ระบบการเรียนที่เปลี่ยนไป

สำหรับระบบการเรียนตามนอกเมืองส่วนใหญ่การเรียนยังคงเป็นการสอนโดยครูเพียงคนเดียวในชั้นเรียน ที่ผู้สอนต้องสอนอย่างสตรองนั่น  ไม่รู้เลยว่าครูแกสอนได้อย่างไร  แต่ระบบการเรียนของเราในครั้งนี้ ต่างไปจากเดิม  การเรียนนั้นเป็นระบบเดินเรียน มีครูสอนหลายคนในชั้นเรียน  แบ่งการตัดเกรดเป็นวิชาและ ครูแต่ละคนจะสอนคนละวิชาเลย  เตรียมพร้อมการเรียนที่ใช้ระบบการเรียนแบบแบ่งตามสาย เช่นกับมัธยมนั่นเอง   ความจริงในเมืองเขาก็มีครูแยกสอนตามวิชานั่นแหละ แต่โรงเรียนเราไม่ได้อยู่ในเมืองไง  เลยเรียนกันแบบนี้ แต่ไม่เป็นปัญหาอยู่แล้ว นอกจากรับมือกับความเปลี่ยนแปลง

มีวิชาที่ไม่ชอบและชอบอย่างชัดเจน 

ความไม่ชอบที่ชัดเจนก็คงเป็นการต้องเจอครูผู้สอนที่ไม่ชอบหน้ามากกว่า แต่เอาเข้าจริงมันเป็นผลกระทบที่หนักมากเลยนะ เด็กบางคนก็เกลียดวิชานั้นๆไปเลย 

ครูที่หลากหลาย การตัดคะแนนที่หลากหลาย

เมื่อมีครูที่สอนเยอะ รูปแบบงานมันจะต่างไปตามลักษณะการสอนของครูแต่ละคน  แน่นอนว่าครูของชั้น ป.5 ป.6 จะเป็นครูสอนวิชาเอกกันทั้งนั้น  อาจจะเป็นแบบสายตรงที่ไม่ใช่สายทั่วไปอย่าง สายการประถมศึกษา  ทำให้การสอนแต่ละวิชามันส์ และหนักมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว  (เพราะต้องรับมืองานเยอะมากนั่นเอง) 

ในส่วนนี้จะคุยเกี่ยวกับ ครูวิชาต่างๆ  และ คาแรกเตอร์ของครูแต่ละคน (เท่าที่จะทำได้ก็แล้วกัน)

ครูจันเป็น ครูผู้มีบุคลิกตามแบบฉบับครูปกครองฝ่ายหญิงและเจ้าแม่สายวิชาการจอมโหด ที่แท้จริง น่าดุ   ผู้ไม่ค่อยพูดนัก  พูดเฉพาะเรื่องสอน ทำโทษ  และดุนักเรียน  คล้ายกับตัวละครครูทีี่กาละแมเล่นใน ม.แปด ไม่รู้เหมือนกันว่าแกยังสอนอยู่หรือเปล่าหรือแกหมดอายุราชการไปแล้วหรือยัง  ความจริงแกก็เป็นคนดีคนนึงเลยนะ แต่ทำไมสอนโหดชิบหายก็ยังไม่เข้าใจจนถึงตอนนี้

วิธีการสอนของครูจัน

ความจริง ผมชอบเรียกครูแก ว่า "ป้า" เพราะแกบ่นเหมือนป้าข้างบ้านและมีความวุ่นวายเจ้าระเบียบนั่นแหละ  การสอนของป้าแกหรอ  ทรมานเด็กมากโดยไม่จำเป็นต้องใช้ไม้เรียวเด็กก็กลัว

แกสอนวิทยาศาสตร์และเกษตร การดูแลพื้นสวนและรดน้ำของเด็กๆในโรงเรียนนั้น เรียกได้ว่าแกเป็นคนแมนเนจและคอนโทรนทั้งหมดเลย  /ฮา ก็ไม่ขนาดนั้น

ความจริงป้าแกอยู่ฝ่ายวิชาการนะ แต่วางตัวดีเกินไปจนกลายเป็นพ่วงสองฝ่ายคือ ครูวิชาการและครูปกครองไปในตัว  และการรดน้ำ ร้อย กระป๋อง(บัว) ของแกก็เป็นการทำโทษที่ร่ำลือ โจทย์ขานกันของนักเรียนทุกรุ่นแหละ น้อยนักที่เด็กจะหลุดรอดจากการทำโทษดังกล่าว และ การทำโทษนี้ยังมีผลกับบทลงโทษอื่นๆของเด็กในโรงเรียนนอกเหนือจากชั้น ประถม 5-6 ด้วย

คิดสภาพการต้องออกมารดน้ำสิ  ไปกลับก็รวมๆกันสองร้อยเที่ยวแหนะกว่าจะหาน้ำแล้วไปตักรดต้นไม้ในโรงเรียน ขาลากกันไปสิ การลงโทษแบบนี้จะเป็นขั้นหนักมากแล้ว  ความจริงแกจะไม่ค่อยสั่งทำโทษ เยอะๆขนาดร้อยบัวกับใคร เบส(ค่ากลาง)ของการลงโทษนี้จะเกิดขึ้นอยู่ที่ 20-50 กระป๋องเท่านั้น

โดยจะทำโทษแบบนี้กับคนที่

//  โดดเรียนหนีออกนอกโรงเรียนก่อนเวลา (โดยไม่มีผู้ปกครองมารับ) 

//  โดดเรียนวิชาแก (อันนี้ร้อยกระป๋องไปเลย ไม่มีส่วนลดมีแต่ส่วนแถมถ้าเป็นหน้าเดิม)

// ทำการบ้านผิด (?) อันนี้โทษสถานเบา ส่วนใหญ่แกจะไม่ลงโทษด้วยวิธีนี้ แกจะลงโทษในข้อที่แบบไม่ควรจะผิดแต่เสือกผิด ประมาณ 1+1 =2 แต่ตอบ 4 นั่นแหละ

//ไม่ส่งการบ้าน  อันนี้จะเป็นระบบสหกรณ์คือ คิดเป็นรายครั้งทบต้น ทบดอก คือแกจจะมีบัญชีจดไว้เลยว่าใครไม่ส่งการบ้านไหน กี่ครั้งแล้ว  โดย 1 ครั้ง 10ป๋อง 2ครั้ง 20 ป๋อง ไปเรื่อยๆ  ทางที่ดีส่งการบ้านแกเถอะ ถ้าไม่อยากโดนแบบนี้ ตีผมเถอะ ตีให้จบๆเหอะ แบบนี้มันโหดไป ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้โดนนะ แต่ก็มีโดนบ้างสองสามครั้งแหละ กับการไม่ส่งการบ้านแก

นอกจากนั้น ก็มีการทำโทษที่โหดกว่านั้นอีกคือ

ยืนเรียน โต๊ะเรียนก็มีนะ แต่มีไว้สำหรับคนเก่งหรือคนดีเท่านั้น ใครได้นั่งนี่แม่งโคตรอภิสิทธิชนอ่ะพูดเลย    วิธีการทำโทษนี้จะเกิดขึ้นได้หลายกรณีคือ

// ไม่ส่งการบ้าน โดนสองสถานคือ ไม่ได้นั่งเรียนแล้วยังต้องไปรดน้ำด้วย (ในบางครั้ง)

// มาสาย อันนี้นี่เรียกว่าแสบมาก มาช้าเข้าห้องหน้าแหกแล้วยังอายต่อเนื่องแบบอิมแพค เพราะต้องค่อยๆหอบของไปยืนอยู่หลังห้องแทบจะทั้งวัน (ถ้าวันนั้นไม่มีเฉลยควิซ วันนั้นจะได้ยืนทั้งวันแน่ๆ)

// คุยกันเสียงดัง  แกจะลงโทษแบบนี้อย่างเฉียบขาด อย่าพูดตอนที่ไม่ให้พูด คุยเรื่องเรียนถามกันในเนื้อหาได้ แต่อย่าคุยเรื่องไร้สาระล่ะ  เป็นการรบกวนการเรียนของคนอื่น แกจะเงียบและมองเราทุกคนด้วยสายตาเย็นชา สันหลังของเราจะเย็นวูบ ดุจดั่งมีพลังงานบางอย่างผ่านด้านหลัง  และความซวยนั้นจะตกเป็นของชื่อๆนึง ที่หลุดออกมาหลังจากนั้น แกจะได้ยืนเรียนอยู่หลังห้องรวมกับคนไม่ทำการบ้าน 

แต่ก็มีแหละที่แกคอนโทรนไม่อยู่เพราะต่างคนต่างพูดมาก สรุปได้ยืนเรียนกันหมดทั้งชั้นจนหมดคาบ  มีครั้งเดียวเลยมั้ง

// ทำข้อสอบผิด  เชี่ยเอ้ยทำข้อสอบผิดแล้วยังต้องออกมายืนเรียนหรอวะ ไม่แฟร์เลย  เปล่าหรอกไปเดินแฟชันวีคแก ให้คิดอย่างนั้น เพราะเฉลยเสร็จก็กลับมานั่ง (สรุปแกเอามาประจานสะงั้น) 

เดี๋ยวนะ นี่เราพูดแต่เรื่องลงโทษหรอ ?

ยังไม่พูดถึงการสอนของแกเลยนี่นา  จริงๆแกก็สอนในเนื้อหาแหละ  บางทีอาจมีการให้คิดต่อด้วยการตั้งคำถามท้ายคาบ (กรณีไม่มีแบบทดสอบท้ายบทในวันนั้น) แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีแหละ

พอถึงวันที่แกจะสอนพวกเรา ต้องไปส่งหนังสือกับแกก่อน 8.00 เพืื่อให้แกเอาไปตรวจด้วย ใครส่งช้ามีสันหลังหวะและมีโอกาสได้ยืนเรียนตลอดคาบแน่ๆ  เสียวกันไปตามๆกัน ดังนั้นวันนั้นต้องมาเช้าๆหน่อยก็แล้วกัน

คณิต  งานอาชีพและภาษาอังกฤษ - ครูญา

เมื่อพูดถึงงานบ้านและภาษา ครูญาจะสอนวิชาพวกนี้ แกไม่โหดเท่า "ป้าจัน" แต่ก็โหดแหละนะ แกเข้มงวดกับความปราณีตของงานมากกว่าครูจันอีก  แม้จะไม่มีบทลงโทษมากนัก แต่ก็อาจจะโดนบ่นหนักถ้าทำงานเขี่ยมาส่ง  เช็ดเหงื่อแหละกับวิชานี้

งานส่วนใหญ่จะเป็นการจดคำศัพท์  วาดสมุดภาพคำศัพท์ และคัดบทความสั้นๆ ในหนังสือมาส่งแก (กรุณาเขียนให้ดี สวย และดูสะอาดตา ถ้าไม่อยากหูชา) นอกจากนั้นแกมีพลังพาวเวอร์มาก ที่สามารถสอนเด็กทุกชั้นได้ด้วยตัวคนเดียว ในช่วงสัปดาห์ของครูทั้งโรงเรียนไปพาเด็กโตเข้าวัดและเข้าค่ายลูกเสือ หรือถูกส่งไปอบรมนั่นนี่ จนโรงเรียนร้าง สวรรค์วันหยุดสัปดาห์นึงของเด็กเลยหายไปในพริบตา

ภาษาไทย - ครูดอม

ครูดอมเป็นคุณลุงใจดีมาก และแกก็ดุมากด้วยส่วนใหญ่แกไม่ดุนะ สอนเรียบง่ายและเด็กก็เข้าใจด้วย ดีกว่าครูเด เยอะมากครับ มากขนาดว่าอย่าเอาไปเทียบกับครูเดเลย รวมๆแล้วผมจำแกไม่ค่อยได้เลยนะ

คณิต  ศิลปะ  คอมพิวเตอร์  และสังคม - ครูฤทธิ์

ครูฤทธิ์เป็นครูฝ่ายอาร์ตของโรงเรียนครับ แกเป็นครูศิลปะ แต่โรงเรียนขาดครูสังคมแกเลยต้องมาสอนสังคมและคอมพิวเตอร์ด้วย เพราะแกใช้งานคอมพิวเตอร์เก่งกว่าครูคนอื่นๆ  ครูแกไม่ค่อยจะดุ แต่ก็ฟังเสียงเด็กเล่นกันในห้องขณะที่กำลังสอนไม่ได้นะ แกจะเดือดห้องพังได้เดี๋ยวการเรียนทั้งวันจะน่าเบื่อไป เราเลยคุยกันเบาๆแทน  แต่เดี๋ยวแม่งก็จะดังมาอีกอยู่ดีแหละ

พละศึกษาและสุขศึกษา -  ครูสรัญ

ครูสรัญคือใครก็ครูที่สอน ป.สามผมนั่นแหละครับ ไปตามอ่านการสอนของแกช่วงป.สามของผมได้