เราไม่ได้ดูภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่สนุกขนาดนี้มานานมากแล้ว และเคนโตะเล่นได้อย่างเข้าถึงบทบาทนักทดลอง และน่ารักแถมน่าเอ็นดูอีกต่างหาก โดยเฉพาะ ดูขี้อาย (น่าเอ็นดูมาก) 

     เราได้ไปค้นเรื่องราวมาว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้มาจากหนังสือของชาวต่างชาติ แต่เราไม่เคยอ่านมาก่อนค่ะ ดังนั้น วันนี้ เราขอเล่าถึงภาพยนตร์เรื่องนี้แทนค่ะ

รูปภาพนี้ หนังสือจากเรื่อง The Door into Summer

     ชีวิตของโซอิจิโร่ต้องมีแต่การสูญเสียและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยเริ่มต้น แม่ของเขาได้เสียชีวิตหลังคลอดเขา และเมื่อตอนเขาอายุ 15 ปี พ่อของเขาเสียชีวิต ดังนั้น เขาต้องมาอยู่กับครอบครัวของเพื่อนพ่อ

“อดีตก็เหมือนเช่นปัจจุบัน 

นั้นคือไม่มีที่สิ้นสุด

และดำรงอยู่ในรูปแบบ

ของความเป็นไปได้ต่างๆเท่านั้น”

Stephen W. Hawking

รูปภาพนี้ ภาพยนตร์เรื่อง The Door into Summer

     ครอบครัวของเพื่อนพ่อมีลูกสาวคนหนึ่งชื่อ ริโกะ ซึ่งทั้งโซอิจิโร่และริโกะสนิทกันแบบโซอิจิโร่เป็นพี่ชายที่ดีกับริโกะ (อยากมีพี่ชายแบบนี้) และครอบครัวเพื่อนพ่อเป็นนักวิทยาศาสตร์ ทำการทดลองเกี่ยวกับหุ่นยนต์ในอนาคตว่า มนุษย์กับหุ่นยนต์สามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างผาสุก

“ความจริงในอนาคตจะไม่เปลี่ยน

เมื่อทำอดีตและปัจจุบันดีที่สุด”

เปรียบดั่ง

“ชีวิตของคนเราคือคนนี้

อยู่ที่ปัจจุบันจนอนาคต

ทำให้ดีตั้งแต่อดีตจนไม่ลด

ชีวิตหมดทุกข์ได้รักกัน”

รูปภาพนี้ ยามาซากิ เคนโตะเล่นเป็น โซอิจิโร่

     หลังจากนั้นไม่นาน เพื่อนพ่อเสียชีวิตทั้งคู่ เพราะเครื่องบินตกและทิ้งโซอิจิโร่กับริโกะไว้ โดยริโกะถูกย้ายไปอยู่กับเพื่อนของพ่อเธอ และโซอิจิโร่ก็ตั้งใจทำงานเพื่อทำการทดลองหรือความฝันของพ่อริโกะให้เป็นจริง โดยเขาพยายามทุ่มเทเต็มที่ๆจะทำให้สำเร็จ

รูปภาพนี้ ความน่ารักของคู่พระ-นาง

     โซอิจิโร่เก็บแมวตัวหนึ่งชื่อ พีท มาตั้งแต่เด็กและเลี้ยงมันมาตลอด มันชอบวิ่งหาประตูที่จะสามารถพานำไปสู่ยังฤดูร้อนตลอด (เราคิดว่าคือ คำเปรียบเปรย แบบเหมือนว่า ประตูสู่ฤดูร้อน = ประตูสู่อนาคตที่สดใส) และทั้งโซอิจิโร่และริโกะรักมันทั้งคู่ ซึ่งแมวก็รักทั้งคู่เช่นกัน

     ริโกะแวะมาหาโซอิจิโร่บ่อยๆ โดยความเป็นจริงทั้งสองรักกัน แต่โซอิจิโร่ไม่กล้าที่จะบอกรักริโกะ เพราะกลัวว่า สักวัน ริโกะจะเจอคนที่ดีกว่าตัวเอง

     วันหนึ่ง โซอิจิโร่มารู้ทีหลังว่า แฟนที่ตัวเองคบหาหักหลังตัวเอง โดยขโมยทุกอย่างของตัวเองไปให้คนอื่น ทำให้เขาเสียใจมาก จนตัดสินใจไม่กล้ารับรักริโกะในขณะที่ริโกะบอกรักเขา และตัดสินใจเข้าทดลองหลับเย็น เพื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งในอีก 30 ปี ข้างหน้า เพราะสิ้นหวัง

รูปภาพนี้ ภาพบรรยากาศในหนัง

     และวันนั้นเอง หมอได้คุยกับโซจิโร่ว่า อย่าหลับเย็นเพราะสิ้นหวังแต่ให้ลุกขึ้นมาสู้ โซอิจิโร่ตัดสินใจไม่หลับเย็นแล้ว แต่จะกลับมาสู้อีกครั้ง สู้เพื่อตัวโซอิจิโร่และริโกะ ดังนั้น โซอิจิโร่กลับมาเพื่อมาทวงความยุติธรรม แต่โดนแฟนเก่าของโซอิจิโร่ใช้ยาฉีดและพาเขาเข้าการหลับเย็นในบริษัทของตัวเอง

     โซอิจิโร่ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับความสับสน และเขาเจอแฟนเก่าในสภาพแย่มาก และเริ่มไม่เข้าใจว่า เกิดอะไรขึ้น โซอิจิโร่กับพีทที่เป็นหุ่นยนต์ที่เคียงข้างเขาตัดสินใจที่จะช่วยเหลือกันค้นหาว่า เกิดอะไรขึ้น 

     จนโซอิจิโร่พบว่า ตัวเองในอนาคตพร้อมกับพีทได้เข้าไปช่วยเหลือริโกะและตัวเองในอดีต โดยที่เริ่มต้นจากตัวเขาและพีทได้ไปเปลี่ยนแปลงอดีตให้ถูกต้อง และโซอิจิโร่ก็กลับไปทำการทดลองพีทจนสำเร็จ ไม่เพียงเท่านั้น ยังช่วยริโกะสำเร็จโดยหาครอบครัวใหม่ให้กับเธอ ส่วนทั้งโซอิจิโร่และริโกะก็กลับไปนอนในห้องเย็นและทั้งคู่ก็กลับมารักกัน

     พอเราดูหนังจบ เรารู้สึกซึ้งปนน้ำตา น่ารัก และลุ้นระทึก ตื่นเต้นตลอดเวลา ครั้งแรกเราคิดว่า โซอิจิโร่จะไปช่วยริโกะไม่ทัน แล้วริโกะตายไปแล้วจริงๆ เราแอบน้ำตาไหลเลย และพอทั้งสองมาเจอกันในอนาคต ก็ซึ้งอีกครั้งที่ทั้งคู่จับมือกันและรักกัน เรามีความสุขมาก ฉากที่จับมือ แค่นี้ก็พอแล้ว (เพราะย้อนกลับไป ริโกะ นางเอกของเรื่อง อายุ 19 ปีเองค่ะ) และเมื่อไรที่คนและหุ่นยนต์มีความรักและเอาใจใส่กัน ก็สามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างผาสุก

     ตอนนี้เราสามารถหลุดพ้นจากหนุ่มไคไค (สวีไคเฉิง) ได้แล้ว หลังจากที่มูฟออนไม่ได้สักทีและนั่งดูวนไปวนมาอยู่นานมาก จนกระทั่ง เคนโตะมาเบรกหัวใจรักหนุ่มจีนได้ซักทีค่ะ และไม่เพียงเท่านั้น นาโอฮิโตะ ฟุจิคิในบทหุ่นยนต์พีท ดาราญี่ปุ่นที่ชื่นชอบนานมาก ก็สามารถดึงเรากลับมาได้เช่นกัน

“อยากชวนเพื่อนๆดูค่ะ สนุกมาก

และเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่เคนโตะเล่นดีมาก

เคนโตะกับฟุจิคิเล่นเข้ากันมาก เหมือนเพื่อนรัก

และคุณจะหลงรักเคนโตะอีกเรื่องค่ะ”

Look A Breathe 

(LAB)