เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Major Depressive DisordersEmbrace
รัก
  • 13 พฤศจิกายน 2560
     
           จากโพสก่อนราวเกือบสองเดือนได้ที่เราได้กลับมาพบกันอีกครั้ง บางคนอาจเคยพบเจอโพสของแันมาบ้าง บางคนนี่อาจเป็นโพสแรกที่ได้เข้าเจอกัน  ตลอดเวลาเกือบสองเดือนที่ผ่านมาฉันผ่านมรสุม พายุ หรือเพียงสายลมแห่งความเศร้าหมอง เย็นชา ความเจ็บปวดต่างๆนานาหลากหลายรูปแบบ บ้างทุกข์ทรมานจนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ บ้างก็มาเป็นเพียงสิ่งกระตุ้นให้ไม่ลืมว่าฉันกำลังเป็นอะไรอยู่ แต่ทุกรูปแบบมันเป็นเหมือนเครื่องเตือนใจว่า "ฉันยังมีลมหายใจอยู่" ฉันหายใจมีชีวิตอยู่ต่อใช้ชีวิตอย่างเชื่อง
    ช้าสวนทางกับเวลาที่หมุนเวียนเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็ว หลายสิ่งเข้ามาแล้วจากไปราวกับว่าแวะเวียนมาทักทายทำควาวมรู้จัก บางสิ่งอาจอยู่ด้วยกันนานหน่อย แต่สุดท้ายก็โบกมืออำลากันไปทุกครั้ง เฉกเช่นเดียวกับชีวิตที่ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ อาการป่วยของฉันก็เช่นกัน รอยโรคของมันดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ ในขณะที่ยาก็ทำหน้าที่ของตัวมันเองอย่างดีที่สุด ในขณะที่ฉันพยุงตัวเองมาเรื่อยๆจนถึงทุกวันนี้ รอยแผลเป็นจากการกรีดข้อมือตัวเองก็จางไปทุกที แต่กลับกันรอยแแผลเป็นในใจกลับไม่เคยจางหายไป แม้มันจะดีขึ้นแต่มันไม่เคยลบเลือน มีแต่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หากมองภายนอกฉันอาจดูดีขึ้น แต่ภายในกลับค่อยๆตายลงไปอย่างช้าๆ ราวกับก้อนมะเร็งที่ค่อยแพร่ขยายกลืนกินส่วนต่างๆไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ลุกลามกลายเป็นเนื้อตาย ฉันมองไม่เห็นภาพอนาคตตัวเอง เจ็บปวดทุกครั้งที่พยายามเอื้อมมือไปแตะต้องสิ่งที่เรียกว่าความหวัง ความฝัน ฉันสัมผัสได้ถึงความรัก ความห่วงใย แต่ก็ยิ่งเหมือนฉันเห็นแก่ตัวเข้าไปทุกที "รพินทรนาถ ฐากูล" เคยกล่าวไว้ว่า "รัก...ยังคงเป็นความลับแม้เมื่อเอ่ยถึง ผู้มีรักเท่านั้นจึงรู้แท้ว่าตนเป็นที่รัก" แต่เหตุใดเล่าฉันถึงรู้สึกเห็นแก่ตัว ยิ่งฉันสัมผัสได้ถึงความรัก ฉันยิ่งรู้สึกเห็นแก่ตัวและเจ็บปวดทรมาน ในชั่วขณะหนึ่ง ฉันคิดว่าฉันรักตัวเอง แต่วันนี้ฉันมองมันเป็นความเห็นแก่ตัวที่กำลังก่อตัวขึ้นมา ความรักที่ฉันสัมผัสได้ ความรักตัวเองของฉันกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปมันกำลังทำร้ายคนที่ฉันรักอย่างช้าๆและเลือดเย็น หรือทั้งหมดนี้เป็นเพราะฉันพยายามไม่มากพอ เพราะฉันอดทนน้อยเกินไป หรือเพราะฉันกำลังเปลี่ยนแปลงไปจริงๆ  เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้วคุณคงเห็นว่าฉันเป๋นคนที่สับสนไม่รู้แม้กระทั่งตัวเอง เป็นจริงอย่างที่คุณคิด ฉันกำลังสับสน ฟุ้งซ่าน หวาดกลัวและไม่รู้ตัวเอง ฉันในตอนนี้ไม่อาจให้กำลังใจใครได้อีกแล้ว ไม่สามารถคิดได้เลยว่าสิ่งที่ฉันบอกเล่าไปมันจะเป็นประโยชน์กับใครได้บ้าง มีเพียงคำบอกเล่าฟุ้งเฟ้อเหมือนเศษฝุ่นที่กำลังพัดลอยไปตามลม นอกจากจะต้องกลับมาคิดพิจารณาตัวเองว่าสำหรับฉันแล้ว ฉันกำลังกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวกำลังก้าวข้ามเส้นบางๆของการรักตัวเองไปหรือเปล่า หรือคุณเองถ้าว่างๆก็ลองพืจารณาตัวเองไปกับพร้อมๆกับฉันก้ได้นะ











Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in