เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Lilith: Death's OrderAki_Kaze
บทที่ 20 ในโลกของยมทูตก็มีนรกอยู่
  • *หมายเหตุ - ใครอ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่าไม่ไหว ไม่โอเค ข้ามไปด้านล่างได้เลยนะคะ

    เนื่องจากเนื้อหาบางส่วนพูดถึงตอนที่ลิลิธกำลังโดนฆ่าค่ะ


    บทที่ 20

    ในโลกของยมทูตก็มีนรกอยู่

     

     

                สถานที่หมายของฉันกับออกัสคือเจอริโก้ แต่ยามที่ฉันลืมตาขึ้นมาทุกอย่างกลับมืดมิด หากไม่ได้จับมือของออกัสอยู่ ฉันคงนึกว่าตัวเองอยู่ตามลำพัง

                “พวกนั้นอยู่ที่นี่” เสียงกระซิบของออกัสดังในความมืดมิด

    พวกเขาสามารถสกัดการบลิงก์ของออกัสได้ ทำให้เราทั้งคู่ติดอยู่ที่ความว่างเปล่า

                “ลิลิเบธ แมรี่ แลงดอน โปรดมากับพวกเรา”

                ฉันจำเสียงของเจดได้ ร่างของเขาปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเรา ทั้งที่อยู่ในความมืด แต่เรากลับเห็นเขาได้อย่างชัดเจน

                “เจด ผมเป็นผู้ดูแลของเธอ ให้ผมรับโทษ” ออกัสก้าวขึ้นมาด้านหน้าเล็กน้อยเพื่อบังตัวฉัน

                “ออกัส ลี เอเลียต กลับไปเจอริโก้”

                “เจด”

                “นี่เป็นคำสั่ง”

                ออกัสกุมมือฉันไว้แล้วหันมาทางฉัน

                “พวกนั้นพยายามทำร้ายเธอ แต่เธอจะผ่านมันไปได้ นึกถึงสิ่งที่ทำให้เธอเป็นตัวเธอ”

                ออกัสบีบมือของฉันแน่น ก่อนจะบลิงก์ไป

                “ดูเหมือนว่าลางสังหรณ์ของฉันจะถูก เราเจอกันอีกแล้วนะ คุณแลงดอน”

                “จะเกิดอะไรขึ้นกับฉัน”

    พอไม่มีมือของออกัส ฉันก็รู้สึกหนาวขึ้นมาอย่างน่าประหลาด

    “เธอจะอยู่ในความว่างเปล่าเป็นเวลา 12 ชั่วโมง เดธให้ความกรุณากับเธอมากแล้ว อย่าทำให้พวกเราทำงานได้ยากลำบากไปกว่านี้เลย ไม่มีใครยินดีที่ต้องส่งพวกเดียวกันเองมาที่นี่ เราจะพาเธอกลับเจอริโก้หลังพ้นโทษ”

    เจดพูดทิ้งไว้เท่านั้นก็หายตัวไป ความเงียบงันและมืดมิดที่แท้จริงกำลังเริ่มต้นขึ้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันต้องผ่านไปให้ได้  

    ฉันทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นเมื่อไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนหรือทำอะไร เดธลดโทษขั้นต่ำของฉันให้เหลือเพียง 12 ชั่วโมง เป็นความกรุณาอย่างนั้นเหรอ...เหมือนกับตอนที่เขายอมให้ฉันเป็นยมทูต เขาคิดอยากให้ฉันตั้งหน้าตั้งตาทำงานแล้วรอคอยให้ชื่อของฆาตกรโผล่มา ฉันควรทำแบบนั้น ควรหวังไว้แค่นั้น เพราะเท่านี้ฉันก็โชคดีมากแล้วที่ยังมีโอกาสได้เห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเขา แต่การรอคอยเป็นเรื่องยาก การรอคอยเป็นเรื่องชวนหวาดวิตก การรอคอยทำให้สมองเอาแต่คิดเรื่อยเปื่อย ฉันถึงต้องลงมือ ฉันถึงต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเร่งให้ชื่อของเขาปรากฏขึ้นมา เพื่อให้ฉันเลิกคิดฟุ้งซ่าน เพื่อให้เขาได้รับโทษจากสิ่งที่ทำ

    ออกัสกลัวอะไรนักหนานะ ฉันยังสบายดีอยู่เลย เขาวิตกกังวลเกินไปแล้ว แต่ก็แปลกดีที่ได้เห็นเขาแสดงความเป็นห่วงเป็นใย เขาไม่ได้เย็นชาอะไรขนาดนั้น...ว่าแต่ ฉันอยู่ในนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ ทำไมยมทูตถึงไม่มีนาฬิกาติดตัว แล้วพวกเขาจะไปทำงานตรงเวลาได้ยังไง

    สิบสองชั่วโมงมันนานขนาดไหนนะ ปกติแล้วฉันนอนหลับหกถึงแปดชั่วโมง ซึ่งนั่นก็ครึ่งหนึ่งของชั่วโมงลงโทษแล้ว ใช่...ฉันน่าจะนอนหลับ ต่อให้ยมทูตไม่จำเป็นต้องนอน แต่มันเป็นการฆ่าเวลาที่ดีที่สุด

     

    ดูเหมือนฉันจะคิดผิด

     

    ช่วงเวลาที่คิดว่าตัวเองปลอดภัย...นั่นแหละ เป็นตอนที่อันตรายที่สุด

     

    สิ่งที่ออกัสกังวลมาตลอด...

     

    มันเริ่มต้นจากตอนที่ฉันอยู่ในร้านเจอร์รี่ รายล้อมไปด้วยเพื่อนร่วมงาน ฟีบี้ มิเชล หลิน สตีฟ และแกรี่ พวกเขาพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะและรอยยิ้มของพวกเขาช่างเจิดจ้า 

    “ดูเวลาสิ!เราควรกลับกันได้แล้ว” ฟีบี้พูดขึ้น “ลิลี่อยู่แถวไหนเหรอ”

    ฉันมองหน้าเธอด้วยความคิดถึง ไม่รู้เลยว่าตอนนี้เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง

    “ลิลี่” ฟีบี้เรียกอีกครั้ง ฉันถึงได้รู้ว่าเธอกำลังรอคอยคำตอบ

    “ไชน่าทาวน์” ฉันพูด

    “มันดึกแล้ว เรียกแท็กซี่เถอะ” หลินแนะนำ

    ใช่ ฉันควรนั่งแท็กซี่ ฉันควรทำแบบนั้น แต่พอรู้ตัวอีกที ฉันกลับยืนอยู่กับแกรี่โดยมีศาลากลางเป็นฉากหลัง

    “งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะ” แกรี่โบกมือลา ฉันยิ้มให้แล้วโบกมือตอบ ก่อนที่เราจะแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง

    ตัวฉันกำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืน ด้วยเส้นทางเดิมที่ใช้กลับบ้านในคืนนั้น ฉันรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ฉันหยุดมันไม่ได้ เหมือนกำลังเฝ้ามองตัวเองผ่านจอโทรทัศน์ ที่ทำได้แค่ติดตามแต่ไม่สามารถเปลี่ยนอะไรไม่ได้

    ภาพตัดไปอีกครั้ง นำไปสู่ตอนที่ฉันพยายามขัดขืนจากฆาตกร

     

    ไม่...ไม่ นี่มันไม่ใช่เรื่องจริง ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่

     

    แต่ความเจ็บปวดที่ได้รับเป็นของจริง 

     

    ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่ มันจบไปแล้ว มันผ่านไปแล้ว

     

    ร่างกายของฉันปวดล้า ไร้เรี่ยวแรง

     

    นี่ไม่ใช่เรื่องจริง

     

    สิ่งที่น่ารังเกียจที่สุด คือลมหายใจของเขา ลมหายใจร้อนระอุที่ทั่งน่าสะอิดสะเอียน น่าขยะแขยง

     

    มือของเขาโอบรอบคอของฉัน ปิดกั้นฉันจากการหายใจ ฉันอึดอัด ฉันทรมาน ฉันสับสนและหวาดกลัว ฉันทำอะไรผิดถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้

     

    ฉันลืมตาขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิดของความว่างเปล่า ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ในท่านอนตะแคงตั้งแต่เมื่อไร แต่ฉันก็ไม่กล้าขยับเขยื้อนตัวแม้แต่นิดเดียว ฉันไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามีอะไรอยู่ในความมืด ฉันได้แต่นอนมองมือตัวเองเพราะกลัวว่าถ้าละสายตาไปทางอื่น เขาจะอยู่ตรงนั้น ต่อให้รู้ว่าภาพที่เห็นเมื่อครู่เป็นเพียงความฝัน แต่ความเจ็บปวดที่ได้รับกลับยังฝังแน่นไม่ไปไหน

    ตอนนั้นไม่มีใครมาช่วยฉัน

    ...และตอนนี้ก็เช่นกัน...

    “ทำไมฉันต้องเจออะไรแบบนี้ด้วย”

    ฉันเหนื่อยล้า แต่ก็ไม่อยากหลับตา ฉันอยากร้องไห้ แต่ก็ไม่มีน้ำตาไหลออกมา ฉันอยากไปจากที่นี่ แต่ก็ไม่มีทางหนีออกไปได้

     

    นึกถึงสิ่งที่ทำให้เธอเป็นตัวเธอ

     

    คำพูดของออกัสมันหมายความว่ายังไง ตอนที่ได้ยินครั้งแรก ฉันรู้อย่างชัดเจนว่าตัวเองเป็นใคร ต้องการอะไร แต่ตอนนี้ฉันไม่รู้อะไรอีกแล้ว ฉันไม่อยากอยู่แล้ว ฉันทรมาน ฉันอยากให้มันจบ

    “ปล่อยฉันออกไป” เสียงพึมพำของฉัน มีเพียงตัวฉันที่ได้ยิน

    ความคิดว่างเปล่ากลายเป็นภัยกับตัวเอง ทันที่ฉันหลับตา ตัวเองก็หลุดไปในค่ำคืนนั้นอีกครั้ง ฉันบอกลาแกรี่ ฉันเดินไปตามทางของตัวเอง

    ฉันต้องไม่คิดถึงมันฉันต้องหลุดจากคืนนี้ไปให้ได้

    ฉันกำมือแน่น เข้าใจแล้วว่าทำไมตัวเองถึงอยู่ในท่านอนตะแคงแบบนี้ ฉันพยายามทำตัวให้เล็กที่สุดเท่าที่ทำได้ กอดเข่าตัวเองแน่น ๆ ลืมตามองจุด ๆ เดียวในความมืด แต่ภาพเหตุการณ์คืนนั้นมันยังวนเวียนอยู่สมอง ฉันจดจำได้ถึงทุกความรู้สึก ทุกลมหายใจของผู้ชายคนนั้น มันก้องอยู่ในหูราวกับเขาอยู่ตรงนี้ด้วย

    ฉันปิดหูตัวเองแต่มันไม่ช่วยอะไร

    “ทำให้มันหยุดที” เสียงของฉันยังคงมีแค่ตัวฉันที่ได้ยิน

    สิบสองชั่วโมงมันยาวนานขนาดไหน แล้วโทษขั้นต่ำมันคือยี่สิบสี่ชั่วโมง พวกเขาทนกันได้ยังไง

     

    “ฉันรับโทษมาบ่อยครั้งพอที่จะไม่เห็นอะไรแบบนั้นแล้ว ความว่างเปล่าทำอะไรฉันไม่ได้อีกต่อไป”

     

    ออกัสทำแบบนั้นได้ยังไง เขาผ่านไปได้ยังไง นึกถึงสิ่งที่ทำให้เป็นตัวฉันอย่างนั้นเหรอ แล้วมันคืออะไรกันล่ะ ฉันยังเหลืออะไร มีค่าอะไร ฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากนอนกอดตัวเองแบบนี้ เพื่อให้มันผ่านไปเร็ว ๆ

    “พอสักที”

    ฉันพยายามนึกถึงเรื่องราวดี ๆ ในชีวิต แต่ช่วงเวลาแบบนี้มันกลับไม่มีความสุขใด ๆ โผล่มาในหัว ฉันไม่รู้ว่าตัวเองมีความสุขกับอะไร จริงสิ...หนังสือ...ใช่ หนังสือ นิยายเรื่องล่าสุดที่ฉันอ่านคือการผจญภัยของพัลวอล เขาออกตามหาสัตว์เลี้ยงที่หายไปของเจ้าหญิง เขาเป็นแบบนั้นเสมอ มักให้การช่วยเหลือทุกคน ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ บางครั้งความใจกว้างของเขาก็พาหายนะมาให้ตัวเอง เพราะสัตว์เลี้ยงที่หายไป ดันเป็นสัตว์ประหลาดดุร้ายแฝงกายมาซะงั้น แต่เขาก็ทำให้ฉันหัวเราะได้บ่อย ๆ ทำให้ผ่อนคลายจากการทำงานของยมทูต

    ขณะที่ฉันสามารถดึงความคิดของตัวเองไปที่อื่นได้แล้ว จู่ ๆ ก็มีมือมาจับตัวฉันไว้

    “ปล่อยปล่อยฉันนะ!” ฉันรีบลุกขึ้นนั่ง ปัดมือปริศนาทิ้งอย่างรวดเร็ว

    “ลิลิธ นี่ฉันเอง” อีกฝ่ายพูด “ออกัสเอง ฉันมาพาเธอกลับ มันครบ 12 ชั่วโมงแล้ว”

    ฉันหายใจหอบหนัก ยังไม่อยากเชื่อว่าคนตรงหน้าคือออกัส เขายกมือห่างจากตัวฉัน มองตอบด้วยสายตาระมัดระวัง

    “ฉันเอง เธอไม่เป็นอะไรแล้ว”

    ในที่สุดมันก็จบลง ในที่สุดฉันก็หลุดพ้นจากคืนนั้น

    “มันจบแล้วลิลิธ เธอทำได้ดีมาก”

    หัวตาของฉันร้อนผ่าว ศีรษะของฉันปวดตุบ ทว่ามันก็ไร้ซึ่งน้ำตาไหลออกมา

    “ฉันขอโทษที่ทำให้เธอต้องเจอเรื่องแบบนี้ ไม่มีใครควรเผชิญเรื่องแบบนั้น”

    ออกัสพูดเหมือนเขาเป็นฝ่ายผิด ราวกับเขาเป็นสาเหตุของเรื่องนี้ ทั้งที่มันเป็นเพราะฉัน...เพราะฉันคนเดียว

    ออกัสเตือนฉันตั้งแต่แรกแล้วว่า การตายคือจุดจบ อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นมันไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว ถ้าฉันฟังเขา เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น ถ้าฉันเดินผ่านประตูไม้ในความว่างเปล่าไป ทุกอย่างคงจบสิ้น  

    “ฉันจะพาเธอกลับนะ ตกลงไหม” เมื่อเห็นว่าฉันไม่ได้ตอบ เขาก็ถามต่อ “ฉันจะจับบ่าเธอเพื่อบลิงก์นะ แค่แป๊บเดียวเท่านั้น ทนหน่อยนะ”

    สัมผัสบนบ่าช่างแผ่วเบา นุ่มนวล ผิดกับทุกความรู้สึกที่สัมผัสได้ในคืนนั้น แค่ชั่วพริบตาฉันก็ได้หลุดพ้นจากขุมนรก 




     ----------------------------------


    สวัสดีค่ะ


    อย่างที่แจ้งไว้ตอนต้นว่าถ้าใครรู้สึกไม่โอเค สามารถข้ามมาตรงนี้ได้เลยค่ะ เนื้อหาของตอนนี้เป็นหนึ่งในบทลงโทษของผู้คุม การถูกขังในความว่างเปล่าคือการที่ยมทูตจะเห็นและรับรู้ทุกความรู้สึกก่อนตายค่ะ ลิลิธจึงต้องอยู่กับเหตุการณ์ใกล้ตายของตัวเองอีกครั้ง ก่อนที่ออกัสจะมารับ

    *กอดทุกคนค่ะ*

    นี่ก็เข้าสู่ตอนที่ 20 แล้วค่ะ อีกเพียง 5 ตอน ภาคลิลิธจะจบลงแล้ววันจันทร์หน้าจะเปิดจองเรื่องนี้แล้วนะคะ ขอฝากแบบรูปเล่มไว้ด้วย > <

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามและขอขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ

    Aki_Kaze 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in