เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เพนกวิ้นท่องเที่ยวpenguintravel3
ระหว่างเราสองคน [นครราชสีมา]
  • ตอนนั้นเพิ่งผ่านปีใหม่มาไม่นาน...


    หลังจากทริปแรกก็ว่างเว้นจากการเดินทางไกลไปหลายเดือน กว่าจะมีเวลาว่างตรงกันและมีตารางงานพี่เอ๊ะที่พอดี ส่วนใหญ่พวกเราไปงานในกรุงเทพฯ กันมากกว่า ทุกคนกลับสู่ชีวิตประจำวัน ตื่นเช้าออกไปทำงาน ออกไปเรียน และที่สำคัญต้องเก็บเงินไว้ไปเที่ยว จริงๆ ไปเที่ยวด้วยกันนี่ได้อะไรหลายอย่างเลยนะ นอกจากความสนุกแล้วพวกเรายังได้รู้จักกันและกันในแง่มุมต่างๆ มากขึ้นด้วย ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในประเด็นที่หลากหลายมากขึ้น เพราะแต่ละคนก็มีมุมมองที่ต่างกันตามประสบการณ์ หลายครั้งก็ทำให้ได้รู้อะไรใหม่ๆ โดยไม่รู้ตัว


    คราวนี้พวกเราตกลงใจกับทริปสั้นๆ ไปเช้าเย็นกลับ เพราะไม่ได้ออกไปจากกรุงเทพฯ มาก แค่นครราชสีมาหรือโคราชนั่นเอง อีกทั้งงานครั้งนี้ของพี่เอ๊ะก็เป็นงานอีเวนต์ที่จัดในห้างสรรพสินค้า (แอบหวังในใจว่าจะหล่อ) พวกเราซึ่งห่างหายจากงานกลางวันกันไปนานก็ตัดสินใจพากันไป


    โดยครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่พวกเราขับรถกันไปเอง (ตื่นเต้นสุดๆ) เรานัดแนะกันแต่เช้าเพื่อจะได้มีเวลาเที่ยวนานๆ ขับรถชมสองข้างทางกันไปตลอดเส้นทางจนกว่าจะถึงโคราช แวะพักกินข้าวกลางวันกันที่สระบุรี เป็นเหมือนจุดพักรถที่มีของขาย มีร้านอาหารมากมาย ที่นี่บอกเลยว่าแอบประทับใจในนวัตกรรมการไล่แมลงวันของเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ขาย ถ้ามีโอกาสเพื่อนๆ ลองแวะไปดูกันได้


    เราขับผ่าน เขื่อนลำตะคอง มองผิวน้ำใสแจ๋วราวกับกระจกกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา (ขณะเดียวกันก็ร้อนแทบไหม้) ที่นี่เราพาตัวเองฝ่าแสงแดดอันร้อนระอุเดินกันไปที่จุดชมวิว มีคู่รักยืนถ่ายรูปกันอยู่ประปรายให้พวกเราเหม็นความรักกันเล่นๆ ตานี่ร้อนพอๆ กับแสงแดดที่ส่องมา

    ชอบจริงๆ ภูเขากับสายน้ำเนี่ย

    หลังจากชมวิวภูเขาสายน้ำที่เขื่อนกันพอหอมปากหอมคอแล้ว เราก็ขับต่อไปที่ สวนซ่อนศิลป์ แค่ได้ยินชื่อก็น่าสนใจแล้ว อยากรู้ว่าในสวนจะซ่อนศิลปะแบบไหนเอาไว้ สิ่งแรกที่สวนซ่อนศิลป์จัดไว้ต้อนรับเราก็คือต้นไม้น้อยใหญ่นานาพันธุ์ มองไปทางไหนก็เขียวชอุ่มร่มรื่น ลมพัดเอื่อยๆ มาปะทะผิว สบายซะจนอยากจะนอนที่นี่ซักคืน (มีบ้านพักด้วยนะ)

    เหมือนอยู่ต่างประเทศ

    ร่มรื่นเย็นสบาย


    พวกเราเดินเรื่อยไปตามเส้นทางในสวน ผ่านบ้านดิน บ้านรูปแบบต่างๆ มีสวนหลายสไตล์จัดเอาไว้ดูสวยงาม ทั้สวนอังกฤษ สวนจิ๋ว และสวนย้อนยุค เดินกันเพลินๆ ก็รู้สึกหิวกันขึ้นมา พอเหลือบดูนาฬิกาก็ล่วงเข้าบ่ายโมงกว่าซะแล้ว มิน่า ท้องร้องดังเชียว (ฮา) จำได้ว่าตรงทางเข้ามีร้านกาแฟกับร้านขนมอยู่ พวกเราก็ไม่รอช้าตรงดิ่งไปตามหาหัวใจ (ผิด) ไปหาอาหารมาเติมเต็มพุงน้อยๆ กัน

    เดินไปเรื่อย

    เมื่อมาถึงร้านกาแฟ บางคนก็ตรงไปสั่งขนมกับเครื่องดื่มเลย บางคนก็ไปหาที่นั่งพักเหนื่อย (เพลียแดดกันพอสมควร) เรามองขนมหน้าตาแปลกๆ ตรงหน้า มันก็น่ารักดีนะ อยู่ในถ้วยกลมๆ เหมือนขนมถ้วย เนื้อข้างนอกเป็นสีฟ้ามีเนื้อสีเหลืองกลมๆ ตรงกลางอีก เจ้าของร้านบอกว่าอันนี้เรียกบุหลันดั้นเมฆ (แปลว่าพระจันอยู่ในเมฆล่ะ) ชื่อเพราะเชียว มีขายเป็นเซ็ตพร้อมกับขนมลืมกลืนที่น่ากินไม่แพ้กัน มีน้ำชาให้กินแกล้มกันด้วย น่ารักสุดๆ

    บรรยากาศน่ารัก
    มีที่นั่งแบบหย่อนขาได้ด้วย
    บุหลันดั้นเมฆกับลืมกลืน

    หลังจากสุขสบายอิ่มท้องกันไปแล้วก็ได้เวลาไปหาพี่เอ๊ะแล้วจ้า งานคราวนี้จัดที่ห้าง Terminal (ที่ไม่ได้อยู่ที่อโศก) เป็นงานอีเวนต์หล่อๆ อีกแล้ว

    คนเยอะเลย ประทับใจจริงๆ

    เราจบทริปนี้กันอย่างเหนื่อยอ่อน ตั้งใจไว้ว่าทริปหน้าจะใช้เวลามากกว่านี้จะได้เที่ยวให้ทั่วเลย



    ป.ล. เพราะเป็นทริปสั้นๆ เราว่าเพลงนี้เหมาะกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นในระยะเวลาไม่นาน แต่ติดตรึงอยู่ในใจ

    - ระหว่างเราสองคน -





เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in