เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
[FIC HP] Killed by My Grace [JPxSB]Pettes
Killed by My Grace


  •  

     

    ซิเรียสไม่เข้าใจว่าเขาทนมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไร

     

    นั่นล่ะ สิ่งนั้น บางทีมันอาจจะเป็นความสำนึกผิดก็เป็นได้ วันคืนที่ต้องนั่งจับเจ่าอยู่ในอัซคาบันทำให้สมองเขาเน่าเปื่อยและชินชา ซิเรียสจำได้ว่าเขาใช้เล็บขูดขีดผนังเป็นเส้นๆอยู่ทุกครั้งที่มีอาหารเข้ามาประทังชีวิต

     

    เขาทำอย่างนี้ทุกวัน นับตั้งแต่วันที่เจมส์ตาย

     

    แม้กระทั่งตอนที่หลบหนีออกมา ซิเรียสยังอดไม่ได้ที่จะขีดวันที่ไปเรื่อย บางครั้งตอนที่ซ่อนตัวอยู่ เขาก็ทำบัคบีคหงุดหงิดเพราะเสียงกรีดแหลมของก้อนหินและผนังปูนไปกระทบประสาทสัมผัสอันบอบบางของมันเข้า

     

    ซิเรียสแอบนึกขอโทษบัคบีคอยู่ในใจ เขานึกสงสัย—และหวาดกลัวต่อความผิดปกติของตนเองข้อนี้อยู่เหมือนกัน แต่นั่นละ เขาหยุดไม่ได้ หยุดไม่ได้จริงๆ

     

    เขาหยุดนับไม่ได้ว่าเจมส์ตายไปนานเท่าไหร่แล้ว พอมานึกถึงข้อนี้แล้วก็ตกใจเหมือนกัน เจมส์ตายไปนานกว่าสิบกว่าปี ทุกครั้งที่เขาเห็นแฮร์รี่ ซิเรียสอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเจมส์

     

    ความโหยหาอ้างวางยังคงเป็นสิ่งแรกที่พุ่งขึ้นมาในใจของซิเรียส

     

    เขาขยับยิ้ม

     

    แต่เป็นรอยยิ้มบิดเบี้ยวขื่นขมเหลือประมาณ

     

    +++

     

    ซิเรียสยังจำครั้งแรกได้  วันนั้นที่เขาพาเอเมอลีน วัตสันเข้ามาในหอนอนกริฟฟินดอร์

     

    เขาถอดเสื้อผ้าหล่อนไปครึ่งตัว นาทีเดียวกับที่เจมส์เปิดผ้าม่านเข้ามา ทั้งสามสายตาชะงักกึก แล้วเอเมอลีนก็กรีดเสียงร้องใส่เจมส์ ซิเรียสจำได้ว่าเขาตัวชาวาบไปทั้งตัว รู้สึกผิดขึ้นมาทั้งๆที่ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน

     

     “โอ๊ย เท้าปุย!” เจมส์พูดด้วยน้ำเสียงรำคาญ “ทีหลังอย่ามาเอาผู้หญิงบนเตียงฉันอีกนะ”

     

     แล้วเจมส์ก็รูดผ้าม่านปิด ไม่ลืมหยิบตำราปรุงยาที่ซุกอยู่ข้างหมอนออกไปด้วย

     

    ซิเรียสเพียงแต่จ้องมองออกไป เขาแทบไม่รู้สึกถึงปลายนิ้วเย้ายวนของเอเมอลีนที่ไล้อยู่ตรงขอบกางเกง

     

    เขารู้สึกแย่มากๆ  เมื่อนึกถึงสายตาของเจมส์ที่มองมา

     

    ++

     

    ซิเรียสจำครั้งที่สองได้ ตอนที่เขาวิ่งไล่เจ้าสนิฟเวลลัสไปตามทางเดิน

     

    เขาเห็นใบหน้าของสลิธีรินนั่นเงยขึ้นมามองเขา ใบหน้าขาวซีดเลอะเปรอะไปด้วยคราบงูบูมซะแลงและหยาดน้ำตา  มือของสเนปกำชายเสื้อคลุมตัวเองไว้แน่น เส้นผมสีดำมันเยิ้มนั้นยุ่งเหยิง มีวี่แววคั่งแค้นเปล่งประกายในดวงตาสีดำสนิทคู่นั้น

     

    ซิเรียสไม่ชอบให้ใครมามองเขาด้วยสายตาแบบนั้นเสียเลย สายตาสเนปเหมือนเรกูลัสเกินไป เหมือนตอนที่เรกูลัสตัดสินใจว่าเขาไม่ใช่พี่ชายที่ดีอีกต่อไป

     

    เขายกไม้กายสิทธิ์ขึ้น เตรียมจะสาปสเนปให้ลิ้นหายไปเสียเลย แต่มือของเจมส์เอื้อมมาจับมือเขาไว้

     

    “อย่า ซิเรียส” น้ำคำเน้นหนัก แฝงด้วยความไม่พอใจแบบเปิดเผย และซิเรียสรู้สึกเหมือนเขาถูกทรยศ

     

    “ทำไมล่ะเจมส์!?” ซิเรียสอาจจะพูดออกไป หรือแค่คิดอยู่ในใจ เขาไม่มีทางรู้ แต่เขานัยน์ตาของเจมส์กระด้างขึ้น

     

    “ฉันไม่อยากให้ลิลี่เห็นว่าฉันเป็นเพื่อนกับคนไม่ดี หมายถึง นายทำตัวค่อนข้างจะ…” เจมส์ลังเล “นายต้องเข้าใจนะว่าฉันจีบหล่อนอยู่น่ะพวก อีกอย่าง การแกล้งสนิฟเวลลัสมันก็ไม่ใช่เรื่องสนุกอะไรขนาดนั้น นายน่ะ โตเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว”

     

    ซิเรียสรู้สึกผิดหวัง

     

    เขาไม่อยากเป็นผู้ใหญ่ แต่ถ้าเพื่อเจมส์แล้ว เขาจะทำ

     

    +++

    ครั้งที่สามยังสดใหม่ เหมือนมันเพิ่งเกิดเมื่อวาน ซิเรียสยังฝันถึงมันอยู่แทบทุกคืน

     

    เจมส์มองหน้าเขาแล้วส่งยิ้มให้ พร้อมกับลิลี่ เธออุ้มแฮร์รี่ไว้ในวงแขน ก่อนเอื้อมมือมาแตะไหล่เขา

     

     “ซิเรียส ฉันอยากให้นายเป็นผู้รักษาความลับของเรา”

     

     หัวใจของซิเรียสพองโตด้วยความภาคภูมิใจ เขาจับมือของเจมส์แน่น ก่อนจะถาม “นายพูดจริงงั้นเหรอ! เจมส์ ลิลี่! ฉันดีใจที่สุดเลย”

     

      เจมส์หัวเราะเริงร่า ใบหน้าคมสันเปล่งประกายอยู่ในแสงแดด แล้วซิเรียสรู้สึกเหมือนเขาจะหยุดหายใจ

     

     “แน่นอน นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน ไม่วางใจนายแล้วจะเชื่อใครได้กันล่ะ!”

     

    บางอย่างเสียดแทงเข้ามาในอก ฉุดดึงสติของซิเรียสให้หลุดพ้นจากความปลื้มปิตี เขามองหน้าคู่สามีภรรยาพอตเตอร์ ก่อนที่แผนบางอย่างจะเริ่มปรากฏอยู่ในหัว

     

    “เฮ้ เจมส์… ฉันมีแผนให้นายรู้แหละ เกี่ยวกับปีเตอร์ไง”

     

     “เราสลับตัวกัน…”

     

      “ทีนี้ก็จะไม่มีใครสงสัย…”

     

      ซิเรียสอธิบายแผนของเขา ในขณะที่ทั้งเจมส์และลิลี่ต่างนั่งฟังด้วยความตั้งใจ จนจบ ซิเรียสก็ส่งยิ้มกว้างให้  ใบหน้าของเจมส์สว่างขึ้น “นายฉลาดมากเท้าปุย นี่เป็นแผนที่แยบยลสุดยอดไปเลย”

     

     ซิเรียสยิ้ม รู้สึกความร้อนแล่นฉิวขึ้นมาที่ใบหน้า

     เขาไม่รู้เลยว่าเรื่องราวมันจะดำเนินไปในทางไหนกัน.

     

    +++ 

     ในคืนฮัลโลวีน เขาฝัน

     

     ซิเรียสจำได้ว่าเขานอนสะลึมสะลืออยู่ ความมืดรอบตัวโรยตัวลงมาเสียสนิท แลเห็นเพียงเงาตะคุ่มๆของเสียงของรอบด้าน อากาศยิ่งทวีความหนาวจัดเสียจนซิเรียสต้องดึงผ้าห่มขึ้นมาให้แนบตัวมากขึ้น

     

     เขาคิดในใจว่าห้องพักในร้านหัวหมูไม่น่าจะเย็นขนาดนี้เลย

     

     ฉับพลัน เขารู้สึกถึงแรงแตะเบาๆที่ไหล่ ซิเรียสขมวดคิ้ว หรี่ตาข้างหนึ่งผ่านแพขนตาอย่างสะลึมสะลือ นึกงุนงันว่าเขาอุปาทานไปหรือไร

     ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น

     

      แต่สัมผัสแผ่วจางนั้นยังไม่หยุด มันคล้ายคลึงกับปลายนิ้วของใครบางคนกำลังลูบผ่านเส้นผมของเขา ก่อนจะเลื่อนมาที่โครงหน้า เป็นสายลมเย็นยะเยือกที่แฝงด้วยความอาวรณ์อย่างประหลาด

     

     และอะไรบางอย่าง ทำให้ซิเรียสหลุดพึมพำไปเบาๆว่า

     

    เจมส์?”

     

     สัมผัสนั่นนิ่งสนิท ก่อนที่ซิเรียสจะตกสู่นิทรารมณ์อีกรอบ ลมเย็นเยือกนั้นก็เคลื่อนมาที่ริมฝีปาก กดจุมพิตประทับลงแผ่วเบา

     

     ราวกับมีน้ำแข็งเย็นจัดและไฟร้อนผ่าวแตะต้องลงมา มันรู้สึกดีเหลือเกิน

     

     ซิเรียสพริ้มตาหลับลง

     

     ในหูของเขาเหมือนมีเสียงหวีดหวิวที่แว่วมาจากที่อันไกลแสนไกล ราวกับเสียงพายุพัดผ่านกิ่งผอมบางของต้นวิลโลว์ในฤดูฝนมืดทึม

     

     

    เท้าปุย

     

     

     คล้ายกับได้ยินเสียงลมหายใจแผ่วจาง ปลดปล่อยอย่างเนิ่นนาน ราวกับเฮือกสุดท้ายของบุรุษในสมรภูมิ

     

     ฉัน

     

     

     ซิเรียสสะดุ้งตื่น

     

     และด้วยท่อนขาที่สั่นระริก เขารีบสวมเสื้อคลุมและตรงดิ่งไปยังบ้านของตระกูลพอตเตอร์

     

     

    เพียงเพื่อที่จะพบกับจุดสิ้นสุดของโลก





Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in