เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Virus In Phatthalung : ฝูงผีดิบอาละวาดพัทลุงHacker Dewdie
Episode 2 : ค่ำคืนแห่งการหนี
  •                ผมเดินลงบันไดอย่างระมัดระวัง โดยมีคุณพ่อคุณแม่เดินนำหน้า เกมที่เป็นน้องคนกลางกับแชมป์ที่เป็นน้องคนสุดท้องเดินตาม ส่วนผมเดินตามหลังน้องทั้งสองคน
                  
                   เมื่อถึงบันไดขั้นสุดท้าย ผมมองไปรอบๆ ห้องใต้ดิน ห้องนี้เป็นห้องรูปทรงสี่เหลี่ยม ผนังทั้งห้องสร้างจากปูนเปลือย พื้นห้องปูด้วยแผ่นกระเบื้องสะท้อนกับแสงไฟที่ติดรอบๆ ตัวห้อง เบื้องหน้าของผมมีประตูเหล็กขนาดใหญ่ยักษ์ นี่คงเป็นประตูกั้นระหว่างห้องใต้ดินกับทางเดินภายนอก พ่อเดินไปข้างๆ ประตู หลังจากนั้นพ่อใส่รหัสผ่านด้วยการกดปุ่ม 9 ปุ่ม และดึงคันโยกที่อยู่ข้างประตูยักษ์  ในไม่ช้าประตูเลื่อนออกไปทางด้านข้างอย่างช้าๆ  จนปรากฏเห็นห้องที่อยู่ภายใน 

                    "เชิญเข้าไปข้างในได้"  พ่อหันหน้ามาทางครอบครัว และกล่าวขึ้นมา  "ไม่ต้องห่วง ห้องนี้จะเป็นห้องปลอดภัยอย่างที่สุด มันสามารถป้องกันภัยพิบัติทั้งหลายได้"

                    ผมและน้องทั้งสองคนเดินเข้าไปข้างในห้องใต้ดินของพ่อด้วยความประหลาดใจ เมื่อเข้าสู่ห้องใต้ดิน ผมมองไปรอบๆ ห้อง ผนังของห้องถูกทาด้วยสีไข่ไก่ ผนังห้องที่อยู่ตรงข้ามกับประตูห้องใต้ดิน มีจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ยักษ์จำนวน 4 จอแขวนติดกับผนัง มีโต๊ะแก้วสีดำตัวเล็กๆ และมีโซฟายาวตัวสีฟ้าวางอยู่ข้างหน้าจอโทรทัศน์

                    ทางด้านขวาของห้องใต้ดิน  มีประตูติดเรียบสนิทกับผนัง เมื่อผมเดินเข้าไปใกล้ประตู ประตูเปิดออกไปทางด้านข้างอย่างอัตโนมัติราวกับว่ามีเวทย์มนตร์ เมื่อผมเดินเข้าไปในห้องดังกล่าว ภายในห้องมีเตียงนอน 2 ชั้น จำนวน 2 เตียง เป็นเตียงเหล็กสีดำ ตั้งติดกับผนังทั้งสองข้าง เมื่อผมล้มตัวนั่งลงบนเตียงนอน ผมสัมผัสถึงความเด้งของเตียงที่ไม่เหมือนกับเตียงทั่วๆ ไป นี่คงจะเป็นเตียงนอนยางพาราแน่ๆ  เตียงนอนยางพาราเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปของชาวพัทลุงที่ผลิตออกมาวางจำหน่ายในช่วงที่ยางพารามีราคาตกต่ำ พ่อคงซื้อมาแน่นอน เตียงนอนถูกปูด้วยผ้าสีเทาเข้ม มีผ้าห่มผ้านวมผืนหนาลายสีเทาเข้มผสมกับลายสีขาวพับเก็บที่ปลายเตียง ส่วนผนังห้องตรงข้ามกับเตียงที่ติดกับประตูของห้อง มีโทรทัศน์จอแบนขนาดประมาณ 50 นิ้วแขวนติดกับผนัง คงจะใช้เพื่อดูรายการโทรทัศน์ต่างๆ ก่อนนอน

                    ผมเดินสำรวจสิ่งของภายในห้องนอนจนทั่วบริเวณ แล้วผมก็เดินออกมายังห้องโถงกลาง อีกฝั่งหนึ่งของมุมห้องที่ตรงกันข้ามกับห้องนอน มีเคาน์เตอร์ครัวที่ใช้พื้นที่เล็กๆ มีตู้เย็นขนาด 6 คิวบิกฟุตวางอยู่ใกล้ๆ  ข้างๆ ของตู้เย็นมีตู้เครื่องดื่มหยอดเหรียญอัตโนมัติ ข้างในตู้มีกระป๋องน้ำเกลือแร่ น้ำอัดลม น้ำผักสมุนไพรมากมาย มีปุ่มให้กดเพื่อเลือกเครื่องดื่มแต่ละชนิด   และอีกมุมหนึ่งของห้องที่อยู่ชิดกับห้องครัวและมุมนั่งดูโทรทัศน์ มีตู้หนังสือ มีโซฟา โต๊ะแก้วทรงกลม ใช้เป็นที่มุมนั่งเล่นและอ่านหนังสือ

    รูปภาพแสดงให้เห็นถึงแผนผังภายในห้องใต้ดิน

                    "เป็นไงบ้าง"  พ่อกล่าวขึ้นมาขณะที่นั่งบนโซฟาสีฟ้า กำลังดูรายการโทรทัศน์อย่างเพลิดเพลิน

                    "มุมเล่นเกมของผมอยู่ตรงไหน" แชมป์พูดขึ้นมา 

                    "หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ ยังจะมาห่วงการเล่นเกมอยู่อีกเหรอ เลิกเล่นได้แล้วมั้ง" 

                    "แล้วอาหารล่ะ..."  แม่พูดขึ้นมา ในขณะที่แม่กำลังปิดตู้เย็น  "ไม่มีอาหารอยู่ในตู้เย็นเลย"

                    "เอ..." พ่อหันมาแม่แล้วอุทานขึ้นมา "ลืม.. พวกเรารีบลงมา ยังไม่หยิบอาหารจากข้างบนลงมาเลย" พ่อตอบ

                    "แล้วเครื่องดื่มในตู้หยอดเครื่องดื่มอัตโนมัติล่ะ มันกดไม่ได้เลย" เกมพูดขึ้น หลังจากจิ้มนิ้วรัวๆ ที่ตู้เครื่องดื่มอัตโนมัติ

                    "นั่นมันของตกแต่ง" พ่อพูด

                    "อ้าวว...แล้วไหนที่บอกว่าเราสามารถอยู่ในห้องนี้ได้เป็นเดือนๆ ล่ะ ถ้าไม่มีอาหารเราก็อดตายก่อนสิ" ผมถามขึ้นมา

                    "ก็พ่อยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น"

                   "เราต้องอดตายอยู่ภายในห้องนี้แน่ๆ"  แชมป์พูดขึ้นมาบ้าง

                   และแล้วบรรยากาศในห้องตอนนี้ก็เงียบสนิทลง ทุกคนภายในห้องก้มหน้าด้วยความเศร้า

                  "แต่เรายังมีสหกรณ์ข้างบ้านเรานี่นา"  แม่นึกขึ้นมาได้ ทุกคนหันหน้าไปทางแม่ "เราต้องไปที่นั่น...เราต้องหาอาหารมาเก็บสำรองไว้ อาจจะมีอาหารแห้ง ขนมขบเคี้ยว และน้ำดื่มหลงเหลืออยู่บ้าง"

                   "แต่เราจะออกไปยังไง ข้างนอกมันอันตรายนะแม่"  ผมพูดขึ้นมา

                   "แล้วเราจะต้องอดตายอยู่ในที่นี้เหรอ.....แม่ไม่เอาด้วยหรอก 5 ชีวิตที่อยู่ในนี้ คงอยู่ได้ไม่นานแน่ๆ"

                   "พวกเราต้องออกไปให้ได้"  เกมพูดด้วยความหวัง  "ซอมบี้ก็ซอมบี้เถอะ...เราต้องฝ่ามันไปได้แน่นอน ซอมบี้พวกนี้ทำอะไรเราไม่ได้หรอก ตราบใดที่เราสามัคคีกันแล้ว พวกเราก็สามารถเอาชนะทุกสิ่งทุกอย่างได้"

                   "......"

                   "พ่อก็เห็นด้วย" พ่อกล่าว "ทุกคนเห็นด้วยหรือไม่"

                   "โอเค.." ทุกตนตอบเป็นเสียงเดียวกัน


  •                ดึกดื่นประมาณตี 1-2 ในช่วงเวลานอนหลับอย่างสบาย ความเย็นของยามตรีปกคลุมท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ เหล่าสรรพสัตว์ตกอยู่ในสภาวะหลับฝัน เสีัยงจั๊กจั่นที่เคยกรี๊ดร้องดั่งลั่นทั่วบริเวณรอบบ้านของผมกลับเงียบสนิท มีเพียงแค่สิ่งมีชีวิตในสภาพศพเคลื่อนไหวทั่วบริเวณบ้าน

                   บานพับบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้านถูกเปิดแง้มออกมา มีสายตาของชายวัย 50 ปีมองทั่วบริเวณรอบๆ บ้าน และไม่นานบานพับปิดลง นั่นคือคนที่เป็นพ่อหัวหน้าของครอบครัวของผมเอง พ่อปืนบันไดลงมา หันหน้ามาหาพวกเราที่อยู่ข้างล่างในห้องหนีภัย ที่อยู่ติดกับห้องนอน

                   "เอายังไงดี แผนการง่ายๆ ก็คือจะต้องหนีจากที่นี่ด้วยรถยนต์" 

                   "ก็คงจะเป็นอย่างนั้นแหละ"

                    "ดิว เกม แชมป์ ไปหยิบกุญแจรถยนต์ตรงตู้ไม้ที่อยู่ข้างๆ ประตูหน้าบ้าน พ่อกับแม่จะเฝ้ารอที่หน้าบ้านเพื่อปะทะพวกมัน" พ่อกล่าวขึ้น "ตอนนี้ ที่หน้าบ้านมีสองตัว บริเวณรอบๆ สวนหน้าบ้านจำนวนห้าตัว รวมเจ็ดตัว ในสวนคงจะมีอีกเยอะ แต่พ่อมองไม่ค่อยเห็น"

                   "พ่อจะปล่อยให้ลูกไปได้อย่างไร" แม่กล่าว "แม่ไม่เห็นด้วยหรอก"

                   "ไม่เป็นหรอกแม่....พวกเราต้องหาอาวุธและจัดการฆ่าพวกมัน"  เกมพูดขึ้นมาทันที "เราสามารถฆ่ามันได้ง่ายกว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไป เราต้องทำลายที่หัวของมัน หัวของมันเป็นศูนย์บัญชาการสั่งงานให้ร่างกายขยับเขยื้อนได้ ถ้าสมองของมันถูกทำลาย มันก็ไร้พิษสงแล้วล่ะแม่....อีกอย่างนะ พวกนี้มันเดินช้ามาก ดังนั้นแล้วก็พอมีเวลาจัดการพวกมันได้บ้าง"

                   "พ่อจำได้นะว่า เมื่อตอนเย็นของวันนี้ พ่อวางพร้าไว้ที่โคนต้นทุเรียน แม่วิ่งไปหยิบและจัดการพวกมันได้เลย ส่วนพ่อจะหาอะไรที่ใกล้ตัวนี่แหละ" พ่อกล่าว "เอาล่ะนะ...พร้อมแล้วหรือยัง ดิว เกม แชมป์ นัดกันให้ดีนะ ว่าจะออกไปช่วงไหน พ่อกับแม่จะขึ้นตามหลัง"

                   "ได้"  ผมตอบ

                   ผมเผยอประตูบานพับที่สนามหญ้า พร้อมมองไปรอบๆ บริเวณ จนมั่นใจได้ว่าไม่มีซอมบี้อยู่ใกล้แห่งนี้ หลังจากนั้นผมปีนขึ้นมาบนสนามหญ้า พวกน้องๆ ก็ปีนตามขึ้นมา ผมสั่งให้น้องก้มตัวต่ำๆ เดินย่องๆ ผ่านช่องระหว่างต้นโมกกับต้นไม้กระถาง และมาหยุดตรงระเบียงหน้าบ้าน

                   ผมมองดูรอบๆ บริเวณ เห็นซอมบี้อยู่ไกลจากสายตาผม และหันไปมองที่สนามหญ้าที่ผมโผล่ออกมาจากห้องใต้ดิน เห็นพ่อถือจอบกับแม่ถือพร้าเตรียมป้องกันตัวเองเรียบร้อยแล้ว พ่อพยักหน้าส่งสัญญาณให้ผม ผมจึงปีนขึ้นที่นั่งหินขัดที่สูงในระดับเอว แล้ววิ่งไปที่ประตูหน้าบ้าน ก้มมองช่องประตูที่พวกซอมบี้ใช้กระถางต้นไม้พังประตู โห...ต้นไม้ที่รักของพ่อถูกทำลายอย่างไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลย 

                   ผมลอดผ่านช่องประตูเข้าไปในตัวบ้าน พวกน้องๆ ลอดตามกันมา แสงไฟจากภายในบ้าน รวมทั้งโทรทัศน์ยังคงเปิดทิ้งเอาไว้  คอมพิวเตอร์ที่แชมป์เคยเล่นยังค้างในฉากหยุดเกม 

                   "พ่อวางกุญแจรถไว้อยู่ไหนนะ" ผมเป็นคนกล่าว

                   "พ่อบอกว่าตรงตู้ไม้ข้างประตูหน้าบ้านนะ" เกมเป็นคนตอบ

                   "แต่มันไม่ได้วางอยู่ที่นี่" ผมเดินไปปิดโทรทัศน์และกดปุ่มปิดสวิตซ์คอมค้างไว้ เพื่อให้คอมดับทันที "พ่อนะพ่อ...ชอบวางของไว้แล้วลืม แล้วขอให้คนอื่นช่วยหาอยู่เรื่อยเลย"

                   ผมค้นหากุญแจตามตู้ไม้ โต๊ะคอมไปเรื่อยๆ
                   แต่แล้วซอมบี้โผล่ออกมาโดยที่ผมยังไม่ทันตั้งตัว มือทั้งสองของมันยื่นออกมาหมายจะจับตัวผม มันร้องด้วยความหิวโหยทำให้ผมรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ปากที่อ้ากว้างออกมาทำให้ผมมองเห็นฟันที่แสนสกปรกและมีเศษเนื้อติดตามซอกฟัน มันอยู่ห่างจากผมอีกเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น

                    "ดาวกระจายพิฆาตมาร..."   

                    สิ้นเสียงตะโกนประโยคนั้น ผมก็เห็นดาวกระจาย (โชริวเคน) ปักบนหัวของซอมบี้ หลังจากนั้นซอมบี้ทรุดตัวลงนอนกับพื้น มีเลือดไหลออกจากหัว ผมมองสภาพศพเช่นนี้แล้วรู้สึกขยะแขยงเป็นอย่างมาก

                    "นี่ไม่ใช่การต่อสู้ แต่มันคือการป้องกันตัวเอง"  ผมหันไปหาที่มาของเสียงนั่น ผมเห็นภาพของชายคนหนึ่งมาพร้อมกับฝักดาบสะพายอยู่ที่เอว มือทั้งสองจับด้ามดาบไว้ พร้อมกับก้มหน้าเลียนแบบท่าทางการเปิดตัวของนักดาบซามูไรในการ์ตูนอย่างไม่มีผิดเพี้ยน


                  
                     "เกม..."   ผมจำผมของน้องชายได้ เพราะผมของเกมสะดุดตาเป็นอย่างมาก

                     "ใช่แล้ว"  เกมยืนชิดเท้า และคำนับให้กับศพซอมบี้ที่ล้มตัวนอนลงกับพื้น เกมเดินมาที่ศพซอมบี้ ดึงดาวกระจายออกจากหัว เช็ดกับผ้าขี้ริ้วผืนสีน้ำตาล และเก็บใส่ลงในกระเป๋าอันเล็กที่อยู่ข้างลำตัว
      
                     "ไปเอาอาวุธนี่มาจากไหนล่ะ"

                     "จุ๊! จุ๊! จุ๊!  พี่ลืมไปแล้วหรือไง ว่าอาวุธเหล่านี้ซื้อมาจากการที่ผมไปทัศนศึกษาของโรงเรียน"

                      "ยอดไปเลย"

                      "หากุญแจรถยนต์กันต่อเถอะ"

  •                    ผมเดินค้นหากุญแจในห้องนอนพ่อแม่ ส่วนเกมค้นหาภายในห้องนอนของลูกทั้งสามคน  ส่วนแชมป์เดินค้นหากุญแจหน้าโทรทัศน์ และห้องครัว

                      "เจอแล้ว!!"  แชมป์ตะโกนขึ้นมา

                      "ไหนๆ"  เกมพูด หลังจากนั้นเกมวิ่งไปหาแชมป์ที่หากุญแจภายในครัว

                       "มันอยู่บนตู้เย็นในห้องครัวนี่เอง" แชมป์หยิบกุญแจขึ้นมาแสดงให้เกมเห็น "พ่อนะพ่อ ทำไมวางกุญแจรถยนต์บนตู้เย็นได้ล่ะเนี่ย ถ้าเกิดแม่หยิบไปทำกับข้าวจะเป็นยังไง" 

                       "แชมป์!!!"  

                       เสียงตะโกนดังลั่นทั่วบ้าน เกมเห็นซอมบี้ตัวหนึ่งปรากฏกายจากด้านหลังของแชมป์ เกมคิดว่าถ้าจะหยิบดาวกระจายก็ไม่ทันเวลา  จะชักดาบขึ้นมาก็กลัวว่าปลายดาบจะโดนแชมป์ จึงตัดสินใจพุ่งกอดแชมป์ ยอมเป็นคนโดนกัดดีกว่าปล่อยให้แชมป์โดนกัดแทน

                       แต่แล้วเกมได้ยินเสียงสิ่งของแหวกผ่านอากาศ และพุ่งกระแทกหน้าซอมบี้อย่างรุนแรงจนล้มตัวลงนอนกับพื้น ซอมบี้ตัวนั้นสลบแน่นิ่งไป ดวงตาของแชมป์เบิกกว้างแสดงให้เห็นท่าทีการตกใจที่เกมพยายามกอด ส่วนเกมยังคงหลับหูหลับตากอดแชมป์ด้วยความสั่นกลัวว่าซอมบี้ที่จะกัดตัวเอง

                        "เป็นไงล่ะ นี่คือลูกเบิร์นนิ่ง ช๊อตของพี่"


                       "พี่ดิว" น้องทั้งสองคนพูดพร้อมกัน พร้อมหันมาทางผมในขณะที่ผมจับไม้เทนนิส ตั้งไว้บนบ่า หันหน้าด้านข้างให้น้องทั้งสองเห็นอย่างงามสง่า

                      "มันเป็นลูกที่ต้องตีด้วยการใช้พลังที่มาจากกล้ามเนื้อแขน ถ่ายพลังงานไปสู่ข้อมือ ตวัดแร๊กเก็ตให้กระทบกับลูกภายในเสี้ยววินาที ลูกที่ออกไปจะพุ่งด้วยความเร็ว ลูกจะเสียดสีกับอากาศจนเกือบจะลุกไหม้ เมื่อกระทบกับเป้าหมายจะมีแรงกระแทกสูง อาจทำให้เป้าหมายสลบได้" ผมอธิบาย

                        "แล้วถ้าโดนพวกผมจะว่ายังไง" เกมหันหน้ามาหาผม

                        "ก็อันที่จริงอยากจะให้โดนอยู่แล้วล่ะ แต่มันผิดพลาดไปหน่อยแหะ"

                        "พี่นะพี่!!" พูดจบ เกมพยายามไล่เตะผม แต่ผมไหวตัวและหลบได้ทัน

                        "เอาล่ะ ไปหาพ่อแม่กันเถอะ"

                      


                         "พ่อ กุญแจรถมาแล้ว" 

                        แชมป์ลอดช่องประตู วิ่งไปหาพ่อ และยื่นกุญแจรถยนต์ให้พ่ออย่างรวดเร็ว ส่วนเกมก็ลอดช่องประตูตามแชมป์ไปติดๆ ส่วนผมใช้เท้าพังประตูจนประตูพังออกมา ผมเห็นแม่กำลังฟาดฟันซอมบี้ด้วยพร้าที่ถนัดของแม่ ราวกับว่าฟาดฟันวัชพืชอยู่ในสวนยังไงยังงั้น

                         "ตอนนี้สถานการณ์เริ่มแย่แล้วล่ะ" พ่อบอกกับพวกลูกๆ ทั้งสามคน "มันเริ่มกรูกันเข้ามาแล้ว คงได้กลิ่นด้วยกันเองมั้ง"

                         "พ่อ แม่ เกม แชมป์ ขึ้นรถยนต์กันก่อนเถอะ ทางนี้เดี๋ยวผมจะจัดการเอง" ผมร้องตะโกนขึ้นมา หลังจากฟาดซอมบี้ด้วยไม้เทนนิส

                         "ไม่ได้นะ...เราทั้งครอบครัวจะไปด้วยกัน" แม่พูดในขณะที่ตัวเองใช้พร้าเกี่ยวหัวซอมบี้เกือบขาด

                         "ใช่..เราจะไปด้วยกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะไปพร้อมกัน"  ผมพูดขึ้นมา "พ่อ แม่ เกม แชมป์ใช้รถยนต์และมุ่งหน้าไปสหกรณ์โดยด่วนเลย  ส่วนผมจะใช้รถมอเตอร์ไซต์ฝ่าพวกมันไปเอง"

                         "นี่มันไม่ใช่การตีฝ่าวงล้อมด้วยตัวคนเดียวนะ" แชมป์กล่าว

                         "เคยเห็นงูพิษตัวเดียวฆ่าควายทั้งฝูงไหมล่ะ" ผมย้อนตอบกลับไป

                         "เอางั้นเลยเหรอ หึหึ"  เกมพูดหลังจากฟาดฟันซอมบี้ด้วยดาบ และทำเสียงหัวเราะอยู่ภายในลำคอ หลังจากนั้นจึงเดินด้วยท่าสง่างามเอามือไปแตะที่ไหล่ของแม่  "ไปกันเถอะพ่อ แม่ พี่เขาดูแลตัวเองได้"

                         "ผมสัญญาว่าจะไปเจอกันที่สหกรณ์หมู่บ้านนะ" ผมกล่าว

                         พ่อกับแม่หันมามองที่ผมสักครู่หนึ่ง แล้วจึงรีบวิ่งไปที่โรงรถซึ่งอยู่ติดกับตัวบ้านโดยทันที เกมกับแชมป์ก็ตามไปติดๆ พ่อไขกุญประตูโรงรถ และแหวกประตูโรงรถอย่างรวดเร็ว เมื่อประตูถูกเปิดออก พ่อปลดล็อกประตูรถยนต์ เปิดประตูรถ และรีบขึ้นไปที่นั่งคนขับ ส่วนแม่เปิดประตูขึ้นรถนั่งที่นั่งด้านซ้ายของคนขับ เกมและแชมป์เปิดประตูรถและนั่งที่นั่งข้างหลังคนขับ

                         เสียงรถยนต์ดังขึ้น พ่อเหยียบคันเร่งเต็มแรง เสียงเครื่องยนต์ดังลั่นสนั่น ทำให้ซอมบี้ที่อยู่ใกล้ๆ หันไปหารถยนต์ของพ่อ พ่อตบเกียร์ ทำให้รถยนต์พุ่งไปข้างหน้า ฝ่าพวกซอมบี้ ชนซอมบี้ตัวแล้วตัวเล่า

                         "พ่อ...แม่คิดว่าลืมอะไรไปอย่างหนึ่งนะ"

                         "อะไรล่ะ"

                         "ก็ลืมเปิดประตูรั้วหน้าบ้านไงเล่า"

                         ทันทีที่แม่พูดจบ รถยนต์ของพ่อชนประตูรั้วหน้าบ้าน แรงกระแทกของรถทำให้ประตูรั้วหลุดออกและติดแนบไปกับกระโปรงหน้ารถ รถยนต์ยังเคลื่อนที่ต่อไปเรื่อยๆ เมื่อผ่านประตูรั้ว พ่อหมุนพวงมหาลัยไปทางขวาอย่างรวดเร็ว ทำให้ท้ายรถยนต์สะบัดและไถลไปกับพื้นถนน แต่เมื่อรถทรงตัวได้รถยนต์ของพ่อเคลื่อนที่ต่อไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว นี่อาจจะเป็นการดริฟท์ของพ่อ ที่พวกลูกๆ ไม่เคยได้เห็น

                         เป้าหมายถัดไป..สหกรณ์หมู่บ้าน
                         จะมีอะไรรอเราอยู่นะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in