนิเมะไซไฟ สงครามที่เนื้อเรื่องเข้มข้น น่าสนใจอย่างยิ่งในยุคนี้
  • ช่วงนี้ดูอนิเมะเรื่องอะไรก็ดูไม่ค่อยจบเลย จนกระทั่งมีคนพูดถึึง 86 ขึ้นมา อนิเมะแนวสงคราม การเมือง ไซไฟและปรัชญาเล็กน้อยที่ผลิตมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ยาวมาจนถึงปีนี้และเพิ่งจะฉายจบไป เราคิดว่าอนิเมะแนวนี้หาค่อนข้างยากแล้วจึงถือโอกาสมานั่งดูซะเลย




    86 หรือ Eighty-Six มีต้นกำเนิดมาจากไลท์โนเวลที่มีชื่อเดียวกัน เขียนโดย อาซาโตะ อาซาโตะ (ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ว่าทำไมชื่อถึงเป็นแบบนั้นนะ ส่วนลิขสิทธิ์ไลท์โนเวลในไทยเป็นของสำนักพิมพ์ Phoenix มังงะก็น่าจะมีแปลไทยแล้วเหมือนกัน) แต่ว่าอนิเมะสร้างโดยสตูดิโอ A-1 picture ซึ่งเป็นชื่อที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว งานภาพสวยงามมากอย่างไม่ต้องพูดถึง ไหนจะเพลงประกอบที่ได้นักทำเพลงระดับเทพอย่างคุณ Sawano Hiroyuki มาร่วมงานด้วย (เพลงที่คุ้นเคยของเขาก็อย่างเพลงประกอบอนิเมะเรื่อง Aldnoah.zero หรือ Gundam Unicorn) จึงรับประกันได้ว่าอนิเมะมีคุณภาพสูง

    86 Eighty-Six เป็นอนิเมะแนวสงคราม ไซไฟ การเมือง หุ่นยนต์และความหมายของการมีชีวิตซึ่งเป็นแนวที่นานๆทีจะมีโผล่มาสักครั้งหนึ่ง อนิเมะเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของเหล่าคนหนุ่มสาวในยุคสงครามที่ต้องต่อกรกับ ลีเจี้ยน หุ่นยนต์รบไร้คนขับที่มีต้นกำเนิดมาจากจักรวรรดิเกียเดที่ล่มสลายไปแล้ว โดยเนื้อเรื่องช่วงแรกจะเน้นไปที่เรื่องราวของ วลาดิเลน่า มิรีเซ่ ซึ่งเป็นทหารของจักรวรรดิซันแมกโนเลีย เธอได้รับหน้าที่ให้เป็นผู้บัญชาการของหน่วยรบสเปียร์เฮดในเขตการรบที่ 1 หรือก็คือพวก 86 ที่ต้องทำหน้าที่เป็นทหารขับหุ่นยนต์ออกไปต่อสู้เพื่อปกป้องประเทศที่กดขี่และเข่นฆ่าพวกตนมาตลอดหลายปี

    เปิดมาช่วงแรกอาจจะงงๆ เพราะไม่มีการเกริ่นหรืออารัมภบทอะไรทั้งนั้น แต่หลังจากผ่านไปสองสามตอน เนื้อเรื่องก็จะถูกเปิดเผยมากขึ้น รวมทั้งปมและข้อสงสัยต่างๆก็จะค่อยๆถูกเปิดเผยออกมา ที่น่าสนใจคือมันไม่ได้ทำให้เนื้อเรื่องเข้มข้นน้อยลงเลยแม้แต่น้อย กลับกันเนื้อเรื่องกลับพีคขึ้นเรื่อยๆจนต้องนั่งดูต่อเรื่อยๆไม่หยุด แต่ด้วยความที่อนิเมะมีเนื้อหาหนักมาก จึงไม่ค่อยเหมาะกับคนที่ไม่ชอบฉากตายอย่างสยดสยอง ไหนจะความดาร์คและความหดหู่ต่างๆที่ตัวละครต้องเผชิญตลอดทุกตอน สภาพอันโหดร้ายของสงครามหรือความอยุติธรรมที่เหล่า 86 ต้องเผชิญ บอกตามตรงว่าไม่ใช่อนิเมะที่เหมาะกับเด็กเลย

    อนิเมะมีทั้ง 23 ตอนจบ + SP อีก 1 ตอน ขอไม่นับตอนที่ทำออกมาคั่นเวลาด้วยแล้วกัน



    86 คืออะไร *สปอยล์ในระดับนึง*
    ตอนแรกก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมชื่อเรื่องถึงเป็นตัวเลข แต่ในอนิเมะได้เปิดเผยว่าพวก 86 คือพวกที่ถูกซันแมกโนเลียจับตัวไปเป็นเชลยศึก เพราะมีเชื้อชาติแตกต่างไปจากชาวอัลบาซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีสีผมและสีตาเป็นสีขาวสะอาดดุจหิมะ พวกเบื้องบนของซันแมกโนเลียบังคับให้ผู้คนเหล่านี้ขับหุ่นยนต์ หรือที่มีชื่อเรียกว่า จักเกอร์นอร์ต ต่อสู้และทำลายลีเจี้ยน หุ่นยนต์ไร้คนขับของจักรววรดิเกเดีย ทั้งยังบังคับให้พวกเขาสร้างกำแพงล้อมรอบอาณาจักรขึ้นมา แบ่งเขตการปกครองตั้งแต่ 1-85 ส่วนเขต 86 นั่นเป็นเขตที่อยู่ด้านนอกกำแพงและเป็นที่อยู่ของพวก 86 ที่ต้องทำหน้าที่ปกป้องอาณาจักรซันแมกโนเลียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
    โดยส่วนมากประชาชนก็ไม่มีใครรู้ว่าพวก 86 เป็นคนขับหุ่นไปสู้ในสงคราม เพราะรัฐปิดข่าวอย่างเป็นความลับโดยอ้างว่าใช้หุ่นยนต์ไร้คนขับต่อสู้ในสงครามแทน และยิ่งไปกว่านั้นหน้าที่ของพวก 86 คืองานที่หนักหนาสาหัสมาก โอกาสรอดตายต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ทำได้แค่ต่อสู้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึงวันปลดประจำการ ซึ่งก็คือต้องต่อสู้ในสนามรบให้ถึงห้าปี แน่นอนว่าคนส่วนมากมีชีวิตรอดไม่ถึงวันนั้นอยู่แล้ว แล้วถ้ามีพวกตายยากที่อยู่รอดจนถึงห้าปีสุดท้ายจริงๆ สาธารณรัฐก็จะส่งภารกิจสอดแนมศัตรูที่ไม่จำกัดระยะเวลาปฏิบัติภารกิจและโอกาสรอดชีวิตต่ำมากไปให้ พูดง่ายๆว่าการให้ความหวังว่าพวกเขาจะมีชีวิตรอดไม่มีจริงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ยังไง 86 ทุกคนก็ต้องตายในสนามรบอยู่ดี...


    *****คำเตือน มีสปอยล์หนักมาก ควรไปดูอนิเมะก่อนจะได้ไม่งง*****



    สิ่งที่ชอบและสิ่งที่ไม่ชอบ + ประเด็นที่สงสัยในอนิเมะเรื่องนี้

    สิ่งที่ชอบ

    • ภาพสวย อันนี้แน่นอนอยู่แล้ว เทียบกับอนิเมะในช่วงเดียวกัน งานภาพดีในระดับปานกลางไปถึงสูงเลย การลำดับเนื้อเรื่องก็ดี ถึงจะไม่ได้เดินเรื่องเป็นเส้นตรงมากแต่ก็ยังเข้าใจ
    • ฉากต่อสู้ อาจจะไม่ใช่จุดที่เรื่องเน้นหนักมากในช่วงแรกๆ แต่ว่าทำออกมาได้ดีมากๆ ดูแล้วสนุก ตื่นเต้น ลุ้นตามตลอด ตัวหุ่นยนต์ก็มีดีไซน์ที่แปลกตาดี (บางคนอาจจะรู้สึกไม่ชอบ) เห็นว่าแรงบันดาลใจของดีไซน์มาจากอาวุธสงครามของจริงด้วย
    • เพลงประกอบดี เข้ากับบรรยากาศของเรื่องมาก กระตุ้นอารมณ์ได้ดี เพลงปิดโครตดีงาม 
    • เนื้อเรื่องเข้มข้น เอาจริงๆก็มีจุดเอื่อยๆบ้าง แต่ว่าเนื้อเรื่องอัดแน่น มีจุดพีคเรื่อยๆ ไม่ค่อยเยิ่นเย้อ
    • ใส่ประเด็นที่น่าสนใจลงไป อนิเมะตั้งคำถามเรื่องความหมายของการมีชีวิตอยู่ พยายามนำเสนอให้เราครุ่นคิดถึงบรรยากาศและความโหดร้ายของยุคสงคราม แนวคิดของผู้คนที่อยู่ในยุคเหล่านั้น ใส่เรื่องการเมืองลงไปแต่ไม่หนักมาก ดูเข้าใจง่ายอยู่ เสียดสีระบบประชาธิปไตยดี พูดถึงเรื่องความเท่าเทียมและเสรีภาพ แต่ความจริงยังกดขี่มนุษย์ด้วยกันเอง หนำซ้ำยังไม่มีใครลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง ถูกกลืนหายไปกับระบบแย่ๆกันซะส่วนมาก (เหมือนประเทศนี้เลยว่ามั้ย5555)
    • โมเมนต์ระหว่างพระเอกนางเอก มีน้อยแต่รู้สึกว่าเป็นการรอคอยที่คุ้มค่ามากๆๆ


    สิ่งที่ไม่ชอบ ประเด็นที่ยังคงสงสัย+บ่นไปเรื่อย

    • อยากให้เน้นหนักเรื่องประเด็นด้านเชื้อชาติด้วย เพราะมันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดพวก 86 ขึ้นมา เราเลยรู้สึกว่าเหตุผลที่เกลียดชังพวก 86 มันค่อนข้างเบาบางและดูไม่สมเหตุสมผลในบางครั้ง
    • ตับพังหนักมาก ก็ไม่เชิงว่าเป็นจุดที่ไม่ชอบ เพราะมันก็ทำให้เราเห็นถึงความสิ้นหวัง ความกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเหล่าตัวละครที่อยู่ท่ามกลางสงคราม มันทำให้เนื้อเรื่องสนุกและดูสมจริงขึ้นด้วยแหละ
    •  ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมพลังพระเอกถึงทำให้คนอื่นๆได้ยินด้วย แต่ตามที่เราเข้าใจคือเครื่องมือสื่อสารของพวกสาธารณรัฐมันจะส่งข้อมูลจากสัญญาณประสาทโดยตรงเลยทำให้ได้ยินเสียงในหัวของพระเอกด้วย แต่ว่าถ้าเป็นอย่างงั้นทำไมจำเป็นต้องพูดออกเสียงกันด้วยอ่ะ คุยในใจก็ได้ไม่ใช่เหรอ เราเลยรู้สึกว่าเรื่องเครื่องพาราเรด ในตัวอนิเมะไม่ได้อธิบายไว้ชัดเจนเท่าไหร่ (หรือเราสังเกตไม่ละเอียดเอง)
    • เราคิดว่าความคิดของพวกพระเอกมันดูเป็นคนดีเกินไปหน่อย ทั้งที่ถูกกดขี่และใช้งานหนักขนาดนั้น แต่ก็ไม่มีความคิดอยากแก้แค้น เพราะว่าทุกคนคิดว่าไม่อยากเป็นเหมือนพวกหมูขาว (ชาวอัลบา) ประมาณว่าถ้าไม่ชอบอะไรก็อย่าเป็นคนแบบนั้น ศักดิ์ศรีมันค้ำคอ ให้อารมณ์แบบถ้าไม่ใช่พวกพระเอกก็คงเป็นแบบนั้นไม่ได้หรอก5555 แต่เรื่องที่ว่าอยากต่อสู้ในสงครามไปเรื่อยๆอันนี้เราเข้าใจ เพราะว่าชีวิตที่ผ่านมาก็มีแต่การต่อสู้และก็คงจะสู้ต่อไปจนกว่าจะถึงที่สุดด้วย คงเพราะว่าเด็กๆชาว 86 พวกนั้นไม่ได้มีผู้ใหญ่คอยสั่งสอน ก็เลยใช้ชีวิตไปอย่างไร้จุดหมาย สู้โดยไม่มีเหตุผลให้สู้อะไรประมาณนั้น
    • เห็นมีคนบอกว่านางเอกดูไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ แต่เราคิดว่าทหารทุกคนในซันแมกโนเลียอาจจะห่วยยิ่งกว่านางเอกซะอีก เอาแต่กินเหล้า จัดปาร์ตี้ในสำนักงาน ไม่ตั้งใจเรียนอีก นางเอกที่จริงจังกับหน้าที่ของตัวเอง ฉลาดด้านทฤษฎีแต่อ่อนประสบการณ์ แค่พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆสุดท้ายก็เก่งจริงๆได้นี่น่า หนำซ้ำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการให้หน่วยสเปียร์เฮดยังถูกโยนมาให้นางเอกเพราะไม่มีใครอยากทำอีก ดูก็รู้ว่ามีแต่พวกอู้งานทั้งนั้น
    • อีกจุดที่ไม่ค่อยเข้าใจคือ ดอกไม้ในแจกันที่เลน่าทำความเคารพอยู่ทุกวันมีความหมายว่าอะไร เป็นการทำความเคารพคุณพ่อเหรอ แต่เหมือนดอกลิลลี่ในเรื่องนี้จะถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ในการเคารพผู้ที่ล่วงลับไปแล้วล่ะมั้ง




    ข้อมูลตัวละครหลักๆในเรื่อง



    วลาดิเลน่า มิรีเซ่
    สาวน้อยผมขาวสุดน่ารัก เป็นลูกสาวของตระกูลมิรีเซ่ที่มีชื่อเสียง เป็นคนจริงจัง เอาการเอางาน ฉลาดแต่ว่าใสซื่อไม่ค่อยทันโลกเท่าไหร่ เธอเป็นคนที่มีความสามารถมากจนไต่เต้าขึ้นไปถึงยศพันตรีได้ในตอนที่อายุเพียง 16 ปีเท่านั้น เธอได้รับแต่งตั้งให้เป็นแฮนด์เลอร์หรือผู้บัญชาการของหน่วยสเปียร์เฮด

    พูดถึงตัวละครเลน่าแบบลึกๆ
    เลน่าในวัยเด็กเคยถูกพ่อพาไปที่สนามรบด้านนอกอาณาจักรเพื่อให้เธอเห็นถึงความโหดร้ายที่ซันแมกโนเลียทำกับมนุษย์ด้วยกันเอง แต่เหตุการณ์นั้นก็ทำให้เธอต้องเสียพ่อของตัวเองไปจากการจู่โจมของพวกลีเจี้ยน แต่ทว่าเธอก็ได้รับความช่วยเหลือโดยชายผมแดงที่ชื่อ โชวเรย์ โนวเซน ชาว 86 ที่ยอมช่วยเหลือเธออย่างเต็มใจ เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เองที่ทำให้เลน่ามาเป็นทหารและปฏิบัติกับพวก 86 อย่างเท่าเทียมกัน

    เลน่าในตอนแรกเป็นแค่เด็กที่ยังไร้เดียงสา ถึงแม้ว่าเธอจะฉลาดและวางแผนการรบได้ดีเยี่ยม แต่ความฝันของเธอที่ต้องการจะช่วยเหลือพวก 86 ก็เป็นได้แค่ความคิดแบบเด็กๆเท่านั้น เพราะเธอตัวคนเดียวไม่สามารถเปลี่ยนแปลงระบบของประเทศนี้ได้ ยิ่งเธอรู้เรื่องทุกอย่างมากแค่ไหนก็ยิ่งพบว่าความจริงมันช่างโหดร้ายและน่าสิ้นหวัง ทว่าด้วยความที่เลน่าเป็นคนมองโลกในแง่บวก เธอยังคงตั้งความหวังว่าจะช่วยเหลือพวก 86 ให้ได้ จุดนี้เองที่ทำให้เธอเข้มแข็งมากขึ้นจนกล้าที่จะเผชิญกับสงครามที่โหดร้ายและมุ่งมั่นที่จะผ่านมันไปให้ได้ ตัวเธอนั้นได้แรงผลักดันอันยิ่งใหญ่มาจากเหล่าลูกน้องในหน่วยสเปียร์เฮดที่มีความคิดว่าอยากจะต่อสู้จนกว่าจะตาย และไม่ยอมทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเองเด็ดขาด เธอถึงไม่ยอมแพ้แม้ว่าจะเจอกับสงครามที่หนักหนาขนาดไหน ประกอบกับเธอเคยบอกกับพวกเขาไว้ว่าจะไล่ตามพวกเขาทุกคนไปจนถึงปลายทาง (ในที่นี่น่าจะหมายถึงจุดสิ้นสุดของสงคราม และอีกความหมายก็คือจะตามหาตัวพวกเขาให้เจอให้ได้ ในตอนที่หน่วยสเปียร์เฮดซึ่งเหลือเพียงห้าคนบอกลาเธอและเดินทางออกไปจากเขตการรบ) และจะไม่มีวันลืมพวกเขา ซึ่งเลน่าก็ยังคงยึดมั่นในคำสัญญามาตลอด โชคดีจริงๆที่เลน่าได้พบเจอกับคนดีๆมาตั้งแต่เด็ก และยังคงมีความหวังซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในยุคสงคราม
    เลน่ายังเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่หรือพวกแหกคอกที่ไม่ยอมจำนนต่ออำนาจของรัฐ ไม่ยอมถูกระบบอันไร้ความอยุติธรรมครอบงำ และมีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลง
    ส่วนเรื่องที่เลน่าย้อมผมสีแดงบางส่วนและใส่ชุดเครื่องแบบสีดำมาตลอด น่าจะเป็นเพราะว่าต้องการระลึกถึงการสูญเสียของเหล่า 86 และโชวเรย์ที่เคยช่วยชีวิตเธอในวัยเด็ก




    ชินเอย์ โนวเซน
    เด็กหนุ่มที่มีฉายาว่ายมทูตและ Undertaker หัวหน้าหน่วยสเปียร์เฮด เป็นคนมืดมน มักจะไม่แสดงสีหน้าและความรู้สึกออกมา แต่ว่าเก่งกาจในการด้านการต่อสู้มากจนมีเอาชีวิตรอดมาได้เกือบ 5 ปี เขาเป็นชาว 86 ที่เคยอาศัยอยู่ในซันแมกโนเลียมาก่อน มีพี่ชายชื่อโชวเรย์ โนวเซน แต่ทั้งคู่ก็ถูกพลัดพรากจากกันเนื่องจากสงคราม

    พูดถึงตัวละครชินเอย์แบบลึกๆ

    ชินอยู่ในสภาวะสงครามมาตั้งแต่เด็กจึงทำให้เขาชินชากับสภาพแวดล้อมอันโหดร้ายเช่นเดียวกับเด็กชาว 86 คนอื่นๆ ในตอนเด็กเขาเคยถูกพี่ชายบีบคอจนเกือบตาย แต่เพราะแบบนั้นเขาเลยมีพลังในการได้ยินเสียงของคนตายติดมาด้วย เขาจึงมักจะได้ยินเสียงของพวกลีเจี้ยนอยู่ตลอดเวลา (ที่ชินเอาแต่อ่านหนังสือตลอดเวลาน่าจะเป็นเพราะต้องการเบนความสนใจจากเสียงพวกนี้ล่ะมั้ง) เพราะแบบนี้จึงทำให้เขาสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของพวกลีเจี้ยนได้ เขาใช้ความสามารถนี้ให้เป็นประโยชน์ในสนามรบ แต่เพราะเหตุการณ์ที่พี่ชายเคยบีบคอเขาจนเกือบตาย แถมยังพูดว่าทุกอย่างเป็นความผิดของเขาที่ทำให้แม่ต้องถูกจับตัวไปเป็นเชลย ชินเลยโทษตัวเองมาตลอดและคิดว่าพี่คงไม่มีทางให้อภัยเขาตลอดชีวิตแน่ โดยหารู้ไม่ว่าพี่ชายของเขารู้สึกผิดเป็นอย่างมากและยังคงหวังดีกับเขาเสมอ

    ชินผู้มีฉายายมทูตต้องแบกรับความตายของเพื่อนร่วมทีมมากมาย เนื่องจากเขาเคยสัญญาไว้ว่าจะพาทุกคนไปยังสุสานและสลักชื่อทุกคนลงไปให้ได้ (เพราะทางจักรวรรดิไม่ให้เก็บศพผู้เสียชีวิต) เขาจึงสลักชื่อคนตายทุกคนลงไปบนชิ้นส่วนเครื่องยนต์ประจำตัวของผู้ตาย เก็บมันไว้กับตัว และพยายามเอาชีวิตรอดให้ได้จนถึงท้ายที่สุด ด้วยเหตุนี้ผู้คนมากมายจึงคาดหวังในตัวเขา และหลายครั้งชินก็ต้องลงมือปลิดชีพเพื่อนร่วมรบที่บาดเจ็บหนักด้วยตนเอง และเพราะว่าเขาได้ยินเสียงของคนตายในลีเจี้ยน เขาจึงรู้ว่าพี่ชายของตนเองที่ตายไปแล้วได้ถูกเอาไปทำเป็นชิ้นส่วนให้พวกมัน ชินจึงตั้งเป้าหมายว่าจะปลดปล่อยวิญญาณของพี่ชายให้ได้

    แม้ว่าจะปลดปล่อยดวงวิญญาณของพี่ชายสำเร็จ แต่ชินกลับรู้สึกว่างเปล่ากว่าเดิม เพราะเขาสูญเสียเป้าหมายของตัวเองไป หนำซ้ำยังต้องแบกรับชิ้นส่วนของพี่ชายและคนอื่นไปให้ถึงปลายทางด้วย ชีวิตของชินที่มีแต่การต่อสู้ในสงครามมาตลอดจึงทำให้เขาไม่เหลือจุดประสงค์อื่นใดนอกจากการต่อสู้อย่างไร้จุดหมาย เขาไม่รู้ว่าความหมายในการมีชีวิตอยู่คืออะไร เพราะที่ผ่านมาเขาก็แค่ต่อสู้ไปเรื่อยๆเพื่อรอวันตายเท่านั้น ไม่มีบ้านให้กลับ ไม่มีใครรอเขาอยู่อีกต่อไป ดังนั้นความตายจึงเป็นสิ่งที่ชินคิดว่าเหมาะกับเขาที่สุดแล้ว แต่ว่าเขาก็ยังมีชีวิตรอดมาได้หลายต่อหลายครั้ง

    ยิ่งไปกว่านั้น ชินก็ยังเป็นคนที่เปิดใจให้ใครยากมาก เพราะเขาคิดว่าทุกคนแค่หวังพึ่งพาเขาในตอนที่พวกเขากำลังจะตาย แต่ว่าหากถึงคราวที่ชินจะต้องตาย กลับไม่มีใครเป็นคนนำเขาไปยังสุสานและสลักชื่อเขาลงไปเลยสักคน ทำให้ชินคิดมาตลอดว่าเขาต้องตายอย่างโดดเดี่ยว เขาจึงต่อสู้อย่างบ้าบิ่น ชอบเอาตัวเองไปเสี่ยงหรือต่อสู้อยู่คนเดียวตลอด แม้จะต่อสู้ร่วมกับเพื่อนพ้องมากมายแต่เขากลับไม่ไว้ใจที่จะบอกเล่าความรู้สึกของตัวเองหรือแบ่งเบาภาระของตัวเองให้กับใครเลย

    แต่ในที่สุดก็มีคนมาปลดเปลื้องความทุกข์ใจของเขาและดึงเขาให้หวนกลับมานึกถึงคำสัญญาที่เขาเคยบอกว่าจะพาเธอคนนั้นไปให้ถึงจุดจบของสงคราม แน่นอนว่าคนๆนั้นก็คือวลาดิเลน่า มิรีเซ่ ผู้ที่จุดประกายความหวังและเป้าหมายของการเดินทางให้แก่เขา



    เฟรเดอริก้า โรเซนฟอร์ท

    เด็กหญิงตัวน้อยที่เป็นถึงอดีตราชินีของอาณาจักรเกียเดที่ล่มสลาย มีทั้งด้านที่โตกว่าวัยและด้านที่เป็นเด็กเอาแต่ใจ พูดจาตรงไปตรงมา กินเก่งและฉลาด มีพลังในการมองเห็นอดีตและปัจจุบันของคนที่เธอรู้จักได้ พลังนี้เป็นสิ่งที่สืบทอดมาจากสายเลือดราชวงศ์โดยตรง ทำหน้าที่เป็นมาสคอตในหน่วยนอร์ดลิชท์ที่พวกพระเอกไปประจำการในภายหลัง

    ในตอนที่ราชวงศ์เกียเดล่มสลายเธอยังเด็กมาก แต่ว่าก็ยังมีอัศวินคนหนึ่งที่ชื่อคิริยะ โนวเซนคอยปกป้องเธอมาตลอด แต่เนื่องจากความเข้าใจผิดทำให้อัศวินของเฟรเดอริก้าคิดว่าเธอตายไปแล้ว เขาจึงปล่อยให้ลีเจี้ยนฆ่าเขาแล้วเอาชิ้นส่วนของเขาไปเป็นอะไหล่ให้พวกมัน หลังจากนั้นเฟรเดอริก้าก็คิดว่ามันเป็นหน้าที่ของเธอที่จะต้องช่วยปลดปล่อยอัศวินของเธอ เป็นเด็กที่คาแรคเตอร์แปลกประหลาดมากเลยวิเคราะห์ไม่ค่อยออก แต่คำพูดที่เฟรเดอริก้าพูดกับพวกพระเอกน่าสนใจหลายประโยคมาก จำได้ไม่หมด555





    ไรเดน ชูกะ
    รองหัวหน้าหน่วยสเปียร์เฮดที่มีฉายาว่า Wehrwolf เป็นผู้ชายพึ่งพาได้และเข้าอกเข้าใจชินเอย์มากกว่าใคร


    เทโอโตะ ริกกะ
    เด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์ด้านการวาดรูป ฉายา Laughing Fox แม้ดูเป็นคนปากร้าย อารมณ์เสียง่ายแต่จริงๆแล้วเป็นคนจิตใจดี
     

    อันจู เอมมะ
    เด็กสาวลูกครึ่งอัลบา เชี่ยวชาญด้านการใช้อาวุธหนัก เป็นคนใจดีแต่เวลาโกรธมักจะมีรอยยิ้มพิฆาต ฉายา Snow witch



    คุเรนะ คุคุมิ
    เด็กสาวที่แอบชอบชินมาตลอดหลายปี เป็นเหมือนน้องสาวคนเล็กของกลุ่ม เชี่ยวชาญด้านการยิงระยะไกล ฉายา Gunslinger


    เพลงประกอบที่ชอบ

    เพลงปิดของอนิเมะ 86 Avid - SawanoHiroyuki[nZk]:mizuki ไพเราะมากจริงๆ เวอร์ชั่นเปียโนก็ดี



    อีกเพลงที่เราชอบ Hands up to the sky - SawanoHiroyuki[nZk]:Laco





    สรุป
    โดยส่วนตัวเรามองว่าเป็นอนิเมะที่ดีมากเรื่องหนึ่งสำหรับช่วง 2- 3 ปีที่ผ่านมาเลย แอบเสียดายที่อนิเมะค่อนข้างตัดทอนรายละเอียดจากไลท์โนเวลพอสมควร (ทำเอาอยากไปหาไลท์โนเวลมาอ่านกับเขาดูบ้าง) เนื้อหาประเด็นที่อนิเมะต้องการสื่อสารก็น่าสนใจมาก แค่เก็บรายละเอียดได้ไม่พอ ในใจหวังว่าอยากให้มีซีซันต่อไปอีก เรารอติดตามต่อแน่นอน
    อีกอย่างเราคิดว่า 86 เป็นอนิเมะที่ต้องอาศัยการทำความเข้าใจในระดับหนึ่ง ทั้งความคิดของตัวละคร+สถานการณ์บริบทของเรื่อง เพราะว่าแนวความคิดหรือทัศนคติของตัวละครค่อนข้างต่างไปจากมนุษย์ในยุคที่สงบสุขอย่างเราพอสมควร จึงอาจจะไม่เข้าใจหรือมองว่าแปลกได้ แต่ในตัวอนิเมะก็นำเสนอความแตกต่างทางแนวคิดของผู้คนที่เติบโตในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันให้เห็นอยู่แล้ว อยากให้อนิเมะเรื่องนี้กระแสดีกว่านี้จริงๆนะ


    คะแนน 8.5++ กะคะแนนไม่ค่อยถูก แต่สำหรับ 23 ตอนที่ผ่านมาถือว่าทำได้ดีเลย
    จัดอันดับเรท 18+แบบเน้นๆ หดหู่ โหดร้าย ตับพัง แต่เนื้อเรื่องเข้มข้นมาก



    แถมงานภาพงามๆ









Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in