เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
วัยเรียนที่คิดถึงกับเรื่องเล่าในอดีตในสายตาของคนปัจจุบันSAILOM
02 ประถม 1 ชั้นเรียนแสนสุข
  •     จะว่าไปความทรงจำช่วงวัยเด็กซึ่งมันก็เกือบจะยี่สิบปีแล้วล่ะนะ (มีความตอแหล แต่ความทรงจำนี้มันก็มีอายุเลยหลักสิบห้าแล้วล่ะ) เราเองก็คงจะมีความทรงจำมากมายเกี่ยวกับมันที่หลงลืมไปแล้วเหมือนกัน ไม่เชื่อเลยนะว่าจะมาเป็นบ้าเป็นหลังเขียนเรื่องราวเหล่านี้อีกที 
       ความทรงจำแรกที่เกิดขึ้นในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ของเราที่เราอยากจะให้ทุกคนได้อ่านและลองไปค้นพบมันพร้อมๆกันกับผม ผมให้ชื่อว่า "ชั้นเรียนแสนสุข" ครับ

    ในช่วงที่เรียนอนุบาลเราจะรู้สึกแหละว่ามันสนุกมากเพราะเรามีเพื่อนเยอะแยะมาก คือ อ.๑ และ อ.๒ เราจะมีเพื่อนร่วมราวๆ ๔๐ คนเห็นจะได้ แต่มันก็จะมีความเป็นทางการมากขึ้นก็คือ เราจะต้องแยกย้ายห้องเรียนกัน ซึ่งเราก็ไม่ทราบว่ามันแยกห้องกันยังไงก็ไม่รู้ จำได้ลางๆว่า วันที่แรกเข้าเรียนก็คือวันสมัครเรียน เชี่ยวุ่นวายมาก เราจำได้เลยว่าไม่มีสอบนะ จะมีโต๊ะๆหนึ่งที่รับสมัครเรียน เราเองก็ถูกคุณแม่จูงมือไปสมัครเรียนนั่นแหละ (ฮา) ความตื่นเต้นมันก็มีเยอะนะแบบ อ่าวจบอนุบาลที่โรงเรียนเดิมอยู่แล้วทำไมต้องมาสมัครเรียนอีกรอบล่ะ เราเองนี่จะตื่นเต้นกับการได้เจอเพื่อนมากๆเลย เพราะมันได้มีการคุยกันสนกสนานถูกคอ จนพ่อแม่ของเราและเพื่อนต้องลากตัวไปสมัครเรียนด้วย ก็ไม่เข้าใจแหละว่ายังไงก็ไม่ได้เขียนใบสมัครด้วยตัวเองอยู่แล้ว จะให้เราไปเสนอหน้าด้วยทำไม ปล่อยให้เราวิ่งเล่นกับเพื่อนรอพวกผู้ใหญ่เค้าทำธุระ(ของพวกเรา)ให้เสร็จก่อนค่อยมารับเราก็ได้นี่นา แต่เราก็ไม่ได้ท้วงอะไรใครนะ เราแค่ส่งซิกความไม่พอใจจะเรียกว่าความงอแงก็ได้แหละผ่านสีหน้าของเราเบาๆ ให้พ่อแม่เราได้รู้สึกบ้าง ถามว่ารู้สึกไหมคงรู้สึกแหละแต่งอแงไปก็เท่านั้นแหละ รู้สึกงงมากในตอนนั้นแต่ทว่า เอาเข้าจริงเราก็จะพบว่ามันไม่ได้อะไรมากเลยนะ เพราะเราไม่มีข้อสอบเข้าอะไรเลย เหมือนไปสมัครแล้วก็กลับมาบ้านก็เท่านั้น ซึ่งถ้าจะให้เราเดา เราว่ามันก็คงมีการลิสต์รายชื่อเด็กแล้วก็สุ่มเข้าห้องนั่นแหละเพื่อแบ่งชั้นเรียน แต่ไม่รู้ยังไงเหมือนกันนะ พอแบ่งมารู้สึกว่าเด็กห้องหนึ่งและห้องสองมีพัฒนาการที่ต่างกันมาก เอาเข้าจริงเด็กห้องหนึ่งเป็นเด็กสายแอคทีฟนะ ส่วนเด็กห้องสองแม่งไบร์ท(คือฉลาด) มากๆ ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่า ทำไมเหมือนกัน เพื่อนๆ ที่คาดว่าพอมาอยู่ป.๑ ก็จะต้องได้อยู่ด้วยกันแน่ๆ กลับไม่อยู่ด้วยกันเสียงั้น เป็นประสบการณ์เหมือนการพลัดพรากจากกันไปของเพื่อนเพื่อไปอยู่คนละห้อง ที่แปลกดี 

    ไม่รู้ว่าทุกคนจะรู้รู้สึกเหมือนเราไหมนะ เวลาช่วงแบบที่จะต้องแยกจากกันไปช่วงจบอนุบาลนี่มันเศร้านะ คือบางคนจะได้เจอกันอีกและบางคนจะไม่ได้เจอกันอีก เพื่อนดีๆมีเยอะแยะมากช่วงนั้น แต่ที่สุขที่สุดคือการได้วิ่งเล่นแหละ  พอจะจบอนุบาลก็จะมีความสุขกับการจะได้เวเคชันไทม์ เชี่ยเถอะถ้าเปิดเพลง
    ดิสอิสเดอร์เว๊ตอนนี้มันก็หลุดธีมเรโทรไปสิ คิดไม่ออกแฮะว่าจะส่งเพลงแทนความรู้สึกดีใจและความ
    กะสันในการได้รับเวเคชันไทม์ในช่วงอนุบาลยังไง เพราะมันจะแฮปปี้ดีจริงๆ นะ คืออ่ะแนะนำว่าให้เปิดเพลง H - สุดสัปดาห์ก็ได้ มันจะได้ฟีลนี้มากเลย 

  • ใช่ไหมล่ะ มันไม่ต้องปวดหัวเรื่องเรียนให้มากวันๆก็เอาแต่เล่น หรือดูรายการทีวี ซึ่งส่วนใหญ่มันก็รายการการ์ตูนนั่นแหละ มีช่วยงานที่บ้านบ้างเล็กน้อยได้เล่นกับเพื่อนกับน้อง โอยแฮปปี้จะตายห่า วันๆ ไม่ต้องเครียดบ้าอะไรกับการเรียน แต่มันก็เศร้าที่จะต้องไม่เจอเพื่อนเยอะๆได้ และถ้าจะไปเล่นกับเพื่อนที่อยู่ไกลบ้าน ซึ่งที่ว่าไกลบ้านที่นี้คือเราอยู่โซนรอบนอกของบ้านแล้วคนที่บ้านนั้นก็น้อยไง เด็กๆส่วนใหญ่จะรู้จักกันนะ แต่พวกนั้นเราไม่สนิทเท่าไหร่แหละ เพราะว่ามีถนนกั้นด้วยแหละการเดินข้ามถนนมันอันตรายเลยไม่ค่อยได้ไปสุงสิงกับใคร น่าเศร้าเนอะ

    การได้เจอกันในโรงเรียนมันจึงมีเรื่องที่ต้องเมาท์มอยกันเยอะมากเลย ซึ่งมันก็ดีและสนุกนะเราชอบมากเลย มันได้อารมณ์กันแบบอยากคุยกันและมีคอนเนคต์กัน ช่วงนั้นยุคนั้นถือว่าคงเป็นช่วงรอยต่อของยุคนั่นแหละ ด้วยความที่เราเป็นกลุ่มคนที่อยู่นอกตัวเมือง จึงไม่ได้มีความสะดวกสบายเท่าไรนักในการได้รับเทคโนโลยี ซึ่งนั่นแหละการที่เด็กคนไหนสามารถมีมือถือได้นี่ถือว่ามันเป็นเรื่องประหลาดมากๆเลยนะ ซึ่งส่วนใหญ่เราก็จะแวะเวียนกันพบกันโดยการนัดกันเล่นหลังโรงเรียนเลิกนั่นแหละ ไม่งั้นก็นัดกันทำการบ้าน (ซึ่งรายวิชาที่ถือว่ายากๆนั่นแหละถึงจะเป็นวันรวมตัวกันได้) ไอ้เรามันก็พวกเด็กบ้านไกลกลับบ้านช้าไม่ค่อยได้ที่บ้านเป็นห่วงและถ้ากลับบ้านช้าแม่จะตีเอา เลยต้องรีบกลับบ้านกัน ซึ่งส่วนใหญ่พวกเด็กๆที่อยู่แถวๆโรงเรียนนี่จะได้วิ่งเล่นอยู่แถวๆโรงเรีียนนั่นแหละ แม่งโชคดีสัสอิจฉามากอ่ะตอนเด็กๆ 

    โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนขนาดเล็กนะนักเรียนสามร้อยกือบสี่ร้อยคน ตกชั้นละประมาณยี่สิบถึงสามสิบคน มีไม่เกินนี้นักสองห้องหกชั้นโดยประมาณ รวมกับเด็กอนุบาลชั้นละ สี่สิบถึงห้าสิบคน
    ตั้งอยู่ที่ตลาดซึ่งมันเป็นที่ที่เลิศมากแล้วล่ะ มีอะไรเยอะแยะมากในนั้น ใครที่บ้านใกล้โรงเรียนนี่ถือว่าสบายกันเลยทีเดียวแหละ ส่วนเราที่บ้านอยู่ในย่านที่เป็นชายขอบของชุมชนจึึงต้องเดินทางไกล ประมาณหนึ่งกิโลครึ่ง ซึ่งมันก็น่าจะกิโลนิดๆแหละ ไปเรียนตลอดซึ่งบางวันก็มีแม่ไปส่งนะ แม่ถีบจักรยานไป เราซ้อนหลัง ต่อมาสักป.สองนี่ก็จะเดินไปโรงเรียนแล้ว  เพราะเห็นว่าเราโตขึ้นมามากด้วยแหละนอกจากนั้นตัวก็หนักมากขึ้น จะให้ถีบไปส่งคงไม่ได้หรอกจริงไหมแต่ถ้าถีบส่งไปโรงเรียนคงจะทำได้นะ อารมณ์ประมาณใช้เท้าถีบเราออกจากบ้าน "มึงไปโรงเรียนได้แล้ว" อารมณ์นั้นจะถือว่าทำได้นะ
     
    ช่วงที่ได้เข้าประถม1 แรกๆเรารู้สึกว่าเออมันก็ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งนะ เพราะเราจะไม่ได้นอนกลางวันแล้ว เวลาในการใช้นอนกลางวันของเราก็คือชั่วโมงครึ่งสมมุติว่าโรงเรียนเริ่มเข้าเรียนช่วงบ่ายเราจะตื่นบ่ายสองครึ่งนี่คืออย่างช้า และเราจะตืื่นช่วงบ่ายสองตลอดแล้วก็จะได้วิ่งไปเล่นข้างนอกเพราะการกวนเพื่อนถือว่ามึงจะได้โดนลงโทษจากครูแน่ๆ ก็เคยกวนเพื่อนแหละแต่น้อยครั้งมาก คุณครูแกมักจะใจดีกับเรานะ คือเราจะเป็นเด็กดีเรื่องเรียนมั๊งเราเลยไม่ค่อยถูกบังคับให้นอนต่อ ออกไปข้างนอกเล่นเงียบๆไม่เอะอะโวยวายเราเลยโอเคมาก ทำไมเราไม่ชอบนอนเพราะเราเชื่อแหละว่าพอช่วงบ่ายมามันต้องเล่นได้แล้วไม่จำเป็นต้องนอนหรอกคือบ่ายมาวาดรูปสักชั่วโมงนึง(นี่ก็โคตรนานสำหรับเด็กแล้วนะ)แล้วมาวิ่งเลยมันโครตจะดีเลย แต่มันไม่เป็นงั้นไงมันต้องนอนเลย อย่างน้อยต้องบ่ายสองสิบห้าถึงตื่นเก็บของไปเล่นได้ ซึ่งมันนานมากสำหรับพวกที่นอนไม่หลับ อย่างเราๆ การขึ้นชั้นประถม 1 จึงมีคุณค่ามากสำหรับเราคือมันจะมีเวลาในการที่จะต้องไปทำอะไรเยอะแยะไปหมดเลย ซึ่งมันดีและมีคุณค่ามาก (ซึ่งต่อมาเราคิดว่าเออน่าจะนอนเหมือนเดิมแหละดีแล้ว วิชาช่วงบ่ายแต่ละอย่างแม่งก็นะ)
    ส่วนเราเองหลังจากที่ได้แยกชั้นเรียนแล้วเราก็ได้อยู่ห้อง 1 ซึ่งเป็นห้องที่มีแต่พวกลิงแสบอยู่ด้วยกัน เพราะเราน่าจะเป็นกลุ่มเด็กเกรดกลางมั๊งเลยได้มาอยู่ห้องนี้ แต่ก็ดีแล้วนะเพราะประถมแรกของเรามันดีมากเลยต่างจากอีกห้องนึงที่อิเจ๊อีกห้องเป็นครูผู้สอนนั้น โหดมากเลย เคี่ยวเด็กยิ่งกว่าอะไรดี แล้วเพลย์แบ็คมาที่ห้องเรา เราฟินและแฮปปี้มากเลยนะคือความจริงแล้วครูของชั้นป.หนึ่งนั้นอายุอานามก็ใกล้เคียงกันนะเหมือนจะเป็นครูที่พึ่งจบใหม่เหมือนกันนะ ประสบการณ์ก็คงสองสามปีก่อนที่มาสนเรา 
    ซึ่งครูของเราเป็นครูสาวใจดีจ้า โคตรโชคดีก็ตรงนี้แหละ ครูของเราชื่อว่าครูปฏิมา แกเป็นครูที่ดีแหละใจดีและวิธีการสอนของแกไม่เคร่งครัดเหมือนอีกห้องนึง ส่วนใหญ่แกสอนแบบ play & learn นะ คือสามารถทำการสอนแบบที่เราสามารถสนุกกับมันได้ไม่สอนแบบยักเยียดการสอนแบบเน้นให้เราเป็นเด็กกลุ่มจีเนียสอ่ะ ซึ่งห้องนั่นยัยป้าครูหน้าดุนั่นสองวิชาแบบนั้นให้เรา ซึ่งดีมาก การเรียนส่วนใหญ่มันจึงสนุกมากไม่เหมือนกับอีกห้องเลย ห้องเราก็ถือว่าเป็นห้องเด็กแสบแหละ ง่ายๆคือสามารถแปลงห้องเรียนเวลาที่ครูไม่อยู่ให้เป็นสนามเด็กเล่นได้อย่างรวดเร็วและจะกลับมาได้อย่างรวดเร็วเหมือนกัน สร้างความวุ่นวายให้กับห้องข้างๆได้อย่างดี ชั้นเรียนเรามีความหลากหลายนะเราว่า คือพอเอาเข้าจริงกลุ่มห้องเราก็มีการแข่งขันแหละแต่ไม่เหมือนอีกห้องที่ต้องแสดงความจีเนียสและดูเป็น ผญ. มีความคิดฉลาดๆตลอดเวลา ห้องนั้นน่ะเรียนโหดมาก เคี่ยวมากอ่ะเคยแอบได้เจอการสอนของห้องสองมาครั้งนึงตอนครูห้องเราแกติดธุระ เดี๋ยวจะมาเล่าในคราวต่อไปเกี่ยวกับห้องสอง  อ่ะต่อกันห้องเราเป็นห้องที่เป็นกลุ่มอ่อนถึงเด็กกลางคือเราจะอยู่ในกลุ่มนี้คือครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว สุดท้ายก็มานั่งปรับนั่นนี่เยอะแยะมาก เพราะเราจะต้อง แคร์เพื่อนๆที่เรียนด้วยไม่ให้ความสามารถของเราก้าวกระโดดไปมากกว่าเพื่อนที่อ่อนกว่า

    กลุ่มเพื่อนที่อยู่ในกลุ่มอ่อน
    แนต -- เด็กหญิงที่มีผมหยิกตัวดำร่างเล็ก มีคุณยายที่เป็นคนขายขนมสายบัว มีนิสัยดีเป็นคนร่าเริงนะ 
                แต่ก็เป็นคนที่ไม่ค่อยพูดค่อยจาเท่าไร่ เงียบๆอ่ะ
    กุ้ง ---   เขาเรียนช้านะแต่ไม่ช้าเท่าคนแรก ช่างพูดช่างคุย ช่างเจรจา เป็นตัวสีสันของกลุ่มเพื่อนผู้หญิง
    เอิร์ต -  เด็กผู้ชายตัวอ้วนดำ หัวโจกเพราะตัวมันใหญ่ชอบแกล้งกูมากห่าราก วันๆไม่ทำเหี้ยไรหรอกไอ้
                นี่มันไม่ค่อยชอบเรียนหรอกเหมือน มันไม่ชอบเรียนเท่าไหร่นักแต่เรื่องเล่นกับแกล้งคนไอ้เหี้ยนี่  
                มันถนัดนักแหละ มันชอบเข้าสังคมและอยู่กับเพื่อนนะโดยรวมถ้ามันไม่นิสัยเสียมันก็ถือว่ามันก็
                เป็นคนดีคนนึงแหละ
    อั๋นน้อย - คือในห้องมันมีอันสองอั๋น อันน้อยนี่ได้มาจากที่อั๋นอีกอั๋นมันเป็นลูกผู้ใหญ่บ้านของชุมชนเหนือ
                   มั๊งนะ มันเลยได้ชื่อว่าอั๋นน้อยแทน

    กลุ่มเพื่อนกลุ่มกลาง 
    เออเชี่ย เพื่ิอนที่อยู่กลุ่มกลางๆนี่จะว่ายังไงดี มันเยอะอ่ะจะลิสต์ยังไงดีนะ จำไม่ค่อยได้แล้วว่าเพื่อนที่สนิทกันและอยู่กลุ่มนี้มีใใครบ้างวะ แต่อย่างหนึ่งก็คงเป็น
    แม็ก --- มันเป็นญาติกับเอิร์ตแต่นิสัยมันคนละเรื่องกันเลยให้ตายเหอะ แม็กมันเป็นเด็กเรียนแหละ นิสัยดี
                หล่อ เพื่ิอนๆชอบให้มันถือพานแหละ
    เปรียว - สาวน้อยที่มาจากโรงงานกระดาษที่มันอยู่นอกโซนบ้านเราเลย แต่เขามาเรียนที่นี่นะ เด็กหญิงหน้าสวยนิสัย โก๊ะๆหน่อย ที่จำได้คือเค้าหน้าสวยนี่แหละ วาดรูปเก่งด้วยนะคนนี้
    ต่อ --- ต่อเป็นเด็กโคตรอัจฉริยะเลยว่ะ มันเก่งเรื่องร้องเพลงและวาดรูป มันวาดสวยกว่าเรามากวาดเก่ง
              เชี่ยๆ 

    เดี๋ยวคงต้องกลับบ้านไปเปิดสมุดรุ่นดูบ้างแล้วแหละ ซึ่งไม่รู้ว่าแม่เอาไปเผาไฟหรือแพคขายไปรึยังเหมือนกันนะ ก็ตามนั้นแหละเอาเท่านี้ก่อนนะสำหรับตอนนี้




เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in