เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ไดอารี่คน.....นะจ๊ะCHOMVIEW
ไดอารี่คน "นั้งเรือ"
  • เรือที่ดีที่สุดของคนกรุงเทพฯ คงหนี้ไม่พ้น เรือ"คลองแสนแสบ" (ประชดเน้อ)

    น้ำใสอย่างกับน้ำหมักขยะ เหม็นบ้าง ไม่เหม็นบ้าง ปนๆกันไป....
    ขับเร็วขับไว้ เหมือนหัวใจอยู่ในสวนสนุก 

    มา วันนี้มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง... 

    เรื่องนี้เกิดมาซักประมาณ ต้นปีที่ผ่านมา หรือนานกว่านั้นถ้าจำไม่ผิด

    ปกติแล้ว หลังจากทำงานเหนื่อยๆ สิ่งที่เหนื่อยและคิดไม่ตกเหมือนกับการทำงาน ก็คือ 

    "วันนี้กูจะกลับบ้านยังไงดีวะ"

    หลายๆครั้งที่เลือกเดิน หลายๆครั้งที่เลือกนั้งบีทีเอส แล้วต่อรถเมล์ และอื่นๆ

    และรวมในอื่นๆพวกนี้ก็เหมือนจะต้องมี"เรือ"เข้ามารวมด้วยเสมอ

    ครั้งนี้ก็เช่นกัน -- เนื่องจากรถติด เรื่อก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

    วันนี้เดินระยะทางไม่ไกลมาก ประมาณ กิโลเดียว ไปทางเรือวิทยุหลังเลิกงาน เรียกว่าเดินชมทัศนียะภาพไปเลย มีทั้งตึก ต้นไป ปาร์คนายเลิศ และอื่นๆ พนักงานออฟฟิสหลายแห่งเริ่มกลับบ้านเหมือนกัน
    คนงานใส่ชุดสีส้มนีออน ผิวเข้ม นั้งรออยู่ข้างถนน รอรถมารับกลับแค้มป์ ยืนเรียงรายกันอยู่เยอะแยะมาก บ้างก็ซื้อลูกชิ้น บ้างก็นั้งคุยกันเป็นกลุ่ม  

    เดินมาซักพักถึงโป๊ะใหญ่ เพราะว่าพึงตรงส่วนขยายต่อเติมพึงจะเสร็จใหม่ๆ กลิ่นสียังไม่หายเลยด้วยซ้ำ

    ดอกแรกคือ ยืนรอตอน 5.15 นาที

    เรือมาตอน 6.00 พอดีเป้ะ อิดอกกกกก

    เรือคลองแสนแสบทุกคนคงจะเคยเห็นกันอยู่เเล้ว ว่ามันไม่ได้เล็กเลย แต่เวลาแบบนี้ ทุกอนุในเรือ เต็มไปด้วยมนุษย์เยอะแยะมากมายหลายขนาด แทบจะไม่มีที่ยืน เพราะเส้นที่เรือผ่านมาคือเส้นสุขุมวิทซึ่งตรงนั้นแม้ง ดงมนุษย์ออฟฟิสจริงๆ แล้วผ่านมาท่าเรือวิทยุ ซึ่งแม้งไม่ได้ต่างกันเลย 

    ตอนนี้เบียดตัวเข้าไปได้และ เรือเคลื่อนไปแบบสงบๆ  เราทำหน้าที่ชักลอกผ้าใบเรือบ้าง
    (ชักลอกผ้าใบเรือหมายถึง -- ติดกับกราบเรือจะมีลอกที่ผูกกับผ้าใบ เราจะชักลอกขึ้นเวลาที่มีเหตุการณ์เช่น มีเรือผ่านมาแล้วน้ำแม้งกระเด็น หรือเรือขับแรงจนน้ำกระเด็นขึ้นมา // ใช้เพื่อป้องกันน้ำกระเด็น)

    ท่าแรกผ่านไป......... ท่าสองท่าสาม ค่อยๆผ่านไป .....

    จนมาถึงท่าที่ทุกคนรอคอย เป็นท่าที่เหมือนเป็น hub ขนาดย่อม คือ

    "ท่าเรือ ประตูน้ำ"

    ท่านี้และจ่ะแม่จ้า .. ทุกคนไม่ว่ามาจากฝั่งไหนก็ตาม (จากฝั่งอโศก หรือจากฝั่งสะพานผ่านฟ้า) ทุกคนต้องมาเปลี่ยนคันเรือที่นี้ (ซึ่งยังไม่เข้าใจจนถึงตอนนี้เลยว่าทำไมต้องเปลี่ยน) 

    ทุกคนบนเรือกรูกันลงแบบเลือกไม่ได้บ้างคนเดินขึ้นไป บนถนน เพื่อจะต่อรถจากเซนทรัลเวิล บ้างคนเดินตรงไปข้างฟน้าเพื่อรอเรือลำใหม่ที่จะผ่านไปส่งถึงป้ายผ่านฟ้า ซึ่งเราเองก็เป็นทีมนี้เหมือนกัน

    เวลานานมาก นานจนไม่รุ้เท่าไหร่ กว่าเรือแม้งจะมา อันนี้คือดอกที่สอง

    อิเ-ี้ยยยยยย พอเรือไปผ่านฟ้ามาจอด แม้งไม่ถึง 10 วินาทีแม้งออกแล้ว คนขึ้นได้ประมาณ 3 คน 
    แล้วแม้งออกเลย ฟัคคคคคคคคคคคค

    เป็นแบบนี้อยู่ประมาณ 3 ลำกว่าจะได้ไป กระเป๋าชอบพูดเสมอ "รอลำใหม่พี่ รอลำใหม่"

    "กุรอมึงมานานมากแล้วอิ ค.... มึงจอดนานกว่านี้ไม่ได้เหรอไง"  --- คิดในใจและใครจะกล้าพูด

    พอลำนี้ได้ขึ้นเเล้ว ลักษณะในเรือก็เป็นดังรูป

    เรื่องของเรื่องคือ พอเรือเคลื่นตัวออกจากท่าประตูน้ำ อีกประมาณ 2 ท่าจะถึงบ้านเรา
    เลยไม่ขอเดินข้ามไปนั้งข้างหลัง ยืนโง่ๆอยู่ข้างเครื่องเสียงดัง มองไปข้างหน้า มองทัศนียะภาพข้างๆ 

    เรือชะลอช้าลง

    อยู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง

    "มึงจะเอายังไงกับกู"

    "แล้วมึงจะเอายังไงฮะ ไอ-ัตว์"

    หันเลยจ้า หันไปเสือกทันทีเลยจ้า

    ภาพเป็นคุณลุง A ใส่เสื้อยืดสีดำยืดกับคุณลุง B ที่ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นลายสก็อตผ้า
    อริยาบทของคุณลุงทั้งสองคือ ยืนขึ้น พร้อมกับชกต่อยกันอย่างเมามัน ...

    คุณลุง A ดูเหมือนจะได้เปรียบออกหมัดเยอะกว่าคุณลุง B

    เสียงเครื่องเรือดังมาก จนแทบไม่ได้ยินเสียงสนทนาระหว่างทั้งคู่ ได้ยินเสียงตะโกนโวนวายออกมาเป็นระยะ แต่เสียงไปไม่ถึงครึ่งลำด้านหน้าที่ยังคงนั้งสบายๆอยู่ ตอนนั้นสับสนมาก ขยับตัวเดินออกจากเครื่องสองก้าว มองไปด้านหน้าลำ คนยังนั้งกันปกติ แต่หลังเรือวุ่นวายมาก คนขยับขยายที่กันมากขึ้น แต่โชคดีที่คนด้านหลังลำน้อยมาก ผู้ชายที่อยู่ข้างๆลุงทั้งสอง กระโดดขยับออกห่างไปอีก พยายามดึงคุณลุง B เชิงห้าม ส่วนผู้ชายที่อยู่ด้านหลังคุณลุง A ก็เกี่ยวตัวคุณลุงไว้เช่นกัน

    "กูไม่ได้ทำอะไรมึงเลย มึงมาต่อยกูทำไม" ลุง B พูดขึ้นเสียงดังแต่ ไม่พ้นไปทางฝั่งเรือด้านหน้า
    "มึงบอกให้กูขยับไปไงกูก็ขยับเเล้ว แล้วมึงมองหน้ากูทำไม" ลุง A พูด

    และบทสนทนาก้ไม่ได้มีอะไรมาก นอกจากลุง A พูดวนๆซ้ำๆว่า "มึงจะมีปัญหากับกูใช่ไหม" แบบนี้อยุ่เห็นจะร้อยครั้งได้ พูดอยู่นั้นเเละ พูดจนกุเองอยากจะมีปัญหากับเค้าเอง

    ตลอดเวลาที่เรือแล่นลุง A พยายามเข้าหาลุง B ตลอด ลุง B ก็เหมือนจะพร้อมบวกตลอดเวลาเช่นกัน

    มาถึงท่าเรือสะพานหัวช้าง เรือจอด ทุกอย่างเริ่มเงียบ ได้ยินเสียงโว้ยวายของลุงชัดเจนขึ้น ทุกคนในเรือเริ่มได้ยินและหันมามองเป็นตาเดียวกัน กระเป๋าเรือ ตอนแรกที่เดินไปเดินมา งุ่นง้านกับการเก็บเงิน ตอนนี้เริ่มเดินย้อนกลับมาดูด้านหลังเรือว่ามีปัญหาอะไร 

    เห็นที่ต้องถึงเวลาของนายท่า

    นายท่า ท่าเรือหัวช้าง เป็นคนหนุ่มร่างใหญ่ ใส่แว่นทรงกลม ยืนใส่ชูชีพอยู่ พอได้ยินเสียงเอะอะโว้ยวายด้านหลัง ก็เดินเข้ามาดูทันที

    "ลุงปัญหาอะไรกัน" 
    "ไอนี้มันหาเรื่องลุง" ลุง A พูด

    "มึงเป็นบ้าอะไรของมึง กูนั้งของกูอยู่เฉยๆ" 

    หมดบทสนทนานี้ก็ ตะลุมบอลกันอีกรอบ

    "งั้นต้องขึ้น ที่นี้คนนึงเเล้วครับ ไปแบบนี้ไม่ได้"
    "กูจะไปแจ้งตำรวจ" 

    "เอาเลยมึงไปแจ้งเลย"

    หมดบทสนทนานี้ก็ ตะลุมบอลกันอีกรอบ

    "ไปเลย ไปลย ออกเรือเลย" เสียนายท่า

    อ้าว อิฟัค มึงปล่อยเค้าแบบนี้เลยเหรอ มึงไม่ลงมาทำอะไรหน่อยเหรอ 
    เเล้วถ้าเค้าตกลงไปละอิควัยยยยยยยยยย มึงจะทำยังไง ถ้าเค้าไม่ได้ต่อยกันตาย
    แต่พากันตกลงน้ำไปตายละ 

    แล้วเรือก็แล่นออกจากท่าอีกครั้ง ลุง A "มึงจะมีปัญหากับกูใช่ไหม" กูจะไปแจ้งตำรวจ"  พูดซ้ำเเล้วซ้ำอีก พูดอยู่นั้นเเละ

    คนห้ามลุงทั้งสองเริ่มเหนื่อยแล้ว ต่างพากันนั้งลง รวมถึงตัวลุงเองก็นั้งแยกห่างกัน แต่ปากยังพูดไม่หยุด
    คนห้ามเลยหันไปถามว่า "ลุงจะไปแจ้งตำรวจ สน.ไหนครับ ผมจะได้พาลง" แล้วลุงก็ยังวกกลับมาพูดแบบเดิมอีกเป็น พันๆหมื่นๆครั้ง จนทุกคนพากันระเหี่ยใจ หันหน้าไปมองนอกเรือ ดูวิวบ้านเรือนสองข้างทาง

    ทำไมกูต้องมาเจออะไรแบบนี้วะ

    ถึงป้ายบ้านเราเเล้ว 

    "ไร้สาระ -ัตว์ "

    จำได้ว่าตัวเองพูดเสียงดังมาก และก็เดินขึ้นโป๊ะแบบไม่มองอย่างสวยๆ 


    จบ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in