เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
แดดเผาที่มัลดีฟส์Ekk
ค่ำนี้นอนไหน
  • เมื่อถึงเวลาวางแผนเตรียมตัวสำหรับการเดินทางไปเที่ยวต่างบ้านต่างเมืองนัั้น ขั้นตอนที่ทำหลังจากที่จองตั๋วเครื่องบินแล้วก็คือการเลือกโรงแรม รีสอร์ท หรือห้องพัก ด้วยการหาห้องว่างจากแอพพลิเคชั่นที่มีให้เลือกใช้มากมายแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลและถูกจริตกับผู้ใช้งานอย่างเรา

    โลกภายหลังการกำเนิดของอินเตอร์เน็ต และ สตีฟ จ็อบ ได้กลายเป็นโลกที่มีความง่ายดายสำหรับคนธรรมดาอย่างเรา เพราะทุกอย่างอยู่แค่ปลายนิ้วของเราเท่านั้น
    เป็นยุคที่นิ้วชี้ของเราเป็นนิ้วแห่งอำนาจจริงๆ สามารถสั่งทุกอย่างได้ตามความต้องการของเราได้ตลอดเวลา อยากซื้ออะไร อยากกินอะไร ก็ง่ายดายเพียงใช้นิ้วเลื่อนๆจิ้มๆ เท่านั้น

    ที่่ผ่านมาการเดินทางท่องเที่ยวของผมจะไม่ค่อยเน้นความหรูหราของที่พักมากมายนัก ขอแค่อยู่ไม่ไกลจากระบบขนส่งสาธารณะในวิสัยที่จะเดินได้สบายๆ เพราะการท่องเที่ยวตามที่ต่างๆของผมจะเน้นการเดินทางไปดูตึกรามบ้านช่อง สัมผัสวิถีชีวิต วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของคนท้องถิ่น  ได้ชิมอาหารท้องถิ่น ทำให้โรงแรมสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวมีหน้าที่เพียงที่อาบน้ำชำระล้างร่างกาย และซุกหัวนอน พักผ่อนเอาแรงก่อนที่จะเริ่มการเดินทางในวันใหม่

    ถึงแม้ส่วนตัวจะไม่ค่อยเรื่องมากกับการเลือกที่พักมากนัก แต่ก่อนตัดสินใจจองที่พักนั้นก็มักจะต้องเข้าไปหาอ่านรีวิวของคนที่เคยไปพักมาก่อน ซึ่งความเห็นที่ได้เจอก็มักจะมีหลากหลายมากๆ เนื่องจากความต้องการ ความคาดหวัง ของแต่ละคนล้วนแตกต่างกััน 
    โลกความเป็นจริงคงไม่มีอะไรเลิศเลอเพอร์เฟคจนไม่มีที่ติ และก็คงไม่มีอะไรที่แย่แบบไม่มีดี อยู่ที่บรรทัดฐานที่เราตั้งไว้จากตัวการร้ายตัวหนึ่ง คือ ความคาดหวัง


  • เจ้าความคาดหวังนี่เองเป็นตัวการร้ายในใจของเราที่ทำให้มี สมหวัง และ ผิดหวัง ซึ่งเป็นบ่อเกิดของความสุขและความทุกข์นั่นเอง

    การออกเดินทางท่องเที่ยวทำให้เราเรียนรู้ที่จะไม่ยึดติดกับความคาดหวังและเปิดใจให้ล่องลอยไปกับความสุขกับปัจจุบันของสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า
    เพราะการที่เราต้องเดินทางไปใช้ชีวิตในสถานที่ใหม่ๆ สิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ผู้คนใหม่ๆ วัฒนธรรมใหม่ๆ พร้อมกับช่วงเวลาที่ออกท่องเที่ยวนั้นเป็นช่วงเวลาที่จิตใจของเราถูกปลดปล่อยจากพันธนาการของชีวิตประจำวันที่ซ้ำไปซ้ำมา เราจึงเหมือนอยู่ในภวังค์
    การเดินหลงทาง นั่งรถหลงทาง ในเวลาท่องเที่ยวจึงไม่ได้ทำให้เราหงุดหงิดเหมือนในช่วงเวลาของชีวิตปกติ แถมบางครั้งเราอาจมีความรู้สึกดีที่ได้หลงทาง เพราะเราได้เจออะไรที่แปลกใหม่ไม่เหมือนที่เราเห็นมาก่อนจากที่ทำการบ้านด้วยการดูรีวิวก่อนเดินทาง



  • การไปเที่ยวมัลดีฟส์อาจแตกต่างจากการเดินทางท่องเที่ยวที่อื่นตรงที่มัลดีฟส์เป็นประเทศที่ประกอบขึ้นด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่กระจัดกระจายอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย แต่ละรีสอร์ทที่สร้างขึ้นจะได้สัมปทานให้เหมาสร้างรีสอร์ททั้งเกาะไปเลย การมองหาที่พักสำหรับการท่องเที่ยวมัลดีฟส์จึงไม่ต้องมองหาที่พักใกล้ระบบขนส่งสาธารณะ ใกล้แหล่งกิน แหล่งช็อปปิ้งใดๆ
    ปัจจัยในการเลือกที่พักสำหรับการท่องเที่ยวมัลดีฟส์จึงเปลี่ยนไปจากการเลือกที่พักสำหรับการท่องเที่ยวตามปกติ


    ราคา ถือเป็นปัจจัยหลักอย่างหนึ่งที่ใช้พิจารณาเลือกที่พัก เพราะรีสอร์ทในมัลดีฟส์มีสนนราคาตั้งแต่คืนละไม่กี่พันจนถึงคืนละหลายหมื่นบาท ตามความสะดวกทางกระเป๋าตังค์ของแต่ละท่านเลยครับ

    สำหรับการไปมัลดีฟส์ครั้งนี้ใช้เวลาเลือกรีสอร์ทด้วยการอ่านรีวิว ดูคลิปรีวิว นานกว่าการเลือกโรงแรมสำหรับการท่องเที่ยวที่ผ่านมาพอสมควร เพราะเราต้องไปใช้ชิวิตติดเกาะอยู่ที่นั่น 4 วัน 3 คืน จึงอยากจะได้ที่พักที่สร้างความประทับใจให้ครั้งแรกและอาจเป็นครั้งเดียวสำหรับการไปมัลดีฟส์ของเรา เป็นความคาดหวังเล็กๆของเราต่อการไปมัลดีฟส์ครั้งนี้

  • ผลที่สุดเราจึงตัดสินใจเลือก Safari island resort ด้วยเหตุผลที่ราคาไม่แรงจนมีผลต่อสุขภาพของกระเป๋าตังค์ และในราคาที่จ่ายไปนี้ก็รวมอาหารการกินและเครื่องดื่มทุกอย่าง ทุกมื้อ ไว้หมดแล้วแบบที่เรียกว่า All inclusive package ทำให้ระหว่างที่เราพักอยู่ที่นั่นก็แทบไม่ได้ใช้เงินอีกเลย
    และอีกจุดหนึ่งที่เป็นข้อดีของรีสอร์ทนี้คือการได้นั่งเครื่องบินทะเล หรือ Sea plane ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่ง Signature ของการมาเที่ยวมัลดีฟส์ที่หลายๆคนใช้เป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจเลือกรีสอร์ทกันเลย
    อีกประเด็นหนึ่งที่ตอนเลือกจองรีสอร์ทอาจจะนึกถึงเป็นประเด็นท้ายๆ แต่เมื่อได้ไปเที่ยวจริงแล้ว ผมถือว่าประเด็นนี้คือประเด็นสำคัญในการพักรีสอร์ทที่มัลดีฟส์เลย นั่นคือ แนวปะการัง รอบรีสอร์ทที่พัก ที่เราสามารถแหวกว่ายน้ำชื่นชมความงามของสัตว์น้ำได้ 
    โชคดีที่ Safari island resort ที่เราไปใช้เวลาอยู่ 4 วันนั้น มีทุกอย่างครบถ้วนตามความต้องการ และยังตั้งอยู่บนแนวปะการังที่มีปลาหลากหลายแหวกว่ายมาให้เราได้ชมอย่างใกล้ชิด 

    พระเอกของที่นี่น่าจะเป็นฝูงฉลามตัวน้อยน่ารักน่าชังชื่อว่า Black tip reef shark ที่แหวกว่ายอยู่ทั่วรีสอร์ท ด้วยความที่หน้าตาเหมือนฉลามกินคนในหนังฝรั่งที่เคยดูมาหลายๆ เรื่อง พอมาเจอหน้ากันครั้งแรกก็สร้างความหวั่นๆให้เราอยู่บ้าง แต่พอเจอหน้ากันทุกๆครั้งที่ลงไปดำน้ำเล่นหลังห้องก็เริ่มคุ้นเคยเหมือนเป็นเพื่อนว่ายน้ำเล่นในที่สุด




  • การได้มาเที่ยวมัลดีฟส์นี้ถือเป็นทริปการท่องเที่ยวที่ทำให้เราได้กลับไปอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ให้ธรรมชาติได้โอบกอดเราไว้ และทำให้มนุษย์อย่างเราได้รู้ว่าเราเป็นเพียงจุดเล็กๆในธรรมชาติที่กว้างใหญ่ไพศาล หากเราทำดีกับธรรมชาติ ธรรมชาติก็จะโอบกอดเราไว้และให้รางวัลเป็นความสวยงามของธรรมชาติที่เปิดให้เราได้สัมผัส

    ออกไปเที่ยวสัมผัสกับโลกกว้างและธรรมชาติที่สวยงามกันเถอะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in