เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
at the end.fernweh
วันนั้นเคยเป็นพระจันทร์ยิ้มของเเก เเต่วันนี้เราคงเป็นเเค่ดาวพลูโต
  • 27.12.2017

    วันนี้อากาศก็กลับมาหนาวอีกเเล้ว เเถมมาพร้อมฝนอีก ยิ่งทำให้นึกถึงวันเก่าๆได้เยอะเลย ก็ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมของเรา วันๆก็เอาเเต่กิน นอน ฟังเพลง อ่านนิยายวนไป รีบทำทุกอย่างที่อยากทำก่อนจะเข้าสู่ช่วงมรสุมการบ้านเเละโปรเจคตอนเปิดเทอม พอได้อยู่กับตัวเองนานมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งฟุ้งซ่านเเล้วก็นึกถึงชีวิตตอนสมัยมัธยม

    ด้วยความที่ช่วงนี้ชอบอ่านนิยาย อ่านฟิค อ่านอะไรไปเรื่อย นิยายบางเรื่องก็จะมีเพลงประกอบตอนเเต่ละตอน หรือไม่ก็มี playlist ของเรื่องนั้นที่คนเขียนหรือไม่ก็คนอ่านช่วยๆกันลิสไป เราก็นั่งฟังไปเรื่อยๆจนได้เจอเพลงนี้ เเล้วสุดท้ายก็เลยเอามาใส่ไว้ในชื่อตอนสักหน่อย


    พระจันทร์ยิ้ม : )


    เพลงนี้ไม่ได้เกี่ยวกับมุมมองของเราต่อคนนั้นหรอกนะคะ เเต่เราคิดว่ามันเหมือนมุมมองที่คนนั้นมองเราเลย เเต่ในตอนนี้เราไม่ใช่พระจันทร์ยิ้มของเขาเเล้วเเหละ ตอนนี้เราคงเป็นดาวพลูโตที่อยู่นอกระบบสุริยะของเขาไปเเล้ว



    เรารู้จักกัน 5 ปีเเล้ว นับตั้งเเต่เกิดเรื่องก็ 4 ปีได้ เราเป็นนักเรียนที่เข้ามาอยู่ในห้องที่ทั้งห้องรู้จักกันหมดเเล้ว เราเรียนโรงเรียนนี้มาอยู่เเล้ว เเต่เเค่เราเลือกที่จะเข้าสายวิทย์คณิต ในขณะที่เพื่อนๆเราเลือกที่จะเข้าศิลป์ภาษากัน ถ้าดูดีๆเราก็เป็นเด็กใหม่ของห้องนี้ เพราะเกือบทั้งห้องนี้มาจากห้องเดียวกันหมดเลย มีเเค่ 8 คนที่เป็นเด็กใหม่ที่ไม่มีเพื่อนเลย รวมเราด้วย สุดท้ายก็จับเป็นกลุ่มกันเองเนี่ยเเหละ กลุ่มเรามี 6 คน ส่วนคนนั้นไปอยู่กับเพื่อนคนอื่น

    ช่วงเเรกๆเราก็ทำงานกลุ่มด้วยกันตลอด เพราะคนอื่นเค้ารู้จักกันอยู่เเล้ว สุดท้ายเด็กใหม่ก็ต้องรวมตัวกันเอง ตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไรจนกระทั้งช่วงปิดเทอมที่ทำกีฬาสี เราก็เริ่มรู้สึกตัว เราทำตัวเหมือนเดิมคุยกันเหมือนเดิม จนปิดเทอมนั่นเเหละ วันสอบวันสุดท้ายคือวันเกิดเรา เขาฝากตุ๊กตามาให้เราผ่านเพื่อนเราเเล้วก็บอกว่าห้ามบอกใครนะ เราได้มาเราก็รู้ว่าใครให้เเหละ จนเย็นเค้าก็ทั้งเฟสมาคุยกับเรา เเล้วก็ถามเรื่องชื่อตุ๊กตาที่เขาตั้งมาให้เราว่ารู้ไหมว่ามันหมายความว่าอะไร เราก็บอกว่าไม่รู้ เขาก็บอกว่าจริงๆมันมี 2 ความหมาย อีกความหมายนึกมันเเปลว่า จะเลิกพยายามเเล้ว...

    แล้วสุดท้ายเรื่องมันก็จบลง เราปล่อยให้มันจบไปแบบค้างคาเเบบนั้น

    สุดท้ายก็คือเค้าไปทะเลาะกับเพื่อนเรา เพราะเขาเข้าใจว่าเพื่อนเราเป็นคนไปบอกเราว่าใครเป็นคนเอาตุ๊กตาไปให้ ไปบอกเราว่าเขาชอบเรา เเต่ตามจริงเเล้ว เรารู้เอง เราก็รู้สึกว่าเเบบทำไมต้องไปว่าเพื่อนเราขนาดนั้น คือเรารู้อยู่เเล้ว เเต่เพื่อนเราเเค่มาบอกทีหลัง สุดท้ายเราก็เลือกเพื่อน

    เปิดเทอมใหม่มาเราไม่ได้คุยกันอีกเลย ทั้งเรากับเขา เเล้วก็เพื่อนเรากับเขา เเต่เพื่อนเราบางคนก็ยังคุยกับเขาได้อยู่นะ คือเหมือนมีปัญหาเเค่เรากับเพื่อนคนที่เอาเรื่องมาเล่าให้ฟัง เขาก็สนิทกับคนในห้องขึ้น จากคนเก็บตัวเริ่มเป็นคนตลก เหมือนมีอีกมุมนึงที่เราไม่เคยเห็นโผล่ออกมา เราจบปีนั้นด้วยการไม่คุยกันเลย

    ปีสุดท้ายในโรงเรียน เทอมเเรกเราก็ยังคงไม่คุยกัน เเต่เพื่อนเราคุยกับเขาได้หมดเเล้ว เหมือนเรากับเขาตัดขาดกัน มองหน้ากันไม่ติดไปเเล้ว จนเทอมสุดท้าย กลุ่มเราทะเลาะกัน เขาก็เป็นคนที่ทักมาถามเรา เเต่ก็ไม่เหมือนเดิมเเล้ว มันเป็นในฐานะเพื่อนไปเเล้ว นั่นก็เป็นจุดที่ทำให้เรากลับมาคุยกันอีก เเต่ก็เเค่นั้น

    จนตอนนี้ผ่านไปเกือบ 4 ปี หลังจากที่เราไม่คุยกัน เมื่อกลางปีห้องเราได้กลับไปโรงเรียนกัน เป็นครั้งเเรกที่ได้เจอกัน เราไม่ได้คุยกันเหมือนเดิม ยืนกันคนละมุม จนถึงตอนที่อาจารย์เรียกมาถ่ายรูปรวม เราได้ยืนข้างๆเขา เเต่เราก็เว้นห่างกันเหมือนเว้นที่เหมือนมีคนยืนคั่นกลางระหว่างเราสองคน

    สุดท้ายเวลาผ่านไป ระยะทางมากขึ้น จากพระจันทร์ยิ้มก็กลายเป็นดาวพลูโต....


    เขียนมาถึงตรงนี้ เราก็ไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกที่เรามีให้เเกคืออะไร เราอาจจะชอบเเก หรือไม่มันก็เป็นความผูกพัน ที่เคยมีเเกอยู่ในชีวิตทุกๆวัน คุยกับเเกมาตลอด จนวันนึงทุกอย่างมันพังอย่างรวดเร็วจนเราตั้งตัวไม่ทัน เเต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เราก็คงทำเหมือนเดิมเเหละมั้ง ก็ตอนนั้นเราติดเพื่อนนี่นา


    ตุ๊กตาตัวนั้น เรายังเก็บไว้เหมือนเดิม คำพูดที่เเกบอกเราไว้ในวันเกิดเราก็ยังจำได้อยู่นะ ที่เเกบอกว่าชื่อตุ๊กตาตัวนี้มีสองความหมาย และความหมายที่เเกอยากบอกเราคือ ความพยายามครั้งสุดท้าย

    แต่ก็นั่นเเหละ ถึงตอนนี้เราจะไม่ได้เจอกัน ไม่ได้คุยกันเเล้ว เเต่ครั้งหนึ่งเราก็เคยสนิทกันนะ


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in