เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
YOUNG MASTER #MINNOninezexsky
24



  •          "นายจะลองแลกกับฉันไหมล่ะ" 


    เชส ไทเลอร์ยังคงยืนสบตากับพี่ชายฝาแฝดของตัวเองด้วยสายตาท้าทายและยียวนอีกฝ่ายเต็มที่ ทางด้านคนที่ถูกตลบหลังอย่างไม่รู้ตัวนั้นก็ยังคงกัดฟันกรอดในขณะที่มือของเจ้าตัวนั้นก็กำเข้าหากันแน่นเสียจนเห็นเส้นเลือดปูดโปนอย่างชัดเจน


    “ว่าไงล่ะแมดส์รู้แบบนี้แล้วยังอยากจะลองแลกกับฉันอยู่อีกไหม” เชสเอ่ยถามแฝดพี่อีกครั้งเพื่อเร่งการตัดสินใจของหมาบ้าที่ใกล้คลั่งเต็มที่“ป่านนี้ข้างล่างคงจะปั่นป่วนกันน่าดูเพราะการมาของเยลเวอร์ตันนายว่างั้นไหม?”


    “ฉลาดในการเอาตัวรอดไม่เปลี่ยน” แมดส์เอ่ย


    “ถึงขนาดที่ทำให้คนอย่างนายยอมให้อยู่ใกล้ตัว มันคงเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาน่าดู..


    เชสพูดตามในสิ่งที่ตัวเองได้รับรู้มาก่อนหน้าจากราเชลที่อยู่โรสต์เมื่อหลายวันก่อนการแข่งขันนับว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเลยสักนิดหากพิจารณาลักษณะนิสัยของแมดส์ 


    คนที่มักจะเดินทางและทำอะไรด้วยตัวคนเดียวจะมีสักกี่เหตุผลกันที่ยอมเพิ่มภาระให้กับตัวเองด้วยการมีใครอีกคนร่วมในการเดินทาง


    “อย่าวุ่นวายเรื่องของฉัน”


    “แล้วใครที่แส่เรื่องของฉันก่อน”


    เชสตอบกลับแฝดพี่ในทันทีด้วยประโยคที่สะท้อนกลับเข้าหาตัวแมดส์ 


    ….


    “โทษตัวเองที่พลาดก็แล้วกัน :)”


    แมดส์ถ่มเลือดในปากตัวเองทิ้งอีกครั้งก่อนจะยกมือขึ้นเสยผมที่ปรกหน้าตัวเองด้วยความหงุดหงิดในขณะที่ใบหน้ายังคงฉายแววของความหงุดหงิดอย่างปิดไม่มิด


    “มั่นใจขนาดนั้นเลยหรือว่าเยลเวอร์ตันสำคัญกับฉันขนาดนั้น”


    “หากไม่สำคัญจริง ๆ จะทำให้นายสติหลุดได้ขนาดนี้หรือ..


    รอยยิ้มเย้ยหยันของเชสยังคงปั่นประสาทคนที่กำลังร้อนเป็นไฟให้เดือดพล่านยิ่งกว่าเดิมแต่หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์กลับเลือกเมินเฉยต่อความโกรธของแมดส์อย่างไม่คิดใส่ใจ


    “ฉันยังต้องเก็บโอเมก้านั่นไว้ต่อรองอีกเยอะ”


    “ก็หวังว่าสิ่งที่นายพูดจะเป็นเรื่องจริง” เพราะหากไม่ใช่ข้อต่อรองอย่างที่แมดส์ว่าแล้วจริงๆ เรื่องนี้คงสนุกน่าดูเชียวล่ะ “ขืนนายยังไม่รีบตัดสินใจตั้งแต่ตอนนี้ฉันก็ไม่รับประกันเหมือนกันนะว่าโอเมก้านั่นจะอยู่รอดปลอดภัยในเดอะฮิลล์”


    “ขู่ฉันหรือ?”


    “นี่ฉันทำแบบที่นายว่าไปหรือ”


    พลั่ก!


    ผลจากการยียวนและกวนประสาทคนหัวเสียจึงทำให้ไม่แปลกที่เชสจะโดนหมัดหนักๆ ของแมดส์ซัดเข้าที่ใบหน้าอย่างเต็มแรงอีกครั้งก่อนที่หมาบ้าที่กำลังคลั่งเต็มที่นั้นจะหุนหันพลันแล่นลงไปทางด้านล่างโดยไม่ได้พูดอะไรกับเชสต่อเลยสักคำ


    “ถ้าเป็นแค่ตัวต่อรองจริง ๆจะรีบวิ่งแจ้นไปขนาดนั้นทำไมกัน..เชสเอ่ยออกมาหลังจากที่ใช้หลังมือแตะซับเลือดที่มุมปากออกลวกๆ ก่อนจะหันกลับไปมองธงของหน่วยที่ยังคงอยู่ดีและไม่ได้ถูกดึงออกไปไหนสภาพสะบักสะบอมของลูฟคงจะทำให้เชสได้ยินเสียงโอดโอยของอัลฟ่าตัวสูงไปอีกเป็นอาทิตย์เป็นแน่


     หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ก็ได้แต่หวังว่าพวกที่อยู่ข้างล่างจะรับมือกับหมาบ้าที่กำลังคลั่งได้….

     


    *

     


    “นั่งลงเถอะเลสลีย์ เดินวนไปวนมาแบบนี้นายไม่เมื่อยบ้างหรือ”รีส เบลเลอมอนท์ ยังคงนั่งดื่มไวน์อย่างสบายอกสบายใจในยามที่เดอะฮิลล์กำลังวุ่นวายและมองคนรักของน้องชายที่ยังไม่ยอมหยุดเดินเสียที


    “นายไม่ห่วงเชสบ้างหรือ?”คนถูกทักหันกลับมาถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดไม่น้อย หากมองจากตรงนี้ขึ้นไปแม้จะเห็นเขาอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลแต่ก็ไม่ได้ช่วยทำให้เห็นอะไรมากเท่าไหร่นัก


    เกมชิงธงที่เริ่มต้นขึ้นไม่มีใครทราบได้ว่าสุดท้ายแล้วเกมนี้จะจบลงเช่นไรการฝึกที่ไม่ต่างจากการออกไปต่อสู้จริง ๆ คงไม่มีใครออมมือให้ใครทั้งนั้นและครั้งนี้ก็ดูจะเป็นเกมเดิมพันที่สูงทีเดียว


    “หมอนั่นเอาตัวรอดได้”


    “น้องชายนายนี่มันต่างกันลิบลับ”แอชเชอร์เอ่ยออกมาอย่างไม่คิดจะอ้อมค้อม “ฉันล่ะเชื่อที่เชสบอกเลยจริง ๆว่าคนแบบแมดส์ไม่น่าเข้าใกล้เลยสักนิด”


    “แล้วนายคิดว่าการที่คนหนึ่งเติบโตขึ้นมาเป็นทหารส่วนอีกคนเติบโตขึ้นมาเป็นนักฆ่า มันจะเหมือนกันตรงไหนได้” เบลเลอมอนท์เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ยินดียินร้ายกับคำกล่าวหาของแอชเชอร์


    “เชื่อเขาเลย..


    เป็นอีกครั้งที่รีสยื่นแก้วไวน์มาให้แอชเชอร์จนเจ้าตัวนั้นต้องรับมาอย่างเลี่ยงไม่ได้รสชาติของมันยังคงเป็นที่บาดคอของคนที่ไม่ชอบดื่มเช่นเคยแม้จะมีความหวานปนมาด้วยก็ตามแต่


    “เชสรู้ไหมว่านายไม่ถูกกับของพวกนี้”


    “คงไม่..”แอชเชอร์ส่ายหน้าปฏิเสธเมื่อเบลเลอมอนท์จะรินไวน์เพิ่มให้ตัวเอง“หยุดหาเรื่องแกล้งฉันสักทีเถอะ เบลเลอมอนท์”


    “ถ้านายอยู่ที่นี่มันก็คงเลี่ยงไม่ได้หรอกแอชเชอร์ไวน์ของเดอะฮิลล์เป็นสิ่งที่นายไม่ควรพลาด”


    “ถ้าเมื่อไหร่นายกลับฟลัมก็อย่าลืมขนมันไปก็แล้วกัน”แอชเชอร์ประชดเข้าให้จนรีสหัวเราะออกมาเสียงดัง


    “แหย่ไม่ได้เลยสินะนายเนี่ย”


    “เลิกกวนประสาทเถอะถือว่าฉันขอร้อง”


    คิดผิดจริง ๆที่แอชเชอร์เลือกมาอยู่กับรีสในตอนนี้เพราะนอกจากจะไม่ได้ช่วยอะไรแล้วยังสร้างความวุ่นวายให้มากขึ้นอีกด้วย


    “นายคงไม่ได้กำลังคิดว่าแมดส์จะชนะหรอกใช่ไหม?”รีสเอ่ยดักอย่างรู้ทันเมื่อเห็นร่องรอยความกังวลของแอชเชอร์ที่ยังคงไม่จางหายไปแม้รีสจะชวนพูดคุยเรื่องอื่นแล้วก็ตาม


    “แล้วมันแปลกหรือที่ฉันจะคิดแบบนั้น”แอชเชอร์ตอบ “ถ้าเป็นนักฆ่าก็คงไม่ใช่คนที่จะพลาดง่าย ๆ ”

    “น้องชายฉันคงเสียใจแย่ ถ้ามาได้ยินเข้า”คำพูดที่สวนกับรอยยิ้มของรีสนั้นชวนให้คนตัวขาวรำคาญตาไม่น้อย คงเพราะทั้งรีสและแอชเชอร์อยู่ด้วยกันเพียงสองคนจึงทำให้ทั้งคู่กล้าที่จะพูดคุยถึงสถานะที่แท้จริงของหัวหน้าหน่วยกับผู้ปกครองฟลัมได้โดยไม่ต้องระวัง“คนเรามันพลาดกันได้ทั้งนั้น”


    “นายใจเย็นเกินไป”


    รีส เบลเลอมอนท์ ส่ายหัวน้อย ๆกับท่าทางของแอชเชอร์ที่กระวนกระวายจนแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง


    “นั่งลงสงบสติอารมณ์แล้วเตรียมต้อนรับแขกจะดีกว่าแอชเชอร์” ผู้ปกครองฟลัมเอ่ย


    “แขก?”


    “หมากตัวสำคัญในเกมนี้ไงล่ะ”รอยยิ้มน่าขนลุกของเบลเลอมอนท์ยังชวนให้ไม่น่าไว้วางใจอยู่ดี แต่ถึงอย่างนั้นแอชเชอร์ก็เลือกที่จะนั่งลงตามคำบอกของอีกฝ่ายแล้วตั้งสติเพื่อระงับความฟุ้งซ่านในหัวของตัวเอง“อีกเดี๋ยวก็คงจะมาถึงที่นี่”


    “นายหมายความว่ายังไง?”

     

    ไม่นานหลังจากนั้นลาคลันก็เดินเข้ามาพร้อมกับผู้มาใหม่ที่ทำให้แอชเชอร์หันขวับไปมองในทันทีเพราะความผิดปกติที่เกิดขึ้นแอชเชอร์ไม่ได้ตกใจเท่าไหร่นักเมื่อเห็น ราเชล สแตนลีย์แต่ที่ทำให้ชวนสงสัยก็คือใครอีกคนที่เดินเข้ามาพร้อมกันนั่นต่างหาก


    เสี้ยวหน้าที่เห็นเพียงแค่ช่วงจมูกกับริมฝีปากจากการบดบังของผ้าที่คลุมศีรษะยังคงไม่สามารถปกปิดความพิเศษของใครคนนั้นได้


    ไม่ทันที่แอชเชอร์จะได้สงสัยอะไรต่อเกี่ยวกับบุคคลที่เข้ามาใหม่ผ้าคลุมที่เคยปกปิดเสี้ยวหน้าของอีกฝ่ายไว้ก็กลับถูกดึงออกช้า ๆ ด้วยฝีมือของเจ้าตัวจนเผยให้เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างเต็มตา


    ผิวขาวสะอาดที่แม้จะไม่ขาวจัดเท่าแอชเชอร์แต่ก็นับว่าขาวกว่าคนแดนใต้โดยปกติทั่วไปอย่างเห็นได้ชัดร่างกายผอมบางซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในเสื้อผ้าสีอ่อนและใบหน้างดงามไม่ต่างจากดอกไม้สีนวลตาเมื่อผลิบานนั้นให้ความรู้สึกที่น่าทะนุถนอมจนรับรู้ได้เส้นผมสีเข้มยังคงขับให้เห็นถึงความอ่อนเยาว์รับกับใบหน้าจิ้มลิ้มจนยากที่จะละสายตา


    มองปราดเดียวก็ทำให้แอชเชอร์รับรู้ได้ว่าคุณหนูเยลเวอร์ตันที่ว่ามีเพศรองเป็นโอเมก้าอย่างปฏิเสธไม่ได้ทุกอย่างที่เป็นเจ้าตัวมันชี้ชัดไปเสียหมด


    “ได้พบกันสักทีนะคุณหนูเยลเวอร์ตัน” 


    “เป็นเกียรติของเยลเวอร์ตันมากกว่าที่ได้พบกับเบลเลอมอนท์..


    แอชเชอร์หันหน้าไปมองรีสที่แสดงท่าทีสุภาพอ่อนน้อมจนผิดปกติกับคุณหนูโอเมก้านั่นแต่ทว่าปฏิกิริยาที่ได้รับการตอบรับมาจากคุณหนูที่ว่าก็ทำให้แอชเชอร์อดขำรีสไม่ได้ก็ในเมื่อมือที่ยื่นไปของเบลเลอมอนท์นั้นค้างอยู่กลางอากาศอย่างเก้อเขิน ด้วยเพราะคุณหนูนั่นถอยหลังหนีผู้ปกครองฟลัมจนแผ่นหลังไปติดกับอกของราเชลที่ยืนอยู่ด้านหลัง


    “อ่า..ลืมคิดไปเสียสนิทว่าคุณหนูคงไม่ชินกับการเข้าใกล้อัลฟ่าอย่างเรา” รีสเอ่ยพลางเหลือบมามองแอชเชอร์ที่ยังคงยืนนิ่งพิจารณาคุณหนูเยลเวอร์ตันอยู่เงียบๆ  “แต่คงไม่ใช่กับไทเลอร์


               “เรา”โอเมก้าตัวขาวเหมือนพยายามจะอ้าปากเถียงอะไรสักอย่างแต่ก็ต้องกลืนคำพูดลงไปในลำคออย่างช่วยไม่ได้เมื่อเจ้าตัวหันมาเห็นสายตาของแอชเชอร์ที่มองตัวเองด้วยสายตาเรียบนิ่ง


               อดีตอัลฟ่าแดนเหนือนั้นยืนกอดอกมองโอเมก้าแดนใต้รักษาท่าทีของตัวเองได้อย่างไม่มีบกพร่องใบหน้างดงามของอัลฟ่าผิวขาวจัดยังคงเชิดขึ้นเหมือนเช่นทุกครั้ง รวมไปถึงสายตากดดันไปยังคนถูกมองที่ส่งออกมายิ่งเสริมให้อีกฝ่ายดูมีอำนาจโดยที่ไม่ต้องพูดอะไรออกมา


                “นายเป็นอะไรกับแมดส์”


                คำถามที่ไม่มีความอ้อมค้อมใดๆ จากปากของแอชเชอร์ไม่ได้ทำให้รีสแปลกใจสักเท่าไหร่ความเป็นอัลฟ่าในตัวของแอชเชอร์คงกำลังพลุ่นพล่านน่าดูเมื่อเจอกับโอเมก้า คำบอกเล่าที่แอชเชอร์ไต่ถามรีสก่อนหน้านี้คงทำให้เจ้าตัวปะติปะต่อเรื่องของหมากตัวสุดท้ายในเกมได้ในทันที


                'อยากรู้ไหมล่ะว่าจุดอ่อนของ แมดส์ ไทเลอร์ คืออะไร?’


                 จุดอ่อนที่ไม่ใช่สิ่งของแต่กลับเป็นคนๆ หนึ่งที่เหนือความคาดหมายของแอชเชอร์ไปมากโข


                 เพียวโอเมก้าจากฮาร์เดนเจอร์นี่น่ะหรือจุดอ่อนของแมดส์ ไทเลอร์


                “เราไม่ได้เป็นอะไรกับไทเลอร์ทั้งนั้น..” คำตอบที่ได้จากโอเมก้าตัวขาวไม่ได้ทำให้แอชเชอร์เชื่อเลยสักนิดมันจะมีโอเมก้าสักกี่คนกันที่จะกล้ามาที่เดอะฮิลล์ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าที่นี่มีแต่อัลฟ่าและเบต้าจะเรียกว่าเป็นเขตอันตรายสำหรับโอเมก้าก็คงได้


                  “ฉันคงคิดมากไปจนลืมไปเสียสนิทว่าคนอย่างแมดส์คงไม่น่าจะ..” ยังไม่ทันที่แอชเชอร์จะได้พูดจบรีสก็เอ่ยขัดขึ้นมาจนทำให้แอชเชอร์จิ๊ปากเสียงดัง ในขณะที่คุณหนูเยลเวอร์ตันนั้นก้มหน้านิ่ง


                  “เจอนายก็ดีแล้วราเชลฉันว่าจะคุยกับนายเรื่องแร่ที่โรสต์อยู่พอดี” ผู้ปกครองฟลัมแสร้งเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยพลางส่งสายตาแกมบังคับให้เบต้าหนุ่มนั้นต้องเออออตกลงกับตัวเอง ก่อนที่จะส่งสายตาปรามแอชเชอร์ที่กำลังไล่ต้อนคุณหนูเยลเวอร์ตันทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าโอเมก้าตรงหน้านั้นมีความสัมพันธ์รูปแบบไหนกับแมดส์


                  “เรื่องแร่?”


                  “คุยที่นี่คงไม่สะดวกเท่าไหร่ฉันว่าไปคุยที่ห้องทำงานคงจะดีกว่า” เมื่อ รีส เบลเลอมอนท์พูดแบบนั้นแล้วมันก็เหมือนการบังคับกลาย ๆว่าราเชลจะต้องออกไปจากห้องนี้และทิ้งคุณหนูเยลเวอร์ตันไว้กับอดีตอัลฟ่าแดนเหนือ


                  เบต้าหนุ่มก้มมองโอเมก้าตัวขาวที่คว้ามือตัวเองไปจับไว้แน่นด้วยความกระอักกระอ่วนใจแค่การที่ราเชลละเมิดคำสั่งของ แมดส์ ไทเลอร์นั่นก็ว่าเป็นความคิดที่ผิดมหันต์แล้วนี่ยังจะต้องปล่อยเยลเวอร์ตันไว้กับคนอื่นอีก หากเรื่องถึงหูแมดส์ขึ้นมาล่ะก็คนที่น่าจะซวยมากที่สุดก็คงไม่พ้นราเชล


                  “แต่ว่าคุณหนู..


                  “นายคิดว่าแอชเชอร์จะทำอะไรเยลเวอร์ตันหรือ?”


                  เมื่อคุณหนูเยลเวอร์ตันได้ยินชื่อของใครอีกคนที่มองกดดันตัวเองอยู่เจ้าตัวก็เผลอเงยหน้าขึ้นสบตาเจ้าของผิวขาวจัดด้วยความสนใจในทันที


                  “เราอยู่ได้ราเชล..” โอเมก้าแดนใต้เอ่ยก่อนจะปล่อยมือออกจากราเชลพลางยกยิ้มเล็ก ๆที่มักจะมอบให้ใครต่อใครได้เห็นอยู่เสมอ


                 “แน่ใจหรือว่าคะ..


                  “ฉันมีมารยาทพอที่จะรับแขกราเชล” เจ้าของผิวขาวจัดเอ่ยด้วยน้ำเสียงโทนปกติ “แขกพิเศษแบบนี้จะไม่ให้ต้อนรับอย่างดีได้อย่างไร”


                 ยังไงเสียเธียร์ เยลเวอร์ตัน ก็คงต้องรู้จัก แมดส์ ไทเลอร์ ไม่มากก็น้อย


       เผลอ ๆอาจจะเป็นคนที่รู้จักหมาบ้านั่นดีกว่าใครด้วยซ้ำ


      คล้อยหลังจากที่ทั้งรีสและราเชลออกไปด้านนอกในห้องก็หลงเหลือแค่เพียงอัลฟ่าเจ้าของกลิ่นดอกดามัสก์และโอเมก้าเจ้าของกลิ่นดอกแม็กโนเลียคนต่างถิ่นในยามนี้ดูกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัดแต่ก็ยังพยายามที่จะยกยิ้มให้กับแอชเชอร์เพื่อลดความกังวลของตัวเอง


       “นายคงเดินทางมาเหนื่อย ๆ นั่งพักเสียก่อนสิ”คำเชื้อเชิญของแอชเชอร์ทำให้คนที่ยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่บริเวณกลางห้องมองตามมือขาวที่ผายไปยังเก้าอี้ซึ่งว่างอยู่


                 “ขอบคุณ..” อีกฝ่ายเอ่ยขอบคุณเสียงเบา แน่นอนว่าโอเมก้าที่อยู่ท่ามกลางคนซึ่งมีเพศรองคนละสภาพกับตัวเองย่อมวิตกกังวลเป็นธรรมดา


                 แอชเชอร์มองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่คิดจะลอบมองแต่อย่างใดพลางไล่พิจารณาอีกฝ่ายอีกครั้งด้วยความคิดที่ละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น หากไม่ใช่เพราะคำบอกเล่าของเบลเลอมอนท์เชื่อเถอะว่าแอชเชอร์ก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่าโอเมก้าตรงหน้าจะคือคนที่อยู่กับแมดส์ ไทเลอร์ ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้


      “ตื่นคนหรือ? ถึงได้ดูกระวนกระวายขนาดนี้.. อัลฟ่าเจ้าของผิวขาวเอ่ยถาม


                “ที่นี่มีแต่อัลฟ่าเต็มไปหมดตั้งแต่เข้ามาคนพวกนั้นเอาแต่มองเรา..” ถ้าไม่มองสิแปลก.. เพราะเพียงแค่เสี้ยวหน้าที่ถูกปกปิดมาเมื่อครู่มันก็ไม่ได้ช่วยให้อีกฝ่ายดูน่าสนใจน้อยลงสักนิด


       ทางด้านคนที่ถูกถามก็ยังคงหลบตาเจ้าของผิวขาวซีดอยู่เป็นระยะแม้แอชเชอร์จะไม่ได้สร้างความรู้สึกกดดันได้เทียบเท่าแมดส์แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเป็นอัลฟ่านั้นไม่ใช่เรื่องที่โอเมก้าจะคุ้นชินง่ายๆ


                “แต่ก็ใจกล้าไม่เบานี่ที่กล้าเข้ามาที่นี่”แอชเชอร์เป็นฝ่ายเอ่ยปากชวนสนทนา ในขณะที่เจ้าตัวนั้นทำเพียงแค่ทิ้งตัวลงนั่งบริเวณริมโต๊ะไม้ตัวใหญ่ซึ่งเป็นโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าคุณหนูเยลเวอร์ตัน“เดอะฮิลล์มักไม่ต้อนรับโอเมก้า นายก็น่าจะรู้ดี”


                “มันเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้และที่เรามาก็เพราะเห็นสมควรกับสิ่งที่ราเชลพูดไม่ใช่


                “แล้วรู้บ้างไหมว่าหมอนั่นมาทำอะไรที่นี่”แอชเชอร์ถามจี้ในทันทีก่อนที่อีกฝ่ายจะได้พูดจบ


                “เราก็พอรู้มาบ้างจากราเชล..” โอเมก้าแดนใต้ตอบได้ไม่เต็มเสียงนัก “แล้วก็รู้ด้วยว่าไทเลอร์กำลังจะสร้างความเดือดร้อนให้กับนายน่ะเลสลีย์


                สกุลที่ไม่ได้ถูกเรียกมาพักใหญ่ทำให้อัลฟ่าตัวขาวนั้นรับรู้ได้ทันทีว่าคุณหนูโอเมก้านี่คงรู้เรื่องตัวเองมาไม่มากก็น้อยถึงอย่างนั้นแอชเชอร์ก็ยังคงมองหน้าอีกฝ่ายนิ่งเมื่อบทสนทนานั้นถูกดึงกลับเข้ามาในเรื่องที่ยุบยิบในใจของอัลฟ่าตัวขาว


               “ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายจะสำคัญกับหมอนั่นมากแค่ไหนเพราะฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่เหมือนกันว่าคนแบบหมอนั่นจะห่วงนาย”


               คนฟังสะอึกไปไม่น้อยเมื่อได้ยินแบบนั้นจากปากของแอชเชอร์ฝ่ามือขาวของคุณหนูเยลเวอร์ตันถึงกับบีบหน้าขาของตัวเองแน่น


              “ไทเลอร์ไม่เคยห่วงเราอยู่แล้วมันคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร”


              ช่างเป็นคำพูดที่ดูฝืนทนเสียเหลือเกินในความรู้สึกของแอชเชอร์ไม่ว่าจะเหตุผลใดก็ตามแต่เจ้าตัวก็เดาได้เลยว่าโอเมก้าตรงหน้าตัวเองนั้นคงจะพบเจอกับนิสัยที่ร้ายเหลือทนของแมดส์มาไม่มากก็น้อยเพราะดวงตาที่เคยดูสดใสก่อนหน้านั้นกลับดูเศร้าจนจับใจเมื่อเอ่ยเช่นนั้นออกมารอยยิ้มขมขื่นที่ปรากฏบนใบหน้าก็ช่างดูกล้ำกลืน


    “แต่นายก็ยังเป็นห่วงหมอนั่นจนกล้าเข้ามาที่นี่อย่างนั้นน่ะหรือ”


    “เราแค่ไม่อยากให้เขาเจ็บตัว..” เยลเวอร์ตันเหมือนจะพูดอะไรต่อแต่ก็เลือกที่จะเงียบไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยถามอัลฟ่าตัวขาวต่อ“หวังว่าเขาคงจะไม่ได้ทำร้ายนายหรอกใช่ไหม..


    แอชเชอร์ยกยิ้มเล็ก ๆ เมื่อได้ยินคำถามเช่นนั้นก่อนที่ริมฝีปากบางจะเอ่ยคำตอบที่ทำให้คุณหนูเยลเวอร์ตันถึงกับผินหน้าหนีในทันที


    “แล้วนายว่าการที่หมอนั่นจูบฉันมันสามารถเรียกว่าเป็นการทำร้ายได้หรือเปล่า..


    “….


    ปฏิกิริยาที่เห็นได้ชัดของเยลเวอร์ตันทำให้แอชเชอร์แทบไม่ต้องคิดแล้วว่าความสัมพันธ์ที่น่าสงสัยที่ว่านั่นเป็นเรื่องจริงหรือแค่คิดไปเอง


    “จูบ..


    โอเมก้าตัวขาวพึมพำกับตัวเองในขณะที่เหม่อมองที่พื้นห้องพลางเม้มปากตัวเองแน่นก่อนจะหันกลับมาสบตากับอัลฟ่าผิวขาวด้วยดวงตาที่เริ่มแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด


    “ถ้าตอนนั้นเชสไม่เข้ามา ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะหยุดแค่นั้นไหม”


    “นั่นสินะ..


    “เท่าที่รู้มาจากเบลเลอมอนท์นายเองก็คงจะลำบากไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะในตอนนี้”


    “นายรู้?”


    “ฉันว่ามันคงไม่ดีเท่าไหร่สำหรับโอเมก้าอย่างนายที่จะอยู่กับทรูอัลฟ่าแบบนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้ถ้าเราถูกควบคุมด้วยสัญชาตญาณ..” มือขาวของแอชเชอร์เชยใบหน้าจิ้มลิ้มของเธียร์ขึ้นมามองชัดๆ ก่อนที่เจ้าของใบหน้ารูปสลักจะโน้มใบหน้าลงไปใกล้เสียจนได้ยินเสียงลมหายใจ “อย่างเช่นถ้าตอนนี้ฉันจูบนายขึ้นมา..


    แววตาที่ไหวสั่นระริกกับหยดน้ำสีใสที่คลอหน่วงของเยลเวอร์ตันล้วนเกิดจากความหวาดกลัวทั้งสิ้นเมื่อแอชเชอร์เริ่มไล่รุกอีกฝ่ายจนแทบจนมุม


    “นายพูดถูกเราควบคุมมันไม่ได้”


    ถึงอย่างนั้น เธียร์ เยลเวอร์ตันก็ยังคงเอ่ยตอบแอชเชอร์ด้วยเสียงที่เบาหวิว เปลือกตาสีอ่อนปิดลงในทันทีเมื่อแอชเชอร์โน้มใบหน้าลงเข้าไปใกล้เสียจนริมฝีปากบางนั้นแตะที่เส้นผมสีเข้มซึ่งปรกใบหน้าจิ้มลิ้ม


    “มาพนันกันดีไหมล่ะเยลเวอร์ตันว่า แมดส์ ไทเลอร์จะเลือกอะไรระหว่างกำจัดฉันหรือเลือกนาย”


    ….


    “หรือไม่อย่างนั้น นายก็เลือกเอาว่าอยากเป็นอิสระจากแมดส์ ไทเลอร์ กันดี เยลเวอร์ตัน”  


    “เราก็พึ่งเข้าใจก็วันนี้จริง ๆ ว่าประโยชน์ของเราคงมีค่าแค่เป็นตัวต่อรอง


    เธียร์เยลเวอร์ตัน จะเป็นตัวต่อรองหรือตัวอะไรก็คงขึ้นอยู่กับ แมดส์ ไทเลอร์ ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับใคร

     


    *

     


    “นายทำอะไรสักอย่างเถอะเบลเลอมอนท์ไม่เห็นหรือไงว่าเยลเวอร์ตันกำลังแย่!


    อัลฟ่าตัวขาวหันไปร้องบอกผู้ปกครองฟลัมที่ยังคงเอาแต่ยืนเฉยเมยราวกับไม่คิดจะเข้าไปยุ่งกับเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นตรงหน้าทันทีที่แมดส์ออกมาจากเกมชิงธงทั้งที่ยังแข่งไม่จบก็เป็นเครื่องยืนยันอย่างดีได้เลยว่าหมากตัวสุดท้ายในเกมที่รีส เบลเลอมอนท์ ว่านั้นมีอิทธิพลกับหมาบ้าที่กำลังคลั่งอยู่มากแค่ไหน


    สภาพที่ยับเยินไม่น้อยของ แมดส์ ไทเลอร์ไม่ได้ทำให้เจ้าตัวนั้นเหลือเรี่ยวแรงน้อยเลยสักนิดออกจะตรงข้ามเสียด้วยที่หมาบ้าอย่างแมดส์นั้นอาละวาดจนไม่มีใครคิดจะกล้าเข้าไปใกล้คงไม่มีใครอยากจะเจ็บตัวจากคนที่กำลังคลั่งแน่นอน


    “ถ้ามันบ้าก็ปล่อยให้มันบ้าไป”รีสตอบกลับแอชเชอร์และเลือกที่จะยืนดูเงียบ ๆ “จะปั่นประสาทคนแบบหมอนั่นก็อย่ามัวแต่คิดจะใจอ่อนเพียงเพราะแค่สงสารเยลเวอร์ตัน”


    ถึงจะอยากเอาคืนแมดส์มากสักแค่ไหนแต่เมื่อแอชเชอร์เห็นโอเมก้าตัวขาวนั้นส่งสายตาอ้อนวอนมาที่ตัวเองมันก็กลับทำให้เจ้าตัวรู้สึกสงสารคนที่ต้องถูกเอามาล้อเล่นกับความรู้สึกอย่างช่วยไม่ได้


    “ฉันไม่ได้เหมือนนาย”


    “นายเองก็เคยเจอเหตุการณ์คล้าย ๆ แบบนี้จำไม่ได้หรือ”การปั่นประสาทของเบลเลอมอนท์ในครั้งที่แล้วนั้นถือเป็นการวัดใจครั้งสำคัญเสียด้วยซ้ำสำหรับความสัมพันธ์ของแอชเชอร์และเชสว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป


    “ฉันจำได้ดีและไม่เคยลืมแต่นายอย่าลืมว่าฉันกับเชสไม่ได้เหมือนสองคนนั้น”


    “แมดส์ไม่มีทางกล้าทำอะไรคุณหนูเยลเวอร์ตันหรอก”ความมั่นใจของ รีส เบลเลอมอนท์ ช่างเป็นเรื่องที่ไม่น่าเสี่ยงเลยสักนิด


    อดีตอัลฟ่าแดนเหนือหันกลับไปมองเหตุการณ์ตรงหน้าอีกครั้งด้วยความรู้สึกที่กำลังสับสนเต็มทีราเชลที่ถูกทำร้ายจนเรียกได้ว่าแทบลุกไม่ขึ้นนั้นก็เป็นผลมาจากหมาบ้าที่กำลังคลั่งจนตัวสั่น


    ขนาดราเชลที่เป็นแค่คนพาเยลเวอร์ตันมาเดอะฮิลล์ยังอ่วมเสียขนาดนี้แล้ว เชส ไทเลอร์ ที่เป็นตัวต้นเรื่องนี้ล่ะจะเป็นอย่างไรบ้างยิ่งคิดก็ยิ่งรังแต่จะสร้างความกังวลให้กับแอชเชอร์เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็ยากจะจัดการส่วนหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ที่ยังไม่กลับลงมาก็น่าเป็นห่วงไม่แพ้กัน


    “ใครอนุญาตให้นายมาเดอะฮิลล์กัน!


    “นายบอกเราว่าให้รอแต่นายก็ไม่ได้ห้ามเรามาเดอะฮิลล์เสียหน่อย!


    เสียงของเยลเวอร์ตันที่ดังขึ้นทำให้แอชเชอร์แปลกใจเอามากๆ ว่าคุณหนูโอเมก้านั่นจะกล้าขึ้นเสียงใส่แมดส์ได้ขนาดนี้


    “เธียร์!


    แมดส์ ไทเลอร์เรียกชื่อจริงของคนที่เถียงตัวเองให้ลั่นเพราะความฉุนจัด และก็น่ากลัวเหลือเกินว่าข้อมือเล็กของคนตัวบางนั้นจะหักคามือแมดส์เข้าในอีกไม่ช้าหากหมาบ้านั่นยังเอาแต่บีบแขนอีกฝ่ายแน่นเสียขนาดนั้น


    “ถ้าเราไม่มาที่นี่เราจะรู้หรือว่านายกำลังทำเรื่องพวกนี้”


    “มันไม่เกี่ยวกับนาย


    หมาบ้าตัวนี้นี่มันใจร้ายกับคนที่เป็นห่วงตัวเองจริงๆ


    “ถ้าเรารู้ว่านายจะยังเป็นแบบนี้วันนั้นเราจะไม่เชื่อนายอีกไทเลอร์!


    “แล้วฉันขอให้นายเชื่อหรือ


    “คนอย่างนายมันก็ไม่น่าคาดหวังอะไรอยู่แล้วตั้งแต่แรก”


    ….


    “ขนาดความเป็นห่วงของเรานายยังมองข้าม”



    “หรือเพราะความเป็นห่วงของเรา มันคือการสร้างความเดือดร้อนให้นายกันแน่แมดส์

     


    “ฉันจะไปดูเชส”แอชเชอร์ตัดสินใจหันไปบอกผู้ปกครองฟลัม ก่อนที่จะรีบวิ่งออกมาจากตรงนั้นเพื่อตรงออกจากหน่วยไปยังเขาลูกที่เป็นสถานที่แข่งชิงธงในครั้งนี้  ณเวลานี้ใครจะยังไงก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นเรื่องของคนนั้นเพราะตัวของแอชเชอร์เองก็ยังมีเรื่องให้ต้องกังวลอีกเหมือนกัน


    “ตลบหลังแมดส์ไว้แสบขนาดนี้ ป่านนี้เชสมันโดนโยนลงเขามาแล้วล่ะมั้ง”


    ให้ตายเถอะ ถ้าจะไม่ช่วยให้ความหวังก็อย่าปากเสียเลยดีกว่าเบลเลอมอนท์


    “ถ้าเป็นแบบนั้นจริงฉันนี่ล่ะจะกลับมาโยนนายตามลงไป”


    เสียงหัวเราะของรีสที่ไล่ตามหลังมาแม้จะปั่นประสาทมากแค่ไหนแต่แอชเชอร์ก็ต้องสลัดมันให้หลุดเพื่อให้ความสนใจกับสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำในตอนนี้


    เจ้าตัวจำได้ว่าเคยขึ้นมาที่นี่เพียงแค่ครั้งเดียวในตอนที่เชสพาเจ้าตัวขึ้นมาดูดาวด้านบนนี้และนั่นก็เป็นตอนกลางคืนเสียด้วยแน่นอนว่ามันไม่ใช่เส้นทางที่แอชเชอร์คุ้นเคยสักนิด


    แฮ่ก ๆ ๆ


    เสียงหอบหายใจหนักด้านหลังทำให้แอชเชอร์หันไปมองในทันทีก่อนจะพบกับชาลีที่วิ่งตามตัวเองออกมาจนเจ้าตัวได้แต่สงสัยว่าใครเป็นคนปล่อยมันออกมาเพราะในเมื่อแอชเชอร์จำได้ดีว่าเมื่อเช้าหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์เป็นคนใส่ปลอกคอไว้ที่คอของมันเอง


    “ชาลี..


    จ่าฝูงของเกรย์วูล์ฟมองมาที่แอชเชอร์เพียงเล็กน้อยก่อนจะวิ่งนำเจ้าตัวไปเพื่อเป็นการบอกทางที่เจ้าตัวสมควรจะไปจมูกของมันยังคงดมกลิ่นไปเรื่อยและพาแอชเชอร์ลัดเลาะเข้ามาในป่าตัดขึ้นไปบนเขาที่ทำให้แอชเชอร์เห็นคนในหน่วยหลายคนนั้นกำลังทยอยถูกหามตัวลงมาบ้างก็พยุงกันลงมาเอง บ้างก็ต้องให้คนที่ไม่ได้แข่งในครั้งนี้เข้าไปช่วย แต่ก็ดูจะไร้เงาของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ไปเสียหมด


    “แล้วเชสล่ะ?” แอชเชอร์ตัดสินใจหยุดถามอัลฟ่าในหน่วยที่อาการไม่แย่นักแต่คำตอบที่ได้รับก็ทำให้อัลฟ่าตัวขาวเผลอสบถออกมาด้วยความงุ่นง่านจนสุดท้ายเจ้าตัวก็ต้องตัดสินใจตามชาลีไปจริง ๆ แทนที่จะพึ่งคนในหน่วย


    พื้นดินที่เฉอะแฉะทำให้การเดินค่อนข้างลำบากไม่น้อยจนทำให้แอชเชอร์นั้นหวิดจะลื่นล้มอยู่หลายครั้งต้นไม้ที่หนาทึบมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามทางนั้นดูไม่น่าไว้ใจเลยสักนิดแต่เพราะชาลียังเดินหน้าต่อจึงทำให้แอชเชอร์เลือกที่จะเชื่อและตามมันไปด้วยความหวัง


    แว่วเสียงร้องของชาลีที่วิ่งอยู่ด้านหน้าราวกับดีใจทำให้แอชเชอร์ที่เดินตามมาทางด้านหลังนั้นรู้สึกมีความหวังขึ้นมาจริงๆ


    “ชาลี”


    เสียงคุ้นเคยของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ที่ดังขึ้นแม้จะไม่ดังมากแต่ก็ทำให้แอชเชอร์นั้นได้ยินอย่างชัดเจนคงเรียกได้ว่าเป็นความหวังที่เป็นจริง


    “เชส


    เชส ไทเลอร์ ที่เดินลงมาพร้อมกับเชอร์ชิลตัวสูงที่ถูกใครสักคนในหน่วยพยุงอยู่เงยหน้าขึ้นมามองตามเสียงเรียกในทันทีหลังจากที่เจ้าตัวนั้นให้ความสนใจกับชาลีที่โผล่มาหาตัวเองทั้งที่ควรจะอยู่ในหน่วย


    “บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าให้รออยู่ข้างล่าง”หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ปล่อยให้คนในหน่วยพาเชอร์ชิลลงไปด้านล่างก่อน ส่วนตัวเองนั้นเลือกที่จะหยุดยืนคุยกับอัลฟ่าตัวขาวที่ดื้อดึงขึ้นมาบนนี้


    “เพราะนายไม่ยอมลงไปสักทีฉันถึงต้องขึ้นมานี่ไง” แอชเชอร์เถียงก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนสะอาดที่อยู่ในกระเป่าเสื้อของตัวเองซับไปตามใบหน้าของเชสตามรอยที่เลือดไหลซิบออกมา“สภาพดูไม่จืดเลยจริง ๆ ”


    “ปากว่าฉันแล้วทำไมยังมาทำตาแดง ๆ ใส่กันล่ะ” คนถูกล้อกดน้ำหนักมือลงผ้าเช็ดหน้าที่กำลังเช็ดหน้าเชาอยู่เพิ่มขึ้นจนเชสเบ้หน้าเพราะความเจ็บ


    “ใช่เวลามาหยอกหรือไงเชส” แอชเชอร์ล่ะอยากจะทุบอีกฝ่ายจริงๆ ที่ยังทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่ได้ทั้งที่เจ็บตัวเสียขนาดนี้ “เจ็บขนาดนี้ยังจะมาล้อเล่น”


    “หมาบ้ามันลงไปอาละวาดข้างล่าง เป็นยังไงบ้างล่ะ”


    “ราเชลคงกลับโรสต์ไม่ได้ในเร็ว ๆ นี้”


    คิดไม่ผิดเลยจริง ๆว่าคนที่จะโดนแมดส์จัดการเป็นคนแรก ๆ จะเป็นใคร เพราะ ราเชล สแตนลีย์คือคนที่แมดส์ฝากให้ดูแลโอเมก้าที่มากับตนเอง แต่เจ้าตัวนั้นดันส่งจดหมายมาบอกเชสตั้งแต่ช่วงแรกที่แมดส์โผล่มาเดอะฮิลล์น่าจะเป็นช่วงตอนที่เชสกลับมาจากแบล็คฟอเรสต์นั่นล่ะจดหมายที่วางอยู่บนโต๊ะและยังไม่ได้ถูกเปิดอ่านนั้นใครจะคิดกันว่ามันจะทำให้เชสมั่นใจเพิ่มขึ้นไปกว่าเดิมว่าจะจัดการหมาบ้าได้อยู่หมัด


    “ถ้าไม่ใช่เพราะโอเมก้าจากฮาร์เดนเจอร์ ฉันคงต้องเหนื่อยกัดกับหมอนั่นเป็นบ้า”


    หมัดสุดท้ายที่ แมดส์ ไทเลอร์ซัดเข้าที่ใบหน้าของเชสนั้นนับว่าหนักกว่าครั้งไหน ๆจนเล่นเอามึนไปชั่วครู่เหมือนกัน


    “เยลเวอร์ตันไม่น่าอยู่กับหมอนั่นได้เลยจริง ๆ ”


    “เจอกันแล้วสินะ” แอชเชอร์หยุดมือที่กำลังเช็ดคราบเลือดและคราบสกปรกบนใบหน้าของอีกฝ่ายก่อนจะเอ่ยตอบ


    “ก็แกล้งเล่นไปนิดหน่อยแต่กลับรู้สึกผิดชะมัด”


    “แกล้ง?”


    “ฉันก็อยากแน่ใจเหมือนกันว่าคนอย่างพี่ชายนายจะรักคนอื่นเป็น..


    “วิ่งแจ้นลงไปเสียขนาดนั้น ถ้าไม่สำคัญก็คงไม่ทำหรอก”


    “แต่โอเมก้านั่นพูดเหมือนว่าแมดส์ใช้เขาเป็นข้อต่อรองอะไรสักอย่าง”


    ….


    “นายก็น่าจะรู้ว่าการที่ทรูอัลฟ่ากับโอเมก้าอยู่ใกล้ชิดกันมันไม่ใช่เรื่องที่สมควรเลยสักนิด”


    “เพียวโอเมก้าต่างหาก”


    “เพียวโอเมก้าหรือ?”


    “จะอย่างไรก็ช่างเถอะ แค่ตอนนี้นายยังอยู่กับฉันก็พอ”คำหวานที่ออกมาจากปากหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์นั้นทำให้แอชเชอร์แอบเม้มปากด้วยความประหม่า


    “นายให้ฉันเป็นคนของแดนใต้แล้ว จะกลับไปง่าย ๆได้ยังไงกัน”


    “ถ้าไม่ติดว่าทำหน้างอใส่ฉันก็จะคิดแล้วนะว่านายกำลังอ้อนฉันอยู่”


    “อย่ามามั่วน่าเชส โดนต่อยจนสมองกลับหรือไง”แอชเชอร์แหวเข้าให้กับคำพูดคำจาของเชส


    นอกจากเชสจะไม่สนใจสิ่งที่แอชเชอร์ว่าแล้ววงแขนแข็งแรงของหัวหน้าหน่วยก็เนียนโอบรอบเอวได้รูปของเลสลีย์ก่อนที่ปลายจมูกจะกดลงบนกลุ่มผมสีอ่อนเบาๆ ให้พอได้กลิ่นหอมชื่นใจจากเจ้าของกลิ่นกุหลาบดามัสก์


    “กลิ่นของฉันที่ผสมกับกลิ่นของนายมันเข้ากันได้ดีจริงๆ เลยคนดี


    ยิ่งยืนอยู่ท่ามกลางบรรยากาศหลังฝนตกประกอบกับไอดินและผืนป่าที่ลอยขึ้นมาก็ชวนให้อดที่จะสูดดมจนเต็มปอดอย่างเสียไม่ได้


    “แล้วมันดีสู้ตอนที่นายกอดฉันได้ไหมล่ะเชส”


    รอยยิ้มทะเล้นของแอชเชอร์ทำให้หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์เอื้อมมือมาขยี้กลุ่มผมสีอ่อนของอีกฝ่ายด้วยความมันเขี้ยว


    “งั้นคงต้องขอลองพิสูจน์อีกสักครั้ง..


    “เกรงใจชาลีที่นั่งมองอยู่หน่อยก็ดีนะเชส”


    แอชเชอร์หันไปมองเกรย์วูล์ฟตัวใหญ่ที่นั่งสองขามองเจ้านายของตัวเองทันทีที่มันได้ยินชื่อของตัวเองก็ทำให้ชาลีนั้นเอียงคอมองก่อนจะกระดิกหางส่ายไปมา


    “อยากได้เจ้านายใหม่เพิ่มแล้วล่ะสิชาลี”


    “เชส!!


    คงไม่ต้องถามกันหรอกว่าเจ้านายใหม่ที่เชสว่านั้นคือใครแต่ที่แน่ ๆ คงไม่ใช่แอชเชอร์อย่างแน่นอน

     


    *

     


    หลังจากที่เชสลงมาจากเขาพร้อมกับแอชเชอร์ก็ต้องปวดหัวเป็นอย่างมากกับสภาพในหน่วยที่เละเทะไปบางส่วนเพราะหมาบ้าที่คลั่งจนอาละวาดให้ทั่วไปหมดทั้งตัวแมดส์และโอเมก้าจากแดนใต้นั้นต่างก็หายไปแต่ตามคำบอกเล่าของรีสที่เฝ้าดูอยู่เจ้าตัวก็เพียงแค่บอกว่าให้มันเป็นเรื่องของสองคนนั้น ครั้นจะให้เชสเข้าไปยุ่งเพิ่มอีกก็เห็นแต่จะสร้างปัญหา


    เพราะแค่ตัวปัญหานั้นเจอปัญหาก็เรียกได้ว่าคลั่งเอาเรื่องน่าดู


    “ยังไม่หลับอีกหรือ?”


    ภายในห้องนอนของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ที่หลงเหลือแสงสว่างพอให้เห็นรำไรจากแสงของดวงจันทร์ในยามค่ำคืนทำให้ทรูอัลฟ่าหนุ่มนั้นสามารถมองเห็นใบหน้าของคนที่นอนตะแคงข้างเข้าหาตัวเองได้อย่างไม่ยากอัลฟ่าตัวขาวที่ยังคงลืมตาใสแจ๋วจ้องหน้ากันนั้นทำให้เชสอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกไป


    “นายก็นอนไปสิ”


    แอชเชอร์ตอบอีกฝ่ายไปเพียงเท่านั้นโดยที่ยังไม่ละสายตาจากเชสก่อนที่จะต้องหลุดร้องออกมาเสียงเบาเมื่อจู่ ๆ เชส ไทเลอร์ก็คว้าเอวของตัวเองเข้ามากอดจนทำให้จมูกโด่งของคนตัวขาวนั้นชนกับปลายจมูกของไทเลอร์จากเดิมที่ว่าอยู่ใกล้แล้วก็ยิ่งใกล้ชิดกว่าเดิมจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงหัวใจที่กำลังเต้น


    “ปกติชิ่งหลับก่อนฉันทุกที แบบนี้มันปกติเสียที่ไหนกัน..


    ไทเลอร์อดเอาความจริงมาพูดไม่ได้


    “แล้วมองไม่ได้หรือไง” คนตัวขาวยังคงเถียงทรูอัลฟ่าหนุ่มก่อนจะมือขึ้นดันอกของเชสเมื่อปลายจมูกของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์นั้นเลื่อนมาคลอเคลียอยู่บริเวณผิวแก้มของตัวเอง


    “ทำไมจะมองไม่ได้กันล่ะ” ฝ่ามือขาวที่เคยดันอกของเชสถูกกอบกุมเบาๆ ด้วยฝีมือของเชส ในขณะที่ปลายจมูกของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์เองก็กดปลายจมูกลงบนแก้มเนียนจนเกิดเสียงดังฟอดใหญ่


    ฟอด


    “นี่!” แอชเชอร์แหวทันทีเมื่อถูกอีกฝ่ายแกล้งเข้าให้


    “หอม..ทรูอัลฟ่าหนุ่มเอ่ยเพียงแค่นั้น ถึงจะเป็นแค่เพียงแค่คำสั้น ๆแต่เมื่อหลอมรวมไปกับสายตาของเชสที่ทอดมองมาที่แอชเชอร์ในตอนนี้แล้วมันก็ยิ่งทำให้คนที่ได้รับฟังนั้นกะพริบตาปริบๆ  “ตรงนี้ก็ยิ่งหวาน..


    ริมฝีปากอุ่นที่ไล่มาแตะประทับสัมผัสช้า ๆ ที่ริมฝีปากบางพร้อมกับเอ่ยคำหวานก็ยิ่งทำให้แอชเชอร์แทบอยากจะลุกจากเตียงมันเสียเดี๋ยวนี้แต่ก็ติดที่ร่างกายของตัวเองนั้นโดนอีกฝ่ายกักขังไว้เรียบร้อยอย่างสมบูรณ์


    “ไม่ให้จูบหรอกนะ อย่ามาหลอกล่อกันเสียให้ยาก”แอชเชอร์เอ่ยดักคนเจ้าเล่ห์ตรงหน้าในทันที


    “นึกว่าจะเคลิ้มเสียอีก”คำพูดคำจาชวนให้น่าโดนทุบสักทีนี่มันคงแก้ไม่หายจริง ๆ สำหรับคนอย่าง เชส ไทเลอร์ ไหนจะรอยยิ้มทะเล้นพวกนั้นอีก


    “อย่ามาหลอกกันให้ยากเลยเชส”


    “แน่ใจหรือว่าไม่อยากจูบจริง..” เชส ไทเลอร์ ยังคงไม่เลิกแกล้งคนตัวขาว


    “ไม่อยากจูบแต่อยากกอดต่างหากล่ะ” เมื่อพูดจบอดีตอัลฟ่าแดนเหนือก็ยกแขนของตัวเองโอบกอดเอวสอบของทรูอัลฟ่าเจ้าของกลิ่นไม้ซีดาร์ “ขอบคุณมากจริง ๆที่นายไม่ได้เจ็บตัวไปมากกว่านี้”


    เชสปล่อยให้คนตัวขาวถดตัวลงไปซุกใบหน้าอยู่ระดับอกของตัวเองก่อนจะลูบกลุ่มผมนุ่มของคนที่กำลังออดอ้อนตัวเองอยู่เงียบๆ   


    “ใครจะผิดสัญญาที่ให้ไว้กับนายกัน”


    “คำตอบนี้เรียกว่าเอาใจได้หรือเปล่านะ”


    “ก็คงมีไว้เอาใจนายคนเดียวล่ะคนดี


    “แต่ยังไงฉันก็รู้สึกขอบคุณนายอยู่ดี..” แอชเชอร์ไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องอธิบายอย่างไรกับความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้“ขอบคุณสำหรับทุกเรื่องที่ผ่านมา… การมีนายอยู่ข้าง ๆมันทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยเหลือเกิน”


    ….


    “ความรู้สึกของการที่ไม่ต้องพยายามทำให้ตัวเองเป็นคนที่ถูกรักมันคือสิ่งที่ฉันเคยคิดว่าสักวันมันอาจจะเกิดขึ้นกับฉันแต่ก็ไม่เคยได้คาดหวังว่ามันจะเป็นจริง”


    หลายสิ่งหลายอย่างที่แอชเชอร์ต้องพยายามทำเพื่อให้ตัวเองเป็นที่รักมันก็ไม่ต่างจากบาดแผลเล็กๆ ที่นับวันยิ่งลุกลามจนกลายเป็นบาดแผลขนาดใหญ่ จนกลายเป็นความเจ็บปวดที่บาดลึกอยู่ในทุกช่วงเวลาที่อยู่แดนเหนือต่อให้ลองมองย้อนกลับไปในตอนนี้มันก็ยังคงเป็นความเสียใจที่สร้างแผลเป็นให้กับแอชเชอร์อยู่ดี


    ใครจะคิดกันล่ะว่าวันหนึ่งชีวิตที่เคยเป็นอยู่ของตัวเองจะพลิกผันได้ขนาดนี้


    ความโดดเดี่ยวที่ถูกเติมเต็มนั้นไม่ได้มาจากเพียงแค่เชส ไทเลอร์ คนเดียว ความสัมพันธ์ในรูปแบบของมิตรภาพที่ได้รับจากทั้งเชอร์ชิลคาร์ลิน เมอร์เรย์ หรือจะเป็นใครหลายคนในหน่วยเองที่ดีกับแอชเชอร์ ก็ทำให้เจ้าตัวนั้นรู้สึกถึงการมีตัวตนของตัวเองที่ไม่ได้เป็นผลพวงมาจากตำแหน่งหรือฐานะ


    หลายอย่างในเดอะฮิลล์ทำให้เขาได้มองเห็นมุมมองอะไรใหม่ๆ มันสะท้อนให้แอชเชอร์เห็นอะไรได้ชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิมในชีวิตที่แสนจำเจของตัวเอง


    “หากมันเจ็บปวดที่จะรื้อฟื้นก็เก็บมันไว้เสียเถอะแอช..


    ….


    “การเริ่มต้นใหม่ยังมีอะไรให้นายได้จดจำและเก็บเป็นความรู้สึกดีๆ อีกเยอะ”


    .…


    “อย่าให้ความรู้สึกไม่ดีเพียงแค่ไม่กี่เรื่องพวกนั้นมาทำให้นายไม่กล้าที่จะก้าวต่อ”


    “อื้อ..


    เสียงตอบรับจากคนที่ซุกใบหน้าอยู่บริเวณหน้าอกของเชสยังคงไม่ชัดเจนเท่ากับแรงกอดที่เพิ่มมากขึ้นจนกลายเป็นว่าทั้งคู่นั้นกอดกันแนบแน่นเสียจนรับรู้ถึงความอุ่นร้อนของร่างกายที่ถ่ายเทซึ่งกันและกัน


    กลีบดอกกุหลาบดามัสก์ที่ซ้อนทับนับชั้นไม่ถ้วนกันจนเกิดเป็นความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์คงไม่ต่างจากความเป็นแอชเชอร์ที่ถูกหล่อหลอมขึ้นมาจากทั้งเรื่องดีและเรื่องเลวร้ายจนกลายเป็นกลีบดอกที่ซ่อนความงดงามแท้จริงที่อยู่ภายใน


    จากต้นดอกกุหลาบดามัสก์ที่ใกล้จะยืนต้นตาย ตัวดอกเหี่ยวเฉาและร่วงโรยกลับพลิกฟื้นกลับมาเป็นต้นกุหลาบดอกใหม่ที่กำลังเติบโตนั้นเริ่มต้นผลิบานออกทีละนิดจากการถูกเอาใจใส่ใหม่อีกครั้งจนกลายเป็นดอกกุหลาบดามัสก์ที่งดงามอย่างสมควรจะเป็นการเรียนรู้ที่จะเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ไม่ง่ายคงเป็นบทเรียนที่ทำให้เจ้าต้นดอกกุหลาบดามัสก์ต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด


    เชส ไทเลอร์ภูมิใจเหลือเกินที่สามารถทำให้ดอกกุหลาบดามัสก์นี้ได้เบ่งบานในวันนี้ กลีบดอกที่ค่อยๆ ผลิบานนั้นมันคงเปรียบได้กับการเปิดใจทีละนิดของนายน้อยจากแดนเหนือที่แสนปิดกั้นตัวเอง


    “ฉันรักนายนะเชส”


    “ฉันก็รักนายเช่นกันคนดี ”


    นิทราในค่ำคืนนี้ที่เต็มไปด้วยความอิ่มเอมในใจคงกลายเป็นฝันดีสำหรับทั้งคู่อ้อมกอดอบอุ่นที่มอบให้กันเป็นดังคำสัญญาที่ทั้งเชสและแอชต่างก็เต็มใจที่จะมอบมันให้แก่กัน


    ความรักที่เปรียบดั่งความซื่อสัตย์และความเข้าใจของเชส ไทเลอร์ กับ ความรักที่เต็มไปด้วยความความเชื่อใจของ แอชเชอร์ ไทเลอร์ ถักทอจนกลายเป็นเส้นใยบางๆ ที่แม้จะมองไม่เห็นแต่ก็ทำให้สามารถผูกคนทั้งคู่ไว้ได้ด้วยกันด้วยความรู้สึกจากใจจริง


    “ฉันไม่ได้พูดเล่น ๆ นะแอช..


    ….


    “เรื่องที่อยากมีลูก


    “หากเป็นโชคดีของนายและฉันความหวังของนายก็จะได้รับการเติมเต็ม”


    เจ้าของผิวขาวจัดเอ่ยพลางลูบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ที่มักจะไม่ใส่เสื้อในตอนนอนอวดให้เห็นร่างกายช่วงบนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ รวมไปถึงรอยสักบนต้นแขนของเชาที่แอชเชอร์ไม่เคยคุ้นชินกับมันสักทีในทุกครั้งที่ได้เห็นผิวอุ่นร้อนและกลิ่นไม้สนซีดาร์จากทรูอัลฟ่าหนุ่มนั้นเป็นตัวขับกล่อมชั้นดีสำหรับแอชเชอร์เสมอมา


    “การมีนายเป็นคู่ชีวิตคือโชคดีของฉัน”


    คนที่อดทนรอเชสทั้งที่ตัวเองนั้นเจ็บปวดไม่แพ้ใครได้อย่างไม่น่าเชื่อในครั้งนั้นทำให้เชสสาบานกับตัวเองเลยว่าจะไม่ปล่อยให้คนตรงหน้าหนีหายไปไหน เพราะหากไม่ใช่แอชเชอร์แล้วเขาเองก็คิดภาพไม่ออกเช่นกันว่าจะยังมีใครอีกที่สามารถเข้ากันได้ดีกับตัวเอง


    ฝ่ามือร้อนของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์สอดหายเข้าไปภายใต้เสื้อตัวบางของคนตัวขาวนิ้วร้อนไล่แตะสัมผัสเพียงเบามือที่บริเวณหน้าท้องขาวพลางไล้วนอยู่ในตำแหน่งเดิมเสียจนคนที่อยู่ในอ้อมอกนั้นหน้าเห่อร้อนไปทั้งหน้า


    “มาอยู่ด้วยกันกับเราเถอะเจ้าตัวเล็ก


    ใบหน้างดงามของแอชเชอร์นั้นซบหน้าลงกับอกของเชสเพราะความเขินอายไม่ว่าจะทั้งสัมผัสจากมือร้อนหรือคำพูดชวนให้คิดพวกนั้นมันล้วนมีอิทธิพลไปเสียหมด  และการกระทำของเจ้าดอกกุหลาบดามัสก์นั้นช่างน่าเอ็นดูเหลือเกินในสายตาของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์

     



    *

     


    เสียงของแอชเชอร์ที่อยู่ใกล้เพียงไม่ถึงคืบนั้นไม่ได้ทำให้หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์สามารถละสายตาจากใบหน้าขาวได้แผลตามใบหน้าของเจ้ากำลังถูกเช็ดทำความสะอาดและทำแผลอีกครั้งในช่วงเช้าวันใหม่ที่ดูจะเย็นขึ้นกว่าเดิม 


    สาบเสื้อด้านบนซึ่งแยกออกจากกันของเสื้อแขนยาวที่เชสหยิบมาสวมใส่ตามคำบอกของแอชเชอร์ย่อมเผยให้เห็นช่วงอกสีแทนเข้มอย่างชัดเจนในขณะที่อดีตอัลฟ่าแดนเหนือนั้นกลับเลือกหยิบเสื้อผ้าที่มิดชิดมาสวมใส่จนปกปิดไปเสียหมดแม้กระทั่งกระดูกไหปลาร้าที่เชสชมชอบนักหนาก็ไม่สามารถออกมาโอ้อวดความสวยงามของมัน


    “มือหนักขนาดนี้ อย่าไปทำแผลให้ใครอีกล่ะ” คนเจ็บเอ่ยซึ่งนั่นก็ทำให้คนที่นั่งอยู่บนตักของหัวหน้าหน่วยนั้นถึงกับหรี่ตามองในทันที


    “หรือจะทำเอง?”


    “ใจร้ายกันได้ลงคอหรือคนดี”


    “ก็นายปากดี”


    “อย่างอื่นก็ดี


    !!!


    “ทำหน้ายุ่งแบบนี้ รู้หรือว่าฉันหมายถึงอะไร”ริ้วสีแดงจาง ๆ ที่พาดบนแก้มขาวนั้นมันน่าเอ็นดูใช่น้อยเสียที่ไหนกันยิ่งคนตัวขาวนั้นนั่งทับอยู่บนตักด้วยแล้วก็ยิ่งทำให้อะไร ๆ มันก็ดูน่ามองไปเสียหมด


    “เชส!


    “ทำแผลต่อสิ นั่งอยู่บนนี้นาน ๆ ระวังจะไม่ได้ลงแล้วกันนะแอช”


    “ถ้าไม่ลงแล้วมันจะทำไม..


     รอยยิ้มซุกซนของแอชเชอร์ที่ปรากฏบนใบหน้าขาวทำให้เชสอดไม่ได้ที่จะคว้าเอวของอีกฝ่ายไว้ในทันทีก่อนที่คนตัวขาวจะได้เล่นอะไรแปลก ๆ กับตัวเอง  


    “อย่าซนน่าแอช..


    ฝ่ามือสีเข้มของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ที่จับเอวของอีกฝ่ายอยู่นั้นออกแรงบีบเตือนให้อัลฟ่าตัวขาวเลิกคิดอะไรประหลาดที่จะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง


    “พอดีมือใช่ไหมล่ะ” เมื่อทำแผลที่สุดท้ายเสร็จให้กับทรูอัลฟ่าหนุ่มแอชเชอร์ก็เอ่ยถามเสียงเบาที่ข้างใบหูของเชสก่อนจะแกล้งดึงมืออีกข้างของอีกฝ่ายให้มาจับเอวของตัวเองจนกลายเป็นว่าตอนนี้มือใหญ่ของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์นั้นแทบจะกำช่วงเอวของแอชเชอร์ได้รอบ


               “ตัวแสบ” เชสคาดโทษคนทะเล้นบนตักตัวเองก่อนจะเลื่อนมือไปตีก้นกลมของอีกฝ่ายเบาๆ แล้วยกตัวของอีกคนให้ลงไปนั่งข้างตนดี ๆ


               “ตีมาได้ฉันเจ็บนะเชส”


               “ตีแค่นั้นไม่ทำให้นายเจ็บจนเดินไม่ได้หรอกแอช..


               คำตอบของเชสทำให้คนตัวขาวถึงกับเสหน้าหนีไปมองร็อคกี้กับเซเบอร์ที่นอนหลับอยู่ไม่ใกล้กับไกล


               “พูดบ้าอะไรของนาย”


               “เชื่อเถอะว่านายคงไม่อยากนอนจมอยู่บนเตียงแบบครั้งที่แล้วหรอก”


               แอชเชอร์เถียงอะไรอีกฝ่ายไม่ออกเลยจริงๆ เพราะที่เจ้าตัวว่านั้นมันก็เป็นเรื่องจริงที่ไม่ว่าจะนึกถึงกี่ครั้งก็ทำให้แอชเชอร์รู้สึกร้อนวูบวาบในร่างกาย


               “….”       


               “แกล้งฉันไว้มากๆ ระวังจะโดนทบต้นทบดอกก็แล้วกัน”


               เชสโหมดกวนประสาทนี่มันรับมือยากที่สุดสำหรับแอชเชอร์


                   

               แอชเชอร์เดินเข้ามาในห้องทำงานพร้อมกับเจ้าของห้องอย่างเชสในช่วงเย็นของวันหลังจากที่ทั้งคู่พูดคุยกับเบลเลอมอนท์มาครู่ใหญ่ถึงความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายและมันก็คงหนีไม่พ้นแมดส์ที่ดูยังจะหัวเสียไม่หาย ดูแล้วที่แน่ ๆก็คงไม่ใช่เพราะเรื่องที่ต้องยอมแพ้ให้กับเชสแต่น่าจะเป็นเรื่องของโอเมก้าที่อยู่ข้างตัวแมดส์เสียมากกว่า


                 ท่าทางสายตาของอัลฟ่าในหน่วยที่สนใจโอเมก้าจากฮาร์เดนเจอร์จะเป็นสาเหตุของความหงุดหงิดของแมดส์จนแทบบ้าท่าทางตื่นกลัวของคุณหนูเยลเวอร์ตันนั้นก็ไม่รู้ว่ามันเป็นผลมาจากความกลัวที่เกิดจากแมดส์หรือเพราะอัลฟ่าในหน่วยกันแน่แต่เชื่อเถอะว่าต่อให้อัลฟ่าทั้งหน่วยจะคลั่งก็คงไม่เท่าแมดส์คนเดียวที่คลั่ง


       เชส ไทเลอร์ เองก็ได้พบเห็น เธียร์ เยลเวอร์ตันเพียงผ่าน ๆ เท่านั้นในตอนที่อีกฝ่ายออกมากินข้าวพร้อมกับรีสที่เป็นคนเสี่ยงตายไปเอาตัวคุณหนูเยลเวอร์ตันออกมาจากแมดส์  มองแค่เพียบแวบเดียวเชสก็พอจะคิดออกว่าคนนิสัยแบบแมดส์กับโอเมก้าตัวขาวคงไม่ใช่สิ่งที่จะเข้ากันได้ง่ายๆ เสียเท่าไหร่


                  แต่ใครจะคิดกันว่าบทสนทนาเพียงไม่กี่ประโยคระหว่างแฝดไทเลอร์จะทำให้หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์นั้นทำหน้าดุตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้


                   ดูแลคนของนายให้ดีก็แล้วกัน..อย่าให้รุ่มร่ามกับเยลเวอร์ตันอีก


                   อย่ามาปรักปรำกันดีกว่า’


                   เยลเวอร์ตันไม่เคยโกหกฉันแมดส์ ไทเลอร์ เอ่ยกับแฝดน้องหลังจากที่ทั้งคู่ได้เจอหน้ากันอีกครั้งในสถานะที่ไม่ใช่คู่ต่อสู้เหมือนเมื่อวานในการแข่งชิงธงอย่าลืมว่าคนของนายเป็นอัลฟ่า


                   แล้วคนของฉันทำอะไรกันล่ะ?’


                  ‘แม้แต่เส้นผมของเยลเวอร์ตันไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์สัมผัส..’


                    “จะบอกฉันได้หรือยังว่านายไปแกล้งอะไรเยลเวอร์ตัน”เชส ไทเลอร์ เอ่ยถามคนตัวขาวในทันทีเมื่ออยู่กันสองคนภายในห้อง


                    “หึงหรือ?”


                    “คำถามนี้ไม่น่าถามหรอกนะแอช”


                    “แสดงว่าหึงแน่ๆ ” คนตัวขาวยกยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะลุกเดินมาหาคนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน “เพราะแบบนี้นี่เองที่ทำให้ทำหน้าดุใส่คนอื่นไปเสียหมด”


                    “ถ้าไม่พูดก็ออกไปก่อนที่ฉันจะหงุดหงิดไปมากกว่านี้”


                    แอชเชอร์อดหัวเราะในใจไม่ได้กับท่าทางหงุดหงิดหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์เพราะขนาดอาเธอร์เองยังไม่สามารถเข้าหน้าอีกฝ่ายได้ จะมีก็แต่แอชเชอร์นี่ล่ะที่ยังดึงดันจะตามอีกฝ่ายมาด้วยอย่างไม่สนใจหน้านิ่งๆ ของทรูอัลฟ่าหนุ่ม


                    “ต่อให้ไล่ก็ไม่ออก”คนตัวขาวเถียงเสียงแข็งก่อนจะทิ้งตัวลงบนตักของอีกฝ่าย พลางยกแขนขึ้นโอบรอบลำคอสีเข้มของเชสที่ยังคงแสดงสีหน้าดุดันออกมา“ฉันก็แค่หยอกโอเมก้านั่นเล่นเท่านั้น ไม่ได้คิดจะจริงจังอะไรเสียหน่อย”


                    “….


                    “สาบานเลยว่าแค่ปากฉันไปเฉียดผมเยลเวอร์ตันเท่านั้น”


                    “….


                    “ถ้าไม่นับที่เชยคางด้วยละ.. เชส!


                    แอชเชอร์แหวเสียงดังเมื่อเชสนั้นยกตัวเองออกจากตักและดันลงไปนอนราบบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ก่อนที่ทรูอัลฟ่าหนุ่มจะตามมาคร่อมทับตามจนแอชเชอร์สบตาเข้ากับดวงตาดุดันนั่นชัด ๆ


                    “นายกำลังทำให้ฉันหงุดหงิด”เชสกระซิบเสียงเข้มจนแอชเชอร์ได้แต่มองหน้าอีกฝ่ายเงียบ ๆ


                    “ขอโทษ..


                    ร่างขาวยกมือขึ้นแตะกรอบหน้าคมของคนที่คร่อมทับตัวเองอยู่ด้านบนด้วยความรู้สึกกล้าๆ กลัว ๆ ไม่น้อย จากที่คิดว่าคงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ในตอนนี้กลับไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เสียแล้ว


                    “ถ้าเยลเวอร์ตันเป็นอัลฟ่าฉันจะไม่หงุดหงิดเลยสักนิด”


                    “นายคิดว่าฉันจะชอบโอเมก้าหรือ”


                    “อย่าลืมว่าตัวนายเป็นอัลฟ่า”


                    “ฉันไม่มีทางคิดอะไรแบบนั้นนายก็รู้ดีว่าเพราะอะไร” แอชเชอร์แทบจะร้องไห้อยู่รอมร่อเมื่อกลิ่นไม้ซีดาร์ที่เข้มขึ้นของเชสนั้นชวนให้รู้สึกอึดอัดเพราะความคุกรุ่นของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ในตอนนี้


                    “เพราะอะไร?”


                    เชสถามเสียงเข้มในขณะที่มือของเจ้าตัวนั้นไม่แม้แต่จะแตะต้องร่างกายของแอชเชอร์จนทำให้เป็นอัลฟ่าตัวขาวคนเดียวเท่านั้นที่แตะเนื้อต้องตัวอีกฝ่าย


                    “จะให้ฉันเป็นของใครอีกในเมื่อฉันเป็นของนาย..


                    “….


                    “อย่าโกรธกันเลยนะเชส..


                    “ก็แค่นี้”


                    เชส ไทเลอร์เอ่ยออกมาสั้น ๆ ในขณะที่ริมฝีปากสีเข้มประกบดูดดึงริมฝีปากเจ้าของกลิ่นกุหลาบดามัสก์อย่างเร่าร้อนและไม่มีการหยอกล้ออย่างเช่นเคยน้ำสีใสไหลรินลงมาตามแนวคางเพราะความเอาแต่ใจของเชสจนหัวสมองของแอชเชอร์นั้นพร่าเบลอไปหมดสัมผัสลึกซึ้งที่ทำเอาร่างกายสั่นสะท้านนั้นสร้างความรู้สึกที่แสนอดกลั้นให้กับแอชเชอร์เป็นอย่างมากเสียงครวญครางอื้ออึงที่หลุดรอดออกมาเพียงเล็กน้อยนั้นเป็นผลมาจากริมฝีปากที่ถูกจูบอยู่แทบตลอดเวลาที่หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์นั้นจูบตัวเอง 


                    ผลจากการเรียนรู้และถูกเคี่ยวกรำมาเป็นอย่างดีทำให้ร่างกายของแอชเชอร์นั้นตอบสนองต่อเชสด้วยการแยกขาออกให้อีกคนได้แทรกกระทำชำแรกกลีบดอกกุหลาบสวยงามซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้บอบช้ำ แม้จะไม่ได้รุนแรงแต่ความดุดันในแต่ละครั้งที่สัมผัสเข้ามาอย่างลึกซึ้งก็ทำให้มือขาวนั้นเลื่อนมาจับที่หน้าท้องของตัวเองอย่างช่วยไม่ได้เมื่อรับรู้ถึงน้ำคาวที่ไหลทะลักเข้ามาในร่างกายของตัวเองจนจุกไปหมด


                    “พอแล้วเชส..

                   


    *

     


     

                    “แค่นายมีคนดูแลที่ไว้ใจได้ฉันก็สบายใจแล้วแอช..” อาเธอร์เช็ดน้ำตาให้คนเป็นน้องที่ยืนอยู่ตรงหน้าตัวเองก่อนจะระบายยิ้มเอ็นดูแอชเชอร์ที่ร้องไห้ใส่ตัวเองทั้งที่วันนี้ควรจะเป็นวันที่เจ้าตัวควรจะยิ้มมากที่สุด


                    “ฉันเองก็อยากให้นายมีความสุข..” เรื่องราวที่แสนเจ็บปวดของอาร์เธอร์นั้นแอชเชอร์รับรู้มันทั้งหมดแล้ว หลังจากที่คนเป็นพี่ชายยอมเล่าเรื่องทุกอย่างให้ตนได้ฟังไม่ว่าจะทั้งเรื่องของคนเป็นพ่อหรือแม้กระทั่งความสัมพันธ์ขมขื่นพวกนั้นด้วย


                    แอชเชอร์ไม่ได้รู้สึกโกรธเกลียดคนเป็นพ่อสักนิดที่ทำให้พวกเขาต้องกลายเป็นแบบนี้ แม้จะรู้สึกจุกอยู่ลึกๆ ก็ตามที่ความจริงพวกนั้นมันยากจะยอมรับ ภาพของคนเป็นพ่อที่ทำให้แอชเชอร์รู้สึกภูมิใจนั้นมันกลับถูกลบเลือนด้วยภาพที่ไม่น่าจดจำ


                    “สักวันหนึ่งฉันจะมีความสุข..


                    เพียงแค่ตอนนี้ความทุกข์และความเจ็บปวดพวกนั้นของคุณชายเลสลีย์มันยังไม่บรรเทาก็เท่านั้น


                    “ฉันอยากให้นายอยู่ด้วยกันที่นี่..” คนเป็นน้องว่า “นายไม่ไปฟลัมไม่ได้หรือ”


                    “นายมีชีวิตเป็นของตัวเองแล้วแอช.. ในฐานะของพี่ชายมันคงเหมาะมากกว่าที่จะได้เฝ้ามองนายอยู่ห่าง ๆ ” ไม่ว่าจะเป็นแอชเชอร์ในตอนไหนเด็กน้อยก็ยังคงเป็นเพียงเด็กน้อยในสายตาของพี่ชายเสมอ “นายจะมางอแงอยากอยู่กับพี่เหมือนตอนเด็กไม่ได้หรอกนะ”


                    คนเป็นน้องที่ร้องไห้จนตาแดงก่ำนั้นได้แต่ก้มหน้านิ่งพลางกลืนก้อนสะอื้นลงไปในลำคอของตัวเอง


                    “ขออย่าให้นายพบเจอสิ่งที่ทำให้ต้องเจ็บปวดอีก”ใบหน้าของคนเป็นน้องซบลงที่ไหล่ของคนเป็นพี่ก่อนจะสวมกอดคนในครอบครัวคนเดียวที่เหลืออยู่ของตนและจดจำความรู้สึกพวกนี้ให้ได้มากที่สุด


                    “ขอบคุณสำหรับคำอวยพร..” อาร์เธอร์สบตากับหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ที่ยืนมองอยู่ทางด้านหลังในระยะที่ให้ความเป็นส่วนตัวแก่พี่น้องเลสลีย์“ฉันเองก็ขอให้นายมีความสุขกับชีวิตหลังจากนี้”


                    งานแต่งงานเล็กๆ ของหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ที่ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายแต่ก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นธรรมชาติของเดอะฮิลล์นับว่าเป็นสถานที่ชั้นดีที่แม้จะไม่ได้มากมายเทียบเท่ากับการอยู่ในเมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมความงดงามของป่าและดอกไม้นานาชนิดที่ถูกนำมาตกแต่งจนดูน่ามองนั้นคงน่าเหลือเชื่อมากๆ สำหรับคนในหน่วยเดอะฮิลล์ที่ร้อยทั้งร้อยมีแต่อัลฟ่าและเบต้าที่ไม่ได้มีความประณีตอะไรในงานพวกนี้


                    อันที่จริงแล้วหัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์นั้นอยากเพียงแค่ทำพิธีแต่งงานลับๆ เสียด้วยซ้ำ เพราะไม่อยากให้เป็นที่วุ่นวายสำหรับคนอื่น อีกทั้งตัวแอชเชอร์เองก็ไม่ได้ต้องการงานพวกนั้นด้วยเช่นกันแต่สุดท้ายทุกอย่างก็เกิดขึ้นเพราะคนในหน่วยเดอะฮิลล์นั้นต่างก็เห็นดีเห็นงาม


                    อย่างน้อยเจ้านายคนใหม่ของเดอะฮิลล์ก็สมควรได้รับเกียรติจากคนในหน่วยเช่นกัน


                    “หากอยากเจอฉันก็ลองขอให้เชสพานายไปฟลัมก็แล้วกัน”


                    “ฉันไม่อยากเจอเบลเลอมอนท์สักหน่อย”อาร์เธอร์อดหัวเราะกับคำพูดของน้องชายตัวเองไม่ได้ แต่มันก็ไม่แปลกจริง ๆ ที่แอชเชอร์จะเหม็นขี้หน้ารีสก็ในเมื่อรายนั้นเล่นชอบปั่นประสาทชาวบ้านไปทั่วเสียขนาดนี้


                    “เด็กน้อย..” น้องชายในวันวานที่เติบโตจนกลายเป็นเด็กหนุ่ม จนวันนี้เด็กหนุ่มที่ว่าก็กลายเป็นผู้ใหญ่มันช่างเป็นเรื่องที่น่าใจหายสำหรับอาร์เธอร์เสียจริง“ไม่สิ.. คงเรียกว่าเด็กน้อยไม่ได้แล้ว ในเมื่อน้องชายของพี่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วตอนนี้”


                    “อาร์ธ


                    คนเป็นพี่ดันตัวคนน้องออกก่อนจะไล่มองน้องชายตัวเองให้เต็มตาอีกครั้งเพื่อเก็บภาพความงดงามของดอกกุหลาบดามัสก์ที่เติบโตชุดสีขาวสะอาดตาในแบบของคนแดนใต้ที่อยู่บนร่างขาวดั่งหิมะในแดนเหนือยังทำให้แอชเชอร์ดูสูงค่าไม่ต่างจากครั้งที่เคยใส่ผ้าเนื้อดีของตระกูล


                    “ถ้าได้ลูกแฝดขึ้นมาจริงๆ เชสคงได้ยิ้มจนหน้าบานแน่”


                    หน้าท้องแบนราบที่ซุกซ่อนอยู่ภายในเสื้อสีสะอาดแม้จะยังมองได้ไม่ชัดเจนถึงความเปลี่ยนแปลงแต่ตัวของแอชเชอร์ที่รู้ดีย่อมรับรู้ได้ว่าตัวเองนั้นไม่ได้มีแค่ชีวิตของตนที่ต้องดูแลต่อไปนี้


                    ข่าวดีซึ่งแอชเชอร์ได้รับรู้ในอาทิตย์ก่อนหน้าที่งานจะถูกจัดขึ้นทำให้เจ้าตัวรู้สึกไปไม่เป็นเหมือนกันแม้จะไม่ได้มีอากรมากมายนัก แต่ความเปลี่ยนแปลงที่รู้สึกได้จนทำให้รู้สึกไม่สบายตัวก็ย่อมทำให้แอชเชอร์ต้องไปให้เอริคตรวจดูอาการ


                ‘ยินดีด้วยนะแอชเชอร์..’


                นั่นคือสิ่งที่เอริคบอกอัลฟ่าตัวขาวก่อนจะหันไปชกไหล่หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์เข้าหนัก ๆ พลางยกยิ้มกว้าง


                นายได้ลูกสมใจแล้วว่ะเชส’


    “ทำไมชอบแกล้งฉันนัก” แอชว่าก่อนจะใช้หลังมือเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าตัวเองจนเดือดร้อนคนเป็นพี่ต้องหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดให้ดี ๆ


    “เจ้าตัวเล็กทำนายอ่อนไหวขึ้นกว่าเดิมนะแอช..


    “ไม่รู้ล่ะ ยังไงนายก็ต้องกลับมาเยี่ยมฉันด้วยสัญญาสิ”


    “บังคับเก่งจริง ขัดใจได้ที่ไหน” คุณชายเลสลีย์บ่นน้องชายตัวเองในขณะที่มือของเจ้าตัวก็เช็ดหน้าเช็ดตาน้องไปด้วย“ฉันจะโดนหมอนั่นบ่นไหมเนี่ยที่ทำให้นายร้องไห้”


    “เชสก็บ่นทุกเรื่องนั่นล่ะ”


     

    พิธีแต่งงานเรียบง่ายที่เสร็จสิ้นลงท่ามกลางความยินดีของคนในหน่วยรวมไปถึงคุณชายเลสลีย์ที่ยืนเฝ้ามองน้องชายตัวเองอยู่ด้านหน้า ผู้ปกครองฟลัมเองที่ยังอยู่ร่วมงานน้องชายหรือแม้กระทั้ง แมดส์ ไทเลอร์ ที่ยืนเคียงคู่อยู่กับ เธียร์ เยลเวอร์ตัน เองก็ด้วย


    จูบบางเบาที่ประทับลงบนกลีบปาสีระเรื่อนั้นทำให้อัลฟ่าตัวขาวแทบอยากจะหายไปจากตรงนี้ในตอนนี้เสียให้ได้สายตาของคนในหน่วยที่มองมานั้นมันทำให้เจ้าตัวรู้สึกขัดเขินแปลก ๆ จะมีก็แต่หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์เท่านั้นที่ยังคงยิ้มกว้างจนน่าหมันไส้


    หัวหน้าหน่วยเดอะฮิลล์ยังคงเต็มไปด้วยความสมบูรณ์แบบของทรูอัลฟ่าที่น่ามองจนยากจะละสายตาสีผิวแทนเข้มที่แม้จะตัดกับเสื้อผ้าสีอ่อนแต่ก็ยังคงอวดความดิบอย่างคนเป็นทหารแผ่นอกแน่นตึงและลาดไหล่กว้างยิ่งดูชัดเจนเมื่อเสื้อผ้าที่สวมใส่นั้นพอดีตัวจนทำให้เห็นสัดส่วนของร่างกาย


    “เขินหรือ?” เจ้าของดวงตาคมเอ่ยถามคนที่หน้าขึ้นสีระเรื่อและกำลังเกาะไหล่ตัวเองเป็นที่พึ่งในการยืนด้วยความเอ็นดูตาใสที่ช้อนมองราวกับลูกสัตว์ตัวเล็กนั้นหาได้ยากเหลือเกินสำหรับคนอย่างแอชเชอร์


    “ทำไมฉันต้องมาจูบกับนายให้คนอื่นเห็นกันด้วย”


    “เพราะนายเป็นคนของไทเลอร์..


    ….


    “ไม่เห็นหรือว่าพวกเขายินดีกับความสัมพันธ์ของเรา”


    “อื้อ..


    เหล่าการ์เดียนเองก็ได้มาร่วมงานนี้เช่นกัน ขนหนานุ่มสลวยของพวกมันถูกจัดการแปรงอย่างดีหลังจากที่โจชัวและลูฟพาพวกมันไปอาบน้ำกันเสียยกใหญ่ชาลีเองก็ยังคงจ้องมองเจ้านายตัวเองด้วยท่าทีสงบเสงี่ยมต่างกับร็อคกี้ที่เอาแต่หันไปเล่นกับเยลเวอร์ตันไม่หยุดจนแมดส์ต้องมายื่นคั่น


    สายตาหวานเชื่อมของเชสที่มองมายังแอชเชอร์เป็นผลทำให้คนตัวขาวนั้นถึงกับทำอะไรไม่ถูกเพราะนอกจากจะมองไม่หยุดแล้วเจ้าตัวก็ไม่ยอมพูดอะไรออกมาอีก เป็นเหตุทำให้คนถูกมองว้าวุ่นไปเสียหมด


    “ด้วยเกียรติของไทเลอร์ ขอสัญญาว่าจะรักษาและดูแลหิมะแรกของเดอะฮิลล์นับจากนี้ไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต”


     หิมะแรกของเดอะฮิลล์หรือ หิมะแรก คงเป็นคำติดปากที่เชสมักจะเรียกแทนชื่อของแอชเชอร์จนเป็นคำคุ้นเคยกันในหน่วยดีชื่อเรียกแทนที่เหมาะสมกับตัวของแอชเชอร์คงยากจะปฏิเสธ หิมะที่หมายถึงบ้านเกิดที่เจ้าตัวจากมาจนกลายเป็นหิมะแรกของเดอะฮิลล์เพราะอดีตอัลฟ่าแดนเหนือนั้นเป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับการยอมรับในการเป็นคนแดนใต้และเป็นคนของเดอะฮิลล์


    “แด่หิมะแรกของเดอะฮิลล์!


     ไวน์ในแก้วซึ่งอยู่ในมือของทุกคนที่มาร่วมงานถูกชูขึ้นก่อนจะพร้อมใจกันกล่าวประโยคเดียวกันและดื่มเครื่องดื่มในแก้วเพื่อร่วมยินดีกับหัวหน้าหน่วยและหิมะแรกของเดอะฮิลล์


    “ฝากดูแลเจ้าตัวน้อยด้วยนะคนดี..


    เส้นผมสีอ่อนที่ปรกใบหน้าถูกปัดออกจนเผยให้เห็นใบหน้างดงามอย่างชัดเจนแม้ดวงตาคู่งามจะยังคงมีรอยแดงช้ำจากการร้องไห้กับพี่ชายตัวเองเมื่อครู่ใหญ่ก็ยังคงไม่ได้ทำให้แอชเชอร์ ไทเลอร์ นั้นดูงดงามน้อยลงไปกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นดวงตาเรียวที่ซ่อนนัยน์ตาสีอ่อนน่าดึงดูดไว้จมูกโด่งที่รับเข้ากับโครงหน้าที่ชัดเจน รวมไปถึงกลีบปากบางรสชาติหวานล้ำที่เชสเคยลิ้มรสมันมานับครั้งไม่ถ้วน



    กุหลาบดามัสก์ดอกสวยยังคงควรค่าแก่การถูกดูแลไม่จาง..

    เรื่องราวนับต่อจากนี้คือการเริ่มต้นที่แท้จริงของดอกกุหลาบดามัสก์อันเป็นที่รักของผืนป่าสน





    END 





    HASTAG : #youngmastermn 




    Talk : ในที่สุดก็ถึงตอนจบแล้วนะคะ T-T ขอบคุณทุกคนที่อยู่ด้วยกันมามาก ๆ เลยนะคะ ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันว่าจะแต่งฟิคยาวจบกับเค้าได้เหมือนกัน ต้องขอบคุณแรงผลักและกำลังใจจากทุกคนจริง ๆ ค่ะ ส่วนเรื่องการจองเล่มน่าจะไม่เกินภายในอาทิตย์นี้เราจะมาแจ้งรายละเอียดละบอกวันเปิดพรีเล่มนะคะ ใครที่รอกันอยู่ก็ช่วยรอกันอีกนิดนะคะ ;-; 

    ปล.ส่วนเรื่องการจองเล่มเราน่าจะมาอัพเดทรายละเอียดต่างๆ (ตัวแบบปกเล่ม+ราคา+จำนวนหน้า และรายละเอียดยิบย่อย) เราจะแจ้งให้ทุกคนได้รู้กันไม่เกินวันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2019 นะคะ และวันเปิดพรีเล่ม(เปิดฟอร์ม) จะเป็นวันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม 2019 เวลา 20.00 น. 


     

     


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in