จุดเริ่มต้น และจุดสิ้นสุด เกิดขึ้นกับทุกสรรพสิ่งบนโลก ไม่เว้นแม้แต่ความสัมพันธ์ เมื่อเลิกรากันไปไม่ว่าจะความสัมพันธ์แบบไหนไม่มีคำว่า ไม่เจ็บ และบอกไม่ได้ว่า ใครเจ็บกว่า...
เชื่อว่าทุกคนคงมีเพลงที่ฟังแล้วบ่อน้ำตาแตก ฟังแล้วก็ไม่พ้นจะห้วนนึกถึงเรื่องราวที่เจ็บปวดในอดีต และเพลงเหล่านั้นก็ไม่ต่างอะไรจากหนามที่ค่อยทิ่มแทงเราอยู่ แต่มันก็เกิดจากที่เราชี้ให้มันเป็นหนามเอง ทำไมเราถึงปล่อยให้หนามทิ่มแทงตัวเอง ก็เพื่อจะได้รู้ว่าเรายังมีหัวใจเจ็บเป็นไม่ได้ตายด้าน
ทุกครั้งที่ยูทูปรันมาถึงเพลงนี้เรามักจะกดข้ามอยู่บ่อยๆ เพราะฟังทีไรเหมือนไปสะกิดต่อมน้ำตาอยู่เรื่อยแต่ก็เหมือนเป็นโรคจิตชอบฟังเพลงที่ทำให้ตัวเองเจ็บทั้งๆ ที่เลือกเดินออกมาจากความเจ็บ บ้าชะมัด!!
และทุกครั้งที่ฟังมักจะเกิดคำถามขึ้นในหัวว่า...ถ้าวันนั้น...
ถ้าวันนั้นเราไม่พลั้งพูดคำนั้นไปทุกอย่างคงไม่พังแบบนี้
ถ้าวันนั้นเราไม่เผลอทำแบบนั้นไปคงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
ถ้าวันนั้นเราทำอะไรสักอย่างคงจะไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง
ถ้าวันนั้นเราหันหน้าคุยกันคงไม่ต้องจบลงด้วยการเลิกรา
นานาเหตุผลที่เรามักโทษตัวเองทุกครั้งที่มีบางสิ่งมาสะกิดต่อมความทรงจำที่ไม่สวยงามนักในอดีตเหตุผลร้อยแปดที่ทำให้เราจมปลักอยู่กับความทรงจำสีจางๆ แต่กลับชัดเจนทุกครั้งที่ผุดขึ้นมาในหัว
“แปลกจริงทำไมบางเรื่องที่อยากจำกลับไม่จำแต่บางเรื่องที่อยากลืมแทบตายกลับไม่ลืม”
หรือจริงๆ แล้วเวลามันไม่ได้ทำให้เราลืมได้ แต่เวลามันแค่บรรเทาความเจ็บปวดลงเท่านั้น แม้เราจะเดินออกมาจากมัน ทิ้งทุกอย่างที่จะทำให้นึกถึง(แต่บางอย่างก็ทิ้งไม่ลง) ลบรูปที่เคยถ่าย(ซึ่งบางรูปก็ยังอยู่เพราะเสียดาย) ลบเพื่อนในเฟซบุ๊ค(อันนี้ทำใจลบไม่ได้จริงๆ) พยายามไม่ไปในที่ที่มีความทรงจำของเราและเขาอยู่(พยายามแล้วความรู้สึกเดิมก็ย้อยกลับมาอยู่ดี)
สุดท้ายก็ได้พบว่า ถ้าจะให้ลืมคงทำไม่ได้ เพราะภายในความรู้สึกแย่ๆ มันยังมีความรู้สึกดีๆ ที่ติดอยู่ข้างกัน แค่ช่วงเวลาหนึ่งเราจะนึกถึงแต่เรื่องที่ทำให้ใจมันเจ็บ เพื่อจะได้จำว่าเราเจ็บแค่ไหนถ้าไม่ลืมก็จะเจ็บอยู่อย่างนี้
เพราะที่จริงแล้วเรายังรัก รัักทั้งๆ ที่เจ็บ...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in