เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Look a Breathe (Series 1 - 2)nimon
#141 บุปผชาตแห่งชีวิต (ดอกไม้ในสวน)

  •   

    “ชีวิตของคนเราจะต้องศึกษาค้นหา

    และเรียนรู้อย่างแท้จริง"


     

    เนื้อหาสาระสำคัญในหนังสือ

        “เป็นเรื่องราวที่บอกถึงการใช้ชีวิตด้วยสติปัญญา

    พบเจอแสงสว่างในคุณค่าชีวิตอย่างแท้จริง”


          หนังสือเล่มนี้เริ่มต้นด้วยบทความหลายบทความในการใช้ชีวิตตั้งแต่เริ่มต้นเป็นเด็ก จนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และจวบจนระยะสุดท้ายของชีวิต


            มนุษย์ทุกคน ถ้าเริ่มต้นถูก ทำในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม ฝึกฝนตนเองให้อยู่กับสิ่งที่ดีงาม และเมื่อไร เมื่อนั้น ที่เกิดการเดินทางไปผิดทางหรือหลงผิด ยังสามารถใช้สติและสัมปชัญญะของตัวเอง นำพาตัวเองมาดำเนินเดินทางในทางที่ถูกทางที่ควรได้


            ก่อนอื่นทุกครั้งที่เราดำเนินชีวิต เราควรตั้งคำถามกับชีวิตของตัวเองก่อน ว่า 

            "คุณค่าของชีวิตคืออะไร"

             เพราะ

             "ชีวิตดุจดั่งดอกไม้บาน"

      

    "ตั้งแต่นั้นเป็นกลอนที่เราแต่งขึ้นมาสำหรับเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ค่ะ"


    สาระสำคัญของหนังสือ   

    “ชีวิตเปรียบดั่งดอกแรกแย้ม

    ไม้แซมกลิ่นหอมคะนึงหา

    ชีวิตเราเปรียบดั่งเวลา

    มีทั้งจากทั้งเจอเวียนกัน

    ชีวิตแรกเกิดนั้นดีนัก

    ใครก็ทักว่าน่ารักน่าชังนี้

    ชีวิตถัดไปก็เฉามี

    ตามกาลเวรีที่จากไป

    สุดท้ายชีวิตก็แค่นั้น

    มีเพียงวันเวลาร่วงโรยนี้

    ดอกไม้เหี่ยวยามชีวี

    จากไปนี้จากกันตลอดไป"

    สุขทุกข์เกิดเมื่อแปรผัน             

    ชีวิตนั้นวนเวียนผันแปร

    ทุกวันทุกเวลาเพียงแค่            

    สุดท้ายแคร่หามชีวิตไป

    มีเพียงลมหายใจเข้าออก         

    ดั่งกายลอกออกจากใจนี้

    ชีวิตควรศึกษาสิ่งที่มี    

    ทุกตนนี้รักชีวิตในตนเอง"


    "ชีวิตรักดุจดอกซ่อนกลิ่น

    ซ่อนได้ยินความจริงรับไม่ได้

    ซ่อนรู้สึกนึกคิดกันตามไป

    ซ่อนไม่ได้ก็เจ็บกันจนตาย

    ที่ใดมีรักที่นั้นมีทุกข์                

    รักสุขตัวเองอย่างแข็งขัน

    รักตัวเองมากขึ้นทุกๆวัน           

    ดังนั้นไม่ควรทำผิดศีลธรรม”


    "ชีวิตเปรียบดอกสายหยุด

    กลิ่นหอมฉุดไปเมื่อบ่าย

    ไม่ส่งกลิ่นหอมในยามสาย

    แต่หอมหลายกลิ่นยามเช้า

    เปรียบดั่งคนต้องตื่นมาศึกษา

    ค้นคว้าหาสิ่งใดถูกหรือผิด

    เรียนรู้ทุกๆวันและใกล้ชิด

    รู้ให้มิดไม่ชิดเผยแพร่ไป

    ความรู้ดุจดั่งตาที่ต้องไว

    ส่องไปไหนสังเกตทุกเวหา

    ชีวิตเปรียบนกบินในเวลา

    ทุกกาลามีแต่เรียนรู้เอย"


    "ชีวิตเปรียบดั่งดอกมะลิ

    ความผิดชอบชั่วดีนั้นในจิต

    ส่งผลหอมชื่นใจนั้นไม่มิด

    เมื่อเราคิด พูด ทำดีเอย

    จิตใจสามารถอบรมได้

    ฝึกใจให้มีคุณธรรมอันสูงส่ง

    ชีวิตคนดีดุจดั่งนกหงส์

    สง่าส่งกลิ่นหอมดั่งความดี

    ชีวิตควรดำเนินอย่างช้าๆ

    ใจเย็นบ้างทุกอย่างกระจ่าง

    ทำถนนยังต้องปูเส้นทาง

    เราควรวางใจปล่อยวาง

    ช้าๆได้พร้าเล่มงามนี้

    สมศักดิ์ศรีรอคอยถวิลหา

    ชีวิตนั้นค่อยๆดีตามเวลา

    เราสรรหาชีวิตดีคู่คุณธรรม"


    "ชีวิตเปรียบดั่งดอกบัว

    หนึ่งมัวหลงมัวเมาในชีวิต

    สองไม่หยุดชั่วตามความคิด

    พาชีวิตบัวสองเหล่าจมไป

    สามเริ่มระลึกรู้ชีวิตนี้

    ทำความดีละชั่วไว้ดีกว่า

    สี่ดุจดั่งดอกบัวยามบาน

    เหนือน่านน้ำสิ่งนี้ดีสุดเอย

    ชีวิตเปรียบดั่งดอกพุด

    กลิ่นหอมสุดทุกวันทุกเวลา

    ความดีจะส่งผลเหมือนคาถา

    แกว่งไกวมาเป็นเวทย์อย่างดี

    อดีตคือสิ่งที่ผ่านไปแล้ว

    คงไม่แคล้วชีวีไม่ย้อนกลับ

    อนาคตคือสิ่งไม่หวนลับ

    ปัจจุบันทรัพย์คฤคารเป็นจริง

    จงอยู่กับปัจจุบันและรู้ทัน

    รู้เท่ามันกายจิตแยกจากกัน

    รู้ลงลึกแล้วจะเห็นทัน

    กายจิตนั้นไม่มีดั่งทุกข์สุข"


    "ชีวิตดุจดั่งดอกมหาหงส์

    กลิ่นหอมส่งยามเย็นก็เท่านั้น

    เปรียบบางคนฝึกสมาธิตามแฟชั่น

    ส่งกลิ่นนั้นหอมยามใกล้ไป

    ไม่ศึกษาคำสอนให้รู้จริง

    ศึกษาสิ่งตามกันนั้นคะนึงหา

    ศึกษาไปชีวิตดีฟังตามมา

    รู้ไม่หนานี่ไม่เรียกศึกษาเอย

    ควรศึกษาสมาธิให้รู้ชัด

    ให้มันมัดจิตใจชั่วไม่ออกผล

    มีแต่คุณความดีนั้นส่งตน

    บันดาลดลจิตใจดีทั่วทำนอง

    ไม่มีใครเป็นเจ้าของโลกใบนี้

    ไม่มีๆแม้แต่เป็นเจ้าของใคร

    ทุกสิ่งอย่างต้องคืนโลกไป

    กระทั้งในชีวิตเปลือกสุดท้าย

    ทุกคนต้องนอนลงในโลง

    เดินโหวงเหวงไปในเส้นทาง

    ลงเดินเล่นไปตามฟาง

    พบคนหมางเมินหนีกันทุกคน

    ทุกคนกลัวคนตายกว่าคนเป็น

    ส่งกลิ่นเหม็นไม่จรรโลงใจ

    ชีวิตคนตายเปรียบน้ำใส

    ลอยไปกับสายน้ำไม่หวนคืน"


    "ชีวิตเปรียบดั่งดอกราชาวดี

    คุณธรรมนี้สูงส่งในจิตหนา

    คุณค่าชีวิตคือความดีทำกันมา

    ทุกเวลาไม่ร้างลาแสงสว่าง

    เมื่อไปมืดนั้นจะมีแสงจันทร์ส่อง

    แสงดาวมองส่องจากเวหา

    แสงเดือนบอกเส้นทางทุกเวลา

    ดอกราชาวดีส่งกลิ่นหอยเอย

    อย่าลุ่มหลงในอำนาจวาสนา           

    ตัณหารัดเร้นกายใจหนัก

    อย่ามัวเมาในความสบายสัก

    กลับมักมากด้วยกามารมณ์

    สุดท้ายแล้วไม่เหลือแม้เงาหัว

    และแม้ตัวก็ไม่เหลือสมหมาย

    สุดท้ายแล้วไม่เหลือเลยสักราย

    เหลือเพียงคล้ายคนไม่ใช่คน"


    "ชีวิตเปรียบดั่งดอกประยงค์

    ดมและมองนั้นก็สุขสงบใจ

    เปรียบดั่งคนอยู่เย็นเป็นสุขไป

    ดุจดั่งได้ดื่มผลโอชะอัสดง

    รู้เท่าทันกายใจนั้นเป็นสุข

    รู้ทันทุกข์ไม่ทำผิดคะนึงหา

    รู้ต่อไปรู้ทันสติทุกเวลา

    ไม่มีทางทำผิดได้อีกต่อไป

    หากศีลธรรมนั้นไม่กลับมา

    โลกาจะวินาศในไม่ช้า

    สุดท้ายแล้วชีวิตไม่เหลือคณนา

    โลกกานี้คงวินาศสันตะโร"


    "ชีวิตเปรียบดั่งดอกเบญจมาศ

    ศีลวิปลาสผิดทั้งห้าข้อนี้

    ศีลมีไว้ให้ทำประจำดี

    ศีลธรรมมีทำทุกวันเห็นผล

    ชีวิตใครๆก็รักนั้นอยู่แล้ว

    ไม่ควรแคล้วทำลายให้สิ้น

    ควรเรียนรู้ไว้เป็นอาจิณ

    นั้นไม่สิ้นฆ่าสัตว์ตัดชีวิต

    ของๆใครๆเขารักเขาหวง

    ของนั้นควงไว้ให้เห็นนั้นหนา

    ของๆนั้นไม่ควรไปหยิบมา

    เพราะมันหาใช่ของนั้นไม่จริง

    ผัวเมียใครเขาก็รักไม่ยอมทิ้ง

    ผัวเมียเป็นสิ่งสำคัญนั้นจริง

    ดังนั้นไม่ควรไปพรากสิ่ง

    สำคัญยิ่งในใจทั้งสอง

    คำพูดนั้นเมื่อพูดออกไปแล้ว

    คงไม่แคล้วเป็นนายเรา

    ควรพูดธำรงไว้จริงกับเขา

    สุดท้ายเขาไว้ใจเราตลอดไป

    น้ำเมายาเสพติดไม่ควรยุ่ง

    ควรจะมุ่งละเลิกตลอดเวลา

    เมื่อทำได้ก็จะดีคะนึงหา

    สุดท้ายลาโลกยมบาลชม

    เมื่อรักษาศีลทั้งห้าอยู่เป็นนิจ

    วันละนิดจิตแจ่มใสใจค้นหา

    เรียนรู้ความดีทุกเวลา

    ทุกวันมาพร้อมศีลธรรมคู่ชีวี"



    วาทกรรมคำคมจากหนังสือ

          “ความเที่ยงธรรมเป็นการแสดงของจิตใจที่รักความจริง”

           ทุกคนค้นหาความจริงในชีวิตกันทั้งนั้น และทุกคนชอบเรียกร้องความเที่ยงธรรมและความยุติธรรมกับตัวเองเสมอ แต่สิ่งที่เราแสดงออกนั้นล่ะต่อกับคนอื่น มันคือความเที่ยงธรรมด้วยหรือเปล่า


    ความรู้สึกส่วนตัว

    เรื่องนี้เป็นเล่มสองที่อ่านของอาจารย์ระวี แล้วรู้สึกถึงความเข้มแข็งในใจของเรา ที่เราต้องเข้มแข็ง เบิกบาน และรู้สำนึกผิดชอบชั่วดี เรารู้สึกว่า เข้าใจชีวิตมากขึ้น ชีวิตน้อยๆที่เกิดมาก็มีค่า แต่เราจะทำให้คุณค่าในชีวิตให้มีมากขึ้นกว่าเดิมให้สมกับการเกิดเป็นมนุษย์นั้นควรทำอย่างไร สามารถหาคำตอบได้ในเล่มนี้


    ค้นหาชีวิตของตัวเองในเล่มนี้

    “ใจดวงน้อยเต็มไปด้วยชีวานี้

    ใจนั้นมีความคะนึกคนอง

    ใจนั้นควรเต็มไปด้วยการตรอง

    และครอบครองใจให้ถูกให้ควร"

                        Look a Breathe

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in