เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Look a Breathe (Series 1 - 2)nimon
#134 Mary and the witch’s flower

  •   

    สิ่งที่เราเห็น หลายต่อหลายครั้งก็ลวงตาเรา

    แต่สิ่งที่เรามองไม่เห็น ไม่ใช่ว่า หมายความว่า ไม่มีอยู่จริง เปรียบดั่งการมองเห็นคนหนึ่งคน 

    ไม่สามารถเห็นภายใต้จิตใจของคนนั้นได้” 


    หลายต่อหลายครั้ง เราก็ไม่ต่างจากคนในเรื่องนี้ ครั้งแรกเราก็ยึดมั่นในอุดมคติของเรา ว่า ต้องเป็นแบบนี้ๆ แต่พอมีความอยากได้ (โลภ) อำนาจ (หลง) ไม่พอใจที่ทุกคนไม่เหมือนคนอื่น (โกรธ) ทำให้สิ่งยึดมั่นเปลี่ยนแปลงไป กลายเป็นความผิดพลาด


    เรื่องเริ่มต้น เมื่อแม่มดคนหนึ่ง ผมสีแดง ได้หนีออกมาพร้อมกับดอกไม้แสงประหลาด และหนีมาถึงโลกมนุษย์ ส่วนเนื่องจากพลังประหลาดของดอกไม้นั้นก็แสดงพลังบางอย่างออกมาทั่วทั้งป่า


    แมรี่ตื่นขึ้นมา พร้อมกับเตรียมตัวออกไปข้างนอกและพบกับคุณยาย และเเมรี่ได้ไปคุยเรื่องต้นไม้กับคนแถวบ้านและได้เดินทางตามแมวไป จนไปพบว่า มีดอกไม้ประหลาดส่องแสงไปทั่ว


           และเพราะดอกไม้นี้เลยทำให้แมรี่มีพลังของแม่มด และแมรี่เจอไม้กวาดที่พาตัวเดินทางไปในอาณาจักรแม่มดกับเจ้าแมวดำ พร้อมเริ่มต้นกับการผจญภัย


    สปอยเนื้อหาสำคัญ

    เมื่อแมรี่ได้เข้ามาถึงอาณาจักรแม่มด และพบกับครูใหญ่ที่พาไปหาด็อกเตอร์เพื่อดูหลายๆอย่างจนไปถึงที่พ่อมดแม่มดใส่หน้ากาก กำลังเรียนวิชาพิเศษ และแมรี่ได้แสดงพลังโดยอาศัยดอกไม้นั้นจนกลายเป็นที่ยอมรับ ซึ่งแมรี่เข้าใจว่า ครูใหญ่กับดอกเตอร์เป็นคนดี

           แมรี่ได้ไปพบหนังสือประหลาดเล่มนึง ในขณะที่เดินไปพร้อมกับครูใหญ่ และแมรี่ได้เอาดอกไม้ไปวางไว้ตรงหนังสือ และนำหนังสือกลับออกมา พร้อมกับกลับบ้านไป ก่อนกลับได้บอกว่า จริงๆ เป็นปีเตอร์ต่างหากที่เก่งกว่า ซึ่งคำพูดนี้ทำให้เกิดเรื่องขึ้น


           ครูใหญ่ที่ต้องการดอกไม้ประหลาดนั้น ครูใหญ่จับปีเตอร์ แมรี่ไป เพื่อแลกกับดอกไม้ประหลาด และแมรี่ต้องออกไปช่วย เมื่อไปถึงก็ต้องพบกับเรื่องประหลาดว่า ที่แท้ ครูใหญ่และด็อกเตอร์ต้องการเปลี่ยนสัตว์และคนให้เป็นอย่างอื่น


           ในขณะที่แมรี่ได้ไปช่วยปีเตอร์ แมรี่กับปีเตอร์สามารถช่วยให้สรรพสัตว์เปลี่ยนร่างเป็นแบบเดิม แต่ตอนที่ทั้งสองจะหนี เกือบแย่และไม้กวาดได้ช่วยแมรี่ ทำให้ไม้กวาดพาแมรี่กลับมายังบ้านของคนๆนึงและพบว่า คือ บ้านของป้าตัวเอง


    ป้าตัวเองเคยเป็นแม่มดผมสีแดงที่พาดอกไม้ประหลาดออกมาจากเมืองแม่มด แม่มดหรือป้าได้ฉายที่หน้ากระจกและใช้พลังสุดท้ายเอาดอกไม้ประหลาดที่เหลือดอกเดียวให้กับแมรี่ เพื่อใช้พลังครั้งสุดท้ายช่วยปีเตอร์ และแมรี่ตัดสินใจไปช่วยปีเตอร์ โดยที่ปีเตอร์อยู่ในช่วงที่กำลังกลายร่างแต่ไม่สมบูรณ์


    ดังนั้น แมรี่ก็เปิดหนังสือและเอามือปีเตอร์มาวางไว้ในหนังสือ เพื่อกลับไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ และในไม่ช้าทุกอย่างก็ทำสำเร็จ และแมรี่กับปีเตอร์พร้อมผองสัตว์ก็กลับไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่


    เปรียบเทียบกับ Kiki และ Spirited Away


         เรารู้สึกว่า ถ้าเทียบกับ Kiki มันต่างกันมาก เพราะ Kiki จะออกแนวน่ารักแบบเด็กๆ แต่เรื่องนี้ออกแนวผจญภัยแบบผู้ใหญ่ออกแนว แฮรี่ พอตเตอร์มากกว่า และทั้งคู่ต่างกันตรงกิกิเป็นแม่มด แต่แมรี่เป็นคนธรรมดา แต่มีความตั้งใจสู้เพื่อความถูกต้องและแก้ไขในสิ่งที่ตัวเองทำผิดไป ส่วนที่เราคิดว่า ทั้งสองเรื่องมีเหมือนกัน คือ การผจญภัยในจิตใจันสับสนของตัวเอง เพราะทั้งคนเหมือนกับการผจญภัยในจิตใจที่เต็มไปด้วยความสับสน เต็มไปด้วยความเปลี่ยนเเปลง เต็มไปด้วยเรื่องไม่ง่ายสำหรับเด็ก แต่ในไม่ช้า เด็กทั้งสองคนสามารถที่จะเอาชนะตัวเองได้ในที่สุด


        ส่วนอีกเรื่องที่ต้องเปรียบคือ Spirited Away เพราะเรื่องที่คล้ายคลึงกันมาก ตรงที่คนธรรมดาอย่างแมรี่ ได้ดอกไม้ประหลาด และต้องเข้าไปยังอีกโลกหนึ่ง ซึ่งคือโลกเวทย์มนตร์ผ่านไม่กวาดเก่าของคุณป้าที่เลี้ยงดูแมรี่ ทำให้เราคิดว่า ทั้งสองเรื่องนี้มีจุดเชื่อมต่อกันตรงนี้ และน้ำเป็นจุดเชื่อมโยงที่ดีของเรื่องนี้ที่เหมือนกันอีกด้วย แถมดอกไม้ประหลาดนั้น ช่วยในการกลายร่างของมนุษย์ โดยผ่านตัวกลางคือน้ำ แต่ความเป็นจริงทำทั้งสองครั้งก็ล้มเหลว เพราะอะไร เราคิดว่า มันมีนัยบอกว่า การเปลี่ยนแปลงมนุษย์ย่อมเป็นเรื่องยาก เพราะในความเป็นจริงแล้ว จิตใจมนุษย์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอยู่แล้ว ไม่ต่างจากที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ และอีกอย่างคือ ร่างกายของมนุษย์มีการเปลี่ยนแปลงตลอด ดังนั้น แทนที่จะคิดว่า จะทำให้กลายร่างนู่นร่างนี้ ก็เพียงแค่หันมาดูตัวเองจะไม่ดีกว่า หรือหันมาสนใจตัวเองให้มากขึ้น เมื่อเข้าใจตนเองก็จะเข้าใจผู้อื่นได้ไม่ยาก เพราะไม่ต้องพึ่งพาเวทย์มนตร์อะไร ก็สามารถทำสำเร็จได้โดยง่าย


    ความรู้สึกส่วนตัวหลังดู


         เราขอบอกว่า สนุกมาก ตื่นเต้น ต้องติดตามทุกตอน ห้ามพลาดสักกะตอน เพราะสนุกจนจบเลยทีเดียว แถมมีนัยหลายอย่างสื่อสารให้เราฟังด้วย

             1.) ดอกไม้ประหลาด เปรียบเหมือน วัตถุนิยม

                     วัตถุนิยมที่แปลกปลอมมา ทำให้เราดูมีความสามารถอย่างแมรี่ที่สามารถเป็นแม่มดได้ ทำให้กลายร่างของสัตว์ได้ คือ ไม่ต่างจากคนเหล่านี้ที่ถูกวัตถุนิยมครอบงำให้กลายเป็นคนฟุ่มเฟื่อย คนไม่รู้จักพอ คนที่ต้องมีเหมือนกับคนอื่นตลอดเวลา เขามี ฉันก็ต้องมีด้วย เพื่อให้สังคมเห็นว่า ฉันดูดี ไม่ต่างจากดอกไม้ที่มีแสงและพลังในการทำให้ใครอยู่ใกล้ก็อยากครอบครอง

              2.) โลกเวทย์มนตร์ คือ โลกจิตใจด้านมืด

                      จิตใจของความอยากครอบครองในตัวครูใหญ่และด็อกเตอร์ ที่เต็มไปด้วย ความโลภ (อยากได้ดอกไม้นั้นมาทำการทดลอง) ความโกรธ (ไม่พอใจที่ไม่ได้อย่างหวังและไม่พอใจที่แม่มดผมแดงขโมยมันออกไป) และความหลง (อำนาจ วาสนาที่ตัวเองจะได้หลังจากครอบครองทุกอย่างแล้ว) คือ มนุษย์เราทุกคนเป็นไปได้ที่จะเป็นแบบนี้ เพราะจากที่เห็นโลกแห่งเวทย์มนตร์ที่นำเสนอแมรี่ เต็มไปด้วยโลกที่อยากมีก็ได้ อยากเป็นก็ต้องเป็น เพราะฉะนั้น เราเข้าใจว่า มันคือ นัยของการประชดสังคม ถึงพวกหลงในอำนาจได้เป็นอย่างดี และไม่เพียงเท่านั้น เมื่อแมรี่อยู่ในโลกนั้น ก็หลงระเริงคิดว่า ตัวเองเก่ง แถมยังโกหกว่า ปีเตอร์ต่างหากที่เก่งกว่า

               3.) โลกมนุษย์ คือ โลกจิตใจด้านสว่าง

                       จิตใจของการช่วยเหลือ ลดความเห็นแก่ตัว เอาใจเขามาใส่ใจเรา เข้าใจซึ่งกันและกัน ให้อภัยกันและกัน และเห็นอกเห็นใจกัน โดยเฉพาะการที่ป้าที่เคยเป็นแม่มด ไม่ไขว้คว้าอยากมีพลังวิเศษเหมือนเดิม เพราะพลังตัวเองก็หมดแล้ว ก็สามารถปรับตัวใช้ชีวิตเป็นคนปกติ ได้อย่างเข้าใจในชีวิต และแมรี่อยู่ในโลกนี้ ก็เลือกที่จะเป็นเด็กมีจิตใจโอบอ้อมอารีและรักธรรมชาติอย่างมาก รวมทั้งช่วยเหลือในสรรพสัตว์


    "เมื่อโลกทั้งสองคนมีจุดเชื่อมกัน คือ ไม้กวาด 

    ที่เปรียบเหมือนสะพานเป็นเส้นทางเชื่อมสองโลก 

    ทำให้ทั้งสองโลกสามารถเชื่อมกันได้ 

    เปรียบเหมือนว่า คนเรามีทั้งด้านดีและไม่ดี 

    แต่เราจะเลือกแบบไหนล่ะ 

    เพราะปัจจุบันคือผลพลอยของอนาคต 

    และอดีตคือผลพลอยของปัจจุบัน"


    เรื่องราวในแดนเวทย์มนตร์และโลกมนุษย์

    ความจริงของเราในโลกนี้

    เรียนรู้สีสันในชีวิต

    ฉันเกือบจะพลาดหวุดหวิด

    เรียนรู้ชิดใกล้ธรรมชาติ

    ธรรมชาติสองสิ่งคือ

    กายลือจิตใจทั่วค้นหา

    ฉันเรียนรู้สิ่งแรกจากกายา

    และหลังมาเรียนรู้จากจิตใจ

    ถึงแม้ทั้งสองจะต่างกัน

    มีสิ่งมั่นเชื่อมโยงในความจริง

    ฉันเรียนรู้มั่นคงในทุกสิ่ง

    คือมิ่งขวัญเวลาและพาที

                        Look a Breathe


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in