เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Alive : ฆ่า(ข้า) ต้อง รอด !NO.W
ตอนที่ 23 : ช่วงชิง
  • ……….

     

    ตอนที่ 23 : ช่วงชิง

     

    “รู้สึกทางนั้นก็ไม่ค่อยต่างจากเราเท่าไหร่”  อ๋องบอกเปา

    “เจคมันไหวอยู่แล้วล่ะน่า แต่ไอเอิร์นเนี่ยสิ มันจะรอดเปล่าก็ไม่รู้”เปาตอบ

     

                ก่อนหน้านี้เมื่อทั้งสามรู้ว่าพวกข้างล่างกำลังจะขึ้นมาเล่นงานพวกตนอ๋องก็รีบกระโดดข้ามมายังตึกอีกตึกหนึ่งที่เป็นอาคารห้องพักเหมือนกันแต่ติดตรงที่เอิร์นไม่สามารถโดดข้ามมาได้ ไม่รู้เป็นเพราะรูปร่างใหญ่ของมันต้องแบกน้ำหนักตัวเยอะหรือไม่กล้าไม่รู้เอิร์นบอกให้ทั้งคู่ลงไปเจอตนข้างล่างแทนก่อนจะวิ่งลับหายไป

    “มันรอดล่ะน่า ใช่ว่ามันอ่อนซะที่ไหน เรามาจัดการปัญหาตรงหน้าก่อนดีกว่า”อ๋องพูด

     

                ตอนนี้ทั้งคู่ต้องฝ่าลงมาเรื่อยๆซึ่งยิ่งลงมาพวกมันก็ยิ่งมากขึ้นและตึงมือขึ้นเท่านั้น ตอนนี้ทั้งอ๋องและเปาต่างติดแหง็กอยู่ห้องโถงใหญ่ที่ตกแต่งด้วยโต๊ะมากมายคงตั้งใจจะจัดงานอะไรสักอย่างก่อนจะเกิดโรคระบาดขึ้น

    “มันต้องมีทางออกอีกทางล่ะน่า” เปาว่าขณะยิงโต้ตอบกับพวกเคลโอที่ยิงมาไม่ขาดสาย

    “ไม่ใช่ว่ามันขวางทางออกเราอยู่รึ” อ๋องถามกลับ

    “นั่นมันทางเข้าต่างหาก มันต้องมีทางออกพนักงานดิ”

    “กูว่าหลังเวทีนั่นน่าจะมี” อ๋องว่าก่อนหันไปทางเวทีที่อยู่ถัดจากพวกตนไปข้างหลัง มันเป็นเวทีไม่ใหญ่มากข้างบนว่างเปล่า

    “แล้วรออะไรล่ะ วิ่งเด้” เปาขว้างระเบิดไปทางที่พวกมันอยู่ก่อนที่ทั้งคู่จะออกวิ่ง 

     

                ตูม ! เสียงระเบิดดังลั่นไปทั้งชั้นได้ยินเสียงพวกมันร้องด้วยความเจ็บปวดอยู่ไกลๆ พวกโต๊ะ เก้าอี้ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ถูกแรงระเบิดทำลายเสียหายกระเด็นไปทั่วสารทิศ

    “โอ๊ย ! อะไรโดนหัวกูวะ”  อ๋องพูดขึ้นเมื่อโดนอะไรสักอย่างกระแทกหัวก่อนจะก้มลงไปเห็นมันเป็นชิ้นส่วนแตกหักของเก้าอี้นั่นเอง

    “ฮ่าๆๆ” เปาหัวเราะอีกไม่กี่เมตรทั้งคู่ก็จะถึงเวทีแล้ว

    “อย่าเห็นมึงโดนมั่งแล้วกันไอเปา”  อ๋องว่าก่อนปีนขึ้นไปบนเวทีตามเปาติดๆ

     

    เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง ทั้งคู่รีบหมอบกับพื้นเวทีโดยไว

     

    “อ้อมไปข้างหลังฉาก” เปาตะโกนแข่งกับเสียงปืนก่อนจะรีบคลานไปอย่างรวดเร็ว เปากระแทกประตูสำหรับเจ้าหน้าที่เปิดออกพร้อมกับร่างทั้งสองที่รีบพรวดเข้าไป

    “นี่เราลงมาถึงชั้น 3 แล้วเหรอเนี่ย” เปาว่าเมื่อเห็นป้ายบอกชั้นอยู่เหนือทางเดิน

    “นั่นดิ ไม่ได้มองเหมือนกัน สับขาวิ่งอย่างเดียวเลย ว่าแต่มึงถามไอเอิร์นดิ๊ว่ามันอยู่ไหนแล้ว”อ๋องบอก ก่อนเปาจะเอามือแตะวิทยุไร้สายตรงหูเพื่อติดต่อ

    “เอิร์น เอิร์น ได้ยินมั้ย ทางนั้นเป็นไงมั่ง”  เปาถาม

    “….” ยังคงไม่มีเสียงตอบมีแต่เสียงคลื่นซ่า

    “อย่าบอกนะว่ามึง...”

     

    “ยังไม่ตาย” เอิร์นตอบกลับด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ ก้มตัวลงดึงด้ามมีดออกจากกลางหน้าอกหนึ่งในชายชุดสูทนับสิบที่นอนแน่นิ่งไร้วิญญาณอยู่บนพื้นปูพรมอย่างดีของโรงแรม

    “พวกมึงเหอะถึงไหนแล้ว นี่กูลงมาถึงชั้นล็อบบี้แล้วนา” เอิร์นว่า

    “ตลกน่า” อ๋องพูดแทรกขึ้น

    “รีบๆลงมาเลย เจอกันตรงรถพวกมันนั้นแหละ แค่นี้นะ” เอิร์นพูดเสร็จก็ตัดสายทันทีก้มอีกครั้งเพื่อหยิบปืนสั้นข้างๆ ร่างไร้วิญญาณของพวกมัน

    “โอย เหนื่อยเป็นบ้าเลยว่ะ” เอิร์นบ่นขณะเดินตรงไปยังประตูกระจกของโรงแรมที่ตอนนี้แตกละเอียดจนเดินทะลุได้สบายๆพลางมองไปยังรถตู้ที่พวกมันยกขบวนกันมา ซึ่งเอิร์นก็ไม่เห็นพวกมันสักคน คงจะขึ้นไปจัดการเจ้าสองคนนั้นกันหมดแล้วแต่ก็ไม่ประมาท บางทีอาจจะมีพวกมันเฝ้ารถอยู่ก็ได้

     

                เอิร์นค่อยๆ เดินให้เงียบเชียบที่สุดไปยังรถเกราะกันกระสุนเต็มไปด้วยรอยขีดข่วน รวมไปถึงชุดที่มีแต่รอยบาดและขาดจากการต่อสู้ อีกทั้งยังย้อมไปด้วยสีแดงเกือบทั้งตัวที่เป็นเลือดพวกมันและเลือดตนเองยังดีที่ว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนเมื่อออกภาคสนามจะได้ยาระดับกลางคนละสามเม็ดไว้กรณีฉุกเฉินซึ่งเอิร์นก็ได้ใช้มันจนคุ้มแล้ว

     

                เอิร์นไล่ดูจากคันหลังสุดปรากฏว่าไม่มีพวกมันเหลืออยู่ เลยเดินดูสองคันที่เหลือซึ่งก็ไร้เงาพวกมันเหมือนกัน

     

                เอิร์นใช้ปืนสั้นที่หยิบมายิงกระจกข้างคนขับจนแตกก่อนเอื้อมมือเข้าไปเปิดประตูจากข้างในและปิดประตูเมื่อตนขึ้นเรียบร้อยเอิร์นพาตัวเองไปยังส่วนท้ายรถตู้ พื้นที่สองข้างผนังเป็นอุปกรณ์อาวุธต่างๆแต่เอิร์นไม่สนใจก่อนจะทิ้งตัวลงนอนกับพื้นรถ

    “ขอพักสักหน่อยเหอะ” เอิร์นว่าก่อนขยับท่าทางให้สบายที่สุดพร้อมกับหลับตาลงคลายความเหนื่อยล้าที่ตนเพิ่งจะเจอมา

     

    ..........

     

    “ซุ่มนานรึยังล่ะ” เจ้าคนที่รับกระเป๋าจากเคิร์กไปถามเมื่อเห็นริกพรวดขึ้นมาเอาปืนจ่อตน

    “แกเป็นใคร”  ริกถาม

    “คิดว่าจะรอดมั้ย?” มันไม่ตอบ เปลี่ยนเป็นถามแทน

    “นั่นมันอะไร”  ริกถามถึงแคปซูลในกระเป๋า

    “หลบให้ดีล่ะ” มันไม่ตอบคำถาม

     

                เมื่อมันพูดจบสัญชาตญาณบางอย่างในตัวบอกให้ริกรีบกระโจนออกจากตรงนั้นพร้อมกับหมอบลงทันทีและมันก็ถูกเสียด้วยเมื่อเกิดเสียงปืนดังขึ้นทำเอาก้อนกรวดตรงนั้นแตกกระเด็น

    “ออกรถ” คนหัวหน้าตะโกนสั่งลูกน้อง

     

                ริกไม่ปล่อยพวกมันหลุดมือรีบลุกขึ้นออกวิ่งตามรถไปติดๆ พร้อมกับเล็งปืนพกในมือลั่นกระสุนทะลุกระจกหลังรถฮัมวี่เข้ากลางหลังหัวคนขับเต็มๆตัวรถหมุนคว้างทันทีเมื่อไม่มีคนบังคับทิศทางก่อนหมุนหนึ่งตลบกับพื้นป่าและหงายท้องในที่สุด

     

                ริกรีบวิ่งให้ถึงตัวรถก่อนที่พวกลูกน้องมันจะมาช่วยทันเขาจัดการปลิดชีพคนที่อยู่เบาะหลังก่อนจะหยิบเอาประเป๋าขึ้นมา

    “แย่ว่ะ รถฮัมวี่แต่กระจกธรรมดาเนี่ย”  ริกบอกเจ้าหัวหน้าที่พยายามหาปืนตัวเองอยู่แต่ในสภาพกลับหัวคงลำบากสักหน่อยก่อนจะจัดการปลิดชีพไปอีกคนพร้อมกับหันหลังวิ่งกลับ

     

    ปัง ! เสียงปืนดังขึ้นพร้อมๆ กับพื้นข้างๆ ตนที่โดนกราดยิงโชคดีที่ไม่โดนเข้า

     

    “มากันไว้จังวุ้ย”  ริกจำใจเปลี่ยนเส้นทางวิ่งเข้าไปในป่าแทนเพราะวิ่งตรงๆ คงจบชีวิตลงในป่านี่แน่ๆ  แต่เสียงฝีเท้าพวกมันก็ยังคงไล่ตามมาติดๆรวมทั้งเสียงเจ้ารถฮัมวี่ที่บุกตะลุยเข้ามาในป่าด้วยเหมือนกัน

    “หาเรื่องตายแท้ๆ ไอริกเอ้ย” ริกพูดกับตัวเองขณะก้มหลบกิ่งไม้ที่ขวางทางยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนกำลังวิ่งไปทางไหนแต่คงอยู่ไม่ไกลจากฐานเท่าไหร่หรอก

    “นอร่า นอร่า !”  ริกตะโกนเรียกนอร่าผ่านวิทยุไร้สาย

    “นี่นายอยู่ไหนฮะ ฉันหา...” นอร่าตอบกลับทันที

    “คุมตัวเคิร์กเดี๋ยวนี้ ! หมอนั่นเพิ่งส่งมอบแคปซูลบางอย่างให้พวกเคลโอไป”ริกพูดไปหอบไป

    “นี่นายอยู่ไหน ทำไมมีเสียงปืนด้วย” นอร่าถามเริ่มกระวนกระวายเมื่อได้ยินเสียงปืน

    “ฉันเพิ่งชิงเอาแคปซูลกลับมาน่ะ กำลังหนีพวกมันอยู่”

    “ไปจับเคิร์กก่อนไป อ้าก !” ริกพูดยังไม่ทันจบก็ร้องขึ้น

    “ริก ! ริก ! บ้าจริง !”นอร่าตะโกนเรียกแต่ดูเหมือนสัญญาณจะหายไปแล้ว นอร่ารีบออกหาเคิร์กตามที่ริกบอกทันทีเธอวิ่งไปยังห้องแล็บของเคิร์กก่อนเป็นอันดับแรก

     

    ..........

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in