เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
StHongs HAo
{Glowing .Scrab} สนามพลังที่เป็นกำเนิดคลื่น
  • เสียงขูดจากแกรไฟต์เสียดเป็นจังหวะคล้องจองกับทำนองกวาดวงแขนของรินทร์  นานๆทีนัยน์ตาพราวจะสลับขึ้นมองผมที่นั่งอยู่ตรงข้าม  เมื่อรินทร์กดใบหน้าลง หัวคิ้วรกเรื้อของเจ้าตัวดูราวขมวดเข้าหากัน  ลิ้นแลบออกเล็กๆเมื่อสะกิดก้นยางลบไฮไลท์แสงขาวบนพื้นดำที่สะท้อนแสง  เข้าที่แล้วจึงค่อยเงยหน้าขึ้นสบตาผมนิ่ง  ยิ้มตาปิด คลี่ปมหัวคิ้วสื่ออารมณ์

    "เสร็จแล้วมึง  หนนี้เร็วขึ้นปะ?"  รินทร์ถาม  ผืนฟ้าที่แอบอยู่หลังภูเขาหลังโรงเรียนเริ่มแสดงนัยยะบางอย่าง  สีก้านมะลิตัดกับนิลุบลจับปลายฟ้าขรึมและผมจับจ้องมันอย่างเหนื่อยหน่ายพอกัน  ผมเสมองทิศตะวันตกและก้มลงดูเวลา  "หนึ่งชั่วโมงยี่สิบเอ็ดนาที"

    "โอ๊ะ"  หัวเราะแหะๆ  "ถึงจะช้ากว่าเมื่อวาน  แต่ผลงานพัฒนาขึ้นนะ"  มันส่งบอร์ดรองกระดาษมา  รูปเหมือนของผมปรากฏหรา  เป็นตัวผมในมิติขาวเทา เงาแสงหลอกเล่นกันเห็นความตื้นลึกหนาบาง  เซนส์ด้านการประเมินงานศิลป์ของผมก็มีบ้างแต่ผมเลือกไม่ใช้

    "ยังไม่สวยเท่าที่ควร  ยังพัฒนาได้มากกว่านี้อีก"  ผมโกหกครึ่งหนึ่ง  ถ้าผมชมมันก็เท่ากับว่ายอมรับการถูกสาดให้เสียกระบวนด้วยคลื่นรอยยิ้มย่ามใจนับพันระลอกเป็นแน่  ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบให้รินทร์ยิ้มยียวนใส่

    แต่ผมไม่ชอบที่ใจเต้นออกนอกหน้าขนาดนั้น

    "กูขอบคุณมึงมากเลย  ที่คอยสั่งสอนติเตียนและอยู่ข้างๆกูตลอด"  รินทร์ปรายยิ้มจริงใจ  "ไหนๆก็ไหนๆละ  กูมีเรื่องสำคัญต้องบอกมึง"  เมื่อมันลุกขึ้นยืน  ทำให้แดดยามสนธยาไม่สามารถเอื้อมมาจับใบหน้า  ทิ้งเงาทมิฬบดบังอารมณ์ยากอธิบาย  "กูตกลงสมัครเข้าโรงเรียนศิลปะเซนต์เมอร์แมงแล้ว  เทอมหน้ากูกับมึงก็คงไม่ได้เจอกันอีก..."  ชื่อโรงเรียนที่กล่าวถึงเป็นโรงเรียนศิลปะชื่อดังย่านเมืองหลวง  ตอนนั้นผมแสดงสีหน้าเรียบเฉยและน้ำตาของรินทร์ก็ไหลรื้นขึ้นมาดื้อๆเช่นเคย

    *****

    [ เย็นวันหนึ่ง, สามปีให้หลังจากวันร่ำลาที่ผมกำลังคิดถึง ]

    ผมสะบัดกระดาษแข็งในมือแค่ไม่กี่ครั้ง  ฉากสีดำพลันม้วนไหวเป็นสีซีเปียแล้วปรากฏชัดเป็นสีสันท้ายสุด  เป็นรูปถ่ายท้องฟ้าสีก้านมะลิตัดกับนิลุบล

    "กริ๊งงงงง..."  //เสียงของแม่//  "นนท์~  รินทร์โทรฯมาแน่ะลูก  ลงมารับโทรศัพท์เร้วว~"

    รูปถ่ายในมือร่วงหล่นลงพื้น  มือไม้สั่นเทา ต่อมน้ำลายข้างกกหูทำงานหนัก  ห่างหายไปนานทำไมถึงเลือกโทรฯมาเอาป่านนี้ ?!

    "ครับ  กำลังลงไปครับ"
    -*-
    "ฮัลโหล"  "นนท์"

    "...กูอยากให้มึงช่วยสอนอะไรกูหน่อย"

    *****

    "..มึงมาพึ่งกูเพราะมึงไม่เข้าใจสิ่งนี้!?"  ด้วยสาเหตุประการหนึ่ง  ผมหงุดหงิด  "อื้อ"  โลหิตอาบฉีดฉานใบหน้ารินทร์วัยสิบแปดปีผู้นั่งตรงข้าม  "และกูมั่นใจว่ามึงสอนกูรู้เรื่องสุด.."

    "... •_•"  มีบริกรพยุงถาดวางแก้วไว้บนนิ้วตรงมาเสิร์ฟเครื่องดื่มที่โต๊ะของผมกับรินทร์  "ตกลง  กูจะช่วยมึง"  หลังจากนั้น,  พลังเนื่องด้วยอารามตื่นเต้นดีใจของรินทร์ก็กระเซ็นซ่านแก่ลูกค้าทุกคนในคาเฟ่แห่งนั้นโดยทั่วถึงกัน ---
    -*-
    ผมก้มมองรินทร์ที่สลับตำแหน่งมานั่งข้างๆบ้าง  ตอนนี้เราสองคนอยู่ที่ริมสระน้ำหลังโรงเรียน  พื้นหญ้าสีน้ำตาลซมไข้รองเป็นเบาะ  กิ่งสล้างแห้งกรอบของไม้เนื้อผอมเบื้องบนทอดเงาเศร้าหมองลงบนกรอบหน้าของพวกเรา  น้ำในสระระเหยแห้งใกล้สิ้นแล้ว  รินทร์กำลังวาดรูปทิวทัศน์ที่อยู่ตรงหน้าอย่างขะมักเขม้น

    "ไปอยู่ที่นู่นเป็นไงบ้างวะ ?"  "ไม่ดีไม่เลว  แต่ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆเยอะแยะเลยว่ะ - ทิวทัศน์สวยๆ ที่นั่นหายากและทุกคนตื่นเต้นกับภาพวิวที่กูวาดตอนยังไม่ย้ายไป  อีกอย่าง  กูคิดถึงมึงโคตรๆเลยเว้ย  บางคืนถึงกับฝันว่ามีมึงเรียนที่นั่นกับกูด้วย ฮ่าๆ"  "ฮ่าๆๆ  ช่างฝันเหมือนเดิมเลยนะไอ้รินทร์"

    ห้วงนั้นความมีตัวตนของนามธรรมดูแจ่มแจ้ง  "กูก็คิดถึงมึง"

    รินทร์ยิ้มแก้มเต่งแล้วเจื้อยแจ้วต่อไป  สรรพสิ่งของรูปธรรมกดทุกความเป็นไปได้ให้จมลงใต้ผืนหญ้าป่วยไข้นั้น  ผมหัวเราะเสียงดังกว่าปกติเล็กน้อยเพราะความเศร้า

    ภาพวาดของรินทร์สวยไร้ที่ติยิ่งกว่าครั้งก่อนๆที่ผมฝึกสอน

    ===♡===
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in