เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
FUK-YOU Trip : ญี่ปุ่นหน้าร้อนeiijay_
(4)หุบเขาทาคาชิโฮะกับทัวร์จีน
  • - หุบเขาที่ควรไปที่สุดในคิวชู ธรรมชาติเต็มๆ ไปตอนฤดูใบไม้ร่วงกำลังดี

    - มีทัวร์ทาคาชิโฮขายในเว็บkkday แต่ดันเป็นทัวร์จีน ถ้าได้ภาษาจีนจะคุ้มมาก

    ____________________________________________________________________________________________

    วันนี้(วันที่2)เราตั้งใจไปหุบเขาtakachiho เลยตัดสินใจซื้อทัวร์ล่วงหน้าจากเว็บkkday ถ้าใครยังไม่รู้จัก มันก็คือเว็บดีลที่มีทัวร์มีตั๋วขายอยู่ครบครัน แค่ปริ้นใบยืนยันไปยื่นให้เขาดูก็พอ ก็แค่บังเอิญเจอพอดี แล้วพอบวกลบคูณหารเสร็จแล้ว เฮ้ย! มันก็คุ้มอยู่นะ มีทั้งอาหารเที่ยง ค่ารถทัวร์ไปกลับ แท็กซี่ก็ขึ้นฟรี ด้วยความกังวลว่ามันจะเดินทางลำบากเราก็เลยกดซื้อมาเลย(รู้อีกทีก็กรอกรหัสบัตรเดบิตแล้ว) เอาวะ! ลองพึ่งทัวร์บ้างก็ดี จะได้เดินทางสบายๆกับเขาสักหน่อย

    คุมะมงยืนต้อนรับอยู่ที่สถานีคุมาโมโตะ น่าร้ากกกกกก


    ในใบนัดหมายเขียนว่าเจอกันที่kumamoto transportation terminalตอนประมาณ9.20 อาจจะต้องใช้เวลาจากHakataนิดหน่อย แต่แค่นั่งชินคันเซ็นแล้วต่อรถรางก็ถึงแล้ว เรามาก่อนเวลาตั้งเกือบๆสามสิบนาทีแน่ะ(จ่ายเงินแล้วก็เถอะ แต่กลัวเขาทิ้ง55555) แล้วรถก็มาตรงเวลามากๆเอาสะด้วย


    พอรถมาถึง ลุงคนขับก็จะออกมาต้อนรับที่หน้าประตู พร้อมกับคลิปบอร์ดที่มีรายชื่อกับเลขที่นั่งอยู่ พอเราเอาใบที่ปริ้นมายื่นไป ลุงก็แค่หาชื่อเรา(ที่เขียนด้วยคาตาคานะ)แล้วก็บอกเลขที่นั่งก็เรียบร้อย เฮ้ย ง่ายดีนะ ในใจก็คิดว่าที่เหลือก็รอรถวิ่งอีกแค่สามชั่วโมงก็ถึงที่หมายแล้ว 


    จะไปหาแล้วนะจ๊ะหุบเขาtakachihoที่รัก<3 (อันนี้ก็เป็นหนึ่งในสถานที่เริ่มต้นแพลนทริปเลย)


    อ่ะชิลๆได้ละ นั่งชมวิวไปเรื่อยๆ คือแค่เห็นวิวก็ตัวอ่อนไปหมด เพราะมันเป็นธรรมชาติที่สวยงามมากจริงๆ(แล้วเหมือนเขารู้ว่าเราเป็นนักท่องเที่ยว เลยจองแถวหน้าสุดให้เลย)

    จนเดินทางมาได้สองชั่วโมง รถก็แวะหยุดพักที่พักรถ ตอนแรกเราตกใจมากนึกว่าถึงแล้ว เลยเก็บกระเป๋าลงมาถามป้าที่เคาน์เตอร์ใหญ่เลย55555 ป้าก็คงงงๆว่ามันยังไม่ถึงโว้ยยยย จะลงมาทำไม จนต้องขึ้นไปบนรถ ลุยกับลุงคนขับอยู่พักหนึ่ง แล้วพอกลับมานั่งที่ก็มีลุงคนที่โดยสารด้วยกันพยายามอธิบายว่ามันต้องลงป้ายหน้าอ่ะหนู(ด้วยภาษาอังกฤษคำว่า”เน็กซ์ๆๆๆ”คำเดียว) ลุงงงง หนูขอโทษ เข้าใจแล้วว่าแค่จอดพักรถให้ผู้โดยสารเข้าห้องน้ำเฉยๆT.T

    หน้าตาของจุดพักรถที่ มีไว้ให้เข้าห้องน้ำเฉยๆ โธ่...ไอ้เราก็นึกว่าปลายทางแล้ว ยิ่งใหญ่เชียะ

    ใกล้ถึงแล้วล่ะมั้ง…?


    ในที่สุดเราก็มาถึงปลายทางอย่างสวัสดิภาพ เป็นท่ารถของtakachihoที่อยู่ในเมือง ก่อนลงมาก็ลุ้นหน่อยๆเหมือนกันว่าเราต้องไปต่อแท็กซี่ที่ไหนวะ กะว่าลงปั๊ปเดี๋ยวจะขอบคุณลุงที่ช่วยเราบนรถก่อนแล้วค่อยหาที่ตั้งหลัก แต่ที่ไหนได้...ลงรถปุ๊ป แท็กซี่แทบจะประกบตัวยั่งกะยากูซ่าเรียกค่าไถ่-O-... ร...เร็ว


    พอยื่นยันต์กระดาษไปปุ๊บ(ไอ้ที่ปริ้นมานั่นแหละ5555) แล้วบอกว่าฮิโตริเดส(แปลว่า1คนค่ะ ท่องมาเอาไว้ใช้เข้าร้านอาหาร555555) ลุงแกก็ผายมือให้นั่งเบาะหน้าแท็กซี่ทันที คือแบบสตาร์ทรถเตรียมออกแล้วด้วยนะ น...น่ากลัวจริง-O-....


    จากนั้นก็มีอีกสองคนเปิดประตูรถขึ้นมานั่งข้างหลัง เป็นชายหญิงสองคน เราว่าเขาน่าจะเป็นสามีภรรยากันนั้นแหละ พอหันไปดูฝ่ายหญิงก็ยิ้มๆแล้วทักขึ้นมาว่าฮัลโหล เราก็ทักทายกลับปกติ คือที่จริงก็แอบเห็นสองคนนี้มาตั้งแต่ก่อนขึ้นรถแล้วละ เห็นเขามองๆมาที่เราก็เดาได้ไม่ยากว่าซื้อทัวร์อันเดียวกันแหละมั้ง คือเว็บที่เราซื้อมามันเป็นเว็บของไต้หวันด้วย(ใช้เงินไต้หวันซื้อ) แล้วก็เป็นที่นิยมในหมู่คนจีนด้วย

    ....

    ..

    ….เอ๊ะ เดี๋ยวนะ ถ้าเป็นเว็บไต้หวัน ไอ้คนที่มาคอมเม้นต์บริการว่ากู้ดๆๆๆ อีซี่ทูอันเดอร์สแตน…..

    ….มันก็คือคนไต้หวันไม่ใช่หรอวะ….


    ช...ชิบหายละ เหมือนพึ่งนึกอะไรที่สำคัญมากๆออก ล...แล้วกะเหรี่ยงอย่างเราจะต้องทำตัวยังไงวะ-O-!! พูดญี่ปุ่นไม่ได้อยู่แล้ว ภาษาจีนนี่คงไม่ต้องพูดถึงปะวะ!! บ...บ้าหน่า….


    สักพักรถแท็กซี่ก็พามาส่งที่หุบเขาtakachihoจริงๆสักที พอรถจอดปุ๊ปก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาทักทายทันที สองสามีภรรยาก็เข้าไปพูดคุยกันอย่างออกรส แล้วมีเราคนหนึ่งห้อยตามไปด้วย ทำหน้าซื่อบื้อไม่เข้าใจที่เขาพูดอะไรเลยT_____T ไกด์คนนั้นเริ่มเอาแผนที่มาแจก เราก็รับมาดู พี่แกก็เอาปากกามาวงใหญ่เลย พูดภาษาจีนกลางซึ่งตูไม่เข้าใจโว้ยยยยยยย ในใจนี่คือแบบ ตูมาทำอะไรที่นี่ ช่วยลูกด้วยยยยย ไม่ดูหน้าตูหน่อยหรอว่ายืนไม่เข้าใจอยู่เนี่ย!!


    พอพี่ไกด์แกอธิบายไปชุดใหญ่ไฟกระพริบจบ1องค์ เขาก็เริ่มหันมามองหน้าเราอย่างพร้อมเพรียงกันทั้งสามคน…. ขอบคุณแอร์ไทม์นี้ที่คุณมอบให้T-T จัดไป1คำสั้นๆจากหัวใจของกะเหรี่ยงคนหนึ่ง...เราพูดขึ้นมาว่า…

    …...

    “ท...ไทกั๋ว”

    “...........................”


    ….ครับ ถึงกับวงแตกกันเลย เสียงภูเขาข้างหลังเราพังดังครืนนนนนน ฟ้าผ่าเปรี้ยงมาที่กลางอกทั้งสามคนเหมือนกับการ์ตูนมังงะ….


    พอวางสติแล้วตั้งกาวได้สักพัก ผู้หญิงที่เป็นภรรยาก็เริ่มหันไปดีลกับไกด์อะไรสักอย่าง แล้วหันมาคุยกับเราเป็นภาษาอังกฤษแทน! ...คือพี่แกพูดภาษาอังกฤษได้เว่ย! มึ๊งงงงงง! เราน้ำตาจะไหล เหมือนเห็นแม่พระอะไรสักอย่างส่งตรงลงมาซื้อทัวร์วันเดียวกับเราพอดีT/|\T เขาเริ่มหันมาอธิบายกับเราว่าเดี๋ยวกินข้าวเสร็จ จะมีเวลาให้ไปเดินชมหุบเขาประมาณชั่วโมงกว่าๆ เส้นทางนี้ไปได้นะ เส้นนี้ตันไปไม่ได้เพราะฝนตก เรือก็ปิดด้วย ….คือแบบน้ำตาจะไหล...ไม่ใช่ว่าไม่ได้ขึ้นเรือนะ แต่เพราะซึ้งใจที่มีคนพูดภาษาที่เราเข้าใจได้ต่างหากT^T


    พอไกด์เริ่มอธิบายใหญ่ อาเจ้(ขอเรียกว่าอาเจ้กับอาเฮียละกัน)ก็จะเบรคไกด์แล้วแปลเป็นภาษาอังกฤษให้! อาเจ้สุโก่ยยยยย ทำงานดีกว่าไกด์ที่นี่อีก5555555 (แล้วไกด์นี่คือพูดจีนล้วน100%เลยนะ ญี่ปุ่นก็ไม่พูด คือให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นทัวร์จีนที่มากินรวบแบบเกาะภูเก็ตยังไงยังงั้นเลยอ่ะ…) พออธิบายจนหมดแล้ว เราก็ได้เวลาไปกินข้าวเที่ยงกัน(ในใจนี่ก้มกราบอาเจ้รอบที่สามร้อยแล้ว)


    กับข้าวดูมันงงๆนะ แต่อร่อยมาก! คือรสชาติไม่ญี่ปุ่นจ๋าเลย เหมือนเป็นทัวร์จีนมากินรวบญี่ปุ่นจริงๆอ่ะ5555555 เหมือนอาหารตั้งทิ้งรอเราไว้นาน มันเลยจะเย็นๆหน่อย แต่ก็มีกระทะร้อนมาช่วยชีวิตไว้ มีเนื้อมีผักสดให้มาย่างเอง อันนี้เด็ดจริง ส่วนเครื่องเคียงอื่นๆก็เหมือนกับร้านในญี่ปุ่นแถบนี้ทั่วไป จะเน้นผักนิ่ง ผักดอง บุก มีปลาเล็กปลาน้อย กลิ่นเครื่องเคียงจะคาวๆหน่อยหมดกับเป็นเมืองเกาะที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์

    ที่อร่อยประทับใจสุดคืออะไรรู้ไหม… ชาข้าวคั่วร้อนจากกาสแตนเลท5555555 สมกับเป็นทัวร์จากจีนจริงๆ(ที่บอกว่าเป็นทัวร์จีนกินรวบนั่นมั่วขึ้นมาเองนะ เค้าล้อเล่นนะตะเอง5555 แต่เหมือนจริง)


    หลังจากนั้นเราก็เดินตามรูทที่เขาอธิบายไว้ ก็ได้อาเจ้นี่แหละมาช่วยอธิบายก่อนเดินอีกรอบตอนกินข้าว คือมีข้อมูลใหม่ปุ๊ป เจ้จะเดินมาอธิบายนี่เป็นภาษาอังกฤษทุกรอบ คืออยากกราบจนไม่รู้จะกราบท่าไหนให้สมพระคุณแล้ว แงงงงง

    ส่วนคำอธิบายของหุบเขาtakachihoก็คือ วิวสวยเหมือนได้ไปสวรรค์หนึ่งวันโดยที่ยังไม่ต้องตาย แต่อากาศร้อนแบบเดินเฉียดประตูนรก โอเคนะ...น่าเห็นภาพแล้วแหละ5555555

    เรืองดให้เช่าหนึ่งวัน เพราะมีฝนตกตอนเช้า แต่ไม่ต้องนั่งเรือก็ได้แหละ แถมวิวก็โล่งดี ไม่มีอะไรมากวนใจ


    ที่นี่จะมีให้อาหารปลา แต่เห็นเป็ดจะคาบไปกินสะหมด

    การเดินชมก็ไม่ยาก แค่เดินตามรูทที่เขาให้มาก็พอ ชมธรรมชาติกันให้เต็มปอด คนไม่ได้พลุกพล่านอย่างที่คิด พอจะมีบางช่วงที่โล่งให้พอหายใจได้(นึกว่าจะเยอะกว่านี้) พอเดินจนครบเวลานัด ฝนก็ครึ้มๆกำลังจะตกพอดี เรากลับมาเจอกับอาเจ้และอาเฮียอีกครั้ง ดูเหมือนว่าเขาจะมีรถแวนพาไปส่งที่สถานีรถรางของหุบเขาเพื่อนั่งชมวิว แต่ต้องเสี่ยงเอาว่ารถรางจะปิดหรือเปล่า….(ทั้งหมดคืออาเจ้อธิบายเป็นภาษาอังกฤษให้ฟัง...) เราก็ต้องเลยตามเลยกับอาเจ้ด้วย ไม่งั้นจะไม่มีทรานสเลเตอร์น่ะสิT-T… บนรถแวนเราก็ได้คุยอะไรกันไปเรื่อยเปื่อย ก็เล่าว่ามาเที่ยวคนเดียวตอนปิดเทอมค่า เดี๋ยวจะไปนู้นนี่ต่อ อาเจ้ก็เล่าว่าเขาเคยไปที่ไทยมาด้วย เกือบสิบกว่าปีกว่าแล้วล่ะ ไปพัทยาหรือเกาะอะไรสักอย่าง(ซึ่งตอนนี้คงเปลี่ยนไปเยอะแล้วแหละ) คุยได้สักพักฝนก็ตก ลางไม่ดีอีกแล้วสิ….

    .....

    พอไปถึงรถรางก็ปิดจริงๆด้วย ลุงคนขับรถก็อธิบายเป็นภาษาญี่ปุ่นเสร็จก็หันไปขับรถต่อ อาเจ้กับเราก็มองหน้ากันแบบ ลุงแกพูดว่าอะไรวะ5555555 เข้าใจกันว่าต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวญี่ปุ่นก็คงรู้สึกแบบนี้กันทุกคน555555 สุดท้าย ลุงแกก็วนมาส่งที่ศาลเจ้าใกล้ๆสถานีรถบัสที่ไว้นั่งรอบัสขากลับ เป็นศาลเจ้าเล็กๆเงียบๆ มีศาลกับที่ขายเครื่องราง เลยได้แวะเข้ามาชมนิดหน่อยพอเป็นพิธี

    ที่ศาลเจ้ามีเครื่องรางลูกเจี๊ยบกับเด็กแฝดด้วยด้วย คิดว่าน่าจะช่วยเรื่องการเติบโต ข้างๆก็มีพวงกุญแจรูปกระเป๋านักเรียนด้วย! น่ารักมากๆ><


    เราคงจะปิดท้ายเมืองนี้ด้วยการเดินเล่นถ่ายรูปไปเรื่อยรอเวลากลับ ตอนประมาณ5โมง หลังฝนตกอากาศก็เย็นขึ้น เดินเล่นได้สบายๆ สัดส่วนของเมืองนี้ก็คือชนบทอย่างแท้จริง มีที่ให้ซื้อของปลอดภาษี1ที่(ซุปเปอร์ของเมือง) ที่เหลือก็เป็นบ้านคน แมว และต้นไม้ที่ชอุ่มจากหยาดฝน

    เรากลับไปนั่งรอที่สถานีบัสก่อนเวลากลับเล็กน้อย รออยู่ได้สักพักก็เจออาเจ้กับอาเฮียที่แยกกันเดินมาตั้งแต่ศาลเจ้า ที่จริงเรารู้สึกว่าเขามาเที่ยวกันเป็นคู่ ถ้ายังตามต้อยๆตลอดจะกลายเป็นว่าเขาต้องมาเทคแคร์เด็กที่ไหนไม่รู้อีก เป็นเราเจอแบบนี้ก็คงเซ็งเหมือนกัน ด้วยความรู้สึกผิดจริงๆก็เลยซื้อพวงกุญแจมาเป็นของขวัญขอบคุณอาเจ้กับอาเฮีย เป็นรูปหมีคุมะมง(แบ๊วไปอี๊ก555)


    พออาเจ้เห็นก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอก เขาเต็มใจที่จะช่วย เราก็บอกว่าเจ้ช่วยหนูทุกอย่างเลยนะวันนี้ รับไว้เถอะ เขาก็ยืนยันว่ารับไว้ไม่ได้ เพราะเรายังเป็นเด็กนักเรียนอยู่เลย(เจ้รู้ว่าเรียนมหาลัย) เขาเป็นผู้ใหญ่ที่ทำงานแล้วคงรับไว้ไม่ได้หรอก เราก็ช็อกไปนิดนึงแล้วก็พยักหน้าเข้าใจ เจ้ก็หันมาคุยเรื่องอื่นแทน เขาก็เล่าว่าครั้งนี้เขามาฮันนี่มูนครบรอบวันแต่งงาน15ปี ครั้งแรกเขาก็ไปที่ไทยแหละ(ที่ไปพัทยานั่นแหละ) แล้วก็ยาวเลยกว่าจะมาอีกรอบก็คือครั้งนี้ แล้วอาเจ้ก็หาชื่อเมืองที่เขาจะไปต่อ โดยการขีดๆที่โทรศัพท์เป็นตัวภาษาจีน คือพึ่งรู้ว่าภาษาจีนตั้งชื่อเมืองในญี่ปุ่นใหม่หมดเลยเว้ย! ลำบากเวลาเรียกเข้าไปอีก;---; พอแปลกูเกิ้ลมาปุ๊ปก็ขึ้นมาMiyazaki อ้อ เมืองที่ติดกับหุบเขานี่แหละ สงสัยเจ้จะไปเที่ยวคิวชูใต้ แต่บังเอิญมาเจอเราวันนี้พอดี....


    เราก็คุยกับเจ้เรื่องทั่วไป เรียนอะไรอยู่ แล้วอนาคตอยากทำงานอะไร เราก็นิ่งไป… เอ๋...เราอยากทำอะไรน้า….


    ...ถ้าเลือกได้ก็คงอยากทำอะไรที่มีความสุขแบบที่มาเที่ยวอย่างนี้แหละ… 

    แล้วก็หวังว่าสักวันเราคงจะสามารถตอบแทนคนๆหนึ่งได้ อย่างน้อยก็อยากที่จะโตพอที่จะซื้อของให้แล้วเขาก็รับไปอย่างภาคภูมิใจสักครั้ง จากน้ำพักน้ำแรงและความรู้สึกเราจริงๆ…

    การมาเที่ยวคนเดียว ทำอะไรคนเดียวแค่ไม่กี่ครั้ง ก็คงไม่พอที่จะทำให้เราโตขึ้นขนาดนั้นหรอก… มีแค่เวลาเท่านั้นแหละที่เป็นเครื่องพิสูจน์


    รถบัสเข้ามาเทียบรอรับคนกลับอย่างตรงเวลาเช่นเดิม ลุงคนขับก็คนเดิม เราได้ที่นั่งใหม่จากที่ลุงจัดให้เพราะคนโดยสารน้อย(มีแค่สี่ห้าคนบนรถเอง) อาเจ้กับอาเฮียก็นั่งถัดไปอีกสองเบาะเลยไม่ได้คุยอะไรกันต่อ แล้วรถก็ออกตรงเวลาเหมือนเดิม จนเข้าเขตเมือง จึงมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นบ้างจากกลางทาง

    พอถึงสถานีเราก็วุ่นอยู่กับการหยิบตั๋วคืนให้กับลุงคนขับรถ(แถมมีการบอกลุงว่าช็อตโตะมดเตะด้วยนะ5555 สกิลภาษาศาสตร์เริ่มได้บ้างละ55555) พอหันมาหวังว่าจะขอบคุณและบอกลาอาเจ้กับอาเฮียอีกที เขาก็เดินหายไปในฝูงชนแล้ว…. แต่ก่อนขึ้นรถก็ได้ขอบคุณไปแล้ว เลยไม่ได้ติดใจอะไรอีก :)

    ...

    ตอนนี้เป็นเวลา20.00แล้ว ปิดท้ายวันด้วยอาหารที่ทริปที่แล้วเราพลาดไป อุตส่าห์ไปโอซาก้าแต่ไม่ได้กินเลยรู้สึกผิดสุดๆ-3- นั่นก็คืออิจิรันราเมนนั่นเอง ...สาขาคุมาโมโตะไม่ค่อยมีคนสักเท่าไหร่ กดตู้แล้วก็ได้เข้านั่งเลย ร้านอยู่ชั้นใต้ดินต้องเดินลง อาจจะลึกลับเล็กน้อย

    ประเด็นคือเห็นร้านเอ็มเคอยู่ตรงข้ามด้วย! ที่คิวชูเห็นผ่านๆประมาณสองร้านนะ ไม่คิดว่าจะมาดังถึงญี่ปุ่นขนาดนี้555555

    รสชาติคงไม่ต้องรีวิวแล้วแหละ คนไทยเกือบ100%ที่ไปญี่ปุ่นคงได้ชิมแล้วแหละ เราว่าราคา780เยนก็คุ้มดีนะ(ไม่รวมไข่) ลอกข้อสอบตามแบบที่เขาแนะนำมาเลย รับรองไม่Fชัวร์ ที่สำคัญห้องสอบบ้าอะไรเปิด24ชั่วโมง อ้วนสิรออะไร


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in