เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ว่าด้วยภาพยนตร์ในดวงใจOcean and us
1 : After the storm (2016)
  • เขียนเอาไว้บอกตัวเองว่าเคยดูภาพยนตร์เหล่านี้
    อยากลองทำเป็น challenge เหมือนกันนะ แต่คงเป็นระยะยาว...
    เพราะคิดว่าต่อจากนี้คงไม่น่ามีเวลาเหลือเฟือเหมือนกับตอนนี้แน่นอน
    จริงแล้ว ภาพยนตร์จากประเทศญี่ปุ่นเรื่องราวที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวนั้นมีเยอะมาก เสียแต่ว่าเราไม่ค่อยได้เลือกหยิบมาดูเท่าไหร่นัก นอกเหนือจากไปหาเจอตามเว็บหนังโดยพลการ ไม่ก็มีพี่ชายหรือคนใกล้ตัวแนะนำมา ที่ชอบเลยคือ Like Father, Like Son จำได้ว่าเรื่องนี้ดูคนเดียวภายในโรงลิโด้เนื่องมาจากรางวัลที่การันตรีอยู่บริเวณหน้าปก และเรื่องล่าสุดที่เราเพิ่งดูเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาที่ผ่านมาก็คือเรื่อง After the storm (2016)

    หลายคนก็พอจะเดาได้ว่าพายุในที่นี้นั้นก็เปรียบเหมือนกับมรสุมที่เข้ามาในชีวิตของคนในครอบครัวและ เรียวตะ ชายวัยกลางคนมีหน้าที่เป็นพ่อและอาชีพของเขาก็คือนักสืบ ที่ไปกลับระหว่างอพาร์ทเม้นต์ของตนและของแม่ อาชีพที่อยากเป็นจริงจังแล้วคือนักเขียนเคยมีผลงานที่ได้รางวัลอยู่ อีกอาชีพคือนักสืบพวกเรื่องชู้สาว เรียวตะหาลำไพ่พิเศษจากการแลกข้อเสนอกับลูกค้าอยู่บ่อยครั้ง แต่เงินที่ได้ก็มักหมดไปกับการพนัน สิ่งที่เขาชอบมากคือการเสี่ยงโชคไม่ว่าจะกับหวยหรือว่าการพนัน (การแข่งม้า)
    คนที่ 2 ภรรยาเก่าของเรียวตะก็คือ เคียวโกะ หญิงสาวที่กำลังจะเริ่มการตั้งต้นครอบครัวใหม่กับผู้ชายที่รู้จัก ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาขับเคลื่อนไปอย่างไม่รีบร้อน โดยที่มี ชินโกะ ลูกชายของเรียวตะและเคียวโกะรับรู้อยู่ตลอดในระยะเวลาของความสัมพันธ์  และนักแสดงอีกคนที่เราชอบเอามากๆ เรียกว่าเป็นตัวละครที่เราชอบที่สุดเลยก็ว่าได้ก็คือคุณย่าโยชิโกะ เพราะคุณย่าเลยมีช่วงที่ทำให้คนในโรงขำและยิ้มกันอยู่หลายซีน เหมือนดูแล้วก็ทำให้คิดถึงคนที่บ้าน วิถีชีวิตของคุณย่าที่น่ารักเอามากๆ หญิงชราที่ต้องอยู่ตัวคนเดียวหลังจากที่สามีเสียชีวิตไป แต่ทำไมกลับมีความสุขได้ขนาดนี้

    ชินโกะถูกเลี้ยงดูและอาศัยอยู่กับเคียวโกะ มีเพียงเดือนละครั้งเท่านั้นที่ชินโกะจะได้เจอเรียวตะ และข้อตกลงระหว่างคนเป็นพ่อแม่ก็คือ เรียวตะต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูให้ภรรยาเดือนละ 3 แสนเยน เรียวตะอาจมีขาดตกบกพร่องอยู่บ่อยครั้ง มีความล่าช้าในการจ่ายค่าเลี้ยงดู แต่เขาก็ไม่ลดละความพยายามเรียวตะเลยมักฝากความหวังไว้กับการเสี่ยงโชคที่ก้าวไปก่อนหน้า ไม่ก็จากการหยิบยืมเงินจากเพื่อนร่วมงานรุ่นน้อง

    ตลอดเวลาของชินโกะมีคุณย่าเป็นฮีโร่ เป็นต้นแบบ และนี่ก็เป็นอีกสิ่งที่ทำให้เรียวตะได้เจอชินโกะอยู่บ่อยครั้งเมื่อหลานชายดีใจทุกครั้งที่ได้ไปบ้านคุณย่า เป็นวันเดียวกับที่อุตุนิยมประกาศว่าจะมีพายุเข้าในคืนนั้น เหมือนทุกอย่างเรียวตะได้คลาดการเอาไว้อยู่แล้ว เคียวโกะเดินทางมาบ้านของแม่สามีเพื่อรับชินโกะกลับบ้าน แต่ก็ถูกโน้มน้าวเอาไว้ว่าพายุกำลังจะมาให้พักอยู่ที่นี่ก่อน แล้วเช้าวันรุ่งขึ้นค่อยกลับ เคียวโกะยอมอย่างว่าง่าย เหมือนคุณย่าได้เห็นภาพเดิมของครอบครัวนี้อีกครั้ง พ่อ แม่ และลูก แต่เรื่องความรู้สึกของเคียวโกะคงไม่กลับไปเป็นแบบเดิมได้อีกแล้ว สำหรับเรา เราคิดว่าอาจเป็นเพราะเคียวโกะเบื่อหน่ายกับความไม่เอาไหน การกระทำที่ไม่รู้จักโตของสามีเก่าตัวเองเท่าไหร่นัก เลยคิดว่าก็ไม่ผิดที่ผู้หญิงคนนี้อยากจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อชีวิตที่ดีกว่าของเธอกับชินโกะ ยิ่งหลังจากพบว่าเรียวสอนให้ชินโกะซื้อลอตเตอร์รี่ด้วยแล้วเธอยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ คงเพราะไม่อยากให้ลูกชายฝากความหวังไว้กับการเสี่ยงโชคแบบสามีเก่าของตนเอง
    ระหว่างนั่งดูที่เราหงุดหงิดอยู่อย่างก็คือ พฤติกรรมของเรียวตะ ความไม่เอาไหนไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่เรื่องการเอาเปรียบคนในครอบครัวด้วยกันเองดูเป็นเรื่องที่แสนจะปกติสำหรับผู้ชายคนนี้เลยก็ว่าได้ (แต่ที่ทำก็เพื่อหาเงินไปเป็นค่าเลี้ยงดูในชินโกะ แต่ดูมักง่ายไปหน่อยเท่านั้นแหละ) การที่พยายามขโมยเงินของแม่ตัวเองทุกครั้งที่กลับมาบ้าน เจออะไรที่ขายได้ก็จะเอาไปขายลูกเดียว แม้ว่าสิ่งนั้นมีคุณค่าทางจิตใจของแม่ตนเองหรือไม่ก็ตาม (คืออะไรลองไปดู) ความเอาเปรียบอีกอย่างก็คือการที่เรียวตะเอาเรื่องในครอบครัวไปเขียนเป็นหนังสือ ทำให้พี่สาวของเขาต่อว่าไประหว่างที่ได้เจอกัน แต่ที่เราชอบก็คือเรียวตะรักชินโกะมาก กับลูกเขาก็ให้เต็มร้อยเสมอ 

    เราชอบที่หนังเรื่องนี้เล่าโดยใช้สูตรความรักที่ไม่สมบูรณ์ ก็เหมือนที่บอกคนเราอยากมีอนาคตที่ดีขึ้นอยู่แล้ว ยิ่งเคียวโกะที่มีลูกชายเธอก็อยากปูทางที่ดีที่สุดเอาไว้ให้ชินโกะ พายุที่เข้ามาภายในค่ำคืนนั้นสุดท้ายแล้วก็ต้องผ่านไป เพียงแค่ท้องฟ้าหลังจากนั้นไม่ได้สวยเหมือนที่วาดไว้ก็เท่านั้น ทั้งเรียวตะและเคียวโกะก็ยังต้องดำเนินชีวิตของทั้งคู่ต่อไป

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in