“ใครเสี่ยงทายได้ใบนี้

ระวังมิตรภาพข้างกายจะหลุดลอย”

รูปภาพนี้ เมื่อเราจับเซียมซีได้เบอร์ที่ ๑๐

“เมื่อโลกนี้ ไร้ซึ่ง มิตรภาพ

ไร้ความราบ รื่นใน ชีวิตนี้

คนจะดี ต้องมี มิตรดี

พาเราหนี ไม่ดี ออกไปได้”

รูปภาพนี้ หนังสือของนักเขียนท่านนี้คือ เจ้าหนูขลุ่ยผิว

     เราไม่สามารถค้นหาว่า นักเขียนท่านนี้หน้าตาเป็นอย่างไร แต่เราไปอ่านจนค้นพบว่า นักเขียนท่านนี้เขียนหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่ได้รางวัลเหมือนกัน แต่เราไม่เคยอ่าน เพราะไม่สามารถหาซื้อได้แล้วค่ะ

รูปภาพนี้ หนังสือเรื่องนี้ (อีกหน้าปกหนึ่ง) ???

     หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือเล่มบางที่ไม่ได้เหมาะกับทาสแมวเท่าไหร่ เพราะว่า เรื่องนี้ไม่ได้ลงรายละเอียดถึงแมว แต่มีการกล่าวถึงว่า ถ้าหากวันหนึ่ง

“สัตว์เลี้ยงหน้าขน ตัวนิ่มตัวนี้

ที่แสนจะยโสไม่ได้อยู่กับเราแล้ว

โลกนี้คงเหงาน่าดู

เพราะไม่มีใครเป็นมิตรดีเท่ากับแมว”

     แมวเป็นสัตว์ที่ไม่เหมือนหมา เพราะเเมวเป็นสัตว์ที่มีโลกส่วนตัวสูงในแบบฉบับของมัน แต่ถ้าบอกว่า แมวมันก็รู้จักว่าใครเป็นมิตรและไม่เป็นมิตรเช่นเดียวกับหมา นั้นคงเป็นเรื่องที่ไม่กล่าวเกินจริงเกินไป

รูปภาพนี้ หนังสือของสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์

“นายจุกจอมฟันเฝื่อง”

ฉายาของตัวเอกในเรื่อง

     ตัวเอกในเรื่องเป็นเด็กชายที่รักแมวมาก และครอบครัวเป็นครอบครัวที่รักแมว แถมเลี้ยงแมวถึง ๙ ตัวในบ้าน และแล้ววันหนึ่ง วันที่ไม่น่ามีอะไร เด็กชายคนนี้ดันเห็นจานบิน

     เมื่อจานบินมาแล้ว เด็กชายก็พบว่า มีร้านขายของสารพัดนึกมาเปิดในสถานที่ๆไหนก็ได้ สถานที่ๆหากคนขายอนุญาตให้เห็นก็จะเห็น และวันหนึ่ง เด็กชายก็ได้เห็นร้านนั้น

รูปภาพนี้ วันที่โลกไร้แมว พวกเราทุกคนคงเสียใจ

     เด็กชายเข้าไปในร้านนั้น และพบกับเจ้าของคือ คุณสมชาย คุณสมชายสอบถามเด็กว่า อยากได้ของไหม ขอเพียงแค่แลกกับแมว เด็กก็จะได้ของเหล่านี้ เด็กเข้าใจว่า คงแลกแมวแค่ตัวเดียวมาเลี้ยงก็ไม่น่าเป็นอะไร เลยยอมทำตามสัญญา

     แต่อยู่ดีๆทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อแมวหายไปจากโลกนี้ พร้อมกับความทรงจำของทุกคนต่อแมวก็หายไป ทุกคนจำไม่ได้ว่า แมวคืออะไรและหน้าตาเป็นแบบไหน 

รูปภาพนี้ จานบินมาแล้ว

     เหลือเพียงแค่เด็กชายตัวเอก เบิ้มและหนูหวานเท่านั้นที่จำได้ว่า แมวคืออะไร และเด็กทั้งสามก็ได้พบกับนาพา มนุษย์ต่างดาวที่เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังว่า เนื่องจาก สมชายคือมนุษย์ต่างดาวผู้หนึ่งที่ชอบทำการค้าระหว่างดวงดาว

     และสมชายนี่เองที่เป็นวายร้ายจอมขโมย และลักพาตัวแมวไปขายยังดินแดนในโลกต่างๆที่ยังไม่มีสิ่งมีชีวิตและต้องการแมว ซึ่งทุกคนร่วมกับนาพาเพื่อเผชิญหน้ากับสมชาย

รูปภาพนี้ แมวในอิริยาบถอื่นๆ

     “และเเล้ว อยู่ดีๆก็มีเด็กมาเรียกเด็กทั้งสามไปดูสัตว์ตัวนี้ที่มีชื่อว่า แมว และเด็กทั้งสามก็พบว่า หมอได้ช่วยแมวของบ้านเด็กตัวเอกในเรื่องไว้ โดยที่หมอบอกว่า วันนั้น เจ้าแมวเหล่านั้นได้หนีจานบินมาขอความช่วยเหลือ

     หมอพาแมวไปหลบและให้ความช่วยเหลือได้อยู่หลายตัว ซึ่งเรื่องราวในอดีตของทุกคนก็ถูกเปิดเผย ตรงที่ว่า ทุกคนเคยเจอร้านขายของสารพัดนึกและทำสัญญาขายแมวแลกของมีค่ากันทั้งนั้น

     แต่เมื่อทุกคนเข้าใจกันและกันแล้ว ถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจจัดการขั้นเด็ดขาด ซึ่งทั้งเด็ก หมอ ได้ร่วมมือกับนาพา เพื่อจัดการสมชาย แต่ในขณะที่กำลังจะจัดการได้ สมชายก็หนีไป”

รูปภาพนี้ ถ้าไม่มีพวกผม พวกคุณเป็นอย่างไร โปรดตอบ

“เมื่อเราพูดความจริงอยู่นั้น

ความจริงนั้นย่อมเป็นสิ่งไม่ตาย”

     นาพาก็ได้ไปช่วย?ให้กลับคืนมายังโลกมนุษย์และตัวเขาเองก็ขอลาจากไปยังโลกของเขา ซึ่งเขาก็ขอบคุณในมิตรภาพที่มนุษยโลกมีต่อเขาที่เป็นมนุษย์ต่างดาว

     และเราพบว่า แมวนี้คือเป็นแค่ตัวกลางของการดำเนินเรื่องให้จบลง และพบว่า แมวนั้นเป็นสิ่งที่มีคุณค่าในตัวของมัน เราไม่ควรไปให้ค่าของมันเป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยง เพราะมันมีคุณค่ายิ่งกว่านั้น และเรื่องราวทั้งหมดนี้สอนให้รู้ว่า

“คนเราไม่ควรตัดสินคุณค่าของคนอื่น

ด้วยตัวของเราเอง

 ว่ามีคุณค่าหรือไม่มีคุณค่าด้วยประการใด

เพราะแต่ละคนย่อมเห็นคุณค่า

ในสิ่งเหล่านี้แตกต่างกันไป

ดังนั้น คุณค่าในทุกสิ่งมีชีวิตรวมทั้งมนุษย์และสัตว์

ย่อมมีอยู่แล้วในตัวของทั้งเราและมันเองทั้งสิ้น

เพียงแค่เราอย่าไปตัดสินคุณค่านั้น

ของใครด้วยความคิดของเราเลย”

Look A Breathe