เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Just one more chapturepreenbanana
I’ll give you the sun▐ อาทิตย์ที่อบอุ่นและแผดเผา



  • “There should be a horn or gong or something to wake God. Because I’d like to have a word with him. Three words actually: WHAT THE FUCK?!”― Jandy Nelson, I'll Give You the Sun







    “ความรักเป็นเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของเรื่องราวทั้งหมด” ซึ่งก็เป็นจริงตามคำโปรยของหนังสือเล่มนี้ เพราะ I’ll Give You the Sun ถ่ายทอดความสัมพันธ์รูปแบบต่างๆที่อยู่ในชีวิตของ “โนอาห์” และ “จู๊ด”  แฝดชายหญิงที่หลงใหลในศิลปะ ผ่านมุมมองของทั้งคู่ในช่วงอายุที่แตกต่างกัน โนอาห์จะเป็นการเล่าเรื่องตอนอายุ 13-14 ปี สลับกับเรื่องของจู๊ดในปัจจุบันที่มีอายุได้ 16 ปี ซึ่งเป็นเวลาที่ทั้งสองคนต้องตัดสินใจเรื่องการเรียนต่อในระดับชั้นมัธยมปลายของตัวเอง




    ในระหว่างนี้ทั้งคู่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของฝาแฝดที่ห่างเหินกันไปเรื่อยๆ จากเดิมที่ทั้งสองคนต่างเป็นทั้งแฝดทางกายภาพและทางจิตวิญญาณ เคยรับรู้ เข้าใจ และรู้จักตัวตนซึ่งกันและกันอย่างลึกซึ้ง จนกระทั่งทั้งตู่ตกหลุมรักเด็กหนุ่มข้างบ้านที่ย้ายเข้ามาใหม่เหมือนกัน




    รวมไปถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนตอนที่เคยรู้จักเมื่อยังเป็นเด็ก ยิ่งเติบโตขึ้น ก็ดูเหมือนว่าปัญหาและความลับต่างๆระหว่างพ่อกับแม่เริ่มทวีความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆในสายตาของเด็กทั้งสอง

     



    อีกทั้งหนังสือยังบอกเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนกับศิลปะ แรงบันดาลใจจากความรัก ความหลงใหล ความอิจฉาริษยา ความโกรธเกรี้ยวและความสูญเสียจากโศกนาฎกรรมในชีวิตปลุกให้คนทำงานศิลป์ลุกขึ้นมารังสรรค์งานอย่างบ้าคลั่งเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวและตัวตนของเจ้าของผลงาน เช่นเดียวกับโนอาห์และจู๊ด ทั้งคู่ต่างเลือกใช้เทคนิคที่ถนัดในการสร้างงานของตัวเอง โดยโนอาห์เลือกใช้การวาด ซึ่งเราจะได้เห็นผลงานของเขาในหนังสือเล่มนี้ตลอดทั้งเล่ม และจู๊ดใช้การแกะสลักกับการปั้นในการแสดงความเป็นตัวเอง






    ด้านภาษา ถือว่าอ่านยากในระดับหนึ่งสำหรับเรา โดยเฉพาะในส่วนของโนอาห์ที่มักเฝ้ามองทุกสิ่งรอบตัวอย่างละเอียดลออและวาดภาพสิ่งเหล่านั้นอยู่ในหัวอยู่ตลอด ดังนั้นแล้วโนอาห์จะเป็นผู้บรรยายที่ถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาที่สละสลวย ดังนั้นแล้วศัพท์ที่เจอก็ยากตาม แต่ในส่วนของจู๊ดที่มีน้ำเสียงของตัวละครที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นจะอ่านง่ายกว่า บทบรรยายของจู๊ดสนุกมาก สำหรับคนที่ชอบเรื่องโชคลางต่างๆ เพราะจู๊ดในวัย 16 เป็นคนที่ถือเคล็ดต่างๆมากมายในการใช้ชีวิตประจำวันและเพื่อให้งานปั้นของเธอออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ




    ความเห็นหลังอ่าน เราคิดว่าจุดเด่นของหนังสือเล่มนี้อยู่ที่การเล่าเรื่อง คนอ่านควรอ่านหนังสือเล่มนี้ไปเรื่อยๆ เพราะไม่อยากให้พลาดความรู้สึกตอนที่เรื่องราวทั้งหมดของแฝดแต่ละคนจะมาบรรจบกัน ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่เป็นเหตุเป็นผลกันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะสังเกตเห็นปีกผีเสื้อตัวเล็กที่ขยับขึ้นลงอยู่หรือไม่

     



    ในช่วงท้ายเป็นการอ่านที่ทำให้เราทึ่งและประทับใจมากๆกับการวางโครงเรื่องทั้งหมดของผู้เขียน ถึงขนาดที่ต้องเปล่งเสียงร้องด้วยความประหลาดใจออกมา ลดความเร็วในการอ่านลง ก่อนจะปิดหนังสือ แล้วพักหายใจสักครู่ Mind blowing สุดๆเมื่อปมทุกอย่างถูกคลายออกมา เราเข้าใจและเห็นใจต่อการกระทำของตัวละครมากขึ้น กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ผูกพันกับตัวละครทั้งหมดไปแล้ว เมื่ออ่านได้อ่านหนังสือจบ ก็เกิดเป็นความรู้สึกอิ่มเอมอย่างบอกไม่ถูก ไม่แปลกใจเลยที่ทำไหมบรรดา Booktuber ต่างชาติถึงได้ชื่นชอบหนังสือเล่มนี้กัน ดีใจที่ตัวเองเลือกหยิบมาอ่านสักที ถือเป็นอีกเล่มในหมวด YA Contemporary ที่ชอบมาก






    “We wish with our hands, that’s what we do as artists."






    Title: I'll Give You the Sun

    Author: Jandy Nelson

    Published: September 16th 2014





Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in