เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
IU'smusicphile_s
I STORY OF "Palette" U
  • จากไอดอล สู่ ศิลปิน
    จากเพลง สู่ งานศิลปะ

    เรื่องราวที่เราพยายามเรียบเรียงขึ้นมาจากความสนใจในการทำงานของเด็กอายุน้อยที่มีความสามารถในทางดนตรีอย่างไอยู ไม่ใช่เรื่องง่ายที่นักร้องจะสร้างตัวตนของตัวเองในการทำผลงาน ใช้เวลา การเรียนรู้และปัจจัยหลายอย่าง เพลงที่ก็กดฟังหนึ่งครั้งเเล้วคุณต้องกดซ้ำแล้วซ้ำอีก เพลงแบบนั้นมีที่มาที่ไปยังไงนะ (หากมีข้อมูลส่วนไหนผิดพลาด ช่วยให้ข้อมูลโดยคอมเม้นไว้หน่อยนะคะ)

    ทำไมอัลบัมนี้ชื่อ "Palette" : จานสี
    ไอยู: ฉันเรียนวิชาศิลปะตอนประถม ฉันสนใจจานสีมากกว่าภาพวาดของตัวเองนะ ฉันวาดรูปไม่สวย จานสีดูน่ารักกว่า จานสีมันพิเศษนะคะ มันเป็นอุปกรณ์ธรรมดา แต่ตัวมันเองนี่แหละ คือ ศิลปะ (Art)
    อัลบัมที่ทำมานี้ รวมถึงตัวฉันตอนนี้ด้วย ไม่ใช่ภาพวาดที่สมบูรณ์แบบ แต่เป็นจานสีค่ะ ฉันอยากจะถ่ายทอดความคิดที่ไม่ปรุงแต่งออกไปผ่านงานชิ้นนี้

    "ผลลัพธ์ คือ ภาพวาด
    ระหว่างทาง คือ จานสี"
    musicphile_s

    เราลองมาไล่เรียงทีละเพลงกันเลย 

    1. 이 지금 (Dlwlrma)
    เนื้อเพลงมีการเปรียบเทียบช่วงเวลาในชีวิตของคนเรากับพลุไฟ พลุที่สว่างและดับลงในพริบตาเดียว เหมือนกับช่วงเวลา ณ ปัจจุบัน แต่ก็ตามสไตล์ศิลปินผู้มีนัยยะเสมอมา เวลาเขียนถึงสิ่งเหล่านี้ใช้การเล่าเรื่อง ฉันบินมาจากอนาคตนะ มาบอกว่าแสงสว่างที่มากกว่า (เปรียบเทียบกับพลุ) คือ "ปัจจุบัน(Now)" แล้วคนกำหนดมัน คือ "คุณ(You)" แถมด้วยคำถามกวนๆว่า "แน่ใจนะ ว่า ดอกไม้ไฟพวกนี้จะไม่ดับลง?"

    ไอยูตั้งชื่อเพลงว่า Dlwlrma ซึ่งเป็นชื่อไอจีไอยูนั้นเอง เหมือนเขียนเพลงนี้ไว้เตือนตัวเองให้ออกมาจากการจมอยู่กับอดีตและการกังวลต่ออนาคตจนเกินไป 
    จงกลับมาที่  "ปัจจุบัน วันนี้ ตอนนี้" ลงมือทำชีวิตให้ดีๆ และอย่าลืมว่าไม่มีอะไรแน่นอน

    เพลง Pop Jazz ที่มีคอร์ดหลากหลายเป็นสีสันทำให้เพลงน่าฟังขึ้น เสน่ห์ของเพลงนี้โดยส่วนตัว คือ ความซับซ้อนที่ฟังสบาย เพลงมีรายละเอียดของเครื่องดนตรีที่บรรเลงเยอะอยู่ แต่ฟังดูง่าย สบายๆ 
    บวกกับเสียงที่ร้องร่าเริงของไอยูด้วย เปิดมาเพลงแรกก็ต้องร่าเริงกันหน่อย โยกตัวตามได้แบบน่ารักๆ :)

    "ฉันตอนนี้ เป็นแบบนี้ นี่แหละที่เป็นฉัน"




    2. 팔레트 (Palette)
    IU ft. G-Dragon

    เพลงไตเติ้ลของอัลบัมนี้ ไอยูเขียนเนื้อร้องและทำนองทั้งหมดด้วยตัวเอง
    เนื้อเพลงเป็นไปในทิศทางเดียวกับเพลง 23 ในอัลบัมที่แล้ว แตกต่างกันที่มุมมอง

    ในมุมมองของเรา เพลง 23  เป็นเพลงที่บ่งบอกถึงห้วงเวลาที่รู้สึกสับสน ฉันชอบแบบนี้ แต่ก็ชอบแบบนั้นเหมือนกันนะ คุณมองฉันเป็นแบบนี้ ฉันอาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้นะ :p
    |
    2 years later
    |
    เพลง Palette สามารถเลือกได้เเล้ว แบบไหนจริงๆที่เป็นตัวเอง เริ่มรู้จักตัวเองขึ้นมาบ้างแล้ว

    "I like it. I’m twenty five
    I know you hate me
    I got this. I’m truly fine
    I think I know a little bit about myself now"
    เพลง Syn Pop เพลงนี้ไอยูทำมันจนเสร็จ และขอคำปรึกษากับจีดี
    เมื่อจีดีได้ฟังเดโม่มีท่อนที่เป็นเมโลดี้เปล่าๆ ก็คิดว่าน่าจะใส่ท่อนแรปลงไป ไอยูเลยขอให้จีดีมาเเรปให้ โดยส่วนตัวพี่เค้ามาเติมเต็มเพลงนี้มากๆ เหมือนพี่ชายร้องเพลงปลอบน้องแต่ปลอบแบบเท่ๆ แถมด้วยข้อคิดและกำลังใจเต็มเปี่ยม

    "Hey Jieun, oppa just turned 30
    But I’m not
    But I’m an adult
    Although I’m not there yet
    I’m only five years older than you
    Past twenty, not yet thirty
    In between, right there
    When I’m not a kid or an adult
    When I’m just me
    I shine the brightest
    So don’t get scared when darkness comes
    You’re so beautiful that your flower will bloom
    You’re always loved, you"
    "จีอึนอ่า ต้องวิ่งแล้ว เวลาไม่คอยใคร ต้องจริงจังกับงาน แต่ก็มองหาความสุขด้วยนะ"
    trans @thepize





    3. 이런 엔딩 (Ending Scene)
    เพลง Ballad ซึ่งได้ Sam Kim มาร่วมงานด้วยในการเขียนเนื้อร้องค่ะ
    เพลงที่พูดถึงช่วงเวลาของการเลิกลา
    เนื้อเพลงเลยเต็มไปด้วยความเศร้าแต่เป็นความเศร้าที่แตกต่างออกไป
    คนจะโดนทิ้งมักจะอ้อนวอนให้อีกคนไม่ไป แต่เพลงนี้บรรยายอีกมุมมองนึง
    ถ้าจะไป อย่าปลอบโยนกันเลย การปลอบโยนกันด้วยคำพูดดีๆมีแต่จะสร้างความเจ็บปวดมากขึ้น
    เสียงร้องและอารมณ์ที่ไอยูส่งถึงคนฟังทุกคำ ยิ่งเศร้าหนักเข้าไปใหญ่ 


    musicphile_s

    4. 사랑이 잘 (Can’t Love You Anymore)
    IU ft. Oh Hyuk

    ฮยอกโอ คือ ผู้ชายที่มีเสียงเป็นเอกลักษณ์ 

    ถึงก่อนหน้านี้เคยร้องเพลงด้วยกันบ้าง แต่ครั้งนี้เป็นการทำเพลงด้วยกันครั้งแรกของสองคนนี้

    Can’t Love You Anymore  เป็นเพลง R&B  ที่เน้นความลื่นไหลของเสียงร้อง 

    เนื้อเพลงเป็นบทสนทนาของคู่รักที่เบื่อหน่ายต่อกัน กอดกันก็ไม่รู้สึกดีเหมือนเก่า แต่ก็ทำเป็นรู้สึกดี 

    ความรักไม่ง่ายเลย เรื่องของเราพอแค่นี้เถอะนะ

    ไม่ใช่แค่เพลงหรอกที่เถียงๆกัน แต่คนทำเพลงก็เถียงๆกันเสมอเวลาทำงาน

    ตอนทำเพลงนี้ ไอยูกับฮยอกโอความเห็นไม่ตรงกันตลอด 

    แต่ก็บอกว่า พบกันคนละครึ่งทางและสนุกที่ได้ร่วมงานกัน

    "ถ้าจะเถียงกันเป็นเพลงได้ละมุนขนาดนี้ อย่าลืมเถียงกันบ่อยๆนะ เป็นของขวัญให้คนฟัง"

    musicphile_s




    5. 잼잼 (Jam Jam)

    ไอยูร่วมงานกับคุณ Sunwoo JungA  ไอยูติดตามผลงานของพี่เค้ามาตั้งแต่เริ่มแรก พี่เค้าเป็นศิลปินที่เก่ง เท่ และมีเสน่ห์มากในมุมมองของไอยู เพราะงั้นเลยตื่นเต้นมากๆที่ได้มีโอกาสร่วมงานด้วย 
    เมื่อได้เจอพี่เค้าจริงๆก็ยิ่งชอบมากขึ้น เป็นผู้หญิงที่น่ารัก เก่ง และ chic มาก 
    ไอยูตัดสินใจไปเยี่ยมหาที่สตูดิโอของพี่เค้าเพื่อขอให้ทำเพลงให้ ปกติพี่เค้าจะทำเพลงแนว jazz และ blues แต่ไอยูไปขอให้พี่เค้าทำเพลงที่มีจังหวะกระฉับกระเฉงหน่อย พี่เค้าก็ค่อนข้างตกใจว่าให้ทำเพลงแนวนี้เหรอ? งานไม่ถนัดนะ แต่ก็ส่งเพลง  잼잼 (Jam Jam) มาให้ ซึ่งไอยูบอกว่ามันตรงใจมากๆเหมือนพี่เค้ารู้ว่าไอยูอยากบอกอะไรผ่านเพลงเลย

    เพลงนี้เป็นเพลง Electronic-Synth Pop พูดถึงรายละเอียดของทุกๆความสัมพันธ์ซึ่งไม่เหมือนกันไปซะทั้งหมด แต่หลักๆมันวนซ้ำคล้ายๆกัน 

    • เริ่มต้นก็ตกหลุมรักกันอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
    •  คบกันไปเริ่มคุ้นเคยกัน
    • นานๆเริ่มละเลยกัน ทะเลาะกันบ้าง
    • จุดนึงก็คิดว่า ไม่ใช่
    • เลิกกัน

    แต่เพลงนี้นำเสนอตรงกันข้าม 
    "เรามาแกล้งทำเป็นไม่รู้กันเถอะว่ามันจะจบแบบนั้น ตอนนี้มารักกันให้มากพอ เราไม่จำเป็นต้องจริงใจ ตรงไปตรงมากันทุกเรื่องก็ได้ โกหกผสมๆกันไปบ้าง มาทำเป็นรักกันให้มากขึ้น"
    ไอยูเปรียบเทียบความรัก กับ แยม (Jam) 
    แยม (Jam) มีหลากรสชาติ บางทีก็เกิดจากการปรุงแต่ง แต่ก็น่าสนใจเสมอ

    ไอยูทำเพลงมีจังหวะตื่นเต้นขึ้นให้แฟนๆโยกตามได้บ้าง เพราะปกติเห็นแฟนๆชอบนั่งฟังนิ่งๆกัน โดยส่วนตัวชอบการใช้เสียงของไอยูในเพลงนี้ นอกจากความสูงต่ำของเสียงร้อง ยังมีการพูด การกระชิบ รวมถึงไลน์คอรัสที่แปลกแต่ลงตัวดี (เหมือนเพลงที่ร้องเมาๆ แต่ฟังเเล้วหยุดฟังไม่ได้)



    6. Black Out 

    เพลง Indie Pop ไอยูเขียนโดยอยากนำเสนออย่างไม่ต้องคิดอะไรมาก อะไรที่ไม่คิดมากนี่แหละที่แต่งยาก ปกติแต่งเพลงรัก เพลงอกหัก เพลงที่มีเรื่องราว แต่เพลงนี้ตรงกันข้ามเลย เนื้อเพลงพูดถึงตอนอยู่ในงานปาร์ตี้ เริ่มเมาๆแล้วก็พูดไปเรื่อย ท่องสูตรคูณแล้วถามคนอื่นว่าถูกไหม? โอ้ พี่ดีเจเปิดเพลงเพราะจัง เดี๋ยวอารมณ์ดี เดี๋ยวอารมณ์เสีย และยังบ่นนั่นบ่นนี่ไปเรื่อยๆ

    IU  : It' an official drinking song. 
    Listen to " Black Out " after getting drunk.

    ไอยู : มันเป็นเพลงสำหรับการดื่มอย่างเป็นทางการ ฟังเพลง "Black Out" หลังจากเมาแล้วเถอะ

    คุณ Lee Jonghoon มาแต่งทำนองเพลงให้ จังหวะเพลงกลางๆ มี beat เยอะพอสมควร พอฟังดีๆเพลงนี้ใช้เสียงเบสที่ขี้เล่นนะ และให้น้ำหนักกับเสียงโซโลกีต้าร์มากทีเดียว ส่วนเสียงร้อง ไอยูใช้เสียงแทบทุกคีย์ในเพลงนี้ เพราะงั้นยากมากหากไปร้องคาราโอเกะหรือร้องตาม 555+

    "ศิลปิน คือ คนที่เล่าเรื่องธรรมดาได้อย่างประณีต"
    musicphile_s



    7. 마침표 (Full Stop)

    ก่อนทำอัลบัมนี้ คนแรกที่ไอยูไปหาคือ คุณ Son Sungjae ที่เป็นโปรดิวเซอร์อัลบัมที่ไอยูชอบ
    เมื่อปีที่เเล้วไอยูฟังอัลบัมของคุณ Jung Mijo ซึ่งโปรดิวโดย คุณ Son Sungjae ซ้ำไปซ้ำมา
    ไอยูพยายามมองหาเพลงอื่นๆเพราะคิดว่าตัวเองเหมาะกับอารมณ์เพลงที่คุณ  Son Sungjae ทำ 
    จากนั้นตัดสินใจไปหาคุณ Son Sungjae ที่ที่ทำงานและขอร้องให้มาทำเพลงให้
    พี่เค้าใจดีทำส่งมา 10 เพลง โดยเพลงที่ไอยูเปิดฟังทำนองเพลงแรกคือ 마침표 (Full Stop) 
    ไอยูรู้สึกว่ามันดีที่สุดและชอบที่สุดเลยเริ่มใส่เนื้อร้องเข้าไปอย่างตั้งใจมากๆ
    เพลง Ballad ไม่มีเสียงกลอง ไม่มีการเคาะจังหวะ 
    เพลงที่โฟกัสที่เสียงร้องของไอยูและอารมณ์ที่ส่งผ่านเพลง




    8. 밤편지 (Through The Night)

    "ฉันเขียนเพลง 'Through the Night' ตอนที่ฉันกำลังแย่มากๆกับอาการนอนไม่หลับ 
    ฉันคิดถึงวิธีสารภาพรักกับคนที่ฉันรักมากสุดหัวใจ ฉันคิดว่าคำสารภาพ
    และของขวัญที่ดีที่สุดที่ฉันสามารถมอบให้ได้ คือ การที่เค้าคนนั้นได้นอนหลับอย่างสบาย 
    ฉันเลยเขียนเนื้อเพลงออกมาในแบบนั้นค่ะ"
    -ไอยู
    ถ้าพูดถึงการแต่งเนื้อร้อง ไอยูเล่าว่า ความคิด ความรู้สึก และถ้อยคำต่างๆถูกเขียนลงไปเป็นเนื้อร้องได้เร็วมาก เป็นเพลงที่เขียนเร็วที่สุดและรู้สึกดีกับการเขียนเพลงนี้รวดเดียวจบมากๆ
    ความเห็นส่วนตัวเราว่า ไอยูเป็นคนที่เขียนเนื้อเพลงโดยรู้จักเลือกใช้คำที่แฝงความโรแมนติกไว้เสมอ
    ไอยูเเต่งเพลงเหมือนแต่งกลอน สนใจความคล้องจอง ใส่ใจจุดเล็กๆน้อยๆที่มีผลต่อภาพรวมของเพลง
    ซึ่งหาได้น้อยในนักแต่งเพลงรุ่นหลังๆ และที่สำคัญพอแต่งเอง ร้องเอง ไอยูใช้เสียงในแบบที่ใส่ใจกับทุกคำที่ตัวเองเขียน เปล่งเสียงโดยเน้นหนักเบา และใส่ความรู้สึกลงไปด้วยอย่างเหมาะสม เพลงนี้เลยลงตัวแบบที่หลายคนสงสัยกับตัวเอง ว่าทำไมฟังวนไปได้เรื่อยๆ 

    เพลงนี้มีโครงสร้างอย่างง่ายที่สุด 
    [Verse 1] - [Verse 2] - [Chorus]
    [Verse 2] - [Chorus]
    - [Outro]
    แต่เป็นความธรรมดา ทว่าพิเศษ ไอยูถึงขั้นคุยอวดนะว่า สมกับเป็นคุณคิมเจฮวี (ผู้แต่งทำนองเพลงนี้)
    เพลงนี้ถ่ายทอดอย่างค่อยๆส่งอารมณ์  Verse 2 รอบแรกก็แผ่วๆ พอขึ้นรอบที่ 2 ก็เริ่มหนักแน่นขึ้น บวกกับใส่จังหวะกลองขึ้นมา พอท่อนสุดท้ายก็ค่อยๆแผ่วลงเพลงมีความยาวอยู่นะ แต่คนฟังจะรู้สึกเหมือนเพลงจบเร็ว 


    "คืนนี้
    ฉันจะส่งเจ้าหิ่งห้อยตัวน้อย
    ไปใกล้ๆหน้าต่างของคุณ
    แทนคำว่ารักจากฉัน"
     
    "ฉันจดจำจูบแรกของเราได้เสมอ
    เพราะฉะนั้นแล้ว
    ฉันก็สามารถหลับตาลงได้ทุกเมื่อ
    และจากไปยังที่อันไกลโพ้นได้”
     
    “ราวกับตัวอักษรที่ถูกขีดเขียนลงบนพื้นทรายที่พร้อมโดนคลื่นซัดหายไป
    กลัวว่าคุณอาจจะหายจากไปไกลเช่นนั้น
    ฉันจึงคิดถึงและคิดถึงคุณเสมอ”
     
    "คืนนี้
    ฉันจะส่งเจ้าหิ่งห้อยตัวน้อย
    ไปใกล้ๆหน้าต่างของคุณ
    ฉันหวังว่าคุณนั้นจะฝันดี♡"

    trans. @MYKRSONG





    9. 그렇게 사랑은 (Love Alone)

    การได้ทำงานร่วมกันอีกครั้งของไอยูและคุณ Lee Byeongwoo 
    อ.ลี เป็น music director ที่ยุ่งมากๆ ครั้งนี้ก็ปฏิเสธไอยูขอเป็นครั้งหน้า แต่ไอยูก็อ้อนวอนซ้ำๆจนได้ทำงานเพลงนี้ด้วยกัน (เป็นเด็กตื้อจริงจัง55+)
    เพลงนี้บันทึกเสียงสดโดย อ.ลีกับไอยูอยู่คนละห้อง จากนั้นบรรเลงและร้องไปพร้อมๆกันจนจบเพลง 
    การบันทึกเสียงแต่ละครั้งจึงได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ไอยูบอกว่ามันยาก แต่มันมีความหมายมากๆที่ได้ทำงานด้วยวิธีที่ไม่คุ้นเคยนี้ 

    เพลง Acoustic โดดเด่นที่เมโลดี้ของกีต้าร์ที่ไพเราะ บวกกับเสียงร้องที่ใสและกังวานของไอยู ฟังเเล้วนึกถึงกลิ่นไอของรีเมคอัลบัม 꽃갈피 A Flower Bookmark 

    "เพลงนี้จะถูกรักไปนานแม้เวลาเปลี่ยนผ่านไปแค่ไหน เป็นเพลงที่ไม่ขึ้นกับเวลา"
    ไอยู





    10. 이름에게 (Dear Name)

    เพลงนี้เกือบได้เป็นเพลงไตเติ้ลของอัลบัม แต่สุดท้ายก็เลือกเพลง Palette

    ไอยูเลือกเพลงไตเติ้ลไม่ได้ ถึงขั้นเอาไปให้คุณพ่อช่วยเลือก 

    คุณพ่อบอกว่า เพลงนึง (Palette) เหมาะไว้ฟังตอนกลางวัน 

    เพลงนึง(Dear Name) เหมาะไว้ฟังตอนกลางคืน 

     

    Dear Name เป็นเพลง Ballad ใช้เปียโนเป็นไลน์หลักของเพลง ใช้เครื่องสาย+เสียงร้องของไอยูเป็นตัวเดินอารมณ์ของเพลง และเสียงกลองที่เริ่มในช่วงกลางเพลงเป็นตัวผลักให้เพลงหนักแน่นขึ้น

    เนื้อเพลงพูดถึงความรักที่เป็นไปได้ยาก ความเศร้าที่ยาวนาน และไม่เห็นทางจะหลุดออกไปได้

    ส่วนตัวชอบท่อนนึงที่พูดถึง มีเด็กน้อยคนนึงที่ยืนอยู่ตรงหน้า เด็กคนนั้นไร้เดียงสา ปราศจากความเจ็บปวดใด แต่พอยื่นมือออกไปโอบกอดไว้ เด็กกลับวิ่งหนี เลยทำได้แค่กอดตัวเองกับความว่างเปล่าตรงหน้า เป็นการเปรียบเปรยที่นึกภาพตามแล้วเจ็บจริงๆ


    'Palette' Album making from



    “ ฉันจะเป็นนักรัอง นักแต่งเพลง และ โปรดิวเซอร์ที่ตระหนักถึงคุณค่าของดนตรีมากกว่ายอดดิจิตอล ” 

    – ไอยู

    ขอบคุณความตั้งใจ ความใส่ใจ และการตะเวนหาสีที่เหมาะสมมาเทลงจานสี
    อาจเหน่ื่อยหน่อยนะที่ครุ่นคิดอยู่กับตัวเองเสมอ ว่ามีศิลปินด้วยกันคนไหนที่อยากทำเพลงด้วย ศิลปินที่จะมาเติมเต็มงานเหล่านั้น และวิ่งวุ่นไปหาคนๆนั้นเพื่อให้มาร่วมงานกัน

    ทุกเพลงที่ทำออกมาทั้งผู้ร่วมงานและตัวไอยูใส่แบบสุดฝีมือ แต่ละเพลงแตกต่าง
    Palette อาจไม่ใช่งานศิลปะที่สมบูรณ์แบบอย่างไม่มีที่ติ
    แต่คงเป็นงานศิลปะที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่ศิลปินอายุ 25 ปีคนนึงจะทำได้ 

    ขอบคุณนะไอยู และ สู้ๆ จีอึน

    จริงจังกับงาน แต่ก็มองหาความสุขด้วยนะ

    musicphile_s +



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in