เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
แปลเพลง RADWIMPSKanzen Memeshe
แปลเพลง Tremolo (トレモロ) ของ RADWIMPS
  • Tremolo เป็นเทคนิคการเล่นกีต้าร์แบบรัวเสียง โดยใช้นิ้วโป้ง นาง กลาง ชี้ รัวซ้ำไปเรื่อยๆ เสียงที่ได้ยินจะสั่นๆ โนดะคงเปรียบเสียงนี้เสมือนความรู้สึกสั่นไหวของจิตใจ ความรู้สึกที่มนุษย์เรามีต่อความไม่แน่นอนในชีวิต อาจมีบางคนคิดว่ามนุษย์ก็เป็นเพียงฝุ่นผงของจักรวาลนี้ อาจไม่มีความหมายอะไรที่จะมีชีวิตอยู่เลยก็ได้ แต่ถ้าเราใช้ชีวิตในแต่ละวันให้เต็มที่ เปลี่ยนมุมมองในการใช้ชีวิต แล้วยิ้มรับวันพรุ่งนี้ที่จะมาถึง นั่นแหละคือความสุขที่แท้จริง เป็นเพลงความหมายดีอีกเพลงนึงจากปลายปากกาของโนดะ โยจิโร่ ที่อยากทุกคนให้ลองฟังกันดู 


    เพลง : トレモロ (toremolo)
    เนื้อร้อง ทำนอง : 野田洋次郎 (Noda Yojiro)





    満天の空に君の声が
    響いてもいいような綺麗な夜
    manten no sora ni kimi no koe ga
    hibiite mo ii you na kirei na yoru

    ค่ำคืนงดงามราวกับว่า ถ้ามีเสียงของเธอ
    ดังก้องไปทั่วท้องฟ้าก็คงจะดี


    悲しみが悲しみで終わらぬよう
    kanashimi ga kanashimi de owaranu you

    ความเศร้าโศกไม่ได้คงอยู่ตลอดไป


    せめて地球は周ってみせた
    semete chikyuu wa mawatte miseta

    อย่างน้อยโลกก็ยังคงหมุนเวียนเปลี่ยนผัน


    本当に伝えたい想いだけは
    うまく伝わらないようにできてた
    hontou ni tsutaetai omoi dakewa
    umaku tsutawara nai you ni dekiteta


    มีแค่ความรู้สึกที่อยากบอกจริงๆ เท่านั้น
    ที่ดูเหมือนว่าจะสื่อสารออกไปไม่ค่อยราบรื่น


    そのもどかしさに抱かれぬよう
    せめて僕は笑ってみせた
    sono modokashi sa ni idakarenu you
    semete boku wa waratte miseta


    เมื่อโยนสิ่งที่ไม่เป็นดังใจหวังทิ้งไป
    อย่างน้อยก็ทำให้ผมยิ้มออกมา


    「何もないんだってここには」って
    笑ってる君も望んでる
    'nani mo nain datte koko ni wa' tte
    waratteru kimi mo nozonderu


    ภาวนาให้เธอพูดว่า"ที่นี่ไม่มีอะไรหรอกน่า"
    แล้วยิ้มออกมาเช่นกัน


    そんな声もかき消すほどに
    膨れるこの万象を
    sonna koe mokaki kesu hodo ni
    fukureru kono banshou wo


    ภาวนาแล้วตะโกนออกไป
    จนกว่าเสียงนั้นจะเลือนหาย


    「意味はないんだって僕には」って
    叫んでる僕も望んでる
    'imi wa nainda tte boku ni wa' tte
    saken deru boku mo nozon deru


    ว่าสรรพสิ่งทั้งหลายในจักรวาลนี้
    "ไม่มีความหมายสำหรับผม" 


    無味を悟るその先に
    浮かぶ光の粒を
    mumi wo satoru sono saki ni
    ukabu hikari no tsubu wo

    ประกายแสงที่ลอยเข้ามา ทำให้เข้าใจ
    ถึงความไร้รสชาติก่อนหน้านี้อย่างแจ่มแจ้ง


    最近は映画の見すぎで
    奇跡も珍しくなくなったね
    saikin wa eiga no misugi de
    kiseki mo mezurashi kuna kunatta ne


    ช่วงนี้คงดูหนังมากเกินไป
    ปาฏิหาริย์เลยกลายเป็นเรื่องธรรมดาขึ้นมา


    心にもないことでもすらすら
    言えるようになったよ
    kokoro ni mo nai koto demo surasura
    ieru you ni natta yo


    พูดแม้กระทั่งเรื่องที่ไม่ได้ติดใจอะไร
    พูดออกไปได้อย่างไม่ติดขัด


    ほら僕が僕から離れてく
    そんなことさえも忘れたくなる
    hora boku ga boku kara hanareteku
    sonna koto sae mo wasure taku naru


    เพียงแค่นั้นก็อยากจะลืมขึ้นมาแล้วว่า
    ดูสิ ผมเริ่มออกห่างจากความเป็นตัวเองเรื่อยๆ


    「真実とはねそれだけで美しいんだ」と言って
    'shinjitsu towa ne sore dakede 
    utsuku shiinda' to itte


    แล้วพูดว่า "ความจริงเท่านั้นที่สวยงาม" 


    *満天の空に君の声が
    響いてもいいような綺麗な夜
    manten no sora ni kimi no koe ga
    hibiite mo ii you na kirei na yoru


    ค่ำคืนงดงามราวกับว่าถ้ามีเสียงของเธอ
    ดังก้องไปทั่วท้องฟ้าก็คงจะดี


    悲しみが悲しみで終わると疑わぬように
    神様は僕に夢を見させた
    kanashimi ga kanashimi de
    owaru to utagawa nu you ni
    kamisama wa boku ni yume wo misaseta

    พระเจ้าทำให้ฝันผมกลายเป็นจริงแล้ว
    ผมไม่สงสัยแล้ว ว่าความเศร้าจะคงอยู่ตลอดไปไหม


    今開いていたページの
    上に描いてみようかな
    ima hiraite ita Peeji no
    ue ni egaite miyou ka na


    ตอนนี้จะลองเขียนลงบนหน้ากระดาษที่เปิดค้างไว้


    「離さないよ 繋いでたいの 僕は僕の手を」
    'hana sanai yo tsunai detai no
    boku wa boku no te wo'

    "ผมอยากจะจับมือตัวเองไว้ จะไม่ปล่อยมันไป"


    今止まっていた景色が
    動き出した気がしたんだよ
    ima tomatte ita keshiki ga
    ugoki dashita ki ga shitan da yo


    รู้สึกว่าภาพวิวทิวทัศน์ที่หยุดอยู่ตอนนี้ 
    กำลังเคลื่อนไหวแล้ว


    ほら僕の鼓動も確かに刻み始めた4拍子
    hora boku no kodou mo
    tashika ni kizami hajimeta yon byoushi

    ดูสิ หัวใจของผมเริ่มเต้นถี่ 4 จังหวะ ไม่ผิดแน่ๆ


    ほら ほら ほら
    hora hora hora
    ดูสิ ดูสิ ดูสิ 


    不器用な僕も描き出してみるよ
    bukiyou na boku mo
    egaki dashite miru yo

    ผมคนที่ไม่เอาไหน ได้ลองเขียนมันออกมาแล้วนะ


    終わりに向かってゆく明日を
    笑って迎える意味を
    owari ni mukatte yuku ashita wo
    waratte muka eru imi wo


    ความหมายที่จะยิ้มรับวันพรุ่งนี้ที่มุ่งไปสู่จุดจบ








    ----------------------------------------
    credit cover photo:  Jackson Hendry on Unsplash



    * เราไม่เก่งเรื่องดนตรี แต่คิดว่าท่อนที่เล่นกีต้าร์โดยใช้เทคนิคTremolo ของเพลงนี้คือนาทีที่ 1.57-2.17 ที่เสียงอื่นๆ เงียบลง เหลือแค่เสียงกีต้าร์ดีดซ้ำไปมา เป็นท่อนเดียวกับท่อนอินโทรที่ร้องว่า

    【満天の空に君の声が響いてもいいような綺麗な夜
    manten no sora ni kimi no koe ga
    hibiite mo ii you na kirei na yoru
    ค่ำคืนงดงามราวกับว่าถ้ามีเสียงของเธอ
    ดังก้องไปทั่วท้องฟ้าก็คงจะดี】

    ไปอ่านที่แฟนชาวญี่ปุ่นวิเคราะห์เนื้อเพลงนี้ บางคนบอกว่าการที่นำเทคนิค Tremolo มาใช้ใน↑ ท่อนนี้ทำให้จินตนาการไปถึงท้องฟ้ายามค่ำคืน ที่มีดวงดาวกะพริบระยิบระยับ พอ"ผม" มองขึ้นไปยังท้องฟ้านั้น ก็นึกว่าท้องฟ้าสวยขนาดนี้ คงจะดีถ้ามีเสียงเธอดังก้องกังวาลไปทั่วท้องฟ้า "ผม" คงกำลังคิดถึงเธออยู่ และคิดเรื่องราวชีวิตของตัวเองไปด้วย คิดว่าอารมณ์ของ "ผม" คงกำลังอินเลิฟนะ เราคิดว่าตั้งแต่ "ผม" ได้พบเธอ มุมมองการใช้ชีวิตของเขาคงเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น... 


    เราเพิ่งรู้จักเพลงนี้เมื่อปีที่แล้วเอง มีใครคนหนึ่งแนะนำให้เราฟัง เขาบอกว่าเป็นเพลง RAD ไม่กี่เพลงที่เขาร้องได้จนจบ 


    ถ้าชอบใจถูกใจยังไงฝากอุดหนุนเพลงของศิลปินด้วยนะคะ :)


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in