เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Tenipuri Fiction : ValentineLittle'n Kklt
2017 - Everything
  • Couple : Otori Chotaro x Shishido Ryo (Tenipuri, The Prince of Tennis)
    Author : little2413 x natthasata



    ชิชิโดะรู้สึกว่ามันงี่เง่าสิ้นดี

    เวลาเที่ยงคืนที่สมควรจะนอนหลับซุกผ้าห่มอยู่ในห้อง เขากลับมานั่งมองกระดาษห่อของขวัญหลากสีที่ไปกวาดซื้อมากับกาคุโตะ หมอนั่นแทนที่จะช่วยกลับหยิบใส่ตะกร้าแบบตัดรำคาญ คิดผิดแท้ ๆ ที่ให้ช่วย

    แล้ว... กล่องแบบนี้มันต้องห่อยังไงวะ เกิดมาสิบห้าปีเพิ่งจะมีความคิดที่จะมานั่งห่อของขวัญมุ้งมิ้งแบบนี้ โคตรไม่เท่เลยให้ตายสิ

    ชิชิโดะเลื่อนดูหน้าจอสมาร์ทโฟน อ่านข้อความพร้อมทั้งพิจารณารูปอย่างละเอียดถี่ถ้วน (เท่าที่คนเท่ ๆ คนนึงจะทำได้) ก่อนจะคว้าอุปกรณ์ทั้งหมดและเริ่มลงมือทำ


    ยับยู่ยี่... พังยับเยิน... และอีกสารพันคำศัพท์ที่บอกกล่าวถึงความพังพินาศของสิ่ง ๆ นึงได้ ความบัดซบที่ตามมาคือกล่องที่ใส่ช็อคโกแลตรูปร่างน่าขนลุกตามพิมพ์ที่หาง่ายตามเทศกาลวาเลนไทน์บุบไปด้วย

    "ยากโว้ย!" เขาพูดเสียงดัง ก่อนจะนึกได้ว่ามันดึกเกินกว่าจะมาโวยวาย

    ชิชิโดะถอนหายใจ ใจนึงก็อยากห่อ อีกใจก็แค่ใส่กล่องแล้วยื่นให้ ยังไงอีกฝ่ายก็ดีใจอยู่แล้ว แต่พอคิดถึงใบหน้าที่ลิงโลดตอนเห็นของขวัญ (ที่เขาให้คนอื่นห่อ) เมื่อปีที่แล้วก็ถอนหายใจ สุดท้ายก็ปลงตก หยิบกล่องและกระดาษลายใหม่มาไว้ในมือ ไหน ๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ถือว่าทำเพื่อรอยยิ้มโง่ ๆ แล้วกัน

    นัยน์ตาสีน้ำตาลเหลือบมองกองกระดาษที่ยังม้วนสวยอยู่ก็นึกขอบคุณเพื่อนซี้หัวแดงในใจเบาๆ ที่ตัดรำคาญจนหอบกลับมาเยอะขนาดนี้

    เอาวะ เพื่อโจทาโร่!.....ฟังดูแปลกๆ แฮะ เพื่อพาร์ทเนอร์ ไม่ๆ เพื่อรุ่นน้อง เพื่อ.. ว้อยยยยย ช่างมัน ๆ

    ขยี้ผมจนเสียทรงมากกว่าเดิม ชิชิโดะสูดหายใจลึกและเริ่มลงมือห่อของขวัญอีกครั้ง

    เละ... นี่มันยากกว่าซ้อมรับลูกเสิร์ฟของโจทาโร่มันอีกเว้ย! สปีดเดม่อนแห่งเฮียวเทเริ่มทึ้งผมตัวเอง ล้มตัวลงนอนแผ่ลงกลางห้อง

    "ไม่ใช่เพราะนายฉันไม่มาทำอะไรแบบนี้หรอก จำไว้!"



    สุดท้ายก็สำเร็จ ตอนที่เข็มสั้นอยู่ที่เลขสองและเข็มยาวอยู่ที่เลขสิบสองพอดี

    เช้าวันนี้หน้าตาของเขาไม่ค่อยสดใส ปกติหน้าตาก็ไม่ค่อยรับแขกอยู่แล้ว พอนอนน้อยก็ยิ่งบูดบึ้งไปใหญ่

    โรงเรียนคึกคักเป็นพิเศษ เสียงพูดคุยฟังแล้วยุ่งเหยิงกว่าทุกวัน ตรงล็อคเกอร์ของอาโตเบะมีของวางล้นจนลามไปที่คนอื่นเหมือนทุกปี พอตอนเย็นช็อคโกแลตพวกนั้นก็จะถูกแจกจ่ายให้สมาชิกในชมรม มันมากพอจะเอาไปละลายทำช็อคโกแลตได้อีกร้อยครั้ง

    ล็อคเกอร์ของเขาก็มีห่อของขวัญกับซองจดหมายประปราย และเขาก็ขอบคุณที่มันเป็นแบบนั้น

    อดตื่นเต้นไม่ได้เหมือนกัน กล่อมตัวเองด้วยประโยคซ้ำซากอย่าง 'แค่ของขวัญวันเกิด ไม่ทีอะไรพิเศษมากกว่านั้น' ตั้งแต่ที่บ้าน แน่นอนว่ามันไม่ช่วยอะไรสักนิด ในเมื่อความเป็นจริงแล้วมันค่อนข้างจะ... พิเศษ.... และมันก็น่าอาย ถ้าเป็นเพียงของขวัญวันเกิดเขาให้แค่เอ็นสายใหม่ หรือเทปพันด้ามจับอันใหม่ก็พอแล้ว

    เอาวะ! พยายามเข้าชิชิโดะ เรียว!!!


    "อรุณสวัสดิ์ครับชิชิโดะซัง" เจ้าของชื่อสะดุ้งโหยงจนตัวลอยเมื่อเสียงนุ่ม ๆ คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง อะไร ทำไมมาโผล่ที่ล็อคเกอร์ปีสาม? ชิชิโดะนับหนึ่งถึงสามในใจ หันกลับมาทักทายด้วยสีหน้าปกติ ย้ำว่าปกติมาก!

    "ไงโจทาโร่ มะ มาเช้าดีนะนายวันนี้"

    เด็กหนุ่มผมเงินเลิกคิ้ว "ผมก็มาเวลานี้ปกตินะครับถ้าไม่มีซ้อมเช้า"

    "อ้าวเหรอ ฮะ ๆ" หัวเราะแก้เก้อไปงั้น ชิชิโดะเผลอกอดกระเป๋าแน่นโดยไม่รู้ตัว

    "โจทาโร่ อาจารย์ซาคากิเรียกพบแหนะ ที่ห้องดนตรีนะ" เด็กหนุ่มรุ่นน้องที่ไม่คุ้นหน้าวิ่งมาแตะบ่าคนตัวสูงก่อนจะวิ่งจากไป โอโทริส่งยิ้มแห้งๆ ให้กับเขาและขอตัวไปหาอาจารย์ตามที่เพื่อนบอก

    ชิชิโดะถอนหายใจเบา ...สุดท้ายก็ยังไม่ได้ให้


    "วันนี้นายแปลก ๆ นะ" โดนทักแบบนี้มาครั้งที่ยี่สิบได้แล้ว 'แปลกตรงไหน ทุกวันก็เป็นแบบนี้!' เขาเถียงประโยคเหล่านั้นอยู่ในใจ เด็กหนุ่มก้มมองตัวเอง แค่เอามือกอดกระเป๋าเป้แค่นั้นเอง แปลกตรงไหนกัน

    "วันนี้นายแปลก ๆ นะ" เขาสะดุ้ง เจ้าจิโร่ขี้เซายื่นหน้ามาจากข้างหลัง "ในนั้นต้องมีอะไรแน่ ๆ" พูดช้า ๆ เนิบ ๆ ตามแบบฉบับแต่มันกลับทำให้หัวใจเขาเต้นเร็วและเหงื่อออก "ตัวสั่นด้วย" เจ้านั่นสังเกตไม่เลิก เดินมาหยุดตรงหน้าเขาแล้วก้มมอง "แปลกจริง ๆ ด้วย"

    "อะไรของนาย!" กอดกระเป๋าแน่นขึ้น

    "เสียงดังอีกต่างหาก" จิโร่ยกมือชี้ "อะไรอยู่ในนั้นน่ะ"

    ทำไมถึงมาตื่นเอาเวลานี้ ตอนอยากให้ตื่นก็เอาแต่หลับ พอไม่อยากให้ยุ่งกลับเจื้อยแจ้วไม่หยุด มันน่านัก!

    "ยุ่งน่า!!"

    "อ๊ะ วันนี้วันเกิดโอโทรินี่ ของหมอนั่นใช่มั้ย?" ชิชิโดะหน้าแดง มือที่กอดกระเป๋าสั่นขึ้นเรื่อย ๆ ความร้อนพุ่งขึ้นที่สูง และระเบิดออกมาเป็นคำพูดว่า

    "อย่ามายุ่ง!!!!!" และก็เดินหนี ไม่เท่เลยสักนิด!

    .
    .

    "วันนี้ชิชิโดะแปลกๆ นะ" เจ้าของฉายาอัจฉริยะแห่งเฮียวเทเปรยขึ้นกลางวงข้าว (แน่นอนว่าเจ้าของหัวข้อสนทนาไม่อยู่ตรงนี้) มุคาฮิทำหน้าเหม็นเบื่อ คีบไข่หวานเข้าปากแล้วเอ่ยเซ็งๆ

    "ก็จะอะไรล่ะ วันนี้มันวันพิเศษหนิ"

    "วาเลนไทน์?"

    "เรียวมันสนที่ไหนล่ะวาเลนไทน์น่ะ" แล้วก็คีบไส้กรอกปลาหมึกเข้าปากอีกที โอชิทาริขยับแว่นอย่างใช้ความคิด ก่อนจะเผยยิ้มร้ายออกมา

    "รู้ละ"

    -----------------


    ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

    ตอนนี้ชิชิโดะก็ผิดพลาด สายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เขา จะเดิน จะหันซ้าย หรือหันขวา ความประหม่าถูกแสดงออกมาทางพฤติกรรมที่เก้ ๆ กัง ๆ กอดกระเป๋าไว้ตรงอก ก้าวขาช้ากว่าปกติ หายใจก็ยาก พลาดโคตร ๆ!!

    โซนปีสองมันกว้างขนานนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!?

    ตอนเขาเรียนยังไม่กว้างขนาดนี้เลย การเดินหาเพื่อนต่างห้องใช้เวลาไม่นานก็เจอ แต่นี่! เขาเดินหาคน ๆ เดียวมานานแล้ว ไม่เห็นแม้แต่เงาด้วยซ้ำ!!!

    "หายไปไหนวะ " เขาพึมพำ สายตากวาดไปทั่วทางเดินและในห้องเรียน "เป็นผีหรือไง" แล้วก็บ่นต่อ

    "รุ่นพี่" ขวัญอ่อนเหลือเกิน... นับไม่ได้แล้วว่าวันนี้เขาสะดุ้งไปกี่ครั้ง หันหลังกลับไปก็พบกับฮิโยชิหน้านิ่งยืนอยู่ "ตามหาโอโทริเหรอ"

    "เปล่า" เวรละ ตอบเร็วเกินไป

    "อ๋อ มาหาโอโทริ"

    "ก็บอกว่าเปล่าไง" พลาดอีกแล้ว!

    "หน้าแดงแหนะครับ ไม่เนียนเลย หมอนั่นอยู่ห้องดนตรีน่ะ"

    "ขอบใจ"

    "ไหนบอกว่าไม่ได้มาหาโอโทริไงครับ"

    "เอ๊ะ..." เขาหน้าแดง ลิ้นพันกันมั่ว คำพูดแก้ตัวร้อยพันลอยเวียนอยู่ในหัว แต่พูดออกมาไม่ได้สักคำ
    "สู้ ๆ นะครับ" พูดจบฮิโยชิก็เดินเข้าห้องเรียน

    ไอ้... ไอ้รุ่นน้องหน้าตายนี่หนิ!!!

    "สู้บ้าสู้บออะไรกันล่ะ" บ่นงึมงำหัวเสียขณะเดินมุ่งหน้าไปยังห้องดนตรีตามที่รุ่นน้องว่า ยิ่งใกล้จุดหมายก็ยิ่งรู้สึกขาหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ การก้าวเดินชักยากขึ้นทุกที และในที่สุดชิชิโดะ เรียวก็มายืนอยู่หน้าประตูห้องดนตรี แว่วเสียงโน้ตทำนองฟังสบายไม่ได้ช่วยให้ใจเต้นแรงน้อยลงสักนิด นี่เขาเอาของมาให้เจ้าโจทาโร่มันหรือว่ามาออกรบเนี่ย!

    สูดหายใจลึกๆ สามครั้งปฏิบัติ ฮึบ........ เอาล่ะ

    ก๊อก ก๊อก

    "ขออนุญาตครับ"



    "ชิชิโดะซัง?" โอโทริเลิกคิ้ว เมื่อพบรุ่นพี่ที่เป็นพาร์ทเนอร์ของตัวเองยืนกอดกระเป๋า ก้มหน้าอยู่หน้าห้องดนตรี ซึ่งมัน... น่ารัก

    "เอ้อ ไง อยู่คนเดียวเหรอ"

    "ครับ เข้ามาก่อนสิครับ" เขาถอยหลังให้อีกฝ่ายเดินเข้าห้อง ปิดประตูและไม่ลืมที่สร้างความเป็นส่วนตัวด้วยการล็อคห้อง ถ้าเป็นชิชิโดะเวอร์ชั่นปกติล่ะก็ต้องรู้ตัวแน่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่ รุ่นพี่ของเขากำลังประหม่าสุด ๆ และมันก็ทำให้หัวใจเขากระชุ่มกระชวยสุด ๆ ด้วยเช่นกัน

    "มาหาผมมีอะไรหรือเปล่าครับ" เอ่ยปากถามหน้าซื่อ โอโทริรู้อยู่แล้ว ใครมันจะไปลืมวันเกิดที่ตรงกับเทศกาลหวานแหววนี่กัน

    "คือ คือ คือ... มาชวนไปซ้อมน่ะ"

    "เอ๋? ช่วงนี้อาจารย์ซาคากิบอกให้พวกเราพักไม่ใช่หรือครับ" อีกคนสะดุ้งหน้าแดง เกือบหลุดหัวเราะออกมาแล้วแต่เก็บไว้ทัน ยืนดูรุ่นพี่สุดเท่ที่กำลังประหม่าสุดขีดด้วยแววตารักใคร่แบบไม่ปิดบัง ถ้าชิชิโดะซังเงยหน้ามามองน่ะนะ

    "ก็ ก็... ก็นั่นสินะ" เขายกยิ้ม

    "ถ้าชิชิโดะซังไม่รีบกลับ ช่วยมาฟังผมเล่นเปียโนหน่อยได้มั้ยครับ พอดีกำลังหัดเล่นเพลงใหม่ ยังไม่เคยเล่นให้ใครฟังเลย ช่วยวิจารณ์หน่อยได้มั้ยครับ" อย่าว่าแต่อีกคนเลยที่ประหม่า เขาก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ ประโยคเชิญชวนเมื่อครู่ฟังดูแล้วไม่น่าไว้ใจสุด ๆ เลย

    "ฉันไม่เก่งเรื่องพวกนี้สักหน่อย"

    "ไม่เป็นไรครับ นะ?" โอโทริรู้ว่าชิชิโดะแพ้รอยยิ้มแบบไหน และเขาก็กำลังยิ้มแบบนั้นอยู่

    อีกฝ่ายกระชับกระเป๋าเป้ "ก็ได้"

    เดินนำมาที่เปียโนตัวใหญ่กลางห้อง ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ วางนิ้วลงบนลิ่มนิ้ว กำลังจะกดนิ้วลงบนโน้ตตัวแรกของเพลง แต่ก็ชะงัก

    "ทำไมไปยืนตรงนั้นล่ะครับ"

    "เอ๊ะ" คนโดนทักทำหน้างง เขาคลี่ยิ้ม ยื่นมือไปจับข้อมืออีกฝ่าย ออกแรงดึงเบา ๆ ให้ก้าวขาตาม "มานั่งข้าง ๆ ผมสิ"

    "นะ นั่ง?" เก้าอี้แค่นั้นน่ะนะ แต่พอเห็นเจ้ารุ่นน้องตัวสูงพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นนั้นเขาก็ทรุดนั่งลงข้างๆ อย่างเสียไม่ได้

    "แล้วฉันมานั่งอย่างนี้นายจะเล่นถนัดเหรอ"

    "ถนัดสิครับ ขอแค่ชิชิโดะซังตั้งใจฟังก็พอ นะครับ"

    คนเท่ผงกหัวหงึกอัตโนมัติ สายตาจับจ้องไปยังนิ้วเรียวเสียวที่เริ่มพรมลงบนลิ้มนิ้วเปียโนตรงหน้า
    ท่วงทำนองหวานที่เขาไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร แต่มันรื่นหูจนหลุดยิ้มบางออกมา







    You're a falling star, you're the get away car.
    You're the line in the sand when I go too far.
    You're the swimming pool, on an August day.
    And you're the perfect thing to say.


    ชิชิโดะเลิกคิ้วกับเสียงนุ่มของพาร์ทเนอร์ของตนที่เริ่มร้องเพลงตามทำนอง แน่นอนว่าเสียงของโอโทรินั้นเป็นเสียงที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี แต่ไม่ใช่กับการร้องเพลงแบบนี้ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ฟังคนข้าง ๆ ร้องเพลง และอดคิดไม่ได้ว่า... โจทาโร่ช่างเป็นคนที่มีเสน่ห์มากเหลือเกิน


    And in this crazy life, and through these crazy times
    It's you, it's you, you make me sing.
    You're every line, you're every word, you're everything.


    เนื้อร้องชวนเขินถูกร้องออกจากปากรุ่นน้อง ตลอดสี่นาทีหัวใจเขาทำงานหนักไม่หยุด ความหมายของเพลงเกือบทำให้คนเท่เอาหน้าซุกกระเป๋าปกปิดความอาย พอเหลือบตามองคนข้าง ๆ ก็ยิ่งเขินมากกว่าเก่า

    ก็เจ้าโอโทริเล่นมองด้วยแววตาหวานเชื่อมเหมือนมีน้ำตาลสักร้อยกิโลอยู่ในนั้น!! จะทำให้หัวใจวายตายเลยหรือไงกัน!?

    แอบเห็นสีเลือดฝาดตรงแก้มของอีกฝ่ายเขาก็ยิ่งเขิน ช็อคโกแลตรูปหัวใจในกระเป๋าคงละลายเหลือใจเขาตอนนี้ไปหมดแล้วก็ได้ โอย...


    You're every song, and I sing along.
    'Cause you're my everything.


    เมื่อโน้ตตัวสุดท้ายจบลง ชิชิโดะก็แทบจะระเบิดตัวเองกับคำถามที่อีกฝ่ายถามมา

    "เป็นยังไงบ้างครับ"

    เป็นยังไง? ก็เขินสิวะ!! ให้ตายเถอะ เขาได้แค่คิด แค่คิดในใจเท่านั้นแหละ ใครจะพูดออกไปล่ะ โคตรไม่เท่เหอะ

    "ก็...ดี เพราะดี เก่งนี่นายน่ะ" แก้เขินด้วยการตบอั้กเข้าที่หลังรุ่นน้อง ก่อนจะลุกพรวดเตรียมจะเดินหนี แต่ก็ไม่ทันอีกฝ่ายที่คว้าข้อมือเขาไว้ได้

    "ผมดีใจที่ชิชิโดะซังชอบนะครับ"

    โว้ย!! พอกันที!!! เขาสะบัดมือ รีบรูดซิปกระเป๋าที่กอดไว้ทั้งวันออก ยื่นกล่องของขวัญให้แบบส่ง ๆ ลุกจากเก้าอี้ก้าวขาฉับ ๆ เตรียมกลับบ้าน ใบหน้าแดงก่ำ มือสั่น เหงื่อออก เขินจนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว! วางแผนฆ่ากันแน่ ๆ อยากแข่งเดียวไม่อยากคู่กับเขาก็บอกกันตรง ๆ ก็ได้มันง่ายกกว่าการทำให้เขินจนตายแบบนี้ไม่ใช่หรือไง!? ตอนให้ของขวัญก็ไม่เท่ วันนี้ชิชิโดะ เรียวไม่เท่เลยสักนิด!

    กำลังจะเปิดประตู แต่ก็หยุดไว้ก่อน ทำเท่ก่อนกลับก็ไม่เสียหายนี่ เด็กหนุ่มบอกตัวเองในใจ

    หันหน้ากลับมา คนที่เล่นเปียโนเมื่อครู่กำลังก้มมองกล่องของขวัญในมือ เขากระแอ่มเสียงดังเรียกความสนใจ

    "สุขสันต์วันเกิด!" พูดเสียงดังฟังชัด "สุ สุ สุ... อึก" อีกนิดเดียวเรียว "สุขภาพแข็งแรง อยู่เป็นพาร์ทเนอร์ของฉันไปตลอดก็แล้วกัน" พูดจบก็เปิดประตู วิ่งพรวดออกไปไม่หันมามองอีก

    โอโทริยิ้มกว้าง ค่อย ๆ แกะกล่องของขวัญ กระดาษเบี้ยวซ้ายเบี้ยวขวาไม่เป็นมืออาชีพ ห่อเองแหง ถ้ายิ้มมากกว่านี้อีกนิดปากคงใกล้ถึงหูแล้วแน่ ๆ ในกล่องมีช็อคโกแลตรูปหัวใจนอนแอ้งแม้งอยู่ในนั้นหลายก้อน ขนาดไม่เท่ากันอีกต่างหาก คนนั้นจะน่ารักไปถึงไหนกัน

    "เก็บไว้กินปีละอันดีมั้ยเนี่ย" โอโทริยกมือลูบหน้า มืออีกข้างหยิบมือถือในกระเป๋ากางเกง พิมพ์ข้อความสั้น ๆ ไปหาคนให้ของแล้วยิ้มให้กับตัวเองอีกครั้ง



    'สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับชิชิโดะซัง

    ปล. ขอบคุณสำหรับของขวัญ ว่าแต่เป็นของขวัญวันเกิดหรือของขวัญวันวาเลนไทน์ครับ? แต่ผมจะถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดของผมแล้วกันนะครับ ❤

    โอโทริ โจทาโร่'







    Fin.
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in