หยดไวน์สีเบอร์กันดีไหลเคลียจากขอบแก้วไวน์ทรงสูงลงเปรอะผ้าปูโต๊ะสีขาวสะอาดตา ในทันทีที่มือหนาวางแก้วลง บุรุษร่างสูงในชุดสูทสีดำดูภูมิฐานแม้ยังเยาว์วัย ทอดมองฟลอร์เต้นรำเบื้องหน้าที่มีเหล่าบรรดาสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีชั้นสูงโอบกอดเยื้องกรายพลิ้วไหวไปตามจังหวะดนตรีเพลงใหม่ล่าสุดของแฟรงค์ ซิเนตร้า นักร้องเพลงแจ๊ซผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในทศวรรษนี้ 

            “ไม่ออกไปเต้นบ้างหรือ”

            “ไม่ดีกว่าครับ คุณพ่อ นั่งฟังเพลงเห็นจะดีกว่า”

            “อย่างนั้นก็ตามแต่ใจลูกเถอะ”

            ชายสูงวัยผู้เป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่แผ่ขยายสาขาไปทั่วทั้งทวีปเอเชียรวมถึงทวีปยุโรป ผินมาถามไถ่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวของเขา ที่ดูจะนิ่งขรึมเกินวัยยี่สิบสองปีไปมากโขนัก และเขาก็รู้ดีว่าพ่อลูกชายสุดรักยังไม่พิศมัยการออกงานสังคม หรือแม้กระทั่งออกไปเต้นรำกลางฟลอร์ตามแบบฉบับกิจกรรมยอดนิยมของหนุ่มสาวแรกรุ่นที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ถึงกระนั้น ชายหนุ่มก็เป็นทายาทคนเดียวที่สุดแสนจะภาคภูมิใจและไม่เคยทำให้ต้องขายหน้าแม้แต่น้อย ซ้ำยังเป็นเกียรติแก่วงตระกูลด้วยการคว้าใบปริญญาเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และกำลังจะสานต่อกิจการของครอบครัวในเร็ววันนี้

และในครานี้ ผู้เป็นพ่อก็ได้กรุยทางพรมแดงให้ลูกชายก้าวเข้าสู่วงการธุรกิจอย่างงดงาม ด้วยการพามาออกงานบอลล์ที่มากด้วยหญิงชายชั้นสูง เชื้อพระวงศ์ ลูกท่านหลานเธอ ขุนนางมหาดเล็ก นักการเมืองคนสำคัญ ตลอดจนนักธุรกิจใหญ่ ในห้องบอลรูมอันโอ่โถงของโรงแรมซาวอย โรงแรมสุดหรูใจกลางกรุงลอนดอน ประดับประดาสวยงามด้วยไฟระย้าอันโอฬารบนเพดานสูงที่มีลวดลายประณีตวิจิตรเป็นเอกลักษณ์จากยุคสมัยเอลิซาเบธ และยังคงทิ้งความคลาสสิคไว้ให้ยลในปัจจุบัน

นัยน์ตาคมสีนิลยังคงทอดมองไปยังเบื้องหน้า ละเลียดไวน์รสละมุน สัมผัสความสุนทรีย์จากเพลงโปรด แต่ถึงกระนั้นชายหนุ่มมิอาจสัมผัสได้ถึงความหมายในเนื้อเพลงที่ได้ตรับฟัง หากแต่ในชีวิตเขาจะมีใครสักคนที่เป็นรักแรกพบดั่งบุรุษผู้โชคดีในเพลง

Strangers in the night exchanging glances

          Wondering in the night, what were the chances?

We'd be sharing love before the night was through

สองสายตาสอดประสานกันอย่างไม่มีใครอยากจะถอนสายตาออกแม้เพียงชั่ววิ ราวกับถูกมนตร์สะกดให้ตกหลุมพรางในดวงตาของกันและกัน

Something in your eyes was so inviting

Something in your smile was so exciting

Something in my heart told me I must have you

นัยน์ตาหวานหยดย้อยราวกับน้ำผึ้งเดือนห้า รับกับดวงหน้าน่ารักของผู้เป็นเจ้าของนั้น ชายหนุ่มสาบานได้ว่าตลอดทั้งชีวิตของเขาไม่เคยพบพานมาก่อน ช่างงดงามราวกับสวรรค์บรรดาล และใช่ สวรรค์ส่งรักแรกพบมาให้เขาแล้ว ร่างบางแม้อยู่ในระยะไกลอีกฟากหนึ่งของฟลอร์เต้นรำแต่ก็ชัดเจนที่สุดในสายตาของเขา ดั่งทุกสรรพสิ่งรอบกายหยุดเคลื่อนไหว มีเพียงเธอผู้นี้เท่านั้นที่กำลังเคลื่อนไหวโลดแล่นอยู่ในหัวใจของเขา หัวใจที่เขาคิดมาตลอดว่ามันได้เหี่ยวเฉาตายไปนานแรมปี ก้อนเนื้อที่อกข้างซ้ายเต้นถี่ระรัวไม่เป็นจังหวะราวกับเสียงรัวกลองในงานพระราชพิธี ราวกับมันอยากจะวิ่งออกไปจากตัวเขาแล้วมอบให้คนตรงหน้านับตั้งแต่บัดนี้

และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ที่ทำให้ชายหนุ่มเหยียดตัวลุกจากเก้าอี้บุนวมหรูหรา พาขายาวก้าวไปยังใจกลางฟลอร์เต้นรำ บัดนี้หยุดยืนอยู่เบื้องหน้านางฟ้าในฝัน พลันผายมือออกไปเป็นเชิงเชิญชวนให้เป็นคู่เต้นรำด้วยกัน

มือบางตอบรับคำขอ สัมผัสแผ่วเบาจากปลายนิ้วค่อยๆแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย การเต้นรำกำลังเริ่มขึ้นและดำเนินอย่างต่อเนื่องไปตามจังหวะเพลง นัยน์ตาสีนิลจ้องลึกเข้าไปในดวงตาหวานสีน้ำตาลเข้มราวต้องมนตร์ไม่รู้จบ พลันแขนแกร่งกระชับอ้อมกอดเอวบางให้แน่นขึ้น สองร่างแนบชิดกันทีละน้อย สอดประสานเป็นหนึ่งเดียว ราวกับเป็นนักเต้นคนเดียวกัน ร่างสูงโน้มตัวลงมาจนทั้งคู่สัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน ทันทีที่ริมฝีปากสัมผัสกับเรียวปากอิ่ม คนตัวเล็กในอ้อมกอดก็หลับตาพริ้ม แพขนตาหนาเรียงสวยยิ่งชวนให้ชายหนุ่มหลงใหล เท้าทั้งสองคู่ยังคงสัมผัสกับผิวฟลอร์ต่อเนื่องแผ่วเบา เหมือนหนึ่งว่าฟลอร์เต้นรำนี้เป็นของเขากับแม่ยอดขมองอิ่มแต่เพียงเท่านั้น

Strangers in the night, Two lonely people,

We were strangers in the night

Up to the moment when we said our first hello,

Little did we know

Love was just a glance away, a warm embracing dance away

.

.

.

เขาไม่สามารถละสายตาออกจากดวงหน้าพริ้มเพรานี้ได้แม้สักวินาที เขาโดนกามเทพแผลงศรเข้าแล้วอย่างเต็มประดา จนกระทั่งร่างเล็กนั้นย่างกรายเข้ามาใกล้เขาทุกที ครั้นแล้วก็หยุดอยู่เบื้องหน้านักธุรกิจสูงวัยและภริยา

“มาทักทายท่านลอร์ดกับเลดี้สิลูก มาตรงนี้”

“ครับ คุณแม่”

แล้วเสียงของคุณหญิงผู้เป็นแม่ก็ได้ช่วยเหลือสวัสดิภาพของใบหน้าน่ารักนั้นไว้ ทำให้ชายหนุ่มได้ผละสายตาออกมาเสียที ก่อนที่จะจ้องจนช้ำไปเสียหมด

“เคารพท่านลอร์ด ท่านเลดี้”

ร่างโปร่งลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วโน้มกายลงทำความเคารพขุนนางชั้นสูงในตระกูลเก่าแก่ซึ่งเป็นผู้รับใช้ราชวงศ์อังกฤษมาแรมค่อนศตวรรษ

“สวัสดีจ้ะ”

เลดี้เอ่ยสั้นๆอย่างเป็นกันเองพลันยกมือที่สวมถุงมือลูกไม้สีขาวครีมขึ้นทักทายชายหนุ่ม

“นี่คุณหนู ทายาทคนเดียวของฉันกับท่านลอร์ดจ้ะ อ่อนกว่าเธอปีสองปีเท่านั้น ตอนนี้น้องเรียนอยู่ที่อีตันไฮสคูลน่ะ อยากให้เข้าออกซ์ฟอร์ดเหมือนกัน รู้จักกันไว้นะจ๊ะ ทักทายพี่เขาสิลูก”

หญิงสูงศักดิ์ในชุดเดรสสีขาวทรงหางปลากับหมวกกำมะหยี่ขนนกประดับตาข่าย กล่าวแนะนำลูกชายตัวเล็กหน้าตาจิ้มลิ้มข้างกายคุณพ่อซึ่งเป็นถึงท่านลอร์ด คุณหนูส่งยิ้มละไมไปให้พี่ชาย ยิ้มหวานที่สุดในชีวิตของชายหนุ่มที่เขาไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ยิ้มที่ติดตราตรึงใจยิ่งนัก ละลายหัวใจน้ำแข็งให้อ่อนยวบลงตรงแทบเท้าคุณหนูแล้วในบัดนี้

“แหม เห็นทีว่าค่ำคืนนี้พ่อหนุ่มของเราจะมีเพื่อนคุยแล้วล่ะค่ะคุณ ยิ่งรุ่นราวคราวเดียวกันเสียด้วย” คุณหญิงผินไปพยักเพยิดกับสามีพลางคล้องแขนท่านเลดี้และสนทนากันอย่างออกรสตามประสาคุณหญิงคุณนาย ส่วนท่านประธานพร้อมด้วยท่านลอร์ดก็เข้าไปรวมกลุ่มสังสรรค์กับแขกท่านอื่นๆ เหลือเพียงแต่ชายหนุ่มรุ่นกับคุณหนูของเขาเท่านั้น

“เชิญนั่งครับ คุณหนู” เขาขยับเก้าอี้ข้างกายแล้วผายมือให้ร่างน้อยนั่งลง

“เรียกน้องเฉยๆก็ได้ พี่ชาย”

เพียงได้ยลโฉมและสัมผัส ใจก็เป็นของคนตัวเล็กตรงนี้ไปแล้วทั้งหมด ยิ่งได้สดับเสียงหวานที่เอ่ยถ้อยคำน่ารักอย่างไม่ถือตัวก็ทำให้ชายหนุ่มจมอยู่ในบ่วงรักของคุณหนูอย่างถอนตัวไม่ขึ้น

Ever since that night we've been together

Lovers at first sight, in love forever

It turned out so right for strangers in the night

ค่ำคืนที่แสนน่าเบื่อในคราแรกที่ได้สัมผัส บัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นราตรีที่เต็มไปด้วยความหมายมากมายสำหรับคนทั้งคู่ ถึงเวลาที่กามเทพจะออกโรงบ้างแล้ว และในนาทีนี้ทั้งสองก็มั่นใจแน่แท้ ว่าต่างคนต่างเป็นรักแรกพบของกันและกัน