เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
BAKUMATSU TENRODENKANA 花菜
#1 เล่าเรื่อง Bakumatsu Tenrouden | Part 1 วันก่อตั้งชินเซ็นกุมิ
  • Musical Touken Ranbu 
    ~Bakumatsu Tenrouden~

    Part 1 : วันก่อตั้งชินเซ็นกุมิ



    SPOILED ALERT: 

    บทความนี้มีเนื้อหาสปอยมิวสิเคิลเต็มๆ จุดประสงค์เพื่อให้คนที่ไม่ทราบภาษาญี่ปุ่นหรือเกร็ดประวัติศาสตร์ในเรื่องได้ทำความเข้าใจมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นจะไม่มีการลงรูปที่แคปจากในดีวีดีมาลงนะคะ


    Q: หาชมได้ที่ไหน?
    A: เช่าได้จากเว็บDMM.com (จำเป็นต้องต่อvpn)วิธีการเข้าถึงไฟล์และการชำระเงินดูได้ที่นี่


    เกริ่นก่อนเริ่ม

              สำหรับใครที่สงสัยว่าชินเซ็นกุมิคือใครนั้น เราได้เคยเล่าไว้บ้างแล้วในเรื่องของ วัดอิมาโดะสถานที่สุดท้ายของโอคิตะโซจิ  แต่ได้อธิบายไว้แค่จุดยืนของพวกเขาก็เท่านั้น ในมิวสิเคิลนี้อาจจะได้อธิบายภาพรวมตั้งแต่เกิดจนเกือบถึงยุคล่มสลายของรัฐบาลทหารญี่ปุ่นสมัยนั้นเลยค่า 

              ชื่อมิวสิเคิลนี้อ่านว่า บาคุมัตสึ เท็นโรเด็น แต่เราชอบความหมายมิวนี้เลยขอแยกคำอธิบายก่อนจะแปลชื่อเต็มๆนะคะ 

    Bakumatsu

              ชื่อยุคย่อยๆยุคหนึ่งในยุคเอโดะ เป็นยุคสั้นๆในช่วงปี 1853-1867 ซึ่งชื่อยุคมีความหมายว่าจุดจบของบาคุฟุ(รัฐบาลทหารของโชกุนโตกุกาวะ) ซึ่งเป็นจุดจบของยุคสมัยแห่งซามุไรด้วยเช่นกันค่ะ

    Tenrousei

              天狼星 เทนโรเป็นชื่อภาษาจีนของดาว Sirius ค่ะ(แต่ไม่แน่ใจว่าคำอ่านภาษาจีนว่ายังไงนะคะ^^")  อัพเดทเพิ่ม ภาษาจีนอ่านว่า เทียนหลังซิง (Tian Lang Xing ) แปลตามว่า 天ฟ้า 狼หมาป่า 星ดวงดาว-- ขอบคุณคุณหยกNarataมากค่าา | อย่างว่าซิริอุสเป็นดาวที่ถือว่าสว่างที่สุดดวงหนึ่ง แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นดวงดาวสุกสกาวแค่ไหนสักวันก็ต้องดับแสงไปอยู่ดี เหมือนอย่างซิริอุสมี 2ดวงคือ A กับ B ตอนนี้Bได้ลดระดับไปเป็นดาวแคระขาว(ดาวแคระเสื่อม)แต่ก็ยังส่องสว่างได้นิดหน่อยอยู่นะคะ ลองดูในรูปนี้ประกอบได้ 

    ส่วนเด็น(伝)แปลว่าเรื่องเล่าหรือตำนานเฉยๆค่ะ

              ถ้าจะแปลความหมายก็คงจะเป็น ตำนานซิริอุสแห่งบาคุมัตสึ ซึ่งมันคงจะแปลแล้วแปลกมากๆ555 ถ้าให้ตีความก็คงประมาณ ตำนานเหล่าดวงดาราผู้ทอแสงแห่งบาคุมัตสึ ค่ะ… (ยาวเหลือเกิน)

    รอบนี้อาจจะละเอียดกว่ามิโฮโทเสะหน่อยนะคะ..

    ………………………………………………………………………………………………………………………………………

              เปิดโรงละครมาด้วยฉากเหตุการณ์ที่อิเคดะยะ ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานสำคัญของชินเซ็นกุมิ ที่ขัดขวางกลุ่มต่อต้านรัฐบาลบาคุฟุที่ตั้งใจจะเผาเกียวโตเอาไว้ได้ แต่ก็เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้โอคิตะโซจิ นัดสบอัจฉริยะของชินเซ็นกุมิซึ่งป่วยเป็นวัณโรค มีอาการแย่ลงไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้น โอคิตะ โซจิ, คอนโด อิซามิ และ ฮิจิกาตะ โทชิโซ เองก็ฝ่าฟันศัตรูไปจนกำราบกลุ่มต่อต้านได้ คอนโดซังกล่าวว่า นี่แหล่ะคือการต่อสู้ของชินเซ็นกุมิ

              ตัดภาพมาที่ฮงมารุ คะชูคิโยมิตสึ และ ยามาโตะโนะคามิยาสึซาดะ  ได้จับคู่ซ้อมดาบกันตามที่ซานิวะส่งมา คิโยมิตสึบ่นว่าแบบนี้ก่็เหมือนซ้อมกับกระจกน่ะสิ ทั้งคู่มีเจ้านายคนเดียวกันคือ โอคิตะ โซจิ หน่วยหน้าหน่วย1แห่งชินเซ็นกุมินั่นเอง 

              นากาโซเนะโคเท็ตสึ ได้ผ่านเข้ามาเพราะต้องใช้ห้องซ้อมต่อ แต่คิโยมิตสึกับยาสึซาดะกลับงอแงว่าอยากซ้อมดาบกับนากาโซเนะซัง เลยสัญญาว่าครั้งหน้านะ ทั้งสองจึงยอมรามือและไปทำเวรเลี้ยงมาต่อแต่โดยดี (คิโยมิตสึบอกว่า แข่งเลี้ยงมากัน…)

              คู่ซ้อมของนากาโซเนะไม่ใช่ใคร แต่คือ ฮาจิสึกะโคเท็ตสึ  น้องชายที่ภูมิในในความเป็นโคเท็ตสึของแท้ เดินทำหน้าไม่อยากญาติดีด้วยสักเท่าไหร่เข้ามาในโรงฝึกแต่เป็นคำสั่งของซานิวะจึงทำได้แค่รีบๆซ้อมให้เสร็จพร้อมจากไปกับคำว่า "ไม่สบอารมณ์เลย"

              อิซึมิโนะคามิคาเนะซาดะ ได้เดินเข้ามาราวกับเห็นว่าบรรยากาศไม่ค่อยดีและชวนนากาโซเนะประมือด้วยสักตา แต่ดันโดนจับได้ว่ามีเวรทำนาไม่ใช่เหรอ โป๊ะแตกเข้าไปใหญ่เมื่อ โฮริคาวะคุนิฮิโระ วิ่งมาตามตัวกลับไปทำเวรต่อ แต่อิซึมิโนะคามิกลับทำหน้าเคร่งเครียด กับเรื่องโคเท็ตสึทั้ง2ที่ไม่ถูกกันสักเท่าไหร่ แต่ก็เป็นการทะเลาะกันของพี่น้องคงยุ่งด้วยไม่ได้ แม้ว่าฝ่ายหนึ่งคือ โคเท็ตสึจำลอง อีกฝ่ายคือโคเท็ตสึแท้ แต่ไม่ทันได้กลับไปทำเวรที่สวนต่อก็มีเสียงเรียกรวมพลของซานิวะดังขึ้นมา

              คิโยมิตสึถูกเรียกให้ไปคุยเรื่องที่จะเปลี่ยนแม่ทัพของทัพหลัก คิโยมิตสึถึงกับกังวลว่าตัวเองทำอะไรผิดทำไมถึงโดนปลด แต่ซานิวะบอกว่าเปลี่ยนเพราะเรื่องของสมรภูมิรบ แต่คิโยมิตสึก็ยังอยู่ในทัพหนึ่งอยู่ดี  คนที่จะมาเป็นแทนก็คือฮาจิสึกะโคเท็ตสึนั่นเอง ซึ่งคิโยมิตสึก็ไม่ขัดข้องใดๆ

              ฮาจิสึกะเมื่อถูกเรียกมารับหน้าที่ คิโยมิตสึแสดงความยินดีที่ได้รับตำแหน่ง แต่ฮาจิสึกะอดสงสัยไม่ได้ว่าเพราะอะไร ซานิวะได้เพียงกล่าวว่า ถึงเวลาที่เขาต้องเป็นแม่ทัพแล้วก็เท่านั้น ซานิวะประกาศสมาชิกในทีมครั้งนี้มี คิโยมิตสึ ยาสึซาดะ อิซึมิโนะคามิ โฮริคาวะ และ นากาโซเนะ โดยมีเป้าหมายจัดการศัตรูที่หมายตาเหล่าชินเซ็นกุมิ ยาสึซาดะเริ่มหวั่นไหวขึ้นมาไม่น้อยที่จะได้เจอกับนายเก่าของตน ฮาจิสึกะข้องใจ ทั้งที่มีคนอื่นที่เหมาะกับการออกรบในยุคบาคุมัตสึมากกว่าตนแท้ๆ แล้วทำไมต้องมาร่วมทัพกับของเลียนแบบอย่างนากาโซเนะด้วย (ในบทนี้ซานิวะบอก นั่นสิน้า..) นากาโซเนะจึงเสริมให้ว่า อารุจิ(นายท่าน)เองก็มีการตัดสินใจของท่านเอง ทำให้ฮาจิสึกะยิ่งไม่พอใจเป็นอย่างมาก

              ทั้ง6ถูกส่งไปยังบุชูทามะ(武州,多摩郡 อดีตคือมุซาชิโนะคุนิ ปัจจุบันคือส่วนคาบเกี่ยวของจังหวัดคานากาะวะ/ไซตามะ/โตเกียว)คิโยมิตสึตกใจที่ไม่ใช่เกียวโตหรอกเหรอ ที่นี่เขาและยาสึซาดะเพิ่งเคยมาครั้งแรก เพราะเป็นบ้านเกิดของ คอนโด อิซามิ และ ฮิจิกาตะ โทชิโซ นั่นเอง ดังนั้นช่วงเวลาที่ถูกส่งมา คือก่อนการก่อตั้งกลุ่มชินเซ็นกุมิเสียอีก ระหว่างที่กำลังคุยกัน ยาสึซาะก็เห็นคนเดินผ่านมา นั่นคือเจ้านายเก่าของพวกเขา คอนโด, ฮิจิกาตะ และ โอคิตะ นั่นเอง

              ระหว่างทั้งสามคนเดินผ่านมา โอคิตะก็พยายามบอกให้ฮิจิกาตะซังเลิกขายยาของอิชิดะซังซะที แต่ก็เถียงกันไปมา หาว่ากินยาให้หายปากเสียบ้าง สุดท้ายที่ฮิจิกาตะซังยังทำงานรับส่งยาก็เพราะอยากแบ่งเบาคอนโดซังบ้างเท่านั้น  คอนโดซังเห็นแล้วก็รู้สึกสองคนนี้สนิทแล้วก็ร่าเริงกันดี 

              เมื่อทั้งสามจากไป พวกโทเค็นดันชิก็เจอกับผู้เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์เข้าทันที ทั้ง6คนปราบเรียบร้อยดีแต่ดันเกิดปัญหาเมื่อนากาโซเนะพยายามช่วยฮาจิสึกะในระหว่างการสู้ แต่ดันทำให้ฮาจิสึกะหงุดหงิดกว่าเดิมและพูดจาไม่ดีใส่นากาโซเนะ อิซึมิโนะคามิโมโหที่ว่าทำแบบนี้กับพี่ได้ไง และบอกว่า ไม่เคยคิดว่าคนแบบนี้เป็นพี่ของตนแม้แต่ครั้งเดียว

              เมื่อทุกคนทยอยกลับ ยาสึซาดะกลับถามคิโยมิตสึว่า ถ้าพวกเราได้เข้าร่วมชินเซ็นกุมิ จะเป็นยังไงกันนะ คิโยมิตสึบอกว่า เรื่องแบบนั้นเป็นไม่ได้ไม่ใช่รึไง แล้วชวนยาสึซาดะกลับ แต่ยาสึซาะขออยู่ต่ออีกนิดเดียว คิโยมิตสึจึงยอมปล่อยไป จนบังเอิญเห็นนายเก่าทั้งสามคนอีกครั้ง กำลังยินดีกับประกาศการรวมตัวคนสำหรับก่อตั้งกองกำลังสนับสนุนรัฐบาลบาคุฟุ โดยไม่มีเงื่อนไขเรื่องตระกูลว่าต้องเป็นซามูไรมาก่อน ฮิจิกาตะซังจึงดีใจมาก ที่พวกเขาจะได้เป็นซามุไร (การเป็นซามุไรในสมัยนั้นเหมือนได้เลื่อนฐานะทางสังคมเลยทีเดียว ซึ่งเดิมทีจะสืบทอดกันในตระกูลเสียมากกว่า เคยอ่านเจอว่าโอคิตะอยู่ในบ้านที่เป็นตระกูลซามุไรอยู่แล้วค่ะ เลยจะเฉยๆกับจุดนี้) แต่ โอคิตะบอกถ้าปล่อยให้ทั้งสองคนไปคงห่วงแย่ ถ้าทั้งสองคนดีใจ ผมก็ดีใจด้วย ยาสึซาดะที่มองอยู่ห่างๆ แม้จะอยากเข้าใกล้อีกนิด แต่ก็ต้องฝืนใจตัวเองรีบกลับฮงมารุ แต่กลับปรากฎเงาของปิศาจแมวดำขึ้นมาและติดตามโอคิตะโซจิไป...

    ………………………………………………………………………………………………………………………………………

              ที่จริงเพลงของยาสึซาดะตอนขออยู่ต่ออีกหน่อยเศร้ามากค่ะ เนื้อหาประมาณว่า อยากอยู่ใกล้อีกหน่อย  อยากมองเห็นทิวทัศน์เดียวกัน อยากสัมผัสสายลมเดียวกัน แต่ก็ทำได้แค่ยื่นมือออกไป..(อ้าวนี่มันชีวิตเรากับผู้2.5D)

              ที่จริงแล้ววันนี้คือวันก่อตั้งชินเซ็นกุมิรุ่นแรกล่ะค่ะ (เรียกให้ถูกคือ กลุ่มโรชิกุมิ/浪士組) วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 1862 เรียกกันว่า วันชินเซ็นกุมิ ก็เลยยังไงก็อยากอัพพาร์แรกให้ได้ภายในวันนี้ค่ะ ฮา  พูดถึงทิ้งท้ายซะหน่อย สมาชิกชินเซ็นกุมิรุ่นแรก ขออ้างอิงจากทวิตของเรื่องพีซเมคเกอร์จะได้ตามนี้ค่ะ บางคนนี่ยังอายุน้อยๆกันอยู่เลยนะ..
     
    คอนโด อิซามิ (28)
    ฮิจิกาตะ โทชิโซ (27)
    ยามานามิ เคย์สึเกะ (29)
    โอคิตะ โซจิ (18)
    นางาคุระ ชิมปาจิ (23)
    ฮาราดะ ซาโนะสึเกะ (22)
    โทโด เฮย์สึเกะ (18)

              ถึงชินเซ็นกุมิจะถือว่าเป็นกลุ่มต่อต้านหัวสมัยใม่ในยุคนั้น แต่บางคนถือเป็นสัญลักษณ์ของความภักดีของซามุไรในช่วงสุดท้ายของยุคที่ยังใช้ดาบคาตานะอยู่เช่นกันค่ะ มิวสิเคิลนี้เองก็จะมีพูดถึงเรื่องนี้แน่ๆในพาร์ทหลังๆนะคะ

    วันนี้ใน 157 ปีที่แล้ว ทั้ง7คนอาจจะกำลังฉลองให้กับยุคใหม่ของตัวเองอยู่ก็ได้เนอะ

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in