เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Dear, DiaryYour writer
ทำงานก่อน / เรียนต่อ ?
  • เราคิดว่าว่า 'การหางานแรกเป็นเรื่องที่ยากที่สุด' และตอนนี้ก็ยังคงคิดแบบนี้

    ปีใหม่ที่กำลังจะถึงจะเป็นเทอมสุดท้ายในรั้วมหาวิทยาลัยของเรา จึงมีความกังวลอยู่นิดหน่อยค่ะ

    ถ้าหากมองย้อนกลับไป ช่วงเวลานี้ของปีที่แล้ว เราน่าจะกำลังกังวลเรื่องการเลือกที่ฝึกงานอยู่ โชคดีหน่อยที่สำหรับสาขาที่เรียน การหาที่ฝึกงานเป็นเรื่องไม่ยากเย็นนัก (ถ้าไม่กเฬวรากจริงๆ ก็คิดว่า หาได้นะ)

    ตัดภาพมาที่ตัวเรา ขณะที่กำลังพิมพ์บทความนี้อยู่ ก็มีความกังวลอยู่ในแบบเดิมๆ เพียงแต่เปลี่ยนจากความกังวลเรื่องการเลือกที่ฝึกงาน มาเป็นการเตรียมพร้อมเข้าสู่โลกของการเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว

    อย่างที่กล่าวไปว่า สาขาที่เรียนหาที่ฝึกงานได้ไม่ยากนัก การหางานก็เช่นกัน ทำให้ได้งานที่คิดว่า ตอบโจทย์แล้วค่ะ แต่ความเป็นไปได้ที่ว่าจะต้องกลายเป็นมนุษย์เงินเดือน 'ตื่นเช้าเพื่อไปทำงาน แล้วรีบกลับบ้านมานอน เพื่อตื่นเช้าไปทำงานอีก' ก็ยังคงเป็นเงาร้ายในห้วงความคิดของฉันอยู่ดีนั่นแหละ

    อ่านมาถึงตรงนี้ คุณอาจจะสงสัยว่า เราเลือกที่จะทำงานก่อน แล้วค่อยเรียนต่อแล้วหนิ? 
    งั้น มันจะเกี่ยวข้องกับหัวข้อของวันนี้อย่างไร?
    #วันนี้ เราอยากจะมาแชร์วิธีการตัดสินใจของเราค่ะ

    ตอนที่ฝึกงานอยู่ จำได้ว่า สภาพจิตใจย่ำแย่มาก กลัวการทำงานมากๆ ถึงขนาดคิดตลอดเวลาว่า ทำไมตอนนั้นไม่ตัดสินใจทิ้งทันตะ ทำไมไม่ไปเป็นหมอฟันซะ! งานออฟฟิศนี่ โคตรไม่ใช่ตัวเรา ซึ่งเป็นคำถามที่เราลืมถามตัวเอง ตอนเลือกเรียนบัญชี ทั้งๆที่ก็รู้ว่า ตัวเองไม่น่าจะเหมาะกับงานออฟฟิศแหละ 
    คิดถึงขนาดที่ว่า เรียนจบปี 4 แล้วเรียนหมอต่อเลยดีไหม #เป็นหนักขนาดนั้นเลยค่ะ5555
    แต่คิดไปคิดมา ก็เกิดความคิดที่ว่า อยากเรียนโทต่อเลย ดังนั้น คำถามต่อมาก็คือ 'แล้วต่อโทอะไร?'
    ซึ่งมันเป็นปัญหาโลกแตก สำหรับเด็กที่ยังไม่ค้นพบตัวเองแบบเรามากอ่ะ ทุกคนนนน
    คือ ไม่ถึงกับว่า ไม่รู้ว่า ตัวเองถนัดหรือไม่ถนัดอะไร แต่การเลือกสาขาต่อโท มันลึกซึ้ง ซับซ้อน และกดดันกว่านั้นมาก
    - ต้องมองว่า เราจะไปเรียนสาขานั้นเพื่ออะไร? 
    - มันจะ add value ให้เราอย่างไร?
    - จะไปเรียนต่อที่ประเทศไหน? มหาลัยไหน?
    - คุณสมบัติของเราพอรึเปล่า?
    - คุัมค่ากับการลงทุนมั้ย?
    - จบแล้วจะทำอะไร?
    อะไรเถือกนั้น มากมายเต็มไปหมด

    เราเองก็ลังเลๆ ทั้งสัมภาษณ์งาน ทั้งหาข้อมูล ป.โท วนๆไป จนกระทั่ง อยู่มาวันหนึ่ง อาจารย์ก็พูดขึ้นมาว่า 'การจบ ป.ตรี แล้วต่อ ป.โท เลย ผมคิดว่า มันก็เหมือนการเรียนตรีเพิ่มอีก 1 ปี ....' (อีกยาวๆที่เราจำไม่ได้ แหะๆ) ซึ่งพอกลับมาลองคิดดู มันก็จริงนะ คำถามพื้นฐานที่เราลิสต์มา เรายังตอบตัวเองไม่ได้เลย ในใจแค่อยากจะไปต่อ ในมหาลัยที่ rank สูงๆ ในเวย์อื่นที่ไม่ใช่สายนี้แล้ว หากสรุปว่า เป็นอาการของคนอยากหนีงาน ก็คงไม่ผิดนัก

    หลังจากวันนั้น เราก็เริ่มคุยกับตัวเองทุกวัน จนย้อนกลับมากที่รากของเรา ซึ่งก็คือ ความเชื่อว่า 'งานแรก หายากที่สุด' เหมือนพรึบตานั้น ก็ได้คำตอบที่จะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจเลยค่ะ
    เมื่อโอกาสเข้ามาแล้ว ก็คว้าไว้เถอะ อย่างน้อยก็ได้ชื่อว่า มีประสบการณ์ทำงานแล้ว ถือว่าได้ทำงานเพื่อค้นหาสิ่งที่เรายังขาด จะได้รู้ว่าอยากเพิ่มเติมอะไร เป็นแรงบันดาลใจในการเรียนต่ออีกทางหนึ่ง ทำงานแล้วไม่ชอบ ก็ค่อยไปเรียนต่อได้นี่นา หรือระหว่างทำงานจะลองเรียนตรีอีกใบก็ไม่เสียหาย ลองมองดูดีๆแล้ว การทำงานก่อนไม่เห็นจะเสียหายอะไรเลยค่ะ

    สิ่งที่อยากจะบอก สำหรับคนที่กำลังซัฟเฟอร์กับการฝึกงาน คือ อย่าเพิ่งรีบตัดสินตัวเองไป เราแค่กำลังอยู่ในระยะปรับตัวค่ะ พยายามมองโลกใบนี้อย่างเป็นกลาง มองภาพว่า กำลังเดินทางท่องเที่ยวเก็บประสบการณ์อยู่ แล้วอะไรๆก็จะดีขึ้น

    ส่วนคนที่กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ แบบเดียวกับเรา ก็อยากให้คิดเยอะๆ คิดให้รอบด้าน ประเมินสถานการณ์ของตัวเองให้ถี่ถ้วน เพราะ conditions ของแต่ละคนก็ต่างกันออกไป อย่าไปมัวแต่ไปอิจฉาหรือมองแต่คนที่เพียบพร้อม มีทางเลือกมาก ที่การตัดสินใจของเขาอาจจะดูเป็นเรื่องง่าย เลยค่ะ ลึกๆแล้วเขาเองก็อาจจะมีลับลมคมในที่เราไม่ทราบก็ได้ และด้วยพลังของโลกทุนนิยม เรื่องแบบนี้ก็เป็นเรื่องปฏิเสธไม่ได้ใช่ไหมคะ? ก็เราอยู่ในโลกที่เงินเป็นใหญ่นี่นะ อย่างไรก็ตาม อย่าเอาเรื่องลบๆมากดดันตัวเองมากค่ะ ถ้าเราได้คำตอบที่ใช่ เราจะพาตัวเองไปถึงปลายทางได้ เราเชื่อแบบนั้น! (เราอาจจะยังอยู่ในวัยโลกสวยก็ได้ ใครจะรู้)


    ส่งท้าย

    เราไม่ใช่คนเรียนเก่ง ไม่ได้มีโปรไฟล์ดีเด่นอะไร ก็เป็นคนปกติธรรมดาคนหนึ่ง อาจจะเรียกกว่า มักเกิ้ลท่ามกลางมหาเทพก็ว่าได้ แต่อยากใช้พื้นที่ตรงนี้ ให้กำลังใจทุกคน รวมถึงตัวเองด้วย อยากให้ทุกคนมีความเชื่อมั่นใจตัวเองค่ะ การถ่อมตัวเป็นเรื่องที่ดี แต่บางครั้งก็อย่า underestimate ตัวเองมากไป

    รัก,
    Your writer
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in