Wild Tales

Genre : Comedy, Drama, Thriller

       ภาพยนตร์ชั้นดีสัญชาติอาร์เจนติน่าที่พูดภาษาสเปนทั้งเรื่องผลงานการกำกับของ Damián Szifrón เป็นหนังที่นำเสนอเกี่ยวกับความดิบเถื่อนของมนุษย์สะท้อนความจริงที่เกิดขึ้นในสังคม ตรงไม่มีอ้อม ในหนังจะมีเรื่องสั้น 6 ตอน ซึ่งแต่ละตอนจะนำพาคนดูดำดิ่งสู่ความดิบเถื่อนของมนุษย์อย่างแท้จริง

       ตอนนี้รู้สึกเหมือนว่าเนื้อเรื่องจะเกินจริงและบังเอิญเกินไปหน่อยแต่จุดเด่นของเรื่องนี้เลยเราจับทางมันไม่ออกว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้นจนพาไปถึงจุดจบที่คาดไม่ถึง

ตอนที่ 2 : The Rats

       สำหรับตอนนี้ดูเหมือนว่าจะบังเอิญอีกแล้วเนื้อเรื่องไม่มีอะไรมากว่าด้วยการแก้แค้นกับคนที่เคยสร้างความเจ็บปวดไว้กับเราเมื่อโอกาสมาถึงก็แค่ลงมือแก้แค้น

ตอนที่ 3 : The Strongest

       ตอนนี้ว่าด้วยเรื่องราวบนท้องถนนที่มักมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยก็คือการขันรถกวนๆบนท้องถนนแต่ถ้าเหตุการณ์ครั้งนี้ทั้งคู่ต่างคนต่างไม่ยอมจะเกิดอะไรขึ้นเพียงแค่เหตุการณ์เล็กๆจนนำไปสู่จุดที่คาดไม่ถึง

ตอนที่ 4 : Little Bomb

       เคยไหมกับการที่ต้องยอมรับผิดทั้งที่เรานั้นไม่ผิดแต่ถ้าเราไม่ยอมรับผิดและเลือกจะเดินทางที่ถูกมันจะเกิดอะไรขึ้นที่ห้ามจอดควรมีสีแดงขาวชัดเจนไม่งั้นเหตุการณ์อาจจะเกิดขึ้นแบบนี้ ต้องดู!

ตอนที่ 5 : The Proposal

       สำหรับตอนนี้ถือว่าสมจริงที่สุดแล้ว เคยไหมทำผิดแต่ไม่อยากมีความผิด จนต้องใช้เงินเพื่อใช้เป็นทางผ่านแต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเงินมันคือตัวปัญหาที่จะพาให้เรื่องนี้ผ่านไปเรื่องนี้ถือว่าสะท้อนสังคมแบบตรงไปตรงมากที่สุด

ตอนที่ 6 : Until Death Do Us Apart

       จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อความลับที่เก็บมานานแสนนาน ถูกเปิดเผยในวันแต่งงาน ตอนนี้คือที่มาของคำว่าสติแตกแบบบ้าคลั่งเมื่อมาถึงในจุดที่เราคุมสติตัวเองไม่ได้จะเกิดอะไรขึ้น

โครงเรื่อง

โครงเรื่องของหนังเรื่องนี้เป็นแบบ  Minimalism นำเสนอความจริงไร้ซึ่งการปรุงแต่งนำเสนอเหตุการณ์ที่เป็นปัญหาในสังคมจริงๆ ตรงๆแบบไม่อ้อม ไม่ยืดยาว ตรงมาตรงไปแบบตลกร้ายเจ็บแสบ

การเปิดเรื่อง

          การเปิดเรื่องในแต่ละตอนจะเปิดตัวบรรยากาศเพื่อให้เห็นสถานที่นั้นๆว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น เพื่อที่คนดูจะได้ลุ้นว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวกับอะไรอีก

การพัฒนาของตัวละคร

          การพัฒนาของตัวละครในแต่ละตอนมักเกิดจากการที่ตัวละครนั้นมีสิ่งมายั่วยุทำให้สติแตกและนำไปสู่การพัฒนาตัวละครให้แสดงสัญชาตญาณดิบเถื่อนออกมามา จนไปสู่จุด climax ของเรื่องและนำไปสู่จุดจบที่คาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ความขัดแย้งของเรื่อง

          ความขัดแย้งของเรื่องนี้มักจะเป็นแบบความขัดแย้งระหว่างมนุษย์ด้วยกันและความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับระบบหรือสังคมนำความขัดแย้งต่างๆที่เกิดขึ้นจริงของสังคมมานำเสนอได้เจ็บแสบที่สุด

ตัวละคร

            ตัวละครที่มีบุคลิกกลมคือไม่ดีและไม่เลวไป คือเป็นตัวละครเทาๆแต่เมื่อทุกตัวละครถูกยั่วยุแล้วตัวละครแต่ละคนก็พัฒนาไปสู่ด้านมืดของจิตใจและมีเหตุผลในการกระทำผิดเนื่องตัวสิ่งยั่วยุทางสังคม

มุมกล้อง

          มุมกล้องของหนังเรื่องนี้ไม่ได้ถือว่ามีอะไรที่แปลกใหม่มากแต่มุมภาพต่างๆ ทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังเฝ้าดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างตัวละครว่าตัวละครนั้นกำลังทำอะไรและลุ้นไปกับตัวละครนั้น

การตัดต่อ

การตัดต่อของหนังเรื่องนี้สั้นกระชับไม่อ้อม ไปย้อนใดๆ เหตุการณ์เกิดขึ้นแบบต่อเนื่องไม่ได้ใช้การตัดต่อที่ยากแต่จังหวะการตัดต่อนั้นลงตัวมากไม่ยืดเยื้อรีบเล่ารีบจบ เลยทำให้เรานั้นอินไปกับตัวละครและเนื้อเรื่องที่ถูกเล่าอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาโดยไม่มีจุดน่าเบื่อเลย

นักแสดง

          ถึงการตัดต่อและการเล่าเรื่องจะง่ายๆแต่ตัวหนังแสดงในแต่ละตอนนั้นทำให้เราเชื่อได้ว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริงๆการตีบทบาทของหนังแสดงทุกคนถือว่าทำได้ดีมากเพราะทำให้คนดูนั้นสามารถอินไปกับหนังได้จนจบกันเลย ถ้านักแสดงแสดงไม่ดีหนังเรื่องนี้ก็ค่อนข้างมีโอกาสแป้กพอสมควรแต่ด้วยตัวของนักแสดงแล้วถือว่าสอบผ่านทุกตอน

หนังเรื่องนี้ให้อะไร?

       สุดท้ายแล้วหนังเรื่องนี้เพียงต้องการสื่อให้เห็นความดิบเถื่อนขั้นสุดของมนุษย์ว่าเมื่อมีสิ่งมายั่วยุจนทำให้หมดความอดทนมนุษย์ทุกคนนั้นก็ย่อมมีสัญชาตญาณดิบของตนเอง เรื่องทั้งหมดล้วนเอาความจริงทางสังคมมาเล่าและสุดท้ายเราก็มองกลับมาที่ตัวเราถ้าเราถูกยั่วยุเราจะทำเรื่องนี้หรือไม่หรือแค่ปล่อยให้มันผ่านไปและจบลง ความมีสติก่อนที่จะทำทุกสิ่ง ถ้าขาดสติจะนำมาสู่จุดต่ำสุด

#หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องจริงดูแล้วควรรับให้ได้