เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
YOUNG MASTER #MINNOninezexsky
3


  • Note : เชส ไทเลอร์ = แจมิน , แอชเชอร์ เลสลีย์ = เจโน่ , เอริค เมอร์เรย์ = โดยอง , ลูอิส(ลูฟ) เชอร์ชิล = ลูคัส , เซบาสเตียน โบเว็น = เฮนเดอรี่ , อาเธอร์ เลสลีย์ = แจฮยอน , ริโอ สเปนเซอร์ = จอห์นนี่ , โจชัว คาร์ลิน = มาร์ค 













    ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าตอนนี้แอชเชอร์ ใช้ชีวิตอยู่ในเดอะฮิลล์มาร่วมเกือบสองสัปดาห์ อาการบาดเจ็บเองเองก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้สามารถที่จะเดินไปไหนมาไหน และทำอะไรได้เองอย่างสะดวก แม้จะค้านหัวชนฝาในตอนแรกว่าไม่อยากรู้จักอะไรในแดนใต้ แต่สุดท้ายแอชเชอร์ก็ต้องเรียนรู้มันอย่างช่วยไม่ได้ 


    ซึ่งนั่นก็ทำให้แอชเชอร์ค้นพบว่าคำบอกเล่าของพวกผู้ใหญ่นั่นมันไร้สาระสิ้นดี คนพวกนี้ก็ปกติทั่วไปเหมือนกับพวกเขา ไม่ได้ป่าเถื่อนหรือแย่อย่างที่เคยได้ยินด้วยซ้ำ จะเว้นก็แต่คนที่แอชเชอร์อาศัยร่วมชายคาบ้านนั่นไว้หนึ่งคน


    ไทเลอร์ยังคงรักษาความเป็นตัวเองได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย วันแรกที่พูดคุยกับแอชเชอร์อย่างไร วันนี้ก็ยังเป็นแบบนั้น หรือหากไม่ปริปากพูดแต่การกระทำก็ดูจะตั้งใจกวนกันอย่างไม่ต้องคิดมาก 


    "หงุดหงิดอะไรมาอีกล่ะเลสลีย์ บอกไว้ก่อนนะว่าวันนี้ฉันไม่มีคู่ซ้อมให้นายแล้ว" โจชัว คาร์ลิน เอ่ยทักทันทีที่เห็นใบหน้าไม่สบอารมณ์ของเลสลีย์ แม้ปกติเจ้าตัวจะมีหน้านิ่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะสังเกตความหงุดหงิดภายใต้ดวงตาเรียว


    หลังจากที่ได้ออกมาทำความคุ้นเคยกับเดอะฮิลล์ แอชเชอร์ก็ขอลงความคิดเห็นเลยว่าโจชัว เป็นบุคคลเดียวที่ตัวเองพอจะพูดคุยได้ เพราะหมอนี่ไม่มีท่าทีกวนประสาทเหมือนไทเลอร์  ไม่พูดมาเหมือนกับเชอร์ชิลตัวสูง และที่สำคัญคือไม่ชอบหลอกถามอะไรจากเขาเหมือนเมอร์เรย์



    หลายวันมานี้ แอชเชอร์เอาแต่ขลุกตัวอยู่กับโจชัวร์จนสนิทกันมากขึ้น ต่อให้ปากของไทเลอร์จะบอกว่าแอชเชอร์อยู่ในจุดที่ต่ำสุดของที่นี่ แต่อัลฟ่าแดนเหนือก็ยังไม่เห็นการปฏิบัติตนที่ทำเหมือนต่ำต้อยเลยสักนิด  มันก็น่าคิดตามที่เอริคบอกอยู่เหมือนกันว่าไทเลอร์อาจจะแค่อยากกวนประสาท ถึงได้พูดจาแบบนั้นออกมา 


    แล้วยังไง? จนถึงทุกวันนี้มันยังมีท่าทีที่เลสลีย์คนเล็กจะญาติดีกับหัวหน้าหน่วยได้เลยสักนิด  แค่ให้ปะทะฝีปากกันทุกวันนี้มันยังยากเลย 


    "ถ้าอยากได้คู่ซ้อมเป็นหมอนั่น  ฉันต้องทำยังไง" 


    "ฉันว่านี่มันไม่ใช่เรื่องตลกนะเลสลีย์"  โจชัวร์โบกมือไปมาอย่างไม่อยากเชื่อในคำพูดของคนตรงหน้า ถึงจะพอรู้มาบ้างว่าเลสลีย์ไม่ค่อยลงรอยกับเชส แต่ก็ใช่ว่าเรื่องแบบนี้จะเอามาเป็นหัวข้อสนทนาจริงๆจังๆได้ 


    "ฉันพูดจริงๆ" เลสลีย์กระแทกตัวนั่งลงข้างๆ หนึ่งในคนสนิทของไทเลอร์ "นายก็เห็นว่าหมอนั่นกดฉันยิ่งกว่าอะไรดี" 


    ไม่สิ.. จริงๆ ไทเลอร์ไม่ได้กดให้แอชเชอร์อยู่ต่ำอะไรนักหรอก แต่เพราะความเป็นทรูอัลฟ่าของเจ้าตัวมากกว่าที่ทำให้ตัวแอชเชอร์เองรู้สึกอยู่ภายใต้การควบคุม  


    "รู้สึกไปเองหรือเปล่า ฉันก็เห็นเชสปกติดี"


    ปกติกับผีน่ะสิ!


    "ขอโทษแล้วกัน ที่ฉันไม่เคยชินกับความกวนประสาทของหมอนั่น.." อัลฟ่าแดนเหนือตอบก่อนจะคว้าหยิบมีดใบตายที่โจชัวกำลังเช็ดทำความสะอาดอยู่ขึ้นมาดูอย่างสนอกสนใจ "ดูพวกนายจะถนัดใช้มีดกันดีนะ" 


    อัลฟ่าต่างแดนพูดตามจากที่เห็น ก่อนหน้านี้ตัวแอชเชอร์เองก็เคยได้ลองฝึกซ้อมกับอัลฟ่าในหน่วยมาแล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งแทบทั้งหมดนั้นถนัดการใช้มีดเสียจนเกือบพลาดท่าอยู่หลายครั้ง คำว่าฝึกซ้อมที่นี่มันไม่ต่างจากการเอาจริงจนตัวแอชเชอร์เองก็เสียเหงื่อพอสมควร  


    "เชื่อเถอะว่าเชสไม่ใช่คนที่นายจะไปสู้ด้วย" 


    "ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไง" 


    "หัวรั้นจริงๆ" โจชัวพูดขำๆก่อนจะคว้าเอามีดใบตายในมือของแอชเชอร์มาเก็บ ก่อนที่อัลฟ่าแดนเหนือจะได้เอาไปทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า 


    "ฉันไม่ได้หัวรั้น" 


    ยังจะมีหน้ามาเถียงกันอีกเลสลีย์.. 


    "ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเชสถึงได้ไม่ลงรอยกับนาย" โจชัวบ่นพึมพำเบาๆ ก่อนจะลอบมองใบหน้าดูดีของอีกฝ่ายที่เชิดรั้นขึ้นอย่างถือดี  


    ลักษณะแบบนี้มันโคตรจะเป็นที่ต้องห้ามสำหรับเชสชัดๆ 


    "คิดว่าฉันอยากลงรอยด้วยนักหรือไง ประสาทแบบนั้นสักวันฉันคงได้บ้าพอดี" 


    "แต่ตอนนี้นายก็ดูจะบ้าอยู่นะ" 


    "ดูเหมือนว่าวันนี้นายคงอยากจะเป็นคู่ซ้อมให้ฉันนะโจชัว.." 


    "ใจเย็นสิพวก ฉันแค่หยอกเล่น จริงจังไปได้" โจชัวยกมือขึ้นยอมแพ้ก่อนที่จะได้กลายเป็นคู่ซ้อมของเลสลีย์จริงๆ หลายวันที่ผ่านมาโจชัวเห็นศักยภาพของอัลฟ่าต่างแดนนี่มากพอจนตระหนักได้แล้ว ว่านี่ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ตัวเองไม่ควรไปมีเรื่องด้วย 


    หน้าตาสะอาดสะอ้านอย่างพวกลูกหลานชนชั้นสูงแบบนี้ก็ไม่ได้หน่อมแน้มขนาดต่อสู้อะไรไม่ได้  ผิวขาวที่ทำให้ดูเหมือนคนขี้โรคนี่ก็หลอกลวงทั้งเพ 


    "นายจะกลัวอะไรฉัน"


    "ให้ฉันได้พักก่อนเถอะ ฝึกครั้งที่แล้วพวกแผลก็พึ่งจะหายไป" โจชัวบ่นถึงการฝึกเมื่ออาทิตย์ก่อนอย่างเลี่ยงไม่ได้ ตัวเขาเองก็เป็นหนึ่งในทีมจู่โจมซึ่งอยู่ฝั่งเดียวกับเชส  การฝึกทรหดนั่นทำเอาโจชัวแทบจะลากตัวเองกลับไปยังที่พักแทบไม่ไหว  นับวันทุกคนในหน่วยก็เริ่มแข็งแกร่งขึ้นจนยากที่จะรับมือกับทักษะที่คาดเดาได้ยากแตกต่างกันไปในแต่ละคน

     
    "แบบนี้วันนี้ฉันก็เบื่อแย่น่ะสิ ไม่มีอะไรให้ทำสักอย่าง" 


    "มีอะไรให้นายทำตั้งเยอะ แต่นายก็จะซ้อมอย่างเดียว" โจชัวอดแย้งไม่ได้เมื่อเห็นท่าทีเบื่อหน่ายของอีกฝ่าย "พูดก็พูดเถอะนะ ความเป็นไปได้ที่นายจะได้กลับไปแดนเหนือมันแทบไม่มีเลยด้วยซ้ำ"


    "มันต้องมีสักทาง.." 


    เรื่องอะไรที่แอชเชอร์จะต้องอยู่ที่นี่ตลอดไป เขายังมีหน้าที่ที่ต้องทำ มีอะไรหลายอย่างที่ต้องรับผิดชอบ แล้วก็มีครอบครัวที่ต้องช่วยเหลือ การหนีเอาตัวรอดสบายอยู่คนเดียวมันไม่ใช่สิ่งที่เลสลีย์ได้รับการสั่งสอนมา 


    "อย่าลืมว่าคนในเดอะฮิลล์หูตาเป็นสับปะรด.. ถ้าหวังจะให้ฉันช่วยล่ะก็ คงต้องบอกไว้ก่อนว่าฉันทำไม่ได้" อัลฟ่าหนุ่มเอ่ยปฏิเสธดักคอทันที "ถ้าเชสบอกว่าไม่ก็คือไม่


    "จนถึงวันนี้ฉันก็ยังไม่เข้าใจ แล้วก็ไม่เข้าใจมากๆ ว่าจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร" พอถามหาเหตุผล เชสก็เอาแต่บ่ายเบี่ยงไม่ก็กวนประสาทแอชเชอร์จนต้องเลิกคุย  "หรือให้ฉันตายใจแล้วค่อยฆ่าทีเดียว"


    "ฟุ้งซ่านน่า" 


    "ก็มันไม่มีเหตุผลที่ดี ถึงทำให้ฉันฟุ้งซ่านขนาดนี้" 


    "เดี๋ยวฉันจะเข้าไปในป่าอีกฝั่ง นายสนใจจะไปด้วยกันไหมล่ะเลสลีย์" 


    "ป่าอีกฝั่ง?"


    "ไม่ใช่แบล็คฟอเรสต์" 


    แอชเชอร์ก็ไม่ได้คาดหวังหรอกว่าจะเป็นป่าทางฝั่งนั้นที่เชื่อมต่อกับบ้านเกิดของตัวเอง 


    "ว่าแต่นายจะเข้าไปทำอะไร?"


    "ล่า..." 












    ไหนโจชัวบอกว่าจะออกมาล่า แล้วทำไมตอนนี้แอชเชอร์ถึงรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกล่ายังไงอย่างงั้น รอบตัวที่เต็มไปด้วยป่าสนอาจจะเป็นที่คุ้นชินสำหรับแอชเชอร์ไม่มากก็น้อย แต่คงไม่ใช่สำหรับตอนนี้  


    รองเท้าบูทที่สวมใส่เหยียบย่ำไปตามพื้นดินที่เปียกชื้นตามสภาพอากาศของเดอะฮิลล์ กลิ่นอายของป่าที่มีีชีวิต กับ ความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณนับว่าเป็นสิ่งที่หาได้ยากในแดนเหนือเสียจนคนที่พึ่งเคยได้สัมผัสกับตัว ถึงกับสำรวจสิ่งรอบข้างอย่างสนอกสนใจ 


    "สรุปแล้วเราจะมาล่าอะไรกัน.." เสียงทุ้มเอ่ยถามคนที่เดินนำหน้าตัวเองเบาๆ 


    "เดี๋ยวนายก็รู้เอง" 


    "นายไม่รู้สึกเหมือนว่ากำลังมีคนมองเราอยู่บ้างหรือไง.." 


    "หืม?" 


    โจชัวหยุดเดินทันทีก่อนจะหันมาสนใจอัลฟ่าแดนเหนือที่ขมวดคิ้วจนแทบพันกัน 


    "ฉันไม่ได้รู้สึกไปเอง.. แต่สัญชาตญาณมันบอก" ดวงตาเรียวกวาดมองรอบข้างที่เป็นป่าอย่างระวัง ในขณะที่มือขาวเลื่อนมือลงไปอยู่ใกล้ๆกับมีดที่พกติดตัวมาด้วยความเคยชิน 


    "ก็ปกติ.." 


    โจชัวยักไหล่น้อยๆอย่างไม่สนใจ ก่อนจะเดินต่อโดยที่ทิ้งให้อัลฟ่าแดนเหนือถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ต่อให้ไม่ใช่คนอย่างน้อยก็ต้องเป็นสัตว์ป่านี่ล่ะที่กำลังจ้องจะเล่นงานพวกเขา


    "ดูนั่น! กระต่ายป่า.." 


    โจชัวว่าก่อนจะจดจ้องอยู่ที่กระต่ายป่าตัวจ้อยที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าจะถูกจับ ผิดกับแอชเชอร์ที่ไม่ได้สนใจกับกระต่ายนั่น เพราะเสียงหายใจของสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่มากกว่าหนึ่งชีวิตทำให้แอชเชอร์หันขวับไปตามต้นเสียง  ความคุ้นเคยบางอย่างทำให้อัลฟ่าหนุ่มเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นจนเรียกเหงื่อเป็นเม็ดให้ผุดขึ้นบนขมับสวย


    "โจชัว... นายอย่าขยับ" 


    แอชเชอร์เรียกอีกคนเสียงนิ่ง เมื่อเห็นบางสิ่งบางอย่างที่โผล่พ้นออกมาจากพุ่มไม้ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่ทั้งคู่ยืนอยู่  สัตว์ตัวขนสี่ขาตัวใหญ่ค่อยๆ ก้าวเดินเข้ามาหาทั้งโจชัวและแอชเชอร์  มันเป็นสัตว์ที่แอชเชอร์คุ้นเคยเป็นอย่างดีแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นมิตรสักเท่าไหร่ อีกอย่างมันก็ไม่ได้มีแค่หนึ่งอย่างที่แอชเชอร์คิด เพราะตอนนี้เจ้าสัตว์สี่ขาพวกนั้นกำลังล้อมรอบจากทุกทิศนับๆรวมดูแล้วก็ประมาณหกเจ็ดตัวเห็นจะได้ 


    ทางด้านโจชัวเองพอได้ยินแบบนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาสนใจสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนจะหันหน้ามามองแอชเชอร์นิ่งๆ 


    "สงสัยว่าเราจะมาแย่งเหยื่อของพวกมันแฮะเลสลีย์.." 


    ก่อนที่คิดว่าจะแย่งเหยื่อของมัน นายควรคิดว่าตัวเองกลายเป็นเหยื่อก่อนไหมโจชัว! 


    เสียงขู่คำรามของสัตว์ใหญ่เริ่มดังมากขึ้นเมื่อโจชัวขยับตัว อุ้งเท้าหนาที่ปกคลุมด้วยขนขยับเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆจนรุมล้อมอัลฟ่าทั้งคู่โดยสมบูรณ์


    "ใจเย็นน่าชาลี.." โจชัวเอ่ยบอกกับหมาป่าตัวใหญ่สุดตรงหน้า ก่อนจะยกมือขึ้นยอมแพ้ พลางหันมาสั่งให้อัลฟ่าตัวขาวเลิกคิดที่จะจับมืด  "อย่าคิดที่จะหยิบมีดออกมาเชียวนะ"


    "!!!"


    "พวกเราไม่ได้จะมาแย่งของเล่นของแก.." 


    หมาป่าตัวที่ดูเป็นจ่าฝูงมองหน้าโจชัวอยู่ครู่หนึ่ง เลิกแยกเขี้ยวขู่ก่อนจะมองหน้าของแอชเชอร์สลับกับโจชัว แล้วขยับถอยหลังอยู่ในระยะที่ห่างพอสมควรกับทั้งคู่ ตามด้วยหมาป่าตัวที่เหลือก็พร้อมใจกันถอยตาม


    นี่มันอะไรกัน... 


    ก่อนที่แอชเชอร์จะได้อ้าปากถามโจชัว ก็มีเสียงเป่าปากที่ดังแว่วมาก็ทำให้สัตว์สี่ขาหูกระดิก ก่อนจะหันหลังวิ่งหายไปตามๆกัน กลับไปตามทิศทางของเสียงเป่าปาก ท่ามกลางความงุนงงของแอชเชอร์ที่กำลังสับสน  


    "นายรู้จักพวกมัน?"


    "ก็งั้นมั้ง" โจชัวตอบอย่างไม่ตื่นเต้นอะไร "อย่าบอกนะว่าตั้งแต่นายมาอยู่ นายยังไม่เคยเห็นพวกการ์เดียน


    "นายหมายถึงหมาป่าพวกนั้น" 


    "ใช่.. ทั้งหมดนั่นคือการ์เดียน เดี๋ยวนายก็คงจะได้รู้จัก.." 


    หมาป่าเป็นฝูงพวกนั้นคือการ์เดียนของเดอะฮิลล์.. มิน่าล่ะถึงได้ดูคุ้นเคยกับโจชัว แม้จะไม่เชื่องขนาดนั้นก็ตาม


    "แล้วพวกมันไปที่ไหนกัน เหมือนเมื่อกี้ฉันจะได้ยินเสียงเป่าปาก" 


    "น่าจะเป็นเชส.. ปกติการ์เดียนจะชอบออกมากับหมอนั่น" 


    เมื่อไหร่แอชเชอร์จะเลิกวนเวียนกับไอ้หมอนี่สักที.. จะไปที่ไหนก็ต้องมีอะไรสักอย่างมาเกี่ยวข้องทุกที


    "มากับหมอนั่น แต่มาวิ่งตามใจชอบแบบนี้น่ะเหรอ"


    "ใครว่าล่ะ" 


    "ปกติแล้วมันก็สมควรอยู่กับเจ้านายของมันไม่ใช่หรือไง"


    "เชสไม่ค่อยจำกัดอิสระของพวกมัน นายก็เห็นว่าต่อให้ปล่อยแค่ไหน พอได้ยินเชสเรียก มันก็กลับไป" 


    น่าอิจฉาอยู่เหมือนกันที่พวกหมาป่าพวกนี้เชื่อฟังคำสั่งของเชส ผิดกับหมาป่าของแอชเชอร์เสียเหลือเกิน เจ้านั่นน่ะไม่เชื่อฟังเขา แถมยังไปไหนมาไหนตามใจชอบจนยากที่จะควบคุม 


    "ชักอยากจะลองรู้จักแล้วสิ.."


    "เตือนไว้ก่อนว่าอย่ามั่นใจขนาดนั้นเลสลีย์ เห็นพวกมันเชื่อฟังแบบนั้น ก็ใช่ว่าจะเป็นมิตร"


    "นั่นสิ ขนาดนาย พวกมันยังดูไม่เป็นมิตรด้วยเลย" แอชเชอร์ย้อนเข้าให้จนโจชัวยิ้มแห้ง


    "อย่าเอาความจริงมาพูดสิ"


    "ฉันว่านะ วันนี้คงไม่เหมาะกับการล่าเท่าไหร่แล้วล่ะ ป่านนี้พวกสัตว์ที่เราจะล่าคงหนีหายไปหมดเพราะรู้ว่าพวกการ์เดียนอยู่แถวนี้"


    "งั้นก็ถือซะว่าฉันพานายมารู้จักเดอะฮิลล์ให้มากขึ้นก็ได้.."


    "นายนี่มันแปลกคน.." แอชเชอร์อดค่อนขอดอีกฝ่ายไม่ได้ คนอะไรขนาดไม่ได้ทำตามที่คิดไว้ ยังจะมาเปลี่ยนแผนกันเสียง่ายๆ 


    "งั้นนายก็คงแปลกคนเหมือนกันที่คุยกับฉันรู้เรื่อง" 


    เดอะฮิลล์นี่มันศูนย์รวมของพวกประหลาดชัดๆ 










    ทันทีที่กลับถึงหน่วยป้องกันอัลฟ่าแดนเหนือก็พบเข้ากับความวุ่นวายของกลุ่มการ์เดียนเดินไปเดินมาให้วุ่นวาย เดาได้ว่าเชส ไทเลอร์ คงกลับมาถึงได้ไม่นาน มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าหมอนั่นกำลังใช้สายตาคมมองตามอัลฟ่าแดนเหนือที่เดินคุยกับโจชัวอย่างจ้องจับผิด 


    "เมื่อกี้ตอนฉันเข้าไปในป่า บังเอิญเจอเจ้าพวกนี้พอดี..."


    "ยังดี ที่ไม่โดนขย้ำ" เชื่อเถอะว่าคำประชดประชันนั้นไทเลอร์เหน็บแนมมาให้แอชเชอร์ 


    "ปากเสียน่าเชส นายก็รู้ว่าการ์เดียนไม่มีทางขย้ำฉัน" โจชัวตอบกลับ


    "ก็ไม่แน่.." 


    ปากคุยกับโจชัว แล้วทำไมไอ้สายตาไม่เป็นมิตรนั่นมันจะต้องมองหน้าของแอชเชอร์ด้วย แบบนี้นี่มันหาเรื่องกันอีกแล้ว 


    "เป็นคนแท้ๆ แต่ปาก..." อัลฟ่าแดนเหนือพูดขึ้นมาลอยๆ ก่อนจะเสสายตาไปมองพวกการ์เดียนช่วงจังหวะที่เว้นวรรคประโยค แล้วหันกลับมาแสยะยิ้มให้กับหัวหน้าหน่วยที่เดาะลิ้นมองหน้าตัวเองอยู่


    "เลสลีย์..." โจชัวกระแทกไหล่ของอัลฟ่าแดนเหนือเบาๆ เมื่อได้ยินประโยคที่ลอยออกมาจากปากของแอชเชอร์ "อย่าไปเถียงกับเชสเลยน่า.."


    "ไทเลอร์ยังไม่เห็นพูดอะไรเลย นายจะร้อนตัวแทนทำไม" 


    "พูดได้ดีเลสลีย์.." เชสตอบกลับยิ้มๆ ก่อนจะหันไปเรียกหนึ่งในการ์เดียนที่มีขนสีขาวสะอาดทั้งตัวมาหาตัวเอง  "ร็อคกี้!"  แค่เพียงคำเดียวหมาป่าตัวที่ชื่อร็อคกี้ก็รีบวิ่งเข้ามาหาเชสอย่างไม่อิดออด ระยะห่างที่ไม่ไกลมากทำให้แอชเชอร์สังเกตเห็นดวงตาสีฟ้า


    "ยังขนสวยเหมือนเดิม" โจชัวอดชมหมาป่าสีขาวปลอดไม่ได้เมื่อได้เห็น เรียกว่ามันเป็นตัวเดียวในฝูงที่มีขนสีแตกต่างกับพวกจนโดดเด่น แถมยังฉลาดเป็นกรด 


    "ฉันว่าบางที ตอนนี้ร็อคกี้อาจจะต้องการคนช่วยดูแล" 


    "นายอย่าบอกนะว่า..."


    "!!!"


    "ฝากดูแลร็อคกี้ทีสิ นายน้อย"


    "นายจะบ้าเหรอเชส!" 


    วินาทีนั้น แอชเชอร์รู้สึกเหมือนตัวเองหูดับไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย  เสียงโวยวายของโจชัวไม่ได้เข้าหูุเลยสักนิด เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันทำให้เขาต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคออย่างลำบาก


    "หรือนายจะดูุร็อคกี้แทนดีโจชัว" 


    พอถูุกถามแบบนั้น โจชัวก็รีบส่ายหัวพรืดทันที ในหมู่การ์เดียน ร็อคกี้ทั้งฉลาดทั้งดื้อ มีก็แต่เชสที่คุมมันได้ แล้วถ้าแบบนี้เลสลีย์จะไม่เจอปัญหาใหญ่อย่างงั้นเหรอ


    "ฉันไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้นะเชส นายก็รู้ว่าร็อคกี้เป็นยังไง"


    "ออกจะน่ารัก" 


    "จะให้ฉันดูแล หรือ จะให้การ์เดีียนของนายมาเฝ้าฉันแทนกันแน่.." 


    "นั่นก็เป็นความคิดที่ดี.. พอนายพูดมาฉันก็นึกออกพอดีเลยล่ะ" 


    วินาทีนั้นแอชเชอร์ก้าวขาเตรียมที่จะพุ่งเข้าไปหาไทเลอร์อย่างสุดจะทน แต่ก็ติดการ์เดียนตัวขาวปลอดที่แยกเขี้ยวขู่ทันทีเมื่อเห็นว่าจะมีคนเข้ามาทำร้ายร่างกายของเจ้านายมัน 


    "ถึงร็อคกี้จะไม่ค่อยกัดใคร แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่ชอบขบกระดูก..." 


    "ฉันชัดจะหมดความอดทนกับนายแล้วนะไทเลอร์" 


    "พอแล้วเชส! หยุดคิดจะให้เลสลีย์ดูร็อคกี้ได้เลย มันเป็นไปไม่ได้ นายก็รู้ว่าพวกหมาป่าถ้าไม่เลี้ยงมันมาตั้งแต่เล็กๆมันก็ไม่เชื่อฟังหรอก" 


    "อาจจะไม่เชื่อฟังเจ้านายใหม่ แต่ฉันมั่นใจว่ามันจะเชื่อฟังฉัน"


    คนอย่างแอชเชอร์ เลสลีย์ ไม่ใช่คนที่เชสจะประมาทได้ ช่วงเวลาที่ผ่านมาเชสเองก็เห็นว่าอีกฝ่ายนั้นเอาแต่ฝึกซ้อมร่างกายตัวเอง แถมยังหาทางหนีทีไล่เนียนๆเวลาอยู่กับโจชัว สายตาอยากรู้อยากเห็นพวกนั้นมันชัดเจนมากจนหัวหน้าหน่วยไม่สามารถมองข้ามได้ 


    "ก็ลองดู ว่าวิธีพวกนี้ของนายจะหยุดฉันได้จริงหรือเปล่า.." 


    ถ้าหากมีกระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นได้ยามที่แอชเชอร์และเชสจ้องตากัน  โจชัวก็ขอฟันธงเลยว่ามันจะเป็นกระแสไฟฟ้าแรงสูงที่ฟาดฟันกันไปข้างนึง ไม่มีใครยอมลงให้ใครแบบนี้ ท่าทางจะอยู่ยาก 


    "งั้นก็เชิญนายน้อยทดสอบได้เลย.."


    ทั้งชีวิตนี้ไม่ใครที่เรียกสกุลแอชเชอร์ และ เรียกคำว่านายน้อย ได้ประชดประชันเท่าไทเลอร์อีกแล้ว 


    "พึ่งนึกขึ้นได้เหรอว่านายควรเรียกฉันว่าอะไร" 


    "ก็แค่อยากย้ำความจำของนายก็เท่านั้น" แอชเชอร์เหลือบมองโจชัวที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ "ไม่ดีหรือ.."


    "อย่าเลยดีกว่า เพราะยังไงคำพูดพวกนี้มันคงไม่เหมาะกับหัวหน้าหน่วยของเดอะฮิลล์สักเท่าไหร่ สู้เอาไว้ถึงวันที่นายต้องคุกเข่าให้ฉัน วันนั้นคงจะดีกว่าถ้าฉันจะได้ยินคำนี้.."



    สุดท้ายแล้วแอชเชอร์ก็ต้องมีร็อคกี้คอยตามอยู่ใกล้ๆ ซึ่งเจ้าหมาป่าสีขาวนั่นก็ใช่ว่าจะชอบขี้หน้าแอชเชอร์ ดูจากสายตาที่ไม่เป็นมิตรก็พอจะรูุ้แล้วว่าคงจะมีร่างอวตารของไทเลอร์อยู่ในตัว มิหนำซ้ำอัลฟ่าแดนเหนือยังต้องจดจำการ์เดียนทั้งหมดให้ได้ เพื่อความปลอดภัยของตัวเองเวลาไปไหนมาไหน 


    ด้วยเหตุผลที่ว่าส่วนใหญ่แล้ว เดอะฮิลล์มักจะปล่อยให้การ์เดียนออกลาดตระเวนแทนการใช้คน อีกทั้งเจ้าหมาป่าพวกนี้ยังกินนอนอยู่ใกล้ๆกับบ้านพักของเชส ซึ่งแอชเชอร์ก็พึ่งค้นพบคำตอบของเสียงโซ่ที่ได้ยินมาตลอดหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา  


    "ปกติแล้วไทเลอร์ชอบปล่อยพวกมันตอนกลางคืน.."  


    นั่นคือสิ่งที่โจชัวบอกกับแอชเชอร์เอาไว้ก่อนจะแยกกัน 


    "คิดชื่อออกหรือยัง ว่าจะตั้งชื่อให้มันว่าอะไร?" 


    ไทเลอร์ที่เดินนำหน้า หันกลับมามองอัลฟ่าแดนเหนือที่กำลังอุ้มลูกหมาป่าไว้ในอ้อมอกอย่างกดดัน หลังจากที่เจ้าตัวยัดลูกหมาป่าสีเทาใส่มือเลสลีย์คนเล็กอย่างบังคับ  เห็นว่าเจ้าตัวได้มันมาตอนที่เข้าไปในป่าเมื่อช่วงสาย 


    "แล้วทำไมนายไม่ตั้ง นายเป็นคนเอามันมา.."


    "หูหนวกหรือเปล่าเลสลีย์ ฉันว่าฉันก็พูดแล้วนะว่าให้นายดูแล" คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างตำหนิ เมื่ออัลฟ่าแดนเหนือเถียงตัวเอง


    "ผีเข้าหรือไง ถึงมาทำดีกับฉัน" แอชเชอร์เหน็บเข้าให้


    "อย่างน้อยเจ้านี่ ก็จะเป็นเพื่อนนายได้ในวันข้างหน้า"


    "นี่นายจะให้ฉันมีเพื่อนเป็นหมางั้นเหรอ!"


    "หมาที่นายว่า มันคือเพื่อนซื่อสัตย์ที่สุดของนาย" 


    "...."


    "แดนเหนืออาจจะเลี้ยงพวกมันไว้ใช้งาน แต่เราไม่ได้เลี้ยงมันไว้ไปทาสรับใช้" 


    "ฉันก็ไม่ได้..."


    "เลี้ยงเจ้านี่เพิ่มอีกสักตัวจะเป็นอะไรไป หรือ หมาป่าที่แดนเหนือของนายมันเป็นโรคหวงเจ้าของ"


    "ชาลีเองก็หวงนาย.." หลังจากที่ได้รู้จักพวกการ์เดียนจนครบ แอชเชอร์ก็รู้ว่าหมาป่าตัวโตนั่นคือหมาป่าประจำตัวของเชส ที่ถูกเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กโดยเจ้าตัว มิน่า นิสัยถึงได้ถอดแบบกันมาไม่มีผิดเพี้ยน..


    "มันปกป้องทุกคนในเดอะฮิลล์ ไม่ใช่แค่ฉัน.." 


    "แล้วทำไมนายถึงยอมยกเจ้านี่ให้ฉัน ทั้งๆที่รู้ว่ามันจะต้องตามเจ้านายของมันไปทุกที่" 


    เชสมองใบหน้าของคนที่ถามตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะขยับริมฝีปากได้รูปตอบอย่างชัดเจนทุกคำพูด จนแอชเชอร์ได้แต่กระชับกอดเจ้าหมาป่าน้อยในอกเพิ่มมากขึ้น


    "เพราะนั่นคือสิ่งที่ฉันตั้งใจ..." 


    "ดูนายจะมั่นใจว่าฉันจะออกไปจากที่นี่ไม่ได้.." วินาทีนี้แอชเชอร์เองก็คงคิดหาเหตุผลของความตั้งใจอะไรไม่ได้ นอกจากเรื่องนี้


    "ก็คงพอๆกับความมั่นใจของนาย ที่จะออกไปจากที่นี่"


    "คนอย่างฉันไม่มีวันเอาตัวเองรอดคนเดียว.." 


    "น่าเสียใจจริงๆ" 


    ทว่าประโยคที่ไทเลอร์พูดกับแอชเชอร์ในครั้งนี้ มันกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่ได้แสร้งทำ เพื่อพูดจากระทบกระแทกเหมือนก่อนหน้า แววตาที่แสดงออกถึงความสงสารอย่างฉายชัดราวกับว่าแอชเชอร์เป็นคนที่ไม่รู้อะไร 


    "ยังไงฉันก็เชื่อว่าอาเธอร์จะต้องไม่เป็นอะไร"


    "รั้น"


    "...."


    "ถ้านายไม่ตั้งชื่อเจ้าหนูนี่ งั้นฉันจะตั้งเอง" ไทเลอร์วนกลับมาเรื่องชื่อของหมาป่าตัวเล็ก เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของแอชเชอร์ในทันที 


    "นายจะรีบอะไรขนาดนั้น"


    "เซเบอร์"


    "!!"


    "ให้เพื่อนนายชื่อเซเบอร์" 


    ถ้าจะตั้งเองตั้งแต่แรก ก็อย่ามาถามกันเลยดีกว่าไทเลอร์!! 

     









    ภายในห้องทำงานที่ถูกเปิดไฟไว้เพียงแค่ดวงเดียวพอให้มองเห็น ปรากฏร่างขางหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ที่กำลังนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด ในมือที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดมีกระดาษแผ่นเล็กบางอย่างที่ทำให้คิ้วเข้มขมวดแน่น 


    อัลฟ่าหนุ่มอ่านมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนขึ้นใจก่อนจะคิดทบทวนอย่างหนัก ในเนื้อความของจดหมายซึ่งส่งมาถึงมือของเชส ไทเลอร์ เมื่อตอนช่วงเช้าแต่เจ้าตัวพึ่งจะมีเวลาเปิดมันหลังจากทำหน้าที่ทุกอย่างในวันนี้เป็นที่เรียบร้อย


    ลายมือที่คุ้นเคยยังคงเป็นระเบียบสวยงาม อ่านได้สะดวกและง่ายดาย แต่กลับไม่ได้ทำให้ความรู้สึกของคนที่อ่านสบายใจ เปลือกตาสีเข้มปิดลงเพื่อใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลืมตาขึ้นมาเมื่อตัดสินใจทุกอย่างได้ 


    "ไปเอาความมั่นใจพวกนี้มาจากไหนกัน.."


    เชสพึมพำกับตัวเองเสียงเบา ก่อนจะอ่านเนื้อความในจดหมายเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่มันจะหายไป.. สถานการณ์ของเดอะฮิลล์มันดูสงบเสียจนไทเลอร์เองยังหวั่นว่าจะเกิดอะไรที่ไม่คาดคิด ช่วงหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา ทางฝั่งแดนเหนือเองก็ไม่มีท่าทีว่าจะมาต่อรองหรือเจรจาเรื่องแอชเชอร์อย่างที่คาดไว้ 


    จะว่ามันเป็นผลดีก็ใช่ แต่จะว่ามันเป็นผลเสียมันก็ใช่อีก 


    พายุหิมะอาจจะกำลังก่อตัวเพื่อรอวันถล่มก็ได้ ใครจะรู้.. 


    เรื่องที่แอชเชอร์อยู่ในเดอะฮิลล์ หน่วยกลางก็ไม่ได้รู้เรื่องด้วย ทุกอย่างในเดอะฮิลล์ถูกเชสสั่งให้ปิดปากเงียบไม่ให้แพร่งพรายออกไปข้างนอก  เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่หน่วยกลางรู้ว่าแดนใต้รับคนแดนเหนือเข้ามาอยู่อาศัยล่ะก็คงได้เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต 


    แผ่นกระดาษสีขาวที่เต็มไปด้วยรอยหมึกถูกจ่อเข้ากับไฟที่กำลังลุกไหม้ จนค่อยๆไหม้ไปทั่วทั้งแผ่น อักษรข้อความสุดท้ายของกระดาษสะท้อนในดวงตาของอัลฟ่าหนุ่ม ที่ยืนมองมันนิ่ง 


    'มีแค่นาย..' 


    ตัวอักษรที่ถูกเขียนด้วยลายมือบรรจงมอดไหม้ไปพร้อมกับเปลวไฟที่เผาพลาญ จนเหลือแค่เพียงขี้เถ้าที่ไม่สามารถนำกลับคืนมาได้ 
     

    "ทำไมต้องเป็นฉัน" 









    #youngmastermn










    ไม่ให้เค้ากลับแล้วให้หมาป่าเค้าทำไมอะเชส? หืมๆๆ




























Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in