เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ทุกข์ตรมของคนเคยตัวสูงAkkani Wassachol
รสชาติของความเตี้ย
  • ขออนุญาตทบทวนภาพรวมในตอนที่แล้วเล็กน้อย

    หากนับจากตอนปลาย ป.2 เทอมสอง ถึงปลาย ป.3 เทอมสอง ผมจะตัวสูงขึ้นจาก 132.5 ซม. เป็น 142 ซม. หรือสูงขึ้น 9.5 ซม. (เกือบ 10 ซม.) ในเวลา 12 เดือน (หนึ่งปีเต็ม)

    นั่นถือเป็นอัตราการเจริญเติบโตที่ก้าวกระโดดมากสำหรับเด็กวัย 8-9 ขวบ และดูดีกว่าเพื่อนคนอื่นๆ อย่างชัดเจน

    กระทั่งผมพุ่งขึ้นไปเป็นนักเรียนตัวสูงที่สุดของรุ่นร่วมกับเพื่อนผู้หญิงชื่อโย ทั้งๆ ที่ในช่วง ป.1 ถึงต้น ป.3 เทอมสอง โยเคยตัวสูงนำหน้าผมมาโดยตลอด

    ก่อนจบชั้น ป.3 ผมจึงฝันหวานไปไกลว่า ถ้าตอน ป.4 ตนเองยังสูงขึ้นเกือบ 10 ซม. ต่อปีแบบนี้อีก ผมคงตัวสูงแซงโยได้สำเร็จ และกลายเป็นคนตัวสูงที่สุดในรุ่นเพียงหนึ่งเดียวอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

    แต่ความฝันนั้นกลับไม่เคยเกิดขึ้นจริง!

    ---

    ช่วงปิดเทอมใหญ่ก่อนขึ้น ป.4 ผมยังว่ายน้ำ-ดื่มนมอย่างสม่ำเสมอ (โดยมีแวะไปเที่ยวต่างประเทศกับครอบครัวเกือบสองสัปดาห์ตอนกลางเดือนเมษายน)

    นอกจากนั้น ผมยังบ้าเตะฟุตบอล ซึ่งถือเป็นกีฬาชนิดใหม่ที่ผมเริ่มเล่นอย่างจริงจัง

    แม้ในช่วง 2-3 เดือนดังกล่าว ผมจะไม่ได้รู้สึกว่าตนเองตัวสูงใหญ่ขึ้นเยอะเหมือนตอนปิดเทอมใหญ่ก่อนขึ้น ป.3

    แต่ผมยังเชื่อมั่นว่า อย่างน้อยๆ ตัวเองคงสูงขึ้น 2-3 ซม. แหละน่า

    แล้วในสัปดาห์แรกของการเรียนชั้น ป.4 ผมก็ได้พบความจริงที่แตกต่างออกไป

    กลางเดือนพฤษภาคม ปีการศึกษานั้น ครูพละวัดส่วนสูงให้ผมได้ 143 ซม. สูงขึ้นจากเมื่อสามเดือนก่อน หรือตอนปลาย ป.3 เทอมสอง แค่ 1 ซม.

    พัฒนาการจิ๊บจ๊อยแค่นั้นส่งผลเสียหายแก่ผมอย่างใหญ่หลวง!

    ---

    ตอน ป.4 ทางโรงเรียนประถมของผมได้จัดแบ่งห้องเรียนใหม่อีกรอบ ปีนั้น ผมไม่ได้เรียนหนังสือห้องเดียวกับสามเด็กหญิงร่างโย่งอย่างโย แป้ง แอน แม้กระทั่งพิมพ์ที่เรียนห้องเดียวกับผมมาตลอด ก็ถูกโยกไปห้องอื่น

    ก่อนวันเปิดเทอม เมื่อดูจากรายชื่อเพื่อนร่วมห้องแล้ว ผมคาดการณ์ว่าตนเองคงเป็นนักเรียนที่ตัวสูงที่สุดในห้องได้แบบไร้ปัญหา

    แต่พอเปิดเทอมแรกมาพร้อมด้วยส่วนสูง 143 ซม. ตำแหน่งนักเรียนที่สูงที่สุดในห้องกลับถูกแย่งชิงจากผมไปอย่างพลิกล็อก 

    คนตัวสูงที่สุดในห้องกลับกลายเป็นเพื่อนผู้หญิงชื่อ "ปอ" 

    ผมไม่เคยเรียนหนังสือห้องเดียวกับปอมาก่อน แม้ก่อนหน้านั้น เธอจะถือเป็นเด็กรูปร่างค่อนข้างสูงของรุ่น แต่เธอก็ไม่ได้สูงเด่นเท่าโย แป้ง แอน และอย่างน้อยที่สุด ช่วง ป.3 ปอก็เคยตัวเล็กกว่าผม

    (ผมจำได้ว่า ปลาย ป.3 เทอมสอง มีกิจกรรมที่นักเรียนหญิงชายรุ่นเราทั้งหมดต้องเข้าแถวตอนเดี่ยวร่วมกัน โดยบรรดาคนตัวสูงจะต้องไปยืนด้านหลังสุด คราวนั้น ผมยกให้โยยืนปิดท้ายแถว แม้เราจะสูง 142 ซม. เท่ากัน ส่วนผมถอยมายืนเป็นอันดับสองจากด้านท้าย ที่ยืนข้างหน้าผมคือแป้ง ถัดจากแป้งก็เป็นแอน ถัดจากแอนคือเพื่อนผู้หญิงชื่อ "หมวย" แล้วปอจึงยืนด้านหน้าหมวยอีกที)

    อย่างไรก็ตาม พอเริ่มเรียน ป.4 ปอกลับมีส่วนสูง 144 ซม. นำหน้าผมอยู่ 1 ซม.

    ปอจะตัวสูงกว่าผมไปเรื่อยๆ จนถึงปลายเทอมสอง ซึ่งเธอมีส่วนสูง 148 ซม. เฉือนเอาชนะผมที่สูง 147.5 ซม. อย่างเฉียดฉิว

    ถึงจะเป็นแค่เบอร์สองของห้อง แต่ยังพอมีเรื่องที่ทำให้ผมรู้สึกดีอยู่บ้าง คือ ทั้งเพื่อนและครูมักมองว่าผมมีรูปร่างโตกว่าปอ

    เนื่องจากแม้ปอจะสูงกว่าผมนิดหน่อย แต่เธอเป็นเด็กผู้หญิงตัวผอมมาก มีบ่าแคบเล็ก แถมยังเดินหลังค่อม เมื่อพิจารณาเผินๆ ผมจึงคล้ายจะสูงใหญ่กว่าเธอซะอย่างนั้น 

    ---

    แม้โย แป้ง และแอน จะแยกย้ายกระจัดกระจายไปตามห้องเรียนต่างๆ สมัย ป.4 (ผมอยู่ 4/1 แป้งอยู่ 4/2 โยอยู่ 4/3 แอนอยู่ 4/4)

    แต่ก็ยังมีช่องทางที่ทำให้ผมสามารถเทียบเคียงความสูงกับพวกเธอได้อยู่

    โดยเฉพาะแป้ง ซึ่งตอน ป.4 เทอมแรก ห้อง 4/1 ของผม กับห้อง 4/2 ของเธอ ต้องเรียนวิชาพลศึกษาร่วมกัน (หมายความว่าเราจะได้วัดส่วนสูงพร้อมกันในเดือนพฤษภาคมและสิงหาคม)

    ถ้าจำกันได้ ตอนก่อนจบ ป.3 ผมจะสูง 142 ซม. ขณะที่แป้งสูง 141 ซม. แต่พอมาวัดส่วนสูงกันตอนต้น ป.4 แป้งกลับสูงถึง 145 ซม. ออกนำผมไปชัดเจน 2 ซม.

    แป้งเองก็ดูแปลกใจกับผลลัพธ์นี้ จนเดินมาพูดกับผมหลังวัดส่วนสูงเสร็จว่า "เฮ้ย ปลายเทอมก่อน นายยังสูงกว่าชั้นอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ทำไมเปิดเทอมนี้ นายเตี้ยกว่าชั้นแล้ว เตี้ยกว่าเยอะด้วย"

    แล้วแป้งก็จะสูงกว่าผมประมาณ 1.5-2 ซม. ไปตลอดปีการศึกษานั้น

    ด้านโยกับแอนก็สูงนำหน้าผมไปเช่นกัน

    ในช่วง ป.4 โยจะสูงกว่าผมราว 2-3 ซม. และเธอจะเป็นคนแรกของรุ่นที่สูงถึงระดับ 150 ซม. ตอนปลายเทอมสอง

    ส่วนแอนก็จะสูงใกล้เคียงกับแป้ง จำได้ว่าตอนผมสูง 147.5 ซม. เธอสองคนจะสูง 149 ซม. กันแล้ว

    แม้ผมจะเคยเตี้ยกว่าโย แป้ง แอน มาก่อน แต่พอผมเคยสูงเท่าโย และเฉือนเอาชนะแป้งกับแอนได้สำเร็จ ตอน ป.3 เทอมสอง ผมก็คล้ายจะเสพติดชัยชนะดังกล่าว และรับไม่ได้เลย ที่ตนเองต้องมาลิ้มรสชาติความพ่ายแพ้ หรือต้องกลับมาเตี้ยกว่าเพื่อนผู้หญิงทั้งสามอีกครั้ง

    น่าเสียดาย ที่ผมจะต้องลิ้มรสชาติความเตี้ยแบบนี้ไปจนจบ ป.6

    ---

    สมัย ป.4 พิมพ์ย้ายไปเรียนห้อง 4/2 ห้องเดียวกับแป้ง

    หมายความว่าเธอจะได้เรียนพลศึกษาและเข้าวัดขนาดร่างกายพร้อมกันกับผมในตอนเทอมแรก

    ช่วงต้น ป.4 พิมพ์ไม่ได้สร้างเซอร์ไพรส์ให้ผมแบบแป้งหรือปอ แต่เธอก็สร้างความหวั่นไหวในใจผมได้ไม่น้อย

    เพราะจากที่ผมเคยสูงกว่าเธอถึง 3 ซม. ตอนก่อนจบ ป.3 แต่พอมาเริ่มเรียน ป.4 เทอมแรก จำได้ว่าพิมพ์จะมีส่วนสูงประมาณ 142-142.5 ซม. ตามหลังผมอยู่ 0.5-1 ซม.

    พูดอีกอย่าง คือ พิมพ์กลับมาเป็นคู่ต่อสู้ที่มีรูปร่างพอฟัดพอเหวี่ยงกับผมอีกหน

    แล้วถ้าจำไม่ผิด พอปลายเทอมแรก ผมกับพิมพ์จะตัวสูง 143.5 ซม. เท่ากันพอดี

    เข้าเทอมสอง ห้อง 4/1 ของผม กับ 4/2 ของพิมพ์ จะไม่ได้เรียนวิชาพละด้วยกัน แต่เราสองคนก็ยังได้เจอหน้าหรือสนทนาพูดคุยกันบ่อยๆ เพราะห้องเรียนอยู่ติดกัน

    ถ้าความจำไม่เลอะเลือนเกินไป ผมกับพิมพ์จะมีตัวเลขส่วนสูงอย่างเป็นทางการ (ที่วัดได้โดยครูพละ) เท่ากันจนจบชั้น ป.4 

    แต่เรื่องหนึ่งที่ทำให้ผมไม่สบายใจ ก็คือ พอเข้าช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ปลาย ป.4 เทอมสอง เวลาเราสองคนยืนคุยกันหน้าห้องเรียน ผมจะเริ่มสังเกตว่าตนเองต้องแหงนหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อสบสายตาพิมพ์

    สถานการณ์ทำนองนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับผมมาก่อน แม้กระทั่งตอน ป.1-ป.2 ที่ผมเคยมีส่วนสูงสูสีกับพิมพ์มารอบหนึ่ง

    ผมพยายามซักไซ้พิมพ์อยู่บ่อยๆ ว่าเธอสูงเท่าไหร่แล้ว? ทว่าคำตอบที่ตอบกลับมา ก็จะเป็นตัวเลขส่วนสูงที่เท่ากับของผมเป๊ะๆ 

    ไม่ใช่ผมคนเดียวที่สังเกตเห็นเรื่องนี้ แต่แม่ของผมซึ่งมารอรับผมตอนเย็นหลังเลิกเรียน ก็ยังเอ่ยถามว่า "ปีนี้ พิมพ์เค้าดูสูงขึ้นเยอะนะ เหมือนจะสูงกว่าลูกอีก ปีก่อน ลูกตัวโตกว่าเค้าตั้งเยอะไม่ใช่เหรอ?"

    แล้วความสงสัยข้อนี้ของผมก็ยิ่งถูกตอกย้ำหนักก่อนวันมาฆบูชา ซึ่งทางโรงเรียนพาเด็กๆ ไปทำกิจกรรมที่วัด

    วันนั้น ครูสั่งให้นักเรียนหญิงชาย ป.4 ทุกคน เข้าแถวตอนเดี่ยว คนตัวเล็กอยู่ด้านหน้า คนตัวสูงอยู่ด้านหลัง คนที่ยืนด้านท้ายสุดเป็นโย ถัดมาเป็นแป้ง อันดับสามคือแอน อันดับสี่คือเพื่อนชื่อหมวย อันด้บห้าคือปอ 

    ทีแรก ผมแทรกตัวเข้าไปยืนเป็นอันดับหกข้างหน้าปอ แล้วให้พิมพ์มายืนด้านหน้าผมอีกที (แค่นี้ ผมก็เจ็บหัวใจแสนสาหัสอยู่แล้ว เพราะในการเข้าแถวลักษณะเดียวกันเมื่อปีก่อน ผมยังได้ยืนเป็นอันดับสองจากท้ายแถวอยู่เลย) 

    แต่พอตั้งแถวเสร็จ ครูพลศึกษาก็เริ่มเดินตรวจสอบความเรียบร้อย ระหว่างนั้น แกเข้ามาจ้องมองตำแหน่งการยืนของผมกับพิมพ์อยู่พักหนึ่ง ก่อนออกคำสั่งใส่ผมว่า "เธอขยับไปยืนด้านหน้าพิมพ์ แล้วให้พิมพ์มายืนข้างหลังเธอ" 

    "แต่จริงๆ ผมกับพิมพ์ เราสูงเท่ากันเลยนะครับ" ผมเถียงครู (และเกือบอ้างต่อว่า ก็ครูนั่นแหละที่เป็นคนวัดความสูงของเราทั้งคู่)

    "เออ แต่พอดูด้วยสายตา พิมพ์จะสูงกว่าหน่อยนึง" ครูพละยืนยัน จนผมได้แต่ยอมทำตามคำสั่งแก

    เรื่องน่าเจ็บใจ คือ ขากลับจากวัดมาโรงเรียน ซึ่งพวกเราจะเริ่มเดินแตกแถว และจับกลุ่มคุยเล่นกัน แป้งกับแอนจะเดินเข้ามาหาผมแล้วพูดแซวว่า "อะไรกัน เดี๋ยวนี้นายเตี้ยกว่าพิมพ์แล้วเหรอ? ทำไมดูเตี้ยลงทุกวันเลยนะ"





      

     

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in