เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เรื่องสั้นนอวอรอรอตอพอลอ
เพลงจากความรัก
  • ตะวันขึ้นแล้ว น้อตตื่นขึ้นมา วันนี้เช้ากว่าทุกวัน กีตาร์ไฟฟ้าสีดำเมื่อมกองอยู่บนเตียง ในตำแหน่งของหมอนกอด 

    สายแจ็คสีแดงยังเชื่อมสัญญานไฟฟ้าไปยังเอฟเฟกต์สองสามตัวที่วางเรี่ยราดไร้ระเบียบอยู่บนพื้นไม้ปาเก้ต์ราคาถูก

    กระดาษลายบรรทัดห้าเส้นเกลื่อนกลาด ราวกับใบไม้แห้งในสวนที่ไม่มีใครดูแล

    น้อตไม่ลุกไปล้างหน้าหรือแปรงฟัน แม้แต่ทัศนียภาพยามเช้าทางหน้าต่างห้องบนชั้น 12 ของเขา เขาคว้าหยิบกีตาร์ขึ้นมา ทำนองจากความฝันยังอยู่ในหัว มันเป็นเพลงที่ดี เขาต้องเล่นมันออกมาก่อนที่ตัวโน้ตจะเลือนหายไปจากความทรงจำ

    ... เหมือนเธอ

    ดีเจสาวฟังเรื่องราวของบทเพลงอย่างตั้งใจ สัญญานไฟหน้าห้องยังขึ้นสีแดงเตือนไม่ให้ทีมงานเปิดประตูเข้ามารบกวน คนทางบ้านกำลังอยากรู้ที่มาของเพลงที่ดังไปทั่วทุกหย่อมหญ้าในนาทีนี้ 

    "แหม ถ้าสั่งความฝันเป็นเสียงเพลงแบบนี้บ่อยๆ ได้นี่คงดีนะคะ ไม่ทราบว่าทุกวันนี้ยังฝันอยู่ไหมคะ?"

    "ไม่แล้วครับ" 

    "น่าเสียดายจังค่ะ แต่เดี๋ยวคุณน้อตก็คงแต่งเพลงเพราะๆ ออกมาได้ใหม่นะคะ ของอย่างนี้อยู่ที่ฝีมือมากกว่าเนอะ"

    "คงยากน่ะครับ ผมไม่ได้เกิดมาพร้อมพรสวรรค์อะไรขนาดนั้น" 

    "ดิฉันเคยได้ยินว่า ความฝันทำให้เกิดดนตรีดีๆ มากมาย เพลง Yesterday ของ The Beatles ก็มีเรื่องเล่าว่าคุณ Paul McCartney ก็ได้ยินเพลงนี้ในฝัน ตื่นมาจึงรีบเขียนออกมาจนกลายเป็นเพลงอมตะขนาดนี้ สงสัยคงจะคล้ายๆ กัน"

    "คงจะอย่างนั้นครับ ผมคิดว่าแทบทุกคนน่าจะเคยฝันแบบนี้กันทั้งนั้น แค่จะมีใครหยิบมาเขียนทันก่อนจะลืมหรือเปล่าเท่านั้นเอง"

    "คนที่ฟังเพลงเฉยๆ คงไม่มีปัญญาทำออกมาเป็นเพลงได้มั้งค่ะ ขอถามหน่อยได้ไหมคะ ว่าในฝันของคุณน้อต มันเป็นแค่เสียงดนตรีหรือมีภาพมีเรื่องราวด้วย" ดีเจสาวกล่าวถาม เตรียมคิวเพลงต่อไป คำตอบของศิลปินที่นั่งอยู่ตรงข้ามน่าจะเชื่อมเข้าเพลงได้

    น้อตนิ่งไปชั่วอึดใจ "ไม่ได้มีแต่เสียงเพลงครับ เรื่องราวก็มีอยู่ ภาพก็เห็นชัดเจนราวกับเป็นความจริง"

    "เล่าให้ฟังได้ไหมคะ ว่าคุณน้อตฝันเรื่องอะไร"

    "คือ... ผมฝันเห็นความรักน่ะครับ"

    "แหมโรแมนติกจังค่ะ"

    "น่าเศร้ามากกว่าครับ ในฝันคืนนั้น ผมกำลังนั่งอยู่ริมหาดทราย มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมา เธอใส่เสื้อสีน้ำเงิน สวมหมวกสีฟ้า กางเกงขาสั้นสีเดียวกัน เธอแนะนำตัวว่าเธอคือความรัก"

    "เอ... เก็บเอาใครมาฝันหรือเปล่าน๊า ?" ดีเจสาวถามยิ้มๆ

    "คงจะไม่หรอกครับ ผมไม่เคยเจอใครเหมือนเธอคนนั้นมาก่อน จนทุกวันนี้ก็ยังไม่เคยได้เจอใครหน้าตาแบบนั้น"

    "แล้วเพลงนั้นก็บรรเลงขึ้นตอนที่คุณความรักเขามาทักทายหรือคะ?"

    น้อตหัวเราะ "นั่นเป็นไอเดียทำมิวสิควิดีโอแล้วกันครับ ไม่ใช่หรอกครับ พอแนะนำตัวเสร็จ เราก็คุยกันสักครู่หนึ่ง พอผมเล่าว่า ผมหัดแต่งเพลงอยู่ เธอก็บอกว่า ...

          "ดีจัง ฉันมีเพลงจะมอบให้คุณฟังหนึ่งเพลง อยากฟังไหมคะ?" หญิงสาวในเสื้อสีน้ำเงินถาม
          "อยากสิครับ"
          "แต่ถ้าร้องเพลงนี้จบ ฉันก็ต้องกลับไปแล้วนะ เราคงไม่ได้พบกันอีกตลอดไป"

    "ตอนนั้น ผมคิดว่า คงไม่เป็นไร เพราะแค่ได้คุยกับคนที่ไม่รู้จัก ครั้งเดียวก็เป็นความทรงจำที่ดีแล้ว ผมก็เลยบอกให้เธอลองร้องออกมา

    "เธอนิ่งเงียบ หลับตาอยู่ชั่วครู่ เสียงคลื่นก็เริ่มสงบลง ลมหยุดพัด ชายหาดแห่งนั้นไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหว แล้วเธอก็ร้องเพลงนั้นออกมา

    "ผมไม่เคยได้ยินเพลงทีี่งดงามขนาดนั้นมาก่อน แม้ว่าผมเป็นคนที่ฟังเพลงเยอะมาก แต่ก็ไม่สามารถเทียบเคียงกับทุกอย่างที่เคยฟังมาได้ มันทั้งเรียบง่ายและซับซ้อน อ่อนช้อยและกราดเกรี้ยวโครงสร้างเหมือนกับถูกเขียนขึ้นในบันไดเสียงเมเจอร์ที่เปี่ยมไปด้วยความสุข แต่ตัวโน้ตกลับร่ำไห้อยู่ในบันไดเสียงไมเนอร์ ท่วงทำนองและเสียงร้องของเธอ ทำให้ผมจินตนาการว่าผมบินลอยขึ้นไปบนอยู่เหนือเมฆ มองขึ้นไปข้างบนผมเห็นดาวมากมายอยู่ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ มันสวยงามมากจนน้ำตาผมเริ่มไหลออกมา

    "บนนั้นมันหนาวมาก น้ำตาผมไหลออกมานิดเดียวก็กลายเป็นผลึกน้ำแข็งเกาะเต็มตาของผมทั้งสองข้าง ภาพที่เห็นเริ่มพร่ามัว แม้จะเหน็บหนาวแต่ร่างกายกลับแสบร้อนเพราะรังสีอุลตร้าไวโอเล็ต ผมหายใจไม่ออกเพราะอากาศเบาบาง ผมรู้สึกตัวว่าผมกำลังจะตาย แต่ตลอดเวลานั้น ผมได้ยินเสียงของเธออยู่ไม่ขาด

    "เธอคงรู้ว่าผมกำลังเผชิญกับอะไรอยู่ เสียงเพลงของเธอจึงค่อยเบาลงเรื่อยๆ ร่างกายของผมค่อยๆ ร่วงลงมาอย่างช้าๆ จนสองเท้ากลับมาสัมผัสพื้นทรายที่เดิมเมื่อเสียงเพลงจบพอดี"

    "แล้วคุณได้คุยกับความรักต่อไหมคะ?"

    "ไม่ครับ พอเพลงจบ เธอก็จางหายไป หาดทรายแห่งนั้นก็เลือนหายไปด้วย พอสายตาผมหายพร่ามัว ผมก็มองเห็นฝ้าเพดานห้องนอนของผม หลังจากนั้นก็ตามที่ผมเล่าให้ฟังไปก่อนแล้ว

    "ผมอยากจะคุยกับเธอต่อ แต่ทั้งหมดที่ได้จากเธอก็มีแค่เพลงนี้เพลงเดียวเท่านั้น และถ้าให้กลับไปอีกครั้ง ผมก็คงขอให้เธอร้องเพลงนี้ให้ฟังเหมือนเดิม แม้จะทำให้ไม่ได้มีโอกาสได้คุยกันอีก"

    "ฟังดูเหมือนเทพนิยายนะคะ คุณผู้ฟังคะ และนี่คือเรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังเพลง 'เธอ' ของคุณน้อต นวรรรตพลค่ะ"

    ดีเจสาวตัดสวิตช์ไมโครโฟน กดปุ่มที่มีรูปสามเหลี่ยม เสียงเพลงที่ทุกคนรู้จักดีดังขึ้น เธอหันมายิ้มให้น้อต 

    ห้องส่งที่มืดสลัว ทำให้เธอมองไม่เห็นคราบน้ำตาจางๆ บนใบหน้าของศิลปินหนุ่มที่นั่งห่างออกไปเพียงไม่ถึงสองวา

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
readalong (@readalong)
ขออนุญาติไปอัดเสียงอ่านลงยูทูปได้มั้ยคะ
@readalong ได้ครับ และรบกวนแชร์ link กลับมาด้วยครับ