เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เวิ่นอนิเมะ มังงะ เว็บตูนEverblue
[Manga] CHAINSAW MAN ในความยุ่งเหยิงนั้นแฝงอะไรไว้อยู่?



  • ชื่อเรื่อง: CHAINSAW MAN
    เรื่อง/ภาพ: Tatsuki Fujimoto
    แปล: ศันสนีย์ ศลกิจวาณิชย์กุล
    สำนักพิมพ์: SIAM INTER COMICS
    จำนวนเล่ม: 11 (ภาค 1), ภาค 2 กำลังจะมาวันที่ 13 กรกฎาคมนี้


    ***Contains some spoilers

    คำเตือน!!! สปอยแรงมากยันรายละเอียดของเรื่อง 

    เหมาะกับคนที่อ่านมาแล้วหรือคนที่ตั้งใจจะอ่านแต่ไม่กลัวสปอย

    Fact 30%, Opinion 70%

    เรื่องจะเล่าถึงเด็กหนุ่มคนหนึ่งชื่อเด็นจิ พ่อแม่ตายโดยที่พ่อได้ทิ้งหนี้ก้อนโตไว้ให้ ทำให้เด็นจิต้องมีชีวิตที่ยากลำบากตั้งแต่เด็ก อยู่อย่างแร้นแค้นไม่พอยังต้องใช้แรงงานให้กับเจ้าหนี้ที่เป็นพวกยากูซ่า มีอยู่วันหนึ่ง เด็นจิดันไปเจอโปจิตะ สิ่งมีชีวิตรูปร่างสุนัขผสมเลื่อยยนต์ที่กำลังบาดเจ็บ เด็นจิช่วยชีวิตโปจิตะเอาไว้และได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในฐานะครอบครัวและเพื่อน เวลาเด็นจิออกล่าปิศาจเพื่อหาเงินใช้หนี้ ก็จะพาเจ้าโปจิตะคู่หูเลื่อยยนต์ตามติดไปด้วย


    ทีนี้จุดเปลี่ยนก็มาถึง เมื่อเจ้าหนี้ของเด็นจิดันพลาดไปทำสัญญากับปิศาจซอมบี้ทำให้ถูกยึดครองร่าง เด็นจิกับโปจิตะถูกสังหาร โปจิตะได้ช่วยชีวิตเด็นจิเอาไว้โดยเสียสละหัวใจตัวเองให้เด็นจิ ทำให้เด็กหนุ่มฟื้นกลับขึ้นมาได้พร้อมกับพลังของปิศาจเลื่อยยนต์ พลังนี้ของเขาดันไปต้องตามาคิมะ สมาชิกจากหน่วยล่าปิศาจ มาคิมะได้ชักชวนเด็นจิให้มาร่วมหน่วยปราบปิศาจด้วยกัน แล้วเรื่องราวของเด็นจิในฐานะปิศาจเลื่อยยนต์ที่ทำงานให้กับทางการญี่ปุ่นก็เริ่มขึ้น 


    นิยามแห่งปิศาจในโลกของเชนซอว์แมน




    เซตติ้งโลกในแต่ละเรื่องก็จะมีนิยามเฉพาะของตัวเองกันทั้งนั้นใช่ไหมล่ะ ในโลกของเชนซอว์แมนเองก็เช่นกัน ปิศาจในโลกนี้ถือกำเนิดขึ้นมาจากความกลัวของมนุษย์ ยิ่งมนุษย์หวาดกลัวมากเท่าไหร่ ปิศาจยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ ปิศาจยังกินเลือดเนื้อของมนุษย์เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของตนเองได้อีกด้วย


    ปิศาจมีความสามารถที่เรียกได้ว่าเกือบจะเป็นอมตะ ถ้าปิศาจถูกฆ่าในโลกมนุษย์ มันก็จะกลับไปเกิดใหม่ในนรกพร้อมทั้งสูญเสียความทรงจำก่อนหน้านั้นไป ในทางเดียวกัน หากปิศาจถูกฆ่าในนรก มันก็จะไปเกิดใหม่บนโลกมนุษย์ การทำลายกันทางกายภาพไม่สามารถลบล้างการมีอยู่ของปิศาจไปได้เลย ยกเว้นวิธีการบางอย่างที่สามารถ “ฆ่า” หรือ “ลบปิศาจให้หายไปถาวร” ได้ ซึ่งเดี๋ยวจะกล่าวถึงในหัวข้อต่อไปนี่แหละค่ะ


    แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับปิศาจแต่ละประเภทในโลกของเชนซอว์แมนกันก่อนดีกว่า เผื่อใครจะยังงงๆ กับชื่อนะ


    ปิศาจเป็นความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นมาจากธรรมชาติคือความกลัวของมนุษย์ต่อสิ่งต่างๆ อย่างไรก็ตาม เรายังสามารถพบเห็นปิศาจในรูปแบบต่างๆ ได้อีกด้วย เช่น


    • ปิศาจที่ทำพันธะสัญญา เช่น ปิศาจสุนัขจิ้งจอกที่ส่วนใหญ่ทำพันธะสัญญากับนักล่าปิศาจ โดยจะให้ยืมพลังส่วนหนึ่งแลกกับการที่ผู้ทำสัญญาจะสังเวยอะไรซักอย่างของตนเองไปเป็นการแลกเปลี่ยน


    • มนุษย์ปิศาจ คือปิศาจที่เข้าสิงศพของมนุษย์ มนุษย์ปิศาจจะสังเกตได้ง่ายจากลักษณะภายนอกที่ยังคงรูปลักษณ์ของปิศาจบางส่วนอยู่ พวกนี้ก็เช่น พาวเวอร์ บีม ปิศาจอวกาศ


    • พวกครึ่งปิศาจ ซึ่งจะคงรูปลักษณ์และจิตสำนึกของความเป็นมนุษย์เอาไว้ พวกนี้จะเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นปิศาจเมื่อเจ้าของร่างทำการ 'แปลงร่าง'เท่านั้น ครึ่งปิศาจพวกนี้ก็เช่น ตัวเอกของเราเด็นจิ เรเซ่



    Cr. Chainsaw man chapter 83
    *เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เหมือนชื่อมนุษย์ปิศาจในเรื่องจะมีเรฟเฟอเรนซ์มาจากชื่อของทูตสวรรค์ทั้ง 9 ค่ะ (เซราฟีม, บีม, กะรุกะริ. โดมินเนียน, วาเช่, พาวเวอร์. ปรินซ์, แองเจิล) แต่เราไม่ค่อยเซียนเรื่องไบเบิ้ลเท่าไหร่ ใครอยากแชร์ข้อมูลอะไรบอกมาได้ตามสบายเลยนะ


    ปิศาจที่น่ากลัวที่สุด = …?




    คิดว่าปิศาจที่น่ากลัวที่สุดเป็นยังไง แล้วแบบไหนถึงจะเรียกว่าน่ากลัวสำหรับเราล่ะ เพราะความกลัวก็ค่อนข้างจะเป็นเรื่องตัวใครตัวมันเหมือนกัน 


    ดูง่ายๆ อย่างตอนต้นเรื่อง ปิศาจปืนดูจะเป็นปิศาจที่น่ากลัวมากที่สุด แถมยังดูเหมือนจะเป็นลาสบอสอีกต่างหาก เพราะอะไรล่ะ เพราะมันฆ่าคนไปเยอะมากในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเหรอ…อ้าว ถ้าอย่างนั้นแล้วทำไมผู้นำชาติต่างๆ ในเรื่องถึงได้เกรงกลัวมาคิมะ 'ปิศาจควบคุม' กันขนาดนั้น เกรงกลัวขนาดไหน? ก็ขนาดที่ผู้นำประเทศยอมแลกอายุขัยของประชากรประเทศตนเพื่อทำสัญญากับปิศาจปืนให้มันกำจัดมาคิมะซะเลยล่ะ ไหนจะเรื่องของปิศาจเลื่อยยนต์ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของคนในเรื่องอีก


    นั่นเพราะความหวาดกลัวไม่ได้เกิดขึ้นมาโดยตรงจากการฆ่าฟันกันโดยตรงเพียงอย่างเดียว ยกตัวอย่างง่ายๆ การที่คนๆ หนึ่งหรือกลุ่มหนึ่งจะสามารถกำหนดหรือชี้นำชะตาของคนส่วนมากได้นั้น ต้องเกิดจากอะไร คำตอบนั่นก็คือ ‘อำนาจ’ ถ้าอำนาจนั้นเป็นอำนาจเจ้านายกับลูกน้อง เราก็อาจถูกใช้ทำอะไรที่เราไม่ชอบ ขนาดในสังคมเล็กๆ ยังยากที่จะเอาตัวออกจากสถานการณ์แบบนี้เลย แล้วลองนึกถึงคนสักคนที่สามารถควบคุมคนกลุ่มใหญ่ได้สิ ยิ่งคนๆ นั้นมีพลังวิเศษอย่างการควบคุมคนได้ เขาคนนั้นจะมีอำนาจยิ่งใหญ่สักเพียงไหน


    เพราะฉะนั้นสำหรับเรา นี่แหละค่ะคือการถือกำเนิดขึ้นของปิศาจควบคุม

    และมนุษย์ก็ได้เผชิญหน้ากับบทเรียนอย่างใหญ่หลวงผ่านทางประวัติศาตร์โลกมาแล้ว เหมือนที่มาคิมะได้บอกไว้เลยค่ะว่า “ปิศาจควบคุมอยู่คู่กันมากับประวัติศาตร์ของมนุษย์’ เราจึงไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมปิศาจควบคุมถึงได้มีพลังมากขนาดนั้น สมศักดิ์ศรีลาสบอสตัวสุดท้ายของเรื่องมากๆ


    เกร็ดเล็กน้อยที่ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือตั้งใจก็คือ ในขณะนี้โลกของเชนซอว์แมนดำเนินอยู่ในปี 1997 ปิศาจปืนปรากฏตัวครั้งแรกเมื่อ 13 ปีที่แล้ว หรือก็คือปี 1984 ทำให้เรานึกถึงวรรณกรรมดิสโทเปียเรื่องหนึ่งค่ะ


    Cr.1984 โดยจอร์จ ออเวล

    ทุกคนคงเคยได้ยินคำว่าวรรณกรรมดิสโทเปียกันใช่ไหมคะ เวลานึกถึงดิสโทเปียเรานึกถึงอะไร โลกที่สิ้นหวัง โลกที่เลวร้าย โลกที่ล่มสลาย อย่างวรรณกรรมหรือหนังวันสิ้นโลก บ้างก็หนังเซอร์ไววัล บ้างก็หนังหนีซอมบี้ ทว่าไม่ใช่ว่าหนังแนวนี้ทุกเรื่องจะเป็นดิสโทเปีย เพราะว่าภาพชัดที่สุดของดิสโทเปียคือการที่คนถูกกดทับค่ะ ไม่มีสิทธิ์มีเสียง มีแต่ต้องก้มหน้ารับกรรมและปฏิบัติตามคำสั่งของผู้นำต่อไปเท่านั้น นี่แหละคือโลกที่เราไม่พึงปรารถนา


    ในหนัง 1984 นี้เอง ก็ได้แสดงถึงโลกดิสโทเปียที่เป็นแบบนั้น  เรียกได้ว่าหมดทางจะหนีเลยค่ะ วรรณกรรมเรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงสิ่งที่เรียกว่าอำนาจ ซึ่งคอยครอบงำและสร้างความหวาดกลัวให้แก่ประชาชน แก่นเรื่องนี้เรารู้สึกว่ามีความเกี่ยวข้องกับเชนซอว์แมนเป็นอย่างมากด้วย และเราก็มั่นใจว่าคอหนังอย่างอาจารย์ฟูจิโมโตะก็น่าจะต้องเคยดูเรื่องนี้อยู่แล้ว ถึงแม้ว่าเรื่องตัวเลขปี ค.ศ. อาจจะเป็นเรื่องไม่ตั้งใจก็เถอะ ฮ่าๆ

     

    แต่ก็นั่นแหละ สาเหตุที่คนใหญ่คนโตต้องการกำจัดมาคิมะ พอคนโดนควบคุมและไร้อิสระ โลกนี้ก็จะกลายเป็น “สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด” กลายเป็นแบบใน 1984 และมาคิมะก็จะเป็นเหมือนพี่เบิ้มก็คือผู้กุมอำนาจทุกอย่างเอาไว้ กลายเป็นคนที่ไม่ว่าประเทศไหนก็ไม่อาจต่อกรได้ เพราะอาวุธที่น่ากลัวที่สุดสำหรับมนุษย์ก็คือการควบคุมนี่เองค่ะ


    Cr. Chainsaw man chapter 83

    ภาพของมาคิมะเองก็ชัดเจนมาโดยตลอด ที่เห็นได้ชัดและเป็นตัวขับเคลื่อนให้เรื่องดำเนินต่อไปได้เลยคือความสัมพันธ์ของเธอกับเด็นจิ มาคิมะปฏิบัติกับเด็นจิเป็นหมา ชอบคนที่เชื่อฟังคำสั่ง ในขณะที่เด็นจิเองก็ปฏิบัติตามคำนั้นอย่างเต็มใจ ให้เห่าก็เห่า ให้ทำตัวตกต่ำมากขนาดไหนก็ยอม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าชีวิตของเด็นจิยากลำบากมาโดยตลอด โรงเรียนก็ไม่ได้เรียน มีแต่คนใช้ประโยชน์ แถมแม้แต่อาหารดีๆ สักมื้อก็ยังไม่ได้กิน มาคิมะเป็นคนแรกที่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วย เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเด็นจิถึงได้เทิดทูนบูชามาคิมะซะขนาดนั้น

     

    เราเชื่อว่าเวลาอ่านเรื่องนี้ สิ่งที่หลายคนเชียร์มากที่สุดอย่างหนึ่ง ก็คือรอดูตอนที่เด็นจิตาสว่างและแสดงความขบถต่อมาคิมะออกมาบ้างนี่แหละค่ะ



    สถานการณ์ What if…? ถ้าเกิดโลกของเรามีปิศาจ

    สิ่งที่เราคาดไม่ถึงกับ world setting ของเรื่องนี้มีอยู่ 2 ข้อค่ะ

     

    1. คาดไม่ถึงว่าเรื่องจะดำเนินอยู่ในอดีต  ถึงแม้ว่าจะมีการบอกใบ้นิดๆ หน่อยๆ แล้วก็เถอะ

    2. มีการเชื่อมโยงเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นบนโลกของเราเข้าไปในเรื่อง


    เพราะฉะนั้น นี่เลยทำให้เรารู้สึกรีเลทกับเรื่องนี้มากขึ้นพอสมควรเลยค่ะ ใครจะไปคิดว่าจะได้เห็นคำว่านาซีและชาวยิวถูกเมนชั่นขึ้นในเรื่องที่เราคิดมาตลอดว่าเป็นโลกที่ถูกสร้างขึ้นมาจากจินตนาการโดยสมบูรณ์ใช่มั้ยล่ะ นี่แหละ ที่ทำให้เชนซอว์แมนเป็นโลกที่ what if…ถ้าเกิดว่าโลกของเรามีปิศาจอยู่ล่ะ สถานการณ์ตอนนี้ก็จะกลายเป็น


    - คนบนโลกเกิดลืมไปว่านาซีทำอะไรไว้กับชาวยิว

    - โรค AIDS จะหายไปจากโลก

    - อาวุธนิวเคลียร์จะไม่มีอีกต่อไป

     - ในเรื่องยังมีการสื่อถึงการคงอยู่ของสหภาพโซเวียตอีกด้วย ไม่ใช่รัสเซีย


    นอกจากนี้ ยังผสมผสานจินตนาการ what if อย่างอื่น นอกเหนือไปจากสิ่งที่เราเห็นได้จริงในโลกของเราปัจจุบันด้วยค่ะ อย่าง


    สัมผัสที่หกที่ล้วนมีในมนุษย์ทุกคน

    - ลำแสงดวงดาวที่ทำลายจิตประสาทเด็ก

    - ผลลัพธ์ทั้ง 4 ที่นอกเหนือจากความตายยามเมื่อชีวิตถึงอายุขัยต้องดับสูญ


    แสดงว่าเมื่อก่อนมนุษย์เราทุกคนเคยมีสัมผัสที่หก? ถึงแม้จะไม่รู้ว่าสัมผัสที่หกนั้นคืออะไรก็เถอะ แต่ก็พอเดาได้ว่าคงเป็นสิ่งที่น่ากลัว

    แล้วจุดจบของมนุษย์เมื่อก่อนไม่ได้มีแค่เพียงความตาย? แล้วมันคืออะไรล่ะ?


    แต่เราคงไม่สามารถหาคำตอบให้กับคำถามเหล่านี้ได้อีกแล้ว เพราะว่าปิศาจที่ถือกำเนิดจากสิ่งเหล่านี้ถูกเชนซอว์แมนกินไปหมดแล้วยังไงล่ะ


    และนี่ก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ปิศาจตนอื่นๆ ล้วนหวาดกลัวและต้องการหัวใจของปิศาจเลื่อยยนต์ด้วยก็ได้ ชีวิตที่เกือบเป็นอมตะ ถึงถูกฆ่าเท่าไหร่ตัวตนก็จะไม่ถูกลบเลือนไป แต่ถ้าถูกปิศาจเลื่อยยนต์กินเข้าไปเมื่อไหร่ก็จบเห่เมื่อนั้น เพราะฉะนั้น ความกลัวสำหรับปิศาจคือความตาย ในนิยามของเราก็คือการถูกลบเลือนตัวตนของตนเองไป ซึ่งวิธีการนั้นก็คือการถูกทำให้ลืนั่นเองค่ะ


    ในขณะที่มนุษย์เราไม่ได้มีร่างกายแบบปิศาจใช่มั้ยล่ะคะ เพราะฉะนั้น ความกลัวของมนุษย์เราก็คือการถูกฆ่าตายนั่นเอง เป็นสาเหตุว่าทำไมปิศาจปืนถึงได้เป็นที่เกรงกลัวมากขนาดนั้น แม้จะมีการออกกฎหมายสำหรับควบคุมอาวุธปืนก็แล้ว พลังของปิศาจปืนก็ยังคงมากมายมหาศาลอยู่ดี ความกลัวที่มีต่อปืนก็จะยังคงอยู่ต่อไป จนกว่าปิศาจปืนจะถูกปิศาจเลื่อยยนต์กลืนกินนั่นแหละค่ะ เหมือนปิศาจนิวเคลียร์ที่ปัจจุบันในเรื่องนั้นไม่ปรากฏให้เห็นอีกต่อไปแล้ว



    เลื่อยมันเป็นยังไง ทำไมต้องหนุ่มเลื่อย?




    ไม่พูดถึงเชนซอว์แมนก็คงไม่ได้ เพราะก็ปรากฏอยู่ในชื่อเรื่องซะขนาดนั้น ในขณะที่เราเห็นปิศาจเลื่อยยนต์มาตั้งแต่เล่มแรก แต่เราจะได้เห็นไตเติ้ลดรอปจริงๆ จังๆ ก็ประมาณเล่ม 10 ค่ะ ความจริงก่อนหน้านี้ก็รู้สึกสงสัยมาก่อนแล้ว ปิศาจก็มีตั้งเยอะแยะ ทำไมถึงจำเป็นจะต้องให้ตัวดำเนินเรื่องเป็นปิศาจเลื่อยยนต์ด้วย เลื่อยยนต์มีความสามารถพิเศษอะไรขนาดนั้น นอกจากจะได้เป็นตัวเอกแล้ว ยังได้พลังทีี่พวกปิศาจในเรื่องล้วนต้องการกันด้วยอีก


    เราได้เห็นกันไปแล้วใช่มั้ยล่ะคะว่าปิศาจทุกตัวในเรื่องจะมีความสามารถที่สอดคล้องกับชื่อเรื่องของตัวเอง เหมือนเรเซ่ที่เป็นปิศาจระเบิด ก็จะมีความสามารถในการดึงสลักระเบิด ปิศาจอนาคตก็จะสามารถมองเห็นอนาคตได้ ปิศาจตุ๊กตาก็จะสามารถทำให้คนกลายเป็นตุ๊กตาและควบคุมจากระยะไกลได้ แล้วปีศาจเลื่อยยนต์ล่ะ?


    จริงอยู่ที่ปิศาจเลื่อยยนต์จะมีลักษณะภายนอกเป็นเลื่อยและสามารถใช้มันต่อสู้กับศัตรูเหมือนเลื่อยยนต์ได้โดยการดึงสายที่อก แต่อีกความสามารถหนึ่งที่สามารถลบตัวตนของปิศาจตนอื่นได้ล่ะมาจากไหน? เชนซอว์แมนเกี่ยวอะไรกับการลบตัวตนด้วย?


    บางทีเรื่องตัวตนของโปจิตะอาจจะมีอะไรให้ค้นหามากกว่านี้อีกเยอะค่ะ มังงะเชนซอว์แมนภาค 2 ที่จะออกตามมาเร็วๆ นี้ น่าจะมีข้อมูลหลายอย่างที่น่าสนใจ และพาเราดิ่งลึกไปค้นหาข้อมูลของเจ้าสุนัขเลื่อยยนต์ตัวนี้เพิ่มมากขึ้นก็ได้



    เดวิลฮีโร่ การรวมกันของฮีโร่และเดวิล!


    “เชนซอว์แมน ฮีโร่แห่งนรก เขาจะปรากฏตัวเมื่อได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อเชนซอว์แมนมาถึงเขาจะกำจัดปิศาจที่เป็นต้นเหตุของเสียงขอความช่วยเหลือนั้น ทว่า เขาก็จะฆ่าเจ้าของเสียงร้องขอความช่วยเหลือนั้นด้วย”


    Cr. Chainsaw man chapter 83

    ยังจำได้อยู่ใช่มั้ย ว่าปิศาจนั้นถือกำเนิดขึ้นมาจากความหวาดกลัวของมนุษย์ แต่ถ้าปิศาจตนนั้นถูกปิศาจเลื่อยยนต์กินเข้าไปก็จะถูกลบเลือนหายไปจากโลกนี้อย่างถาวร อย่างไรก็ตาม นอกจากวิธีการข้างต้นแล้ว ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่จะสามารถกำจัดปิศาจให้หายไปจากโลกนี้อีกค่ะ (แต่ยาก) นั่นคือการกำจัดที่ต้นตอ หรือก็คือความหวาดกลัวที่ทำให้ปิศาจตนนั้นถือกำเนิดขึ้นมาให้หายไป


    เชนซอว์แมนกับปิศาจเลื่อยยนต์เป็นตัวตนเดียวกันก็จริง ทว่าเมื่อเปลี่ยนการเรียกก็เปลี่ยนการรับรู้ตัวตนไปด้วย ปิศาจถูกผูกอยู่กับความกลัวและความชั่วร้าย ในขณะที่เชนซอว์แมนให้ความรู้สึกถึงความเป็นฮีโร่ เหมือนตัวละครในอเมริกันคอมมิค (ซุปเปอร์แมน, แบทแมน, กัปตันมาเวล บลาๆ) เมื่อชาวเมืองเห็นว่าปิศาจเลื่อยยนต์ต่อสู้เคียงข้างตน ความหวาดกลัวก็หายไปกลายเป็นความชื่นชมบูชา ยิ่งเมื่อการรับรู้ด้านนี้ของปิศาจเลื่อยยนต์ได้ถูกเผยแพร่ออกไปทางโทรทัศน์ ชื่อเสียงด้านดีที่คอนทราสกับความหวาดกลัว ย่อมทำให้ปิศาจเลื่อยยนต์อ่อนกำลังลง เพราะอย่างที่บอกไปตั้งแต่แรกแหละค่ะ ว่าขุมพลังของปิศาจนั้นจะอยู่ที่ความหวาดกลัว



    Cr. Chainsaw man chapter 93


    แต่คิดว่าตรงจุดนี้จะทำให้เด็นจิที่มีหัวใจของปิศาจเลื่อยยนต์เกิดความท้อใจขึ้นมามั้ย คำตอบคือไม่เลย! ตรงส่วนนี้เราว่าพื้นเพของตัวละครถูกออกแบบมาได้ดีมาก ตั้งแต่เด็กจนโต ชีวิตของเด็นจิไม่เคยได้รับการยอมรับจากใครเลย ตั้งแต่ที่ทำงานใช้หนี้ก็ล้วนแต่โดนดูถูก พอกลายมาเป็นปิศาจเลื่อยยนต์ก็มีแต่คนมองข้ามตัวตนและต้องการหัวใจของโปจิตะกันทั้งนั้น พอมีคนที่ชอบก็ถูกทรยศ พอจะมีเพื่อนและครอบครัวเป็นของตัวเองก็มาถูกพรากไปอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า พอเด็นจิรู้ว่าพวกชาวเมือง (หรืออาจจะทั้งญี่ปุ่น) สรรเสริญตัวเองเป็นฮีโร่ขนาดนั้น เขาก็ถึงกับหลั่งน้ำตากันเลยทีเดียว 


    เราได้รู้กันมาตั้งแต่เล่มแรกแล้ว ว่าเด็นจินั้นเป็นคนที่ไม่ค่อยจะเห็นคุณค่าในตัวเองซักเท่าไหร่ แค่มีชีวิตรอดให้อยู่ไปวันๆ ก็สุดๆ แล้ว แถมยังไม่ได้รับการศึกษาเล่าเรียนอย่างที่คนทั่วไปสมควรจะได้อีก เพราะฉะนั้นการรับรู้ของเราที่มีต่อตัวละครเด็นจิจึงค่อนข้างจะเป็น ‘ความซื่อ’ และ ‘ไม่รู้ประสา’ ค่ะ แม้แต่เป้าหมายในการใช้ชีวิตที่แสดงให้เราเห็นในตอนแรกยังเป็นอะไรที่แสนจะง่ายดาย “ขอแค่มีชีวิตอยู่ได้กินขนมปังทาแยมเป็นอาหารเช้าก็เพียงพอแล้ว” ชีวิตก็มีแค่นั้นจริงๆ เป็นความต้องการเดียวที่จะได้สัมผัสสิ่งที่ไม่เคยได้รับมาตลอดชีวิตแม้สำหรับพวกเรานั้นการได้ทานขนมปังทาแยมซักชิ้นนึงอย่าไปเรียกมันว่าเป็นเป้าหมายเลย โคตรจะเป็นเรื่องเบสิคมากๆ


    การสำรวจพัฒนาการของเด็นจิเองก็เป็นสิ่งที่เราชอบมากเหมือนกันเวลาอ่าน อาจารย์ฟูจิโมโตะได้แสดงพัฒนาการของเขาออกมาผ่านเป้าหมายในการใช้ชีวิตนี้ด้วยค่ะ จากตอนแรกที่ต้องการแค่ขนมปังทาแยม  พัฒนามาเป็นการอยู่เพื่อได้จับหน้าอกสาว มาเป็นการจูบ มาเป็นหมาของคุณมาคิมะ แล้วก็เพื่อมาเป็นฮีโร่ ‘เชนซอว์แมน’ ผู้ที่ได้รับการยอมรับและยกย่องจากบรรดาประชาชน จนสุดท้าย เราก็คงจะได้รู้อีก ว่าต่อไปเป้าหมายของเด็นจิจะเป็นอะไรต่อไป ประเด็นนี้เราคิดว่าน่าจะต่อยอดได้เยอะเลยค่ะ



    เมื่อมีความรู้ในหัวมากเกินไป สิ่งที่คิดออกมาได้ก็มีเพียงคำว่าฮัลโลวีน

    "ผู้ที่เข้าใจทุกอย่างทุกคน...จะคิดได้แต่เรื่องของฮัลโลวีนไปจนถึงวันตาย"

    Cr. Chainsaw man chapter 70


    ความสามารถพิเศษของมนุษย์ปิศาจอวกาศไม่ใช่การทำร้ายกันทางร่างกายแต่เป็นการทำลายกันทางด้านจิตใจ ตอนเห็นซีนนี้ครั้งแรกก็งงๆ เหมือนกันนะ เพราะจะว่าเป็นนามธรรมมั้ย...ใช่! มันนามธรรมมาก! แล้วก็ยิ่งทำให้สงสัยมากยิ่งขึ้นไปอีกว่า งั้นทำไมการรู้มากเกินไปถึงเป็นเรื่องที่น่ากลัวขนาดนั้นด้วยล่ะ ยิ่งรู้มากเหมือนมีห้องสมุดอยู่ในหัวก็น่าจะยิ่งเป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่เหรอ?


    (ใครคิดว่าฉากนี้มี reference มาจากหนังหรือหนังสือเรื่องไหนก็เอามาแชร์กันได้นะ)


    สำหรับความคิดเรา ความน่ากลัวของมันน่าจะยึดโยงอยู่กับชื่อเจ้าปิศาจตนนี้นั่นแหละค่ะ “มนุษย์ปิศาจอวกาศ” (ชื่ออังกฤษ cosmos devil ชื่อญี่ปุ่น 宇宙の魔人) เป็นที่รู้กันค่ะ ว่าอวกาศหรือจักรวาลนั้นกว้างใหญ่เพียงใด แต่จะใช้คำว่าเพียงใดก็ไม่ถูก ต้องเรียกว่าไม่มีจุดสิ้นสุดเลยต่างหาก เพราะฉะนั้น นี่จึงเป็นสาเหตุที่ความสามารถของมนุษย์ปิศาจตนนี้เป็นแบบนี้ การทำให้เป้าหมายจมไปกับความรู้ทุกสรรพสิ่งบนโลกก็เหมือนกับการทำให้เขาเหล่านั้นจมดิ่งไปกับจักรวาลที่มีระยะเป็นอนันต์ นอกจากนั้นแล้ว  จักรวาลนั้นยังขยายตัวเองอยู่ตลอดอีกด้วยค่ะ ก็เปรียบเหมือนความรู้ที่งอกเงยออกมาได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

     

    เพราะฉะนั้น ถ้าถามว่าการที่คนๆ หนึ่งจะรอบรู้ไปหมดทุกเรื่องมันจะเป็นไปได้มั้ย? คำตอบคือเป็นไปไม่ได้ค่ะ! แต่พลังของมนุษย์ปิศาจอวกาศคือทำให้ความเป็นไปไม่ได้นี้เป็นจริงขึ้นมา โดยใส่ความรู้ทั้งหมดลงไปในหัวของคนๆ เดียว ซึ่งในเรื่องนี้แสดงภาพแทนออกมาผ่านห้องสมุด เมื่อเราอัดความรู้ที่เป็นอนันต์ลงไปในสมองของเราที่มีขีดจำกัดดูสิคะ บูม! ทุกอย่างจะทะลักออกมา นั่นจะทำให้เขากลายเป็นคนที่ไม่รู้อะไรเลยค่ะ หรืออีกนัยหนึ่ง อาจจะหมายถึงความรู้มีมากเกินไปในหัวจนสื่อสารออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เลย ก็ได้เหมือนกัน แล้วความรู้นั้นก็ดาเมจสมองเราจนล่องลอยแบบในเรื่อง

     

    แล้วคำว่‘ฮัลโลวีน’ มีความสำคัญอย่างไรล่ะ สำหรับเรา...เรื่องนี้มันโซแรนด้อมมากค่ะ (ฮ่าๆๆ) อาจจะเพราะทำให้เข้าปากกับคาร์แรคเตอร์ หรืออาจจะเพราะมีความหมายแฝงอย่างอื่นก็ได้ 


    ......................................

    ..............................

    ......................

    .............


    เอาล่ะค่ะ แค่นี้ก็ยาวพอสมควรแล้ว ทั้งหมดนี้เป็นมุมมองของเราหลังจากอ่านมังงะเรื่องนี้ค่ะ มีหลายครั้งมากที่เราอ่านถึงฉากๆ หนึ่ง แล้วก็คิดว่า หื้มมม...จะเอาอย่างนี้เลยเหรอ! เรียกว่าดำเนินเรื่องได้ไม่มีเบื่อเลย อีกทั้งหลายอย่างก็เหมือนจะแรนด้อมมากแต่ความจริงแล้วมันมีเบื้องลึกเบื้องหลังอยู่เยอะเลยนะ (ฮา) ใครที่ชอบเสพศิลปะ ทั้งในด้านเนื้อเรื่องและองค์ประกอบภาพ น่าจะอ่านเรื่องนี้ได้สนุกเชียวล่ะค่ะ ครั้งนี้พอแค่นี้ก่อน ถ้าเจออะไรน่าสนใจอีกจะเอามาเล่าในครั้งถัดๆ ไป ติดตาม Chainsaw man และอนิเมะ/มังงะเรื่องอื่นๆ ที่กำลังจะเขียนต่อไปด้วยนะ!



    ปิดท้ายไปด้วยตัวอย่างแอนิเมชันที่จะออกฉายเร็วๆ นี้ค่ะ แล้วก็อย่าลืมติดตามภาค 2 (part 2) ที่กำลังจะเริ่มกลับมาลงตอนแรกใน Jump Plus วันที่ 13 กรกฎาคมนี้ด้วยนะ!



    ป.ล. ไม่ได้พูดถึงอาคิเลย...แต่เราเมนอาคินะคะ!

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in