เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Dear, DiaryYour writer
The World of the Married Couple 부부의 세계
  • ♠ บทความนี้ อาจมีสปอยล์ ผู้อ่านควรใช้จักรยานในการรับชม ♠
    บทความนี้ ไม่ได้อ้างอิงข้อมูลเชิงวิชาการ เป็นเพียงข้อสังเกตของผู้เขียนเท่านั้น


    ช่วงหลังๆ เรารู้สึกว่า ตัวเองเลือกดูซีรีย์ เพราะ นักแสดง มากกว่า สไตล์ของเรื่อง ทำให้เวลาดูซีรีย์ หลายๆครั้งก็จะโฟกัสที่ผู้ชายของเราและมองข้ามรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่บางครั้งผู้กำกับและคนเขียนบทตั้งใจใส่ไว้ แต่ 부부의 세계 นั้น เราเริ่มดู เพราะ ทั้งคุณแม่และน้องสาวติดกันงอมแงม จนรู้สึกว่า ถึงเวลาที่ต้องดูแล้ว ของลาออกจากไฟนอลชั่วคราวนะ! ผลก็คือ เรื่องนี้ เหมือนมาปลุกวิญญาณนักดูซีรีย์ในตัวเราอีกครั้งเลยค่ะ

    โดยส่วนตัว เราไม่ใช่แฟนซีรีย์ช่อง JTBC แต่อย่างใด ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาซีรีย์ที่เราดูส่วนใหญ่น่าจะเป็นของ TvN เกือบทั้งหมด แต่ระหว่างหาข้อมูลในการเขียนคอนเทนต์นี้ ก็พบว่า บางเรื่องที่เราดูใน netflix อย่าง 나의 나라 หรือ Beauty Inside ก็เป็นของช่อง JTBC นี่นา น่าแปลกใจเหมือนกันนะคะ

    วันนี้ เราอยากจะมาแชร์สิ่งที่เราได้จากการดู 부부의 세계 ตอนที่ 1- 7 ค่ะ
    시작할 준비가 되셨습니까?

  • Red lips! No!

    ขนาดตอนออกงาน ปากก็ยังไม่แดงเท่าตอนไปสู้กับอิเมียน้อยเลยค่ะ

    เพื่อนๆ สังเกตกันมั้ยคะ? ว่า ตอนเปิดเรื่องมา จี ซอนอู นางเอกของเรามักจะแต่งหน้าโทนนู้ด ทาปากสีไม่ฉูดฉาดนัก แต่ในช่วงตอนที่ 1-6 ซึ่งเป็นระยะ pre-divorce ครั้งแรกที่นางเอกเริ่มแผนชั่ว วันนั้น นางหยิบลิปแดงขึ้นมาทาค่ะ! ซึ่งสร้างความแปลกตาแปลกใจให้กับทั้งลูกและผัวเบาๆ และทุกครั้งที่นางจะทำชั่ว จี ซอนอู จะทาปากสีแดง

    ❀ เราคิดว่า สีลิปสติกของนางเอก เป็นการใช้ สีเชิงสัญลักษณ์ ค่ะ ❀

    ตอนที่ 1 ฉากที่นางเอกเริ่มสงสัยว่า สามีนอกใจ

    อย่างฉากแรกที่นางเอกทาปาก สีชมพู  ผู้กำกับอาจต้องการสื่อถึงความบริสุทธิ์และใสซื่อ ซึ่งในหลายๆสถานการณ์ สีชมพูก็มักถูกใช้เป็นตัวแทนแห่งความเยาว์วัยของผู้หญิง ซึ่งในฉากอื่นๆ หลังจากผ่านตอนแรกไป เราสังเกตว่า นางเอกจะแต่งหน้าน้อยลงเรื่อยๆ ออกแนวซีดไปเลยในบางที ซึ่งจริงๆแล้ว อาจจะสื่อถึง ความรักที่จืดจาง ไปพร้อมๆกับ ความทุกข์ที่บั่นทอนความมีชีวิตชีวาในตัวของนางเอกผู้เพียบพร้อมก็ได้นะคะ

    แต่เมื่อเริ่มมีความกล้าที่จะก้าวออกจากโลกของภรรยาผู้แสนดี นางเอกจะก็เริ่มทาปาก สีแดง ค่ะ 

    แม้จะไม่ใช่ทุกคนที่ได้รับความมั่นใจจากการทาลิปสติกสีแดง แต่สำหรับ จี ซอนอู ลิปสติกสีแดง ก็เป็นเหมือนตัวแทนของความมั่นใจ เป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆในการเปลี่ยนชีวิตของตัวเอง

    พร้อมปะทะ กับ นังเมียน้อยแล้วค่ะ

    หลังจากหย่าแล้ว จะเห็นได้ว่า นางเอกใส่ใจการแต่งหน้าและแต่งตัวมากขึ้น ดูมีความ elegant มากกว่าเดิม อะไรปรมาณนั้น นอกจากนี้ ลิปสติกสีแดงก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปโดยปริยาย

  • สีผมอาจบอกอะไรมากกว่าที่คุณคิด

    ในช่วง pre-divorce สมัย ยอ ดาคยอง ยังเป็นเมียน้อยวัยละอ่อน เธอทำผมสีออกแนวน้ำตาลส้มๆ แต่เมื่อเธอกลับมา เมืองโกซาน อีกครั้ง เธอมาพร้อมกับผมสีดำ ค่ะ

    เราคิดว่า การเปลี่ยนสีผมของ ยอ ดาคยอง เป็นการสื่อว่า เธอมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีความสุขุมนุ่มลึกในการเดินแผนการต่างๆ ซึ่งเผลอๆ เธออาจจะมีไหวพริบและมีความแยบคายมากกว่า จี ซอนอู ก็ได้นะคะ 

    ผิดจากสมัยที่ยังเป็นเมียน้อย ที่คิดเพียงว่า ถ้านางเอกรู้ว่า ตัวเองท้อง ยังไงก็ต้องยอมหย่า ทำตัวเป็นเมียน้อยขี้วอแว ป่วนเค้าไปทั่ว


  • พฤติกรรมชอบเอามือป้องปาก

    เพิ่งอ่านเจอจาก AkeruFeed เมื่อไม่นานมานี้เองว่า คนที่ชอบเอามือป้องปาก แม้ว่าภายนอกจะดูสงบและควบคุมสติอารมณ์ได้ แต่จริงๆ ภายในใจกระสับกระส่ายและวุ่นวายตลอดเวลา ซึ่งตอบคำถามที่เราตั้งข้อสงสัยมาตั้งแต่ต้นเรื่องว่า "ทำไม จี ซอนอู จะต้องจับปากตลอดเวลา? " 


    หลักฐานว่า จับปากตลอด จับเยอะจริงๆนะ 5555

    พฤติกรรมที่ติดเป็นนิสัย ส่วนมากเจ้าตัวมักจะไม่สังเกต จนกระทั่งมีคนบอก หรือ มีอะไรมากระตุ้นให้ฉุกคิด ใช่ไหมคะ? สำหรับ กรณีของ จี ซอนอู จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะตกใจ สะเทือนใจ คิดมาก เกือบเมา ก็มักจะมีอาการจับปาก ป้องปาก มาให้เห็นตลอดเลยหล่ะ


  • ผู้ชายคนนี้ มีอะไรดี ให้แย่งกัน?


    "ผู้ชายคนนี้ มีอะไรดี ให้แย่งกัน? " เป็นเรื่องที่เราสงสัยจริงๆนะทุกคนนน หล่อก็ไม่หล่อ การงานก็ไม่เอาอ่าว ดูเป็นคนเหลาะแหละมากอ่ะ คิดยังไงก็ยังไม่เข้าใจ?

    เหตุผลว่า "เขา คือ พ่อของลูก" ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะ ในฉากย้อนความหลังก็จะเห็นว่า นางเอกไม่ได้ต้องการพ่อของลูกขนาดนั้น แต่อะไรที่เปลี่ยนให้นางยึดติดกับคนคนหนึ่งขนาดนี้

    เหตุผลที่สมเหตุสมผลที่สุดสำหรับนางเอกที่เราคิดได้ในตอนนี้ คือ อาจจะอยากยื้อ อี แทโอ ไว้ เพราะ นางคิดว่า ลูกต้องการพ่อ อยากให้ครอบครัวเป็นครอบครัว มันแสดงถึงความรักของแม่จริงๆนะ เราไม่ได้บอกว่า พ่อไม่รักลูกเลยนะ แต่พ่อไม่ได้รักลูกมาก ขนาดละทิ้งความเหี้ยของตัวเองได้ แถมยังสร้างหนี้ เอากรมธรรม์ลูกไปใช้ มันแสดงถึงคสามเห็นแก่ตัวมากเลยอ่ะ ในขณะที่ แม่รักลูกมากจนยอมได้ขนาดนี้ (อยากรู้ว่า ขนาดนี้ คือ ขนาดไหน ต้องไปดูนะทุกคนน) 

    แล้วที่โมโหมาตลอดทั้งเรื่อง คือ ลูกชายไม่ค่อยสำนึกและมองภาพตามความจริงๆ แล้วก็ยังพูดหลายประโยคมากที่ได้ยิน แล้วอยากตบปาก! #อินมากจริง

    สำหรับ ยอ ดาคยอง เจ้าของรางวัลเมียน้องแห่งชาติ (โดยเราเอง) อยากรู้มาก หลงรักอะไรในตัวอี แทโอ ลองคิดดูนะ สวย รวย แซ่บ แบบนี้น่าจะหาได้ดีกว่านี้เยอะ ซึ่งคิดว่า เรื่องราวครึ่งหลังอาจจะให้คำตอบกับเราได้


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in