เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
157GIRLRin Kaopan
Tears


  • “ The girl, who never cry for herself. ”


    คนๆหนึ่งจะทำให้เราทั้งเข้มแข็งและอ่อนแอได้ยังไง

    คำถามง่ายๆที่ฉันเองก็ยังคงสงสัยมาถึงทุกวันนี้…




    ตัวฉันที่เติมโตมาโดยไม่รู้จักคนที่พี่ชายและแม่เรียกว่าพ่อ ฉันของแทนเขาว่า ‘คุณ’ ก็แล้วกัน ก็เรายังไม่เคยรู้จักกันจริงๆเลยนี่นา


    ตลอดเวลาที่ตัวฉันค่อยๆเติบโต มีเพียงแม่ที่แสนใจดี เข้าใจในตัวฉันทุกอย่าง และพี่ชายที่คอยดูแลกันมาตลอด


    ตั้งแต่จำความได้ ฉันร้องไห้ไม่บ่อยเท่าไหร่ แทบจะนับได้ด้วยนิ้วมือของตัวเอง ในหลายๆสถานะการณ์กำลังสอนฉันให้เข้มแข็ง และฉันก็หวังว่าตัวเองจะผ่านมันไปได้...


    พลัก!!


    เสียงวิ้งดังขึ้นมาในโสตประสาทแล้วทุกๆอย่างก็เงียบหายไปราวกับอยู่ในห้วงศูนย์ยากาศ เหมือนกล้องที่ตกลงกระแทกพื้น ภาพที่เห็นตอนนี้มีเพียงรองเท้านักเรียนของเด็กชายตัวโตที่เข้ามาผลักฉันให้ล้มลง


        เปียที่พี่ชายถักให้ในทุกๆเช้าถูกกระชาก  เด็กตัวโตดึงเอายางมัดผมอันใหม่ของฉันไป ความเจ็บแล่นไปตามกระโหลกทำเอาตัวฉันในตอนนั้นเบ้ปากทำหน้าเหยเก แต่ฉันไม่ร้องไห้หรอกนะ มันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลยที่จะต้องมาเสียน้ำตากับเรื่องแบบนี้


        “มองทำไม ยัยลูกไม่มีพ่อ!!”


        “..เราขอยางมัดผมเราคืนได้มั้ย”


        ฉันลุกขึ้น แบมือไปตรงหน้าของของที่เป็นของฉันคืน ทั้งๆที่รู้ดีว่าสิ่งที่จะได้คืนไม่มีทางเป็นสิ่งที่ขอ


        “ ไม่ให้ ” ไม่พูดเปล่า เขาขว้างมันออกนอกหน้าต่างไป พอฉันจะวิ่งไปดู เด็กอีกคนที่อยู่ใกล้ๆก็เข้ามาผลักฉันอีก เสียงของหัวเข่ากระแทกอย่างแรงกับพื้นทำให้ฉันเม้มริมฝีปากขืนความเจ็บ


        ไม่..ฉันจะไม่ร้องไห้ให้คนพวกนี้ ความเจ็บเหล่านี่มันเล็กน้อยกว่าจะต้องมาใส่ใจ


        “ไม่ร้องไห้เลยว่ะ.. เอาไงดี”


        “ก็ตีมันอีกดิวะ!!” เด็กตัวโตที่สุดดูหัวเสียและหงุดหงิดที่ฉันไม่ยอมร้องไห้ออกมาเสียที พอเขาพูดแบบนั้น เด็กผู้ชายที่อยู่ใกล้ที่สุดก็ตรงเข้ามากระชากผมฉันอีกครั้ง


        “น่าเกลียดว่ะ ดูยัยหัวฟูนี่สิ” เสียหัวเราะดังเคล้าไปกับความเจ็บจนชา มือของฉันปัดป่ายพยายามแกะมือนั่นออก ถ้าฉันตัวโตกว่านี้ ถ้าฉันแรงเยอะกว่านี้..สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น ใช่ไหม?


        หรือถ้าคุณยังอยู่ มันจะไม่เกิดขึ้นใช่รึเปล่า..




        “น้ำว้า” เสียงคุ้นหูดังขึ้น ซุปเปอร์แมนของฉันมาแล้ว เขามารับฉันกลับบ้านในทุกเย็น พอแค่ได้ยินเสียง ได้เห็นหน้า สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็ก็เป็นเหมือนหมอกที่โดนแสงอาทิตย์ขับไล่


        เขาเป็นเหมือนฮีโร่ที่คอยปกป้องฉันเลยล่ะ เป็นเหมือนของขวัญจากคนแปลกหน้า ขอบคุณที่คุณส่งเขามาอยู่ข้างๆฉันในวันที่คุณไม่อยู่แล้ว


        ฉันกลับมายิ้มได้อีกครั้ง ใช้มือสางๆผมอย่างลวกๆให้เข้าที่ ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเขาถามก็ทำไมผมเป็นแบบนี้ ฉันจะตอบว่าแบบนี้มันสวยกว่า


        ถ้าเขาถามว่ายางมัดผมที่พึ่งได้มาใหม่ไปไหน ฉันจะตอบว่าฉันทำมันหายอีกแล้ว


        ไม่เป็นไร ฉันจะไม่เป็นไร…


        “น้ำว้า ขาไปโดนอะไรมาอ่ะ?”


        อ่า… รอยเขียวเป็นจ้ำที่โผล่พ้นขอบกระโปรงออกมา ฉันไม่ได้เตรียมคำตอบไว้ ทำไมไม่รู้ตัวให้เร็วกว่านี้นะ


        “ถูกแกล้งมาเหรอ?”


        “เปล่าสักหน่อย”


        “น้ำว้า”


        “แค่เล่นกันเฉยๆ”


        ใช่ มันแค่เรื่องเล็กน้อย ไม่เป็นไรเลย ถึงจะต้องโกหกอีกกี่ครั้งก็ไม่เป็นไร…




        เหมือนเดิม เหตุการณ์ที่มักจะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่วันนี้มันต่างออกไปนิดหน่อย


        ในความทรงจำของฉัน ตอนนั้นมีแสงแดดยามเที่ยงส่องเข้ามาในห้องเรียน มันสว่างกว่าทุกวัน ฉันนั่งยิ้มกับกล่องข้าวที่แม่ใส่กระเป๋ามาให้เมื่อเช้า สิ่งเล็กน้อยในหนึ่งวันที่ทำให้ฉันยิ้มได้




        “เฮ้ย! ดูนี่สิ”


        “โหห คนน่าเกลียดๆเขากินอะไรแบบนี้หรอวะ”


        “มองทำไม ยัยลูกไม่มีพ่อ”


        ตากลมสบเข้ากับเด็กตัวโตนิ่ง ไม่ได้หวาดกลัว แต่ก็ไม่ได้แข็งกร้าว ร่างเล็กๆลุกขึ้นยืน ก้าวอย่างมั่นคงไปตรงหน้ากลุ่มเด็กเกเร


        “เราขอกล่องข้าวเราคืนนะ” เธอแบมือออกไป ขอรับสิ่งที่เป็นของของเธอแต่แรกคืน เด็กเกเรหัวเราะและมองกลับมาด้วยสายตาเหยียดก่อนจะเริ่มบทพูดเสียดแทง ทั้งด่าทอล้อเลียน หวังให้คนตัวเล็กร้องไห้ออกมา


        เด็กหญิงเม้มริมฝีปาก ในเมื่อขอดีๆไม่ได้ ครั้งนี้เธอจะต้องสู้บ้าง จะต้องเข้มแข็งขึ้นได้แล้ว เสียงเล็กๆกล่าวบอกตัวเอง แล้วสองมือก็คว้าเข้าที่กล่องข้าว ยื้อแย่งกับเด็กชายตัวโต


        พลัก!!


    “ยัยลูกไม่มีพ่อ”


    ร่างเล็กถูกเหวี่ยงไปตามแรกผลักก็ล้มลงกระแทกกับพื้นไปพร้อมกับกล่องข้าว พอจะเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องชะงักไป


    วันนี้แสงแดดตอนเที่ยงสว่างมาก มากเสียจนได้เห็นน้ำตาของเธอชัดเจน มากเสียจนเห็นว่าพระอาทิตย์ของเธอ น่ากลัว..


    ภาพของพี่ชายที่โกรธจัดกำลังซัดกำปั้นเข้าที่หน้าเด็กเกเรทำให้เด็กหญิงตัวสั่น พระอาทิตย์ที่สดใสของเธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน พอตั้งสติได้ก็ตรงเข้าไปสวมกอดแผ่นหลังกว้างไว้


    “กล้วย พอแล้ว เขาไม่เป็นไร”


    “....”


    “กล้วย ฮึก..พอแล้ว ถ้าไม่..หยุด เค้าจะไม่พูดด้วยแล้วนะ”


    เด็กหญิงร้องไห้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอสะอื้อจนตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้  ไม่ว่าจะต้องโดนผลัก โดนรังแกหรือกร่นด่า ไม่เคยสักครั้งที่จะยอมให้น้ำตาไหลออกมา


    ทุกอย่างเงียบลง พระอาทิตย์พาเด็กหญิงออกมาจากความวุ่นวาน อ้อมกอดอบอุ่นค่อยๆปลอบให้คนตัวเล็กดีขึ้น เด็กหญิงได้แต่สงสัย ทำไมแสงสว่างถึงทำให้เห็นน้ำตาของเธอได้ชัดเจนขนาดนี้ และทำไมเธอถึงร้องไห้ให้เขาอย่างง่ายดาย





    “น้ำว้า...”


    “เมื่อกี้เธอน่ากลัวมาก”


    ฉันพูดออกไปทั้งปากที่ยังสั่น เหมือนมีก้อนแข็งจุกอยู่ที่คอ มันยากเหลือเกินที่จะเปร่งเสียงออกไป


    “เค้าขอโทษ” มือของพี่ลูบเบาๆลงที่หัวของฉัน มือที่คอบปกป้องกันมาตลอด


    “วันหลังไม่เอาแล้วนะ”


    “....”


    “เธอ…”


    “สัญญาครับ”


    พระอาทิตย์ของฉันก็แค่โกรธ อย่างน้อยเขาก็ยังสัญญาว่าจะไม่ทำอีก


    “น้ำว้า..ถ้ามีใครแกล้งอีกต้องบอกเค้านะ”

    ไร้ซึ่งคำตอบ ในตอนแรกฉันชั่งใจเหลือเกิน คนๆหนึ่งจะทำให้เราทั้งเข้มแข็งและอ่อนแอได้ยังไง ตอนนี้ตัวฉันเองกำลังอ่อนแอใช่หรือเปล่า เพราะฉันอ่อนแอ พระอาทิตย์ของฉันถึงได้โกรธ


    “เขาสัญญา”


    ใช่ พระอาทิตย์ของฉันก็แค่โกรธ.. ฉันจะต้องเข้มแข็งขึ้น ทุกอย่างจะไม่เป็นไร…





    น้ำตาแด่พระอาทิตย์ของฉัน

    แด่เขาผู้อยู่เหนือทุกข้อยกเว้น



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in