เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เด็กบ้าไปเซิร์นVichayanun Wachirapusitanand
Day 73: กลับ
  • "ตายห่า นี่กูจะบินแล้วเหรอวะ"

    ผมนึกในใจพลางใจหาย พอรู้ตัวว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะบินไปจากสวิสแล้ว

    ผมย้อนดูบล็อกของตัวเองที่อุตส่าห์เขียนไว้ตลอดสองเดือนที่ผ่านมา มีทั้งความทรงจำดี ๆ และแย่ ๆ บ้าง เช่น ทำงาน ทัศนศึกษา เที่ยว ด่ารุ่นน้องว่ามึงพากูมาที่ไหน ทำไมเหนื่อยสัส เดินหลงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยงานศิลปะ กินเลี้ยงสังสรรค์กับทั้งรุ่นน้องคนไทยและเพื่อนฝรั่ง ใช้ชีวิตแบบหนุ่มโสดตัวคนเดียวในครัว ออกไปค้นพบสถานที่รอบตัวที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เจอมาก่อน ร่วมทีมกับเพื่อน ๆ ประกวดทำเว็บ ขึ้นรถเมล์ ส่งโปสต์การ์ด ไปช้อปปิ้ง กินอาหาร บล็อกทุกตอนที่ผมเขียนไปตลอดสองเดือนที่ผ่านมามันเต็มไปด้วยความทรงจำทั้งนั้น แถมยังมีอะไร ๆ อีกมากมายที่ผมไม่ได้เขียนลงไป

    ผมย้อนกลับไปดูบล็อกตอนแรกสุดก่อนมาที่นี่ ตอนนั้นผมยังกังวลอยู่เลยว่า "บรรยากาศการวิจัยที่เข้มข้น" จะเป็นอย่างไร จะโหดไปมั้ย มาตอนนี้ผมรู้แล้วว่ามันไม่ได้โหดร้ายเลยสักนิด แต่มันคือบรรยากาศที่ผมควรพาตัวเองเข้าไปคลุกคลีกับมัน ทำความรู้จักกับมัน และคุ้นชินกับมัน ผมเริ่มรู้สึกแล้วว่านี่แหละคือบรรยากาศที่ใช่ ที่เราต้องการ มันทำให้เด็กไฮเปอร์อย่างผมมีชีวิตชีวามากที่สุด
  • วันนี้ผมกลับไปเซิร์นเป็นครั้งสุดท้ายในฐานะนักท่องเที่ยว เพื่อมาซื้อของอีกเล็กน้อยก่อนกลับบ้าน ผมมาถึงตอนเก้าโมงเช้า แต่กว่าร้านจะเปิดก็สิบโมง #รอวนไปค่ะ

    ระหว่างรอ ผมก็นึกได้ว่าผมยังไม่มีรูปคู่เพื่อนในเซิร์นเลยสักคน ไม่ใช่เพราะผมไม่มีเพื่อนนะครับ แต่ผมใช้เวลาอยู่กับเพื่อนแทนที่จะใช้เวลาถ่ายรูปกับเพื่อน มันต่างกันนะครับ เพราะว่าผมได้คุยกับเพื่อน ได้เห็นหน้าจริง ๆ ได้มีปฏิสัมพันธ์ แต่ในกรณีหลังมันมีมือถือไม่ก็กล้องมาขวางเราอยู่

    ผมมองหาเพื่อนในรายชื่อที่น่าจะยังไม่กลับจากเซิร์น และเจอกับคนนึงครับ เขาชื่อเซิร์จ มาจากเนเธอร์แลนด์ และเขาทำงานกับอาจารย์ที่ปรึกษาคนเดียวกับผม

    ผมส่งข้อความหาเขา
    "นี่ ๆ ยังอยู่เซิร์นป่ะ"
    "อยู่ ๆ ไฟล์ตกับไทยเป็นไงมั่ง"
    "เรายังไม่กลับเลย ตอนนี้เราอยู่ที่ reception มาถ่ายรูปสุดท้ายกันป่ะ"
    "เดี๋ยวเราไป" ผมกดไลก์ตอบ

    เซิร์จเดินมาหาผม ผมทักทายเขา และเราเริ่มคุยกันนิดหน่อย
    "ช่วงนี้ออฟฟิศเงียบ ๆ หน่อยนะ" เซิร์จบอกผม
    "อ๋อ อืม ๆ อาจารย์มาป่ะ"
    "ไม่อ่ะ เขาไปเที่ยว"
    "อ้าวเหรอ"
    พวกเราผลัดกันถ่ายเซลฟี่ด้วยมือถือ ก่อนจะบอกลากันและกัน
    "มาถึงเมืองไทยแล้วอย่าลืมส่งข้อความมาบอกเรานะ เผื่อเราว่างพานายทัวร์"
    "ได้ ๆ"
  • หลังจากซื้อของเสร็จแล้ว ผมก็เดินทางกลับที่พัก เช็กเอาต์ และขึ้นรถไฟไปสนามบิน ด้วยความเป็นนักท่องเที่ยวที่ดี ผมจึงยืนรอที่เคานเตอร์เช็กอินก่อนเวลาเปิดเล็กน้อย สักพัก มีเจ้าหน้าที่มาบอกกับผมว่า เคานเตอร์เช็กอินจะเปิดในอีก 20 นาที

    คือถ้าปกติผมเตรียมพร้อมด้วยการไปหาอะไรกินรองท้องก่อนมาต่อคิวนี่ ผมคงไม่มีปัญหา ยืนรอเช็กอินอย่างสบาย ๆ สไตล์มยุราแล้ว แต่ตอนนั้นผมหิวมาก สงสัยข้าวเช้าที่โรงแรมมันยังไม่พอ หรือเมื่อคืนผมนอนไม่พอเอง ครั้นจะออกไปหาอะไรกินก็เหลือบไปเห็นแถวข้างหลังผมที่ยาวววววววววพอ ๆ กับตอนไปขึ้นหอไอเฟลเมื่อวันอาทิตย์ เลยคิดได้ว่าขืนวิ่งไปหาอะไรกินก็ต้องเสียเวลาต่อคิวเช็กอินอีก ทนหิวหน่อยละกันนะท๊อป

    ในที่สุด ร่างกายของผมก็เริ่มประท้วงแบบชาวปารีเซียง ด้วยการส่ออาการวิ้ง ๆ เวียนศีรษะเกือบจะเป็นลม ผมจึงยอมนั่ง แต่ไม่ยอมลดละความพยายามต่อแถวเช็กอิน ผมยอมนั่งรอจนกระทั่งเคานเตอร์เช็กอินเปิด เดินไปโหลดกระเป๋าขึ้นเครื่อง (ผมเช็กอินมาก่อนแล้วครับ เป็นนักท่องเที่ยวที่ดี แฮ่) และบึ่งไปหาอะไรกินทันที กูหิว!
  • เอาล่ะ ผมกินข้าวเสร็จแล้ว และตอนนี้กำลังนั่งพิมพ์บล็อกตอนสุดท้ายตอนนี้ที่สนามบิน อีกไม่ถึงชั่วโมงผมก็ต้องขึ้นเครื่องกลับบ้านแล้ว เลยขอถือโอกาสขอบคุณทุกคนก่อนเลยนะครับ

    ก่อนอื่น ขอขอบคุณโครงการนักศึกษาภาคฤดูร้อนเซิร์นโดย สวทช. ที่ทำให้ผมได้มีโอกาสมาเยือนสถานที่ทำงานที่เป็นความใฝ่ฝันของผมมาตลอด ขอบคุณมากครับ

    ขอขอบคุณอาจารย์พัดจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และพี่อ๊อดจากสถาบันวิจัยแสงซิงโครตรอน ที่ช่วยดูแล ประสานงาน และให้คำแนะนำผมกับแก๊งเด็กเกรียนไทยในเซิร์นแก๊งนี้ด้วยครับ ขอบคุณมากครับ

    ขอบคุณเฉินหลง กัน และวินโดว์ ในฐานะเพื่อนประจำทริปฝึกงานอันแสนวิเศษตลอดสองเดือนที่ผ่านมา ถ้ากูขาดพวกมึงไป กูคงได้ไปยืนเด๋อที่สวิสแน่ ๆ ขอบใจมาก

    I would like to thank everyone at CERN for giving me this wonderful opportunity to be here and work with you guys. Thank you, goodbye, and WATCH ME. I'LL BE BACK.

    ขอขอบคุณพ่อกับแม่ที่มาส่งที่สุวรรณภูมิ ถึงแม้ว่าจะต้องรีบกลับไปขึ้นรถไฟกลับบ้านก่อน เพราะบ้านเราไม่มีรถ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มาส่งเลย ขอบคุณมากครับ

    สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณคุณผู้อ่านทุกท่านที่ทนอ่านบันทึกประจำวันของเด็กบ้า ๆ เรียนฟิสิกส์คนนี้ด้วยครับ ต่อจากนี้คงไม่มีอะไรอัปเดตอีกแล้ว ยกเว้นเด็กบ้าไปเซิร์นตอนพิเศษ: ตะลุยปารีสซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจะว่างเขียนเมื่อไหร่ (อ้าว) รอติดตามได้นะครับ

    ต่อจากนี้ผมก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิตผม แต่ก็เหมือนกับตอนก่อนไปเซิร์นแหละครับ คือ ช่างแม่ง ไปถึงเดี๋ยวก็รู้เองแหละ

    ขอตัวขึ้นเครื่องก่อนนะครับ ขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ

    วิชญนันท์ วชิรภูษิตานันท์
    นักศึกษาประจำโครงการนักศึกษาภาคฤดูร้อนเซิร์น ประจำปี 2560
    นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส
    15 สิงหาคม 2560

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in