เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ในห้องนอนสีขาวและห้องน้ำสีชมพูLabelle Bunyavee
เล่มที่5 Eleven Minutes


  • การเล่าเรื่องเซ็กซ์ที่ ชัดเจน ลึกซึ้ง ละเอียดอ่อน และเป็นธรรมชาติ คือนิยามของเรื่องนี้


    11 นาที เราเห็นเล่มนี้ที่งานสัปดาห์หนังสือ ปี59 แต่ก็ยังไม่ตัดสินใจซื้อด้วยเนื้อหาที่คิดว่าน่าจะหนักหน่วง เลยละไว้ก่อนแต่ชื่อนี่ติดอยู่ในใจมาก จนผ่านมาปี 61 พออยากอ่านก็หายากเหลือเกิน จนไปเจออยู่ที่คิโนะ เลยหยิบมาทันที

    เนื้อเรื่องเริ่มต้นด้วย กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เหมือนการเล่านิทานของเจ้าหญิงและเจ้าชาย แต่ประโยคถัดมาคือ มีโสเภณีคนหนึ่งชื่อมาเรีย... หนังสือพาเราไปเห็นจุดเริ่มต้นของเด็กสาว ตั้งแต่รักครั้งแรกที่เธอยังไม่รู้ว่าจะตอบรับความรักอย่างไร จนกระทั้งมันหลุดลอยไป จูบแรกที่เงอะๆงะ การมีเซ็กซ์ครั้งแรกที่ไม่ทำให้เธอรู็สึกดี จนก้าวสู่การทำงานเป็นนักเต้น และจุดเริ่มต้นของอาชีพที่เรียกว่าโสเภณี  

    แทบทุกบทในหนังสือเติมไปด้วยแง่คิดของการมีชีวิต ความรัก และการค้นหาตัวตน เราทุกคนย่อมต้องเคยหลงผิด อาจเพราะเรายังอ่อนเยาว์นัก หรือเพราะเรายังไม่พบความหมายที่แท้จริงของการมีชีวิตอยู่ 

    เปาโล บอกเล่าถึงความกลัวในจิตใจมนุษย์ความขลาดและความไม่มั่นใจของผู้ชาย ที่มาเรียได้พบเจอผ่านการมีเซ็กซ์กับลูกค้าของเธอ ในขณะเดียวกันเธอก็พบว่าเธอกลายเป็นคนชินชา ไร้ซึ้งความรัก สิ้นหวัง เธอไม่เข้าใจถึงสาเหตุของทางที่เธอเลือกเดิน และก็มักจะหาเหตุผลดีๆมารองรับ

    เราทึ่งและชื่นชมกับความคิดของมาเรีย ที่แม้ในจุดที่เธอยืนอยู่จะไม่ดีเท่าไหร่และเธอดูเหมือนจะสิ้นหวังในการมีชีวิตด้วยซ้ำ แต่เธอไม่เคยหยุดตัวเองเลย เธอเรียน อ่านหนังสือและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพื่อเป็นโสเภณีทีี่ดีที่สุด (เพราะนั้นจะทำให้เธอได้เงินในกระเป๋าเพิ่มในเวลาอันสั้นและจะได้หลุดออกจากที่นี่) ประมาณว่าถึงไม่ชอบแต่ก็จะทำให้ดีที่สุด เป็นแง่คิดที่ดีในการทำงานเลยนะ

    เธอพบว่าลูกค้าบางคนจ่ายเงินเพียงเพื่อต้องการจะพูดหรือเปิดเผยในเรื่องที่ไม่สามารถจะพูดกับภรรยาของตน เธอจึงทำหน้าที่นั้นเป็นทั้งแม่ เพื่อน ครูและโสเภณี แล้วแต่ว่าลูกค้าต้องการให้เธอรับบทบาทไหน

    เธอมีเป้าหมาย ที่หวังว่าจะหยุดกับอาชีพที่ทำอยู่เมื่อเก็บเงินได้เยอะพอที่จะกลับไปยังบราซิล ซื้อฟาร์มให้พ่อแม่ และใช้ชีวิตอย่างสบายโดยไม่มีใครหัวเราะเยาะ  แต่เมื่อไหร่กันหล่ะ กลิ่นเงินมันช่างหอมนัก จนเธอได้เจอกับศิลปินหนุ่มคนหนึ่งที่สอนให้เธอเข้าใจในความรัก ความเชื่อใจ การไม่ครอบครอง และที่สำคัญที่สุดคือขีดจำกัดและการเป็นอิสระของจิตใจ เธอได้พบแสงสว่างของการมีชีวิตอีกครั้งและคิดได้ว่ามันถึงจุดสิ้นสุดในอาชีพแล้ว เธอพร้อมแล้วที่จะก้าวต่อไปในชีวิตที่แสงธรรมดา(แม้จะมีช่วงที่เธอลังเลว่าจะเดินไปตามแสงดีไหมก็ตาม ตอนอ่านนี่ลุ้นให้นางเลือกทางถูกสักที)

    11นาที เป็นนิยายที่อ่านสนุกอ่านได้เรื่อยๆแต่ไม่ถึงกับวางไม่ลงนะ เรารู้สึกเหมือนค่อยๆดูการเติมโตของคนคนหนึ่งที่เคยเดินพลาด เป็นเรื่องที่อัดแน่นไปด้วยปรัชญาชีวิต ยอมรับเลยส่วนตัวว่าอ่านยากเหมือนกันนะเหมือนอ่านบางประโยคแล้วต้องตีความต่อ แต่ในช่วงตอนจบนี่ดี ยิ้มน้ำตาซึมให้กับมาเรียที่ได้เจอแสงสว่างสักที (จริงๆคือดีใจที่อ่านจบสักที ฮ่าฮ่า)

    ปล. ไม่ใช่หนังสือที่มีฉากหวือหวาใดๆ อย่าคาดหวังว่าจะได้อ่านฉากอย่างนั้น
    ปล.2 ความหมายของ11นาที คืออะไร ถ้าอยากรู้แนะนำให้ไปอ่าน 

    ถ้ามีหนังสือเริ่มไหนอยากแนะนำให้เราลองอ่านก็พิมพ์มาพูดคุยกันได้นะ หรือถ้าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยตรงไหนก็คอมเม้นท์ได้เลย 




เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in